Share

บทที่ 10

Author: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนไม่ทันแม้แต่จะคลุมเสื้อนอกที่เพิ่งถอดออกแล้วก็วิ่งออกไป"เกิดอะไรขึ้น? ใครตะโกนอยู่?”

หนิงซวงเองก็เดินตามหลังเฉียวเนี่ยนอย่างร้อนใจพลางส่ายหน้า “บ่าวก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ เพิ่งได้ยินเสียงเรียก คุณหนูสวมเสื้อผ้าสักชุด ข้างนอกหนาวมาก”

แต่เฉียวเนี่ยนไหนเลยจะมีกะจิตกะใจใส่เสื้อผ้า

หลินยวนตกน้ำ จะตกที่ไหนได้อีก

ก็คือสระบัวของเรือนฟางเหอไม่ใช่หรือ?

ตอนนั้นหลินยวนทําถ้วยแตกใบเดียวนางก็ถูกทรมานอยู่ถึงสามปี ถ้าหลินยวนเกิดเรื่องขึ้นกับนาง ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แค่หลินเย่ว์คนเดียวคงตีนางจนตายแน่

เมื่อเฉียวเนี่ยนมาถึง หลินยวนยังคงกระโผลกกระเผลกอยู่ในน้ำ

ผิวน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งได้แตกเป็นรูใหญ่รูหนึ่งแล้ว

บนสะพานหินมีสาวใช้และเด็กรับใช้จํานวนไม่น้อยกําลังเฝ้าดูอยู่

เฉียวเนี่ยนก้าวเท้ายาวๆ วิ่งเข้าไป"พวกเจ้าทุกคนว่ายน้ำไม่เป็นหรือ? ทําไมไม่ช่วยคน?!”

กลับเห็นเด็กรับใช้หลายคนทําหน้าลําบากใจ “พวกบ่าวช่วยได้ก็จริง แต่ถ้าทําลายความบริสุทธิ์ของคุณหนูรองจะทําอย่างไรขอรับ?”

“ความบริสุทธิ์ยังสําคัญกว่าชีวิตอีกหรือ?” เฉียวเนี่ยนถลึงตาใส่เด็กรับใช้ที่กําลังพูดอยู่อย่างดุร้าย

แล้วกระโดดลงไปในน้ำโดยไม่พูดไม่จา

น้ำในสระไม่ลึก แต่เย็นจนเข้ากระดูก

ด้านล่างของแม่น้ำเต็มไปด้วยโคลนและไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงและจะจมลงหากประมาทเล็กน้อย

เฉียวเนี่ยนใช้ความพยายามอย่างมากในการช่วยหลินยวนให้รอดมาได้ หนิงซวงบนฝั่งได้เตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากเฉียวเนี่ยนและหลินยวนขึ้นจากน้ำแล้ว ก็ห่อตัวทั้งสองคนไว้อย่างแน่นหนา

"ยังมัวทําอะไรอยู่? เรียกหมอประจําจวนสิ พวกเจ้าช่วยพาคุณหนูทั้งสองกลับห้องให้ข้าหน่อย ตั้งเตาให้ร้อน เตรียมน้ำชาขิง”

เมื่อหนิงซวงออกคําสั่ง เหล่าคนรับใช้ที่มุงดูอยู่ก็แยกย้ายกันไปทํางานทันที

และเวลานี้เอง เสี่ยวชุ่ยสาวใช้ของหลินยวนก็บุกเข้ามาในเรือนฟางเหอในที่สุด

ด้านหลังเสี่ยวชุ่ยยังมีหลินเย่ว์

เห็นหลินยวนตกน้ำแล้วหน้าซีด ท่าทางกระเซอะกระเซิง เสี่ยวชุ่ยก็ร้อนใจขึ้นมาทันที รีบวิ่งเข้ามากอดหลินยวนไว้ “คุณหนู ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ? ตกลงไปในน้ำได้อย่างไร?”

จากนั้น เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก เสี่ยวชุ่ยพลันมองเฉียวเนี่ยน “เป็นเจ้า เจ้าผลักคุณหนูของข้าตกน้ำ”

ท่าทางที่ชี้หน้าด่านางอย่างมั่นอกมั่นใจนั้นเหมือนกับเมื่อสามปีก่อนไม่มีผิด

เฉียวเนี่ยนรู้สึกเพียงว่าไฟในใจของตนลุกโหมขึ้นมาทันที แต่ยังไม่ทันที่นางจะมีปฏิกิริยาใดๆ หนิงซวงก็พุ่งตัวเข้าไปก่อน แล้วตบหน้าเสี่ยวชุ่ยไปหนึ่งฉาด

“เพียะ!” เสียงที่คมชัดดังก้องไปทั่วท้องฟ้าของเรือนฟางเหอ

ชั่วขณะหนึ่ง เฉียวเนี่ยนถึงกับหยุดหายใจ

แม้แต่หลินเย่ว์ก็ยังตกตะลึงอยู่ ไม่คิดว่าหนิงซวงจะทําแบบนี้

มีเพียงหนิงซวงที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มือข้างหนึ่งเท้าสะเอว อีกข้างหนึ่งชี้ไปที่จมูกของเสี่ยวชุ่ยแล้วด่าว่า “เจ้าคนชั้นต่ำ ปากน่ะถ้าใช้ไม่เป็นข้าก็จะฉีกให้เจ้าแล้ว! ถ้าไม่ใช่คุณหนูของข้ากระโดดลงน้ำไปช่วยคนโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัย ตอนนี้เจ้านายของเจ้าคงแข็งไปแล้ว ในฐานะที่เป็นสาวใช้เห็นเจ้านายตกที่นั่งลําบาก ไม่พูดก็รีบมาดูแลทันที มีแต่จะพ่นขี้ออกมาเต็มปาก! คุณหนูของข้าช่วยคนอยู่เห็นได้ด้วยตาสิบกว่าคู่ที่เรือนฟางเหอหยวน เจ้าบอกว่าคุณหนูของข้าผลักเจ้านายของเจ้าแล้วเจ้าก็เอาหลักฐานออกมาสิ ถ้าเอาออกมาไม่ได้ ดูสิว่าข้าจะฉีกปากเน่าๆ ของเจ้าให้เละหรือเปล่า!”

……

รุนแรงมาก!

เฉียวเนี่ยนจ้องมองหนิงซวงด้วยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสาวน้อยร่างเล็กคนนี้จะเก่งขนาดนี้

และในตอนนี้ผู้คนรอบข้างก็ได้สติแล้ว โดยเฉพาะหลินยวน

ตอนนี้นางยังคงถูกสาวใช้คนอื่นประคองอยู่ เพราะดิ้นรนอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน สําลักน้ำไปหลายอึก ตอนนี้เวลาพูดจึงไม่มีแรง

นางกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำเหมือนเลือด “เจ้า เจ้าลงมือตีคนได้อย่างไร?”

ท่าทางของสาวใช้ที่ปกป้องนางรู้สึกน้อยใจมากจริงๆ

หลินเย่ว์ก็ขมวดคิ้วทันทีและตะโกนใส่หนิงซวงว่า "บังอาจ! กล้าลงมือต่อหน้าข้าหรือ? เจ้ากล้าดียังไงกัน?”

“ข้า”

เฉียวเนี่ยนจึงเอ่ยปากพูดเบาๆ

นางห่อตัวด้วยเสื้อนวมหนาๆ ใบหน้าของนางถูกแช่แข็งจนซีดเล็กน้อย หยดน้ำบนข้าของนางยังคงหยดลงมา แต่ก็มีน้ำแข็งจํานวนไม่น้อย

เมื่อเทียบกับหลินยวนแล้ว นางดูสงบเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าระยะห่างระหว่างนางกับหลินเย่ว์ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว แต่กลับทําให้หลินเย่ว์รู้สึกว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาช่างไกลเหลือเกิน

“สาวใช้ของข้าสั่งสอนคนใช้ชั้นต่ำที่ไม่เคารพข้าและเคยใส่ร้ายข้าในเรือนของข้า ข้าไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร”

เคยใส่ร้าย

สามคํานี้ทําให้หลินยวนและหลินเย่ว์นึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย

หลินยวนขดตัวอยู่ในอ้อมอกของสาวใช้ สําลักไอออกมาสองครั้งอย่างน่าสงสาร แล้วถึงค่อยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ ว่า “แต่ แต่ก็ตีคนไม่ได้นะ...”

เมื่อเห็นน้ำตาของหลินยวนไหลไม่หยุด หลินเย่ว์ก็อดนึกถึงเรื่องลําดับวงศ์ตระกูลไม่ได้ เมื่อคิดว่าเฉียวเนี่ยนจงใจพูดถึงในตอนนี้ก็เพื่อให้เขารู้สึกละอายใจ จึงขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเฉียบขาดว่า “ยวนเอ๋อร์พูดถูก ไม่ว่ายังไงก็ตีคนไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าว่ายน้ำไม่เป็นด้วยซ้ำ”

ประโยคสุดท้ายพูดกับเฉียวเนี่ยน สายตาเย็นชา ราวกับมั่นใจว่านางกําลังโกหก!

น้องสาวของตนเอง ตกลงจะว่ายน้ำเป็นหรือไม่ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?

นึกถึงตอนนั้นที่พวกเขาไปล่องเรือที่ชานเมืองด้วยกัน เฉียวเนี่ยนเผลอทําต่างหูที่เซียวเหิงส่งให้ตกลงไปในทะเลสาบ ร้อนใจจนกระโดดลงจากเรือทันที ถ้าไม่ใช่เพราะเขากับเซียวเหิงว่ายน้ำเก่ง วันนั้นเฉียวเนี่ยนคงจมน้ำตายไปแล้ว

ดังนั้นหนิงซวงจึงบอกว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนช่วยไว้ หลินเย่ว์จึงไม่เชื่อเลย

ร่างกายของเฉียวเนี่ยนเริ่มสั่นเล็กน้อย แต่แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่รู้ว่าหนาวหรือโกรธเพราะหลินเย่ว์กันแน่

“ดังนั้น ท่านโหวน้อยก็คิดว่าข้าผลักคุณหนูหลินหรือ?” นางถามกลับอย่างเย็นชา น้ำเสียงสั่นเทิ้ม ความโกรธในใจกําลังจะระเบิดออกมา แต่สุดท้ายก็ถูกนางกดกลับไปอย่างเอาเป็นเอาตาย

หลินเย่ว์ไม่ได้พูดอะไร ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่เมื่อเห็นท่าทางของนางแล้ว คําพูดที่ทําร้ายคนอื่นเหล่านั้นก็พูดไม่ออกอย่างอธิบายไม่ถูก

ดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงมองไปที่หลินยวนอีกครั้ง

เพียงแค่มองอย่างเงียบๆ แบบนี้ แต่เมื่อสบสายตาของนาง หลินยวนก็ก้มหน้าลงอย่างเงียบๆ

เหมือนเมื่อสามปีก่อน ไม่พูดอะไรสักคํา

จนเมื่อตอนที่นางอยู่ในห้อง คําขอโทษทั้งน้ำตาของนางจึงดูน่าขันเป็นพิเศษ

“เฮอะ!”

เฉียวเนี่ยนก็หัวเราะออกมา

น้ำเสียงที่ไม่ดังนักกลับแฝงไว้ด้วยการประชดประชันอย่างรุนแรง

ร่างกายของหลินยวนสั่นเทิ้มตามไปด้วย น้ำตาไหลพรากราวกับเขื่อนที่แตกทลาย

หลินเย่ว์ทนดูท่าทางของหลินยวนไม่ได้จริงๆ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ แต่ก็ไม่อาจโกรธเฉียวเนี่ยนได้ จึงทําได้เพียงตะคอกใส่หนิงซวงอย่างโมโหว่า “ไสหัวไปรับโทษโบยซะ!”

ใบหน้าเล็กๆ ของหนิงซวงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่นางก็ไม่อยากให้เฉียวเนี่ยนลําบากใจ จึงทําความเคารพทันที

แต่มือเย็นจับแขนนางและหยุดนางไว้

ใบหน้าของเฉียวเนี่ยนยังคงสงบนิ่ง แต่ดวงตาซ่อนความเกลียดชังไว้อย่างชัดเจนขณะมองหลินเย่ว์ “วันนี้หนิงซวงไม่ว่าง นางยังต้องคอยปรนนิบัติข้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนคุณหนูหลินตกลงไปในน้ำได้อย่างไรและใครเป็นคนช่วยขึ้นมา ท่านโหวน้อยถามรายละเอียดในภายหลังก็จะรู้ความจริงได้”

พูดจบนางก็ดึงหนิงซวงเดินกลับไป

เพียงแต่ยังเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าวก็หยุดลงอีก เอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วพูดช้าๆ ว่า “เมื่อก่อนน้ำไม่เป็น แต่เมื่อหนึ่งปีก่อนนางบ่าวในวังหลายคนร่วมมือกันจับข้าโยนลงในสระซักล้าง ยืนถือราวตากผ้าป้องกันอยู่ริมฝั่ง ผ่านไปครึ่งชั่วยามถึงอนุญาตให้ข้าขึ้นมา หลังจากนั้นก็เป็นแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (6)
goodnovel comment avatar
Nrn O Yt
นางเอกแบบสู้คนฉันชอบ
goodnovel comment avatar
Mini plant
พลัๆนรๆรนไ
goodnovel comment avatar
Mini plant
ดดฃยะะบะีำรีลนะนยยบ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 784

    เสียงแม้จะเบา แต่เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ยินไม่ให้นางไป หมายความว่าวันนี้ไม่เพียงแค่เมิ่งอิ้งจือออกไปไม่ได้ แม้แต่นางก็อย่าหวังจะก้าวออกจากประตูตระกูลวั่น!เฉียวเนี่ยนไม่คาดคิดว่า ฮูหยินตระกูลวั่นจะสามารถตัดสินใจเช่นนี้เพื่อบุตรชายของตนได้ในขณะนั้นนางก็หรี่ตาลงเล็กน้อยส่วนฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นเมื่อเห็นสีหน้าของฮูหยินกูลวั่น ก็เห็นได้ชัดว่าเข้าใจอะไรบางอย่างเช่นกันบนร่างของเมิ่งอิ้งจือต้องมีหลักฐาน และจะไม่เป็นผลดีต่อวั่นเจ๋อเยว่ ดังนั้นฮูหยินวั่นถึงได้มีสีหน้าร้อนรนเช่นนี้!แต่เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้จะไม่ปล่อยพวกนางออกไปไม่ได้ตระกูลวั่นไม่อาจจะทำร้ายเฉียวเนี่ยนในเวลากลางวันแสกๆ ได้!บางทีอีกไม่นานก็จะมีคนมาอัครมหาเสนาบดีก็เป็นได้!นางจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร?แต่ว่า...ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นมองไปยังหลานชายสายตรงคนโตที่ตนรักที่สุด ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารนางรู้ดีว่า หากปล่อยเฉียวเนี่ยนไป ก็เท่ากับผลักวั่นเจ๋อเยว่ให้ตกในอันตราย!ชั่วขณะนั้น ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นก็ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตัดสินใจไม่ลงเมื่อเห็นเช่นนั้น ฮูหยินวั่นก็เขย่าแขนฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 783

    ขณะนี้หากไม่ยอมให้นางพาคนออกไป นางต้องเข้าเฝ้าไปฟ้องแน่ได้ยินมาว่า ทุกวันนี้นางมิใช่แค่คอยปรับสมดุลร่างกายให้พวกพระสนมในวังเท่านั้น แม้แต่ฮ่องเต้ยังดื่มยาของนาง เช่นนั้นหากนางเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไปฟ้องเรื่องนี้จะทำอย่างไร?หากเป็นผู้อื่นก็คงไม่เป็นไร แต่นี่กลับเป็นท่านหญิงเฉียวที่เป็นถึงบุตรสาวสายตรงของจวนโหว เป็นน้องสาวบุญธรรมของท่านอ๋องผิงหยาง แถมยังมีความเกี่ยวพันคลุมเครือกับพี่น้องตระกูลเซียวอีกด้วย!หากแตะต้องนาง ตระกูลวั่นจะต้องเป็นศัตรูกับคนมากมายเกินไป!ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นจ้องมองวั่นเจ๋อเยว่ด้วยแววตาเคร่งเครียดแลเห็นว่าวั่นเจ๋อเยว่เจ็บปวดจนเส้นเลือดที่หน้าผากปูดโปน ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นก็อดสงสารไม่ได้ในใจย่อมอดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่บ้างหากเป็นเพียงการพูดเกินจริงของแม่นางเฉียวเล่า?หากเป็นแค่แผลเล็กน้อย แต่กลับถูกนางใส่ร้ายว่าเป็นการทารุณเล่า?อาการของเมิ่งอิ้งจือแย่มาหลายปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาแย่เอาตอนนี้!หากถูกทารุณจริง เมิ่งอิ้งจือจะไม่กลับบ้านไปฟ้องเองตั้งนานแล้วหรือ?ใช่แล้ว!ต้องเป็นเฉียวเนี่ยนที่พูดพล่อยๆ แน่!แววตาของฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นฉ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 782

    ได้ยินพระนามขององค์หญิง ตระกูลวั่นต่างพากันสีหน้าเคร่งเครียด มีเพียงฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นเท่านั้นที่สีหน้าไม่เปลี่ยน “เจ้าถึงจะได้รับพระบัญชาขององค์หญิงให้เข้าจวนอัครมหาเสนาบดีเพื่อรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้อื่น แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงมือทำร้ายผู้คน! อย่าเอะอะก็ยกองค์หญิงขึ้นมาข่มขู่ข้า! ต่อให้เป็นองค์หญิง ก็ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง!”“พูดได้ดีนี่เจ้าคะ!” เฉียวเนี่ยนปรบมือชมเชยทันทีฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นนึกว่าในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็รู้ว่าตนสู้ไม่ได้ รีบเอาใจนางเสียอีก!ใครจะรู้ว่า เฉียวเนี่ยนกลับยิ้มที่มุมปากมากยิ่งขึ้น แววตายิ่งเปื้อนแววเย้ยหยัน “องค์หญิงต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง ตระกูลวั่นของพวกท่านก็ยิ่งต้องเคารพมากกว่า!”“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ตระกูลวั่นของพวกเราไม่เคยละเมิดกฎหมายบ้านเมืองเลยสักครั้ง!”“หรือว่าคุณหนูเฉียวรู้ว่าตนผิด ก็เลยจะโยนความผิดใส่ตระกูลวั่นของเราแทน?”คนตระกูลวั่นพากันลุกขึ้นพูดจาอย่างองอาจราวกับเพียงเอ่ยกันไปคนละคำสองคำ ก็จะสามารถโค่นเฉียวเนี่ยนลงได้เฉียวเนี่ยนก็เพียงยืนอยู่กับที่เงียบๆ รอให้ทุกคนพูดจบเห็นได้ชัดว่านางไม่เพียงไม่หวาดหวั่นเลยแม้แ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 781

    นางพยายามมาหลายวัน กว่าที่อาการของเมิ่งอิ้งจือจะดีขึ้นมาบ้าง ผลคือวั่นเจ๋อเยว่กลับมาทำแบบนี้ ทำให้ความเหนื่อยยากของนางในหลายวันที่ผ่านมาพังไม่เป็นท่า!เมิ่งอิ้งจือไม่ได้สติกลับคืนมา แล้วนางจะไปหายาถอนพิษให้ท่านพี่เซียวได้อย่างไร?ไม่ได้!เมิ่งอิ้งจือจะอยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดีอีกต่อไปไม่ได้!คิดถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็หันไปมองสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ “เจ้าไปแจ้งคนในตระกูลวั่น ว่าข้าจะพาเมิ่งอิ้งจือออกไป”ได้ยินดังนั้น สาวใช้ก็ตกใจนางเองก็รู้ดีว่าการให้ท่านนายหญิงน้อยใหญ่ออกไปเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่เหตุใดต้องแจ้งคนในตระกูลวั่นด้วย?“ท่าน ท่านหญิงเฉียวพานายหญิงน้อยใหญ่ไปอย่างลับๆ ไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ? บ่าว... บ่าวช่วยท่านดูต้นทางได้!”“เจ้าช่วยข้าดู แล้วอย่างไรต่อ? หากคนในตระกูลวั่นรู้ว่าเจ้าทำตัวไม่ภักดี ในฐานะบ่าวในบ้าน ถูกตบตีก็อาจถึงตายได้!” เฉียวเนี่ยนกล่าวอย่างเย็นชา “รีบไปแจ้งคนในตระกูลวั่น ไม่ว่าเป็นเจ้านายจากเรือนไหนก็เรียกมาให้หมด ข้ารู้ดีว่าควรทำเช่นไร”สาวใช้จึงตอบเสียงสั่น “เจ้าค่ะ”พูดจบ นางก็รีบวิ่งออกไปไม่นาน เรือนหน้าห้องของเมิ่งอิ้งจือก็พลันมีเสียงคนมากมายขึ้นมา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 780

    วันรุ่งขึ้นเฉียวเนี่ยนเข้าไปในจวนอัครมหาเสนาบดีอีกครั้ง เพื่อไปเยี่ยมเมิ่งอิ้งจืออาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ถูกองค์หญิงซูหยวนตำหนิไปหนึ่งรอบ หลังจากนั้นเฉียวเนี่ยนก็ไม่เคยพบวั่นเจ๋อเยว่เลยแม้แต่ครั้งเดียวในจวนอัครมหาเสนาบดีแต่วันนี้ ยังไม่ทันที่นางจะผลักประตูเข้าไป ก็เห็นวั่นเจ๋อเยว่เดินออกมาจากห้องของเมิ่งอิ้งจือเฉียวเนี่ยนเผลอแสดงสีหน้าหม่นลงโดยไม่รู้ตัว ถึงขั้นลืมคำนับไปวั่นเจ๋อเยว่เห็นเฉียวเนี่ยนเป็นเช่นนั้น แววตาที่เต็มไปด้วยความดูแคลนยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ “ท่านหญิงเฉียว ตอนนี้พอติดตามองค์หญิงแล้ว ก็ช่างถือดีนัก พบขุนนางผู้นี้แล้วไม่คิดจะคำนับเสียด้วยซ้ำงั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนจึงยกมือคำนับ “คารวะใต้เท้าวั่น”พอเห็นดังนั้น วั่นเจ๋อเยว่ก็เพียงแค่ฮึดฮัดเบาๆ แล้วก้าวจากไปทันทีทันทีที่วั่นเจ๋อเยว่สาวเท้าออกไป เฉียวเนี่ยนก็รีบร้อนเดินเข้าไปในห้องความกังวลในใจกลายเป็นความจริงเห็นเมิ่งอิ้งจือกำลังขดตัวอยู่ที่มุมปลายเตียง สองมือกอดไหล่ตัวเองแน่น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยแววตาทั้งสองข้างว่างเปล่าโดยสิ้นเชิงเสื้อผ้ายับยู่ยี่อย่างมากเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว ไม่กล้าเข้าไปใกล้ในทันที

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 779

    เฉียวเนี่ยนยังคงยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรอีกเข็มไม่ทิ่มอยู่บนผิวตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน ทุกคนต่างก็สามารถหัวเราะให้กับความทุกข์ของผู้อื่นได้ทั้งนั้น“แต่เจ้าก็ยังห่วงหลินเย่ว์อยู่ใช่ไหม?” เซียวชิงหน่วนเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน “ไม่อย่างนั้น ก็คงไม่คุยกับหมอประจำจวนของจวนโหวมาจนถึงตอนนี้หรอก”เฉียวเนี่ยนยังคงไม่พูด เพียงฟังเซียวชิงหน่วนกล่าวต่อ “อย่างไรก็ตาม ท่านพี่หลินก็ยังใส่ใจเจ้ามาก เขาเพิ่งดื่มยาแล้วก็หลับไป แต่ตอนละเมอกลับยังเรียกชื่อเจ้า พวกเจ้าเป็นพี่น้องกันเคยสนิทกันมาก กลับต้องมาทะเลาะกันจนถึงขั้นนี้ มันไม่ควรเลยจริงๆ ท่านพี่หลินก็ผิดจริง แต่ในเมื่อพวกเจ้าเกี่ยวดองทางสายเลือด เหตุใดจึงไม่อาจ...”“คุณหนูเซียว”ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็อดไม่ไหว ขัดจังหวะคำพูดของเซียวชิงหน่วนอาจเพราะเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย จึงฟังดูเหมือนดุอยู่บ้างเซียวชิงหน่วนชะงักไปเล็กน้อย เม้มริมฝีปากน้อยๆ แล้วก็เงียบไปเฉียวเนี่ยนถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วจึงหยิบสร้อยข้อมือลูกประคำออกมาจากเอว“นี่คือของแม่ทัพเซียว” เฉียวเนี่ยนเอ่ยอย่างช้าๆ “ขอรบกวนเจ้าช่วยเอาไปคืนแม่ทัพเซียวให้ข้าด้วย”สร้อยข้อมือลูก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status