แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เมื่อได้ยินคําถามนี้ น้ำตาในดวงตาของหลินยวนก็ไหลออกมาในที่สุด นางส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า"ไม่ใช่ ข้าไม่เคยทําร้ายพี่หญิงเลย ตอนนั้นเป็นข้าที่ทําถ้วยแตก เป็นความผิดของข้าเอง แต่คนที่ใส่ร้ายพี่หญิงคือเสี่ยวชุ่ย...”

นางพยายามอย่างยิ่งที่จะบอกเฉียวเนี่ยนว่าตัวเองไม่เคยทําร้ายนาง

แต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะพิงอยู่ข้างประตู ถามนางอย่างอ่อนโยนว่า “แล้วทําไมเจ้าไม่บอกเมื่อสามปีก่อนล่ะ?”

หลินยวนอึ้งไปชั่วขณะ ไม่ทันได้เข้าใจว่าคําพูดของเฉียวเนี่ยนหมายความว่าอย่างไร?

มุมปากของเฉียวเนี่ยนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันอย่างรุนแรง “เจ้าเป็นคนทําถ้วยแตกเอง แปดคํานี้ เมื่อสามปีก่อนต่อหน้าฮองเฮากับองค์หญิง ทําไมเจ้าถึงไม่พูด?”

หลินยวนถอยหลังไปก้าวหนึ่งราวกับยืนไม่มั่น “ข้า ข้าไม่กล้า... นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าเข้าวัง เป็นครั้งแรกที่เจอคนสูงศักดิ์มากมายขนาดนี้ ข้า ตอนนั้นข้ากลัวมาก ข้า...”

“แล้วตอนนี้เจ้าจะมาพูดอะไรกับข้าอีกล่ะ?” เฉียวเนี่ยนขัดจังหวะคําพูดของหลินยวนอีกครั้ง

ต้องพูดอะไรกันแน่ถึงจะให้นางทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดสามปีที่ผ่านมา

หลินยวนร้องไห้สะอึกสะอื้น ก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเฉียวเนี่ยนอีก “ขอแค่พี่หญิงให้อภัยข้า ข้ายอมคืนทุกอย่างให้พี่หญิง ข้าจะบอกพ่อแม่และพี่ชายว่า พี่หญิงท่านไม่เคยรังแกข้า เรือนลั่วเหมย ข้าก็สามารถคืนให้กับพี่หญิงได้ ยังมี ยังมีพี่เหิงด้วย ข้า ข้าก็สามารถคืนให้กับพี่หญิงได้หมด”

ฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็เข้าใจจุดประสงค์ที่หลินยวนมาในวันนี้แล้ว

“หลินยวน ข้าเคยบอกแล้วว่านั่นคือพ่อแม่และพี่ชายของเจ้า ไม่เกี่ยวกับข้า” นางส่ายหัวเล็กน้อยและพ่นลมหายใจที่ขุ่นมัวออกมาจากอกอย่างรุนแรง แม้ว่าเรือนลั่วเหมยสร้างขึ้นเพราะชอบ แต่ล้วนเป็นความพยายามของท่านโหว และควรเป็นของเจ้าด้วย แม้แต่เรือนฟางเหอแห่งนี้ หากเจ้าต้องการก็แค่พูดประโยคเดียวเท่านั้น”

ได้ยินดังนั้น หลินยวนก็ส่ายหัวทันที “ข้าไม่เอา ข้าไม่ได้มาแย่งที่อยู่กับพี่หญิง”

“ข้ารู้” เฉียวเนี่ยนยิ้มบางๆ แฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันเล็กน้อย “เจ้ามาเพื่อเซียวเหิง”

พูดอะไรขอให้นางให้อภัย อ้อมค้อมขนาดนี้ ก็เพื่อผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น

นางพูดเข้าเรื่องของหลินยวนทันที ทําให้หลินยวนหน้าแดงทันที

กลับได้ยินเฉียวเนี่ยนพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากังวลเรื่องอะไรอยู่ เมื่อสามปีก่อนตอนที่ข้ายังไม่ถูกลงโทษเข้ากรมซักล้าง การหมั้นหมายนี้ก็ตกอยู่กับเจ้าแล้ว ตอนนี้แม้ว่าข้าจะยังอาศัยอยู่ในจวนโหว แต่ทั้งหมดเป็นเพราะท่านย่ารักข้าเท่านั้น ข้าถึงขั้นไม่ได้แซ่หลินแล้ว ในจวนโหวนี้ข้าเป็นเพียงคนนอก การหมั้นหมายระหว่างตระกูลเซียวกับตระกูลหลินอย่างไรก็ไม่ตกอยู่ที่ข้า”

“อีกอย่าง เมื่อครู่ตอนอยู่กับท่านย่าข้าก็พูดชัดเจนแล้ว ข้าไม่ชอบเซียวเหิงอีกแล้ว เจ้าตั้งใจมาลองใจข้าเพราะเรื่องนี้ มันไม่จําเป็นจริงๆ”

“ข้าไม่ได้มาเพื่อหยั่งเชิงพี่หญิง” หลินยวนเหมือนถูกเข้าใจผิด รู้สึกใจร้อนเล็กน้อย “ข้าขอร้องพี่หญิงให้อภัยจากใจจริง เพียงแต่...”

เพียงแค่หยั่งเชิงท่าทีของเฉียวเนี่ยน ก็เป็นจุดประสงค์หนึ่งเช่นกัน

แต่นางต้องยอมรับว่านางรู้สึกกลัวจริงๆ

ท่าทีของเซียวเหิงในวันนี้ทําให้นางจับต้นชนปลายไม่ถูก นางเป็นห่วงจริงๆ ว่าคนที่เซียวเหิงอยากแต่งงานด้วยคือเฉียวเนี่ยน ดังนั้นจึงรีบมาหาเฉียวเนี่ยนที่นี่

“ไม่ว่ายังไง ความคิดของข้าก็ชัดเจนอยู่แล้ว สุขภาพของท่านย่าไม่ดีเท่าเมื่อก่อน ข้าแค่อยากดูแลท่านย่าให้ดีๆ อย่างอื่น ข้าไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น เฉียวเนี่ยนเล่าความคิดของตัวเองให้หลินยวนฟังอย่างละเอียดลออ แค่อยากให้หลินยวนรู้ว่าต่อไปถ้าไม่มีอะไรทําก็อย่ามาหาเรื่องเขาบ่อยๆ

คนของจวนโหวนี้ นอกจากท่านย่าแล้ว นางไม่อยากเห็นหน้าใครเลยจริงๆ

หลินยวนยืนอยู่ที่เดิมและกัดริมฝีปากล่างของตัวเองโดยไม่พูดอะไร

ใบหน้ายังมีคราบน้ำตา บนขนตายังมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งติดอยู่

เฉียวเนี่ยนคิดว่า ถ้าหลินเย่ว์มาตอนนี้ คงเหมือนกับตอนที่ผลักตัวเองตกตึกเมื่อสามปีก่อน เตะนางลงไปในสระบัวโดยไม่พูดไม่จา

อากาศที่นี่หนาวมาก ตกน้ำนางกลัวจะป่วยหลายวันเอาได้

แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว เฉียวเนี่ยนอดนวดขมับตัวเองไม่ได้ แค่อยากรีบส่งตัวหายนะนี้ไป “วันนี้ข้าตื่นเช้าไปหน่อย ตอนนี้เหนื่อยจริงๆ ถ้าเจ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ข้าก็ไม่ไปส่งเจ้าแล้ว”

พอฟังออกถึงการไล่แขกของเฉียวเนี่ยน หลินยวนก็ไม่อยากอยู่แบบหน้าด้านๆ อีกแล้ว จึงทําได้เพียงพยักหน้า “งั้นพี่หญิงพักผ่อนให้สบายนะ ข้า ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ”

พูดจบ หลินยวนก็โค้งตัวทําความเคารพแล้วเดินออกไปข้างนอก

หลินยวนเพิ่งออกจากบ้านไม่นานหนิงซวงก็เข้ามาแล้ว

“คุณหนู คุณหนูรองมาคุยอะไรกับท่านหรือเจ้าคะ?” เด็กสาวทําหน้าสงสัยใคร่รู้ พลางมองแผ่นหลังของหลินยวนอย่างอดไม่ได้ “บ่าวเห็นดวงตาของนางแดงก่ำ ร้องไห้แล้วหรือเจ้าคะ?”

เฉียวเนี่ยนไม่มีกะจิตกะใจจะรับมือกับหนิงซวง จึงเดินเข้าไปข้างใน “เจ้าอยากรู้อยากเห็นขนาดนี้ ไม่สู้ไปถามนางโดยตรงดีกว่า”

หนิงซวงตามมาอย่างหน้าด้านๆ “บ่าวเป็นบ่าวของคุณหนู มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปหาคุณหนูรองกัน?”

สิ้นเสียงฝีเท้าของเฉียวเนี่ยนก็หยุดลงเช่นกัน

นางหันไปมองหนิงซวงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หนิงซวงตกใจ ขยิบตาให้เฉียวเนี่ยนสองครั้ง “คุณหนู ท่านเป็นอะไรไป?”

“ข้ารู้ว่าเจ้านายของเจ้าส่งเจ้ามาปรนนิบัติข้าเพราะมีจุดประสงค์ของเขา ข้าจะไม่ทําให้เจ้าลําบากใจ แต่เจ้าก็ไม่จําเป็นต้องเตือนข้าตลอดเวลาว่าเจ้าเป็นคนของข้า เพราะข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่”

เฉียวเนี่ยนอยู่ในกรมซักล้างมาสามปี ในสถานที่แห่งนั้น คนรอบข้างล้วนเป็นศัตรูของนาง ดังนั้นนางจึงเคยชินกับการพูดจาที่เย็นชาและดุดันเช่นนี้

นางไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะทําร้ายจิตใจของสาวใช้คนหนึ่ง

ดวงตาคู่โตของหนิงซวงแทบจะเต็มไปด้วยน้ำตาทันที

ต่างจากหลินยวน เฉียวเนี่ยนมองนาง ใจอ่อนลงทันที

แต่นางก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรปลอบนางหรือไม่ จึงได้แต่ขมวดคิ้ว “ข้าจะนอนสักพัก เจ้าไปทํางานเถอะ”

พูดจบก็หันหลังเดินเข้าไปในห้อง

หนิงซวงยืนอยู่ที่เดิม ได้แต่มองเฉียวเนี่ยนขวางนางเอาไว้ข้างนอก น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มในที่สุด

แต่ไม่นานนางก็เช็ดน้ำตาออก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจเมื่อสักครู่กลับเต็มไปด้วยความไม่สนใจ

คุณหนูของนางถูกทรมานอยู่ในกรมซักล้างเป็นเวลาสามปี ตอนนี้ต่อให้ไม่มีน้ำใจแล้วจะเป็นไรไป

คุณหนูมีแผลมากมายอยู่บนร่างกาย หากตนเองไม่โหดร้ายสักหน่อย เกรงว่าก็คงไม่รอดแล้ว

แม้จะถูกคุณหนูเข้าใจผิด แต่นางเชื่อว่าขอแค่จริงใจต่อคุณหนู สักวันหนึ่งคุณหนูจะสามารถมองเห็นความจริงใจของนางได้

หนิงซวงแอบให้กําลังใจตัวเอง แล้วจึงร้องเรียกในห้อง “เช่นนั้นคุณหนูพักผ่อนให้สบายนะเจ้าคะ บ่าวจะเฝ้าอยู่ข้างนอก หากคุณหนูต้องการอะไรก็บอกบ่าวได้เลย”

เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ร่างกายของเฉียวเนี่ยนก็ชะงักไปเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

ที่ไหนสักแห่งในหัวใจเหมือนมีกระแสอุ่นๆ ไหลผ่าน

นางเองก็บอกไม่ถูกว่ามันรู้สึกอย่างไรกันแน่ แต่...อารมณ์ที่วุ่นวายเพราะหลินยวนเมื่อสักครู่ได้บรรเทาลงไม่น้อย

นางถอนหายใจยาวและกําลังจะเข้านอน แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องที่น่าตกใจดังมาจากข้างนอก

"แย่แล้ว! ใครก็ได้มาเร็ว คุณหนูรองตกน้ำแล้ว”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Ann-Earth Oua-nguan
ยัยคุณหนูรองสร้างเรื่องอีกรึ
goodnovel comment avatar
Sita
ติดตามตอนต่อไปค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 10

    เฉียวเนี่ยนไม่ทันแม้แต่จะคลุมเสื้อนอกที่เพิ่งถอดออกแล้วก็วิ่งออกไป"เกิดอะไรขึ้น? ใครตะโกนอยู่?”หนิงซวงเองก็เดินตามหลังเฉียวเนี่ยนอย่างร้อนใจพลางส่ายหน้า “บ่าวก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ เพิ่งได้ยินเสียงเรียก คุณหนูสวมเสื้อผ้าสักชุด ข้างนอกหนาวมาก”แต่เฉียวเนี่ยนไหนเลยจะมีกะจิตกะใจใส่เสื้อผ้าหลินยวนตกน้ำ จะตกที่ไหนได้อีกก็คือสระบัวของเรือนฟางเหอไม่ใช่หรือ?ตอนนั้นหลินยวนทําถ้วยแตกใบเดียวนางก็ถูกทรมานอยู่ถึงสามปี ถ้าหลินยวนเกิดเรื่องขึ้นกับนาง ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แค่หลินเย่ว์คนเดียวคงตีนางจนตายแน่เมื่อเฉียวเนี่ยนมาถึง หลินยวนยังคงกระโผลกกระเผลกอยู่ในน้ำผิวน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งได้แตกเป็นรูใหญ่รูหนึ่งแล้วบนสะพานหินมีสาวใช้และเด็กรับใช้จํานวนไม่น้อยกําลังเฝ้าดูอยู่เฉียวเนี่ยนก้าวเท้ายาวๆ วิ่งเข้าไป"พวกเจ้าทุกคนว่ายน้ำไม่เป็นหรือ? ทําไมไม่ช่วยคน?!”กลับเห็นเด็กรับใช้หลายคนทําหน้าลําบากใจ “พวกบ่าวช่วยได้ก็จริง แต่ถ้าทําลายความบริสุทธิ์ของคุณหนูรองจะทําอย่างไรขอรับ?”“ความบริสุทธิ์ยังสําคัญกว่าชีวิตอีกหรือ?” เฉียวเนี่ยนถลึงตาใส่เด็กรับใช้ที่กําลังพูดอยู่อย่างดุร้าย แล้วกระโดดลงไปในน้ำโ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 11

    คำพูดของเฉียวเนี่ยน เหมือนดั่งฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ จนทำให้หลินเย่ว์เกิดอาการมึนงงไปชั่วขณะในมโนภาพเห็นแต่เฉียวเนี่ยนดิ้นรนอยู่ในน้ำ ส่วนนางกำนัลอื่นก็อยู่ข้างบ่อซักล้าง ต่างพากันหัวเราะเป็นการใหญ่พลันรู้สึกเจ็บในหัวอกมากขึ้น เขาคิดจะพูดอะไรต่ออีก แต่คล้ายมีบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ จวบจนแผ่นหลังของเฉียวเนี่ยนถูกบานประตูขวางกั้นจนมองไม่เห็นอีก จึงค่อยมีสติกลับคืนมาบ้าง“คุณหนู ฮือๆๆ...” เสียงร่ำไห้ของเสี่ยวชุ่ยดังขึ้นที่ข้างหู ทำให้รู้สึกรำคาญยิ่งหลินยวนถลึงตาใส่เสี่ยวชุ่ย “เอาแต่ร้องไห้อยู่ได้ ไม่รีบไปตามหมอมาอีก?”เสี่ยวชุ่ยเพิ่งจะนึกได้ จึงรีบออกไปทันทีหลินเย่ว์ส่งหลินยวนกลับไปยังเรือนลั่วเหมย ส่วนหมอประจำจวนก็มาพร้อมกับฮูหยินหลินขณะที่หมอกำลังตรวจชีพจรดูอาการให้หลินยวนอยู่นั้น ฮูหยินหลินก็พาหลินเย่ว์ออกไปข้างนอก “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? น้องเจ้าอยู่ดีๆ ตกน้ำได้อย่างไร หรือเป็นเพราะว่าเนี่ยนเนี่ยน...”“ท่านแม่” หลินเย่ว์ขมวดคิ้ว ขัดจังหวะการพูดของฮูหยินหลินทันที “เพราะเนี่ยนเนี่ยนช่วยยวนเอ๋อร์ไว้ต่างหาก”กล่าวพลาง เขาคล้ายกับนึกอะไรได้ จึงหันไปมองเสี่ยวชุ่ย “เจ้ามานี่”ใบหน้าซีก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 12

    ผู้มาใหม่คือเพื่อนสนิทของฮูหยินหลิน พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยนั่นเองเมื่อเห็นว่าในที่สุดก็มีคนมาห้ามปรามหลินเย่ว์ เหล่านางกำนัลที่อยู่ในบ่อจึงต่างพากันร่ำไห้ระงมอออกมา “พระสนม...”“ฮือๆๆ พระสนมโปรดช่วยพวกเราด้วยเพคะ”นางกำนัลสิบกว่าคนร้องไห้ขึ้นมาพร้อมกัน ฟังแล้วเป็นที่หนวกหูยิ่งพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย ปรายตามองดูนางกำนัลใหญ่ที่อยู่ด้านข้างนางกำนัลใหญ่เข้าใจดี จึงกล่าวเสียงตวาด “ยังไม่รีบไปเปลี่ยนชุดอีก หากล้มป่วยขึ้นมา ทำให้เหล่าพระสนมเสียงานเสียการ พวกเจ้าจะมีกี่หัวพอให้ตัด?”เมื่อได้ยินดังนี้ เหล่านางกำนัลจึงหยุดร้องไห้ พร้อมคลานขึ้นจากบ่อน้ำแล้วแยกย้ายไปยังเรือนของตนทันทีรอจนทุกคนไปหมดแล้ว พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยค่อยหันมามองราวตากผ้าในมือหลินเย่ว์ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวเสียงดุ “อะไรกัน ท่านโหวน้อยจะตีข้าด้วยหรืออย่างไร?”หลินเย่ว์ตกใจจนทิ้งราวตากผ้าลงจากมือ พร้อมประสานมือกล่าวตอบ “กระหม่อมมิบังอาจ”“ขนาดบุกเข้าวังมาเช่นนี้ ยังมีสิ่งใดไม่กล้าทำอีก?” เห็นชัดว่าพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเริ่มกริ้วบ้างแล้วนางมองว่าหลินเย่ว์ทำการวู่วามเกินไปในกรมซักล้างแห่งนี้ แม้เป็นที่ๆ นับว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 13

    แม้แต่ท่านโหวหลินก็อดมองหน้าเฉียวเนี่ยนไม่ได้ แต่ยังคงพูดคุยกับหลินเย่ว์ต่อ “เคราะห์ดีที่วันนี้มีพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยมาออกหน้าให้ มิฉะนั้นอย่าว่าแต่เจ้า แม้แต่ข้าเองก็อาจไม่ได้ออกจากวังมาอีก!”เฉียวเนี่ยนมองดูพื้นที่อยู่เบื้องหน้าตน ในใจแอบรู้สึกถึงความเย้ยหยันคำพูดนี้ น่าจะพูดให้นางฟังมากกว่าขณะกำลังคิดอยู่ ด้านนอกก็มีเสียงหลินยวนแว่วมา “ท่านพ่อ...”น้ำเสียงอ่อนหวานนั้น แฝงด้วยความอ่อนแรง ระคนความร้อนใจ คล้ายพร้อมจะขาดใจได้ทุกเมื่อกระนั้นเฉียวเนี่ยนคิ้วขมวดเล็กน้อย พลันเห็นหลินยวนเดินอย่างอ่อนระโหยเข้ามาโดยมีสาวใช้เสี่ยวชุ่ยคอยประคอง ทันทีที่เห็นใบหน้าหลินเย่ว์มีเลือดไหลซึม น้ำตานางก็ร่วงหล่นลงพลัน พร้อมคุกเข่าลงข้างกายหลินเย่ว์ “ท่านพ่อ ขอท่านอย่าได้โกรธมาก แค่กๆๆ แค่กๆๆ...”กล่าวยังไม่ทันจบประโยค หลินหยวนก็เกิดอาการไอรุนแรงขึ้นมาท่านโหวหลินเป็นห่วงเสียจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ พลางตวาดไปทางเสี่ยวชุ่ย “ยังไม่รีบพยุงคุณหนูขึ้นมาอีก!”จนแม้แต่ฮูหยินหลินซึ่งแต่เดิมปกป้องหลินเย่ว์อยู่ ยังรีบไปพยุงให้นางยืนขึ้น “เจ้ายังป่วยอยู่ ออกมาทำไมกัน”“ข้า...ได้ยินว่าท่านพ่อจะลงโทษพี่ชาย” น้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 14

    เฉียวเนี่ยนรู้สึกหวาดหวั่นในใจ ขณะยืนอยู่กลางลานในตำหนักของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟย จิตใจยังคงหวั่นวิตกไม่หายนับแต่ทำงานในกรมซักล้างมาสามปี นางยังไม่เคยมาตำหนักนี้ แต่พอรู้สึกได้ว่าบรรยากาศที่นี่แตกต่างจากกรมซักล้างโดยสิ้นเชิง ทำให้เกิดความอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกนางกลัวว่าตนจะเหมือนเมื่อสามปีที่แล้ว เข้ามาแล้วไม่ได้กลับออกไปอีกไม่รู้ว่ายืนอยู่นานเพียงไหน รู้เพียงนิ้วเท้าหนาวเย็นจนเกือบไร้ความรู้สึก กว่าจะมีคนมาเรียกนางเข้าไปพบพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยทันทีที่ผลักประตูเข้าไป ก็มีไออุ่นมาปะทะใบหน้า จนเฉียวเนี่ยนรู้สึกแสบถึงปลายจมูกนางสูดจมูกเล็กน้อย ไม่ทันเดินเข้าด้านในก็ได้ยินเสียงพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยดังลอดออกมา “ข้าเห็นชุดที่ส่งซักแล้ว ซักได้ดีมากจริงๆ”เฉียวเนี่ยนเพิ่งจะเห็นหน้านาง พลางรีบคุกเข่าลง “บ่าวถวายบังคมพระสนมกุ้ยเฟยเพคะ”เพราะนางทำงานเป็นบ่าวไพร่ในกรมซักล้างจนเคยชิน แม้ตอนนี้จะกลับไปอยู่จวนโหวตามเดิม แต่เวลาพบผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ยังมักจะกล่าวแทนตัวเองว่า ‘บ่าว’ อยู่เสมอพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยชะงักเล็กน้อย คล้ายกับนึกสิ่งใดขึ้นมาได้ จึงส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มเบาๆ “เจ้าช่างเหมือนกับที่แม่เจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 15

    เฉียวเนี่ยนแอบรู้สึกตกใจ จนแม้แต่นางกำนัลผู้นั้นก็กวาดสายตามองดูเฉียวเนี่ยนและเซียวเหิงด้วยความฉงน ก่อนตอบรับสั้นๆ ว่า “เจ้าค่ะ”หลังจากนั้น นางกำนัลก็จากไปทันทีเซียวเหิงกลับเดินมาผายมือต่อเฉียวเนี่ยนอย่างเปิดเผย “แม่นางเฉียว เชิญ”เมื่อหมดหนทาง เฉียวเนี่ยนจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินตามเซียวเหิงออกจากวังไปเพียงแต่วันนี้รู้สึกทางเดินออกจากวังยาวไกลกว่าปกติ เฉียวเนี่ยนพยายามมองไปข้างหน้าเป็นระยะ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นประตูบานใหญ่ของวังหลวงเสียทีทั้งคู่ต่างไม่พูดไม่จาเงียบงันเสียจนได้ยินเสียงพื้นรองเท้าเสียดสีกับพื้นทรายด้านล่างซึ่งสภาพการณ์เช่นนี้ หากเป็นแต่ก่อนจะไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักเพราะเท่าที่เซียวเหิงจำได้ นางเป็นหญิงที่ช่างพูดช่างจา วันๆ มักจะบ่นโน่นบ่นนี่ไม่หยุดหย่อนและความเงียบในเวลานี้ ทำให้เขาไม่คุ้นชินในที่สุดจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน “เรื่องพี่ชายเจ้า ข้าได้ยินมาแล้ว ฝ่าบาทอาจจะทรงกริ้วบ้าง แต่มิใช่เรื่องใหญ่อันใด เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล”เฉียวเนี่ยนไม่เคยคิดว่าเซียวเหิงจะพูดกับนางเช่นนี้ นี่หมายความว่ากระไร?ปลอบใจกระนั้นรึ?แต่ว่า นางมิได้กังวลอะไรเลยนางยังคง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 16

    เฉียวเนี่ยนไม่นึกว่าฮูหยินเฒ่าจู่ๆ จะถามเช่นนี้ เมื่อดูความคาดหวังจากสายตาของนาง ทำให้เฉียวเนี่ยนเข้าใจโดยพลัน ว่าฮูหยินเฒ่าต้องการเป็นแม่สื่อให้นางกับเซียวเหิงนั่นเองแม้เมื่อวานนางจะพูดชัดเจนแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับเซียวเหิงอีก แต่ในสายตาของฮูหยินเฒ่า ทั้งคู่โตมาด้วยกัน อีกทั้งเซียวเหิงก็เป็นคนโปรดของฮ่องเต้ เหมาะที่เฉียวเนี่ยนจะฝากชีวิตไว้ในภายภาคหน้าแต่ว่า เมื่อก่อนความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวเหิงมักจะเข้าทำนองดอกไม้มีใจแต่สายน้ำไหลผ่าน มาวันนี้เขากับหลินยวนได้รักใคร่ชอบพอ นางจึงไม่มีเหตุผล อีกทั้งไม่มีแก่ใจจะไปยุ่งเกี่ยวด้วยอีกจึงรีบส่ายหน้าเร็วพลัน “ท่านย่า วันนี้แม่ทัพเซียวยังได้ฝากขนมมาทางข้าเพื่อมอบให้หลินยวน พวกเขาต่างหากถึงเป็นคู่สร้างคู่สม ต่อไปท่านก็อย่าคิดเรื่องนี้อีกเลย”ฮูหยินเฒ่าเป็นคนดื้อแพ่งไม่น้อย จึงได้ถอนหายใจ “เฮ่ย ย่าเพียงแต่เห็นว่าแต่ก่อนเจ้ากับเด็กหนุ่มตระกูลเซียวสนิทสนมกันดี แล้วต้องมาขาดกันเช่นนี้ ช่างน่าเสียดายนัก”เฉียวเนี่ยนฉีกยิ้มเล็กน้อย พลางซบศีรษะลงบนไหล่ฮูหยินเฒ่า “ต่อไปข้าคิดแต่จะอยู่กับท่านย่า จริงนะเจ้าคะ”นางรู้ดีว่าตนกับเซียวเหิงรู้จักม

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 17

    พวกเขาต่างพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว หากเป็นไปได้ เฉียวเนี่ยนก็แทบอยากหันหลังจากไปทันทีแต่ว่า นางไม่มีเงินติดตัว ข้างนอกก็ไม่มีสหายสักคน หากออกไปตอนนี้ นงก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ใดได้อีกที่สำคัญ ท่านย่ายังอยู่ในจวนนี้นางจะปล่อยให้คนแก่เป็นห่วงได้อย่างไร?เพราะฉะนั้น แม้ท่านโหวหลินและหลินเย่ว์จะพูดจาไม่เข้าหูสักเพียงใด ยามนี้นางก็ได้แต่ฟังอย่างเดียวและอดทนไว้สายตาไปอยู่ที่ชามข้าวที่วางอยู่ตรงกลางโต๊ะ เฉียวเนี่ยนรู้แล้วว่าบทสรุปของละครฉากนี้อยู่ตรงที่ใดในดวงตาเริ่มมีหยาดน้ำเอ่อขึ้นมา แต่นางก็ฝืนเก็บกักมันเอาไว้จากนั้นจึงถือตะเกียบคีบเนื้อปลาในชามข้าวขึ้นมา และส่งเข้าปากข้างโสตแว่วเสียงหัวเราะเย้ยหยันของหลินเย่ว์ “ตอนนี้ยอมกินแล้วรึ? เห็นทีว่าฐานะคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวยังมีความน่าสนใจอยู่บ้าง”เฉียวเนี่ยนปรายตามองดูหลินเย่ว์เล็กน้อย ไม่สนใจคำพูดเย้ยหยันของเขา เพียงมองหน้าท่านโหวหลินแล้วย่อตัวคารวะเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปาก“ท่านโหวอย่าเพิ่งโกรธ ใช่ว่าข้าถือตัวไม่ยอมกินเนื้อปลาที่ท่านโหวน้อยคีบให้ หากแต่เพราะสองปีก่อนทำงานจนเสียสุขภาพ กินอาหารทะเลครั้งใด ร่างกายจะขึ้นผดผื่น ซ้ำยังมีอาการคัน

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 520

    ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 519

    ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 518

    เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 517

    "เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 516

    “อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 515

    ในขณะเดียวกัน ที่แม่น้ำฉางหยาง เฉียวเนี่ยนก็ฟื้นขึ้นมาเมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นชายคนหนึ่งที่มีหนวดเคราเต็มใบหน้ากำลังจ้องมองนางอย่างไม่วางตานางตกใจมาก หันหลังถอยทันที แต่ไม่ทันระวัง พื้นด้านหลังของนางกลับว่างเปล่าไปเสียแล้ว เกือบจะทำให้เธอล้มลงไปในแม่น้ำ แต่ชายที่มีหนวดเคราคนนั้นรีบคว้าแขนของนางไว้พอดี ทำให้นางทรงตัวได้ทันเฉียวเนี่ยนจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่า ข้างหลังของนางคือแม่น้ำกว้างที่ไร้ขอบเขตที่นี่คือแม่น้ำฉางหยาง?ยังไม่ทันที่เฉียวเนี่ยนจะได้ตอบสนองอะไร เสียงจากอีกฝั่งก็ดังขึ้นมา "อย่าขยับ แม่น้ำฉางหยางลึกมาก ถ้าตกลงไปแล้วก็ขึ้นมาได้ยาก!"เฉียวเนี่ยนมองไปที่ชายที่พูด เขาดูไม่เกินสิบเจ็ดสิบแปดปี ยังเป็นเพียงแค่หนุ่มวัยรุ่นขณะนี้เขากำลังเช็ดดาบยาวในมืออย่างตั้งอกตั้งใจเฉียวเนี่ยนเริ่มนึกบางอย่างออกนางปลอมตัวเป็นบ่าวหญิง หลบหนีออกจากเรือนอย่างลับ ๆ ผ่านการหลอกลวงองครักษ์ทั้งในและนอกเรือนแต่กลับมาพบกับชายสองคนนี้ระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นชายที่มีหนวดเคราคนนี้ที่จำนางได้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วและถามขึ้น "พวกเจ้าคือโจรภูเขาจากหยงเป่ยใช่ไหม?"พวกเขาคือคนที่ฆ่าจิ่งเหยียน!ช

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 514

    เซียวชิงหน่วนตกใจจนแทบขาดสติ ดวงตาทั้งสองแดงบวม พอเห็นเซียวเหอ นางก็แทบจะร้องไห้ออกมาในทันที แต่พอเห็นเซียวเหิงกับหลินเย่ว์ น้ำตาที่จวนจะไหลกลับกลั้นเอาไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ในแววตากลับเผยให้เห็นความตระหนกยิ่งกว่าเดิม "พวกท่านมาทั้งหมดได้อย่างไร? แล้วเนี่ยนเนี่ยนเล่า? เป้าหมายของโจรภูเขาคือเนี่ยนเนี่ยนนะ!"อีกฝ่ายมีเพียงสองคน หลังจากมัดนางไว้ที่นี่ ก็รีบร้อนออกไปหาเฉียวเนี่ยนทันที!นางก็เป็นเพียงแค่เหยื่อล่อ ที่ถูกใช้ลวงเซียวเหิงให้ออกจากเรือนที่อยู่นอกเมืองหลวงเท่านั้น!ล่อเสือออกจากถ้ำ!เซียวเหิงหันหลังแล้วรีบจากไปทันที!ความหวาดกลัวในใจได้กลืนกินเขาไปหมดแล้วที่ผ่านมาก็มัวแต่วกวนอยู่กับรอยสักหัวเสือนั่นจนไม่ทันคิดกลัวว่าเมื่อหน่วนหน่วนตกอยู่ในมือโจรภูเขา นางจะต้องถูกทรมานอย่างโหดร้าย จึงรีบรุดมาด้วยความไม่ทันไตร่ตรอง!เซียวเหอก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน แต่ในใจก็ยังแอบมีความหวังอยู่บ้างคนที่ซุนเซี่ยนส่งมา ล้วนเป็นยอดฝีมือจากในกองทัพ ยังรวมกับคนของเขาช่วยกันเฝ้าอยู่หน้าจวนของเซียวเหิงหากโจรภูเขาบุกเข้าไปในจวนเซียวเหิงจริง อย่างน้อยคนของเขาก็คงพอถ่วงเวลาไว้ได้บ้างอย่างน้อย ก็

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 513

    เมื่อเฉียวเอ๋อร์กลับมา ฮุ่ยเอ๋อร์ก็ยืนอยู่ด้านนอกห้องแล้วห้องของเฉียวเนี่ยนปิดสนิท ชวนให้ผู้คนสงสัย "ฮูหยินเล่า?"ฮุ่ยเอ๋อร์ตอบอย่างเยือกเย็น "ฮูหยินบอกเมื่อครู่ว่ารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงล้มตัวนอนพักแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะมองประตูห้องอย่างแปลกใจ "ฮูหยินไม่สบายหรือ? ให้ข้าไปตามหมอมาดูหรือไม่?"ฮุ่ยเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ส่ายหน้า "น่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนพักผ่อนไม่เพียงพอกระมัง เจ้าอย่าคิดมากเลย ปล่อยให้ฮูหยินพักผ่อนเถอะ"แต่เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของฮุ่ยเอ๋อร์ เฉียวเอ๋อร์กลับเริ่มระแวง นางดูออกว่าสีหน้าของฮุ่ยเอ๋อร์นั้นไม่เป็นธรรมชาติราวกับเพิ่งตระหนักอะไรขึ้นมา นางจึงกดเสียงให้เบาลง "หรือว่าเกิดเรื่องกับฮูหยินขึ้นแล้ว?"ฮุ่ยเอ๋อร์ไม่คิดว่าเฉียวเอ๋อร์จะจับพิรุธได้ทันที สายตาก็พลันหลบเลี่ยงโดยไม่รู้ตัว "ไม่ ไม่มีอะไร เจ้าอย่าคิดมากไปเลย"แต่เฉียวเอ๋อร์ไม่เชื่อ นางยื่นถ้วยน้ำเชื่อมที่ถืออยู่ให้ฮุ่ยเอ๋อร์ แล้วก็หันกลับไปเคาะประตู "ฮูหยิน บ่าวเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ?"ไม่มีแม้แต่คำตอบ เฉียวเอ๋อร์จึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไปภายในห้อง ไร้ซึ่งเงาของเฉียวเนี่ยน"เ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 512

    แต่รอยยิ้มในตอนนี้กลับดูเหมือนเป็นการฝืนยิ้มเมื่อเห็นว่าไม่สามารถปิดบังเฉียวเนี่ยนได้ เซียวเหิงจึงยอมปริปาก "หน่วนหน่วนหายตัวไป""อะไรนะ?!" เฉียวเนี่ยนตกตะลึง ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงเข้ามาครอบงำนาง"หน่วนหน่วนหายตัวไปหรือ? ตั้งแต่เมื่อใดกัน?""ครึ่งชั่วยามก่อน""เช่นนั้นท่านยังไม่ไปออกตามหาหน่วนหน่วนอีกรึ เหตุใดถึงยังอยู่ที่นี่!" เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะโวยวายออกมาด้วยความตื่นตระหนก "หากนางตกไปอยู่ในเงื้อมือของพวกโจรภูเขาจะทำอย่างไร!"ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเซียวเหิงก็เคร่งเครียดขึ้นเขามองไปยังนาง ดวงตาฉายแววเย็นชา "เจ้ารู้ได้อย่างไร ว่าเป็นพวกโจรภูเขา?""คราวก่อนท่านพูดเองนี่ ว่าพวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง" เฉียวเนี่ยนพูด จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึก "อีกอย่าง ตอนนี้เรื่องที่ว่าข้ารู้ได้อย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ท่านต้องใส่ใจหรือ? หากว่าหน่วนหน่วนตกไปอยู่ในเงื้อมือของโจรภูเขาจริง ๆ ต้องจบไม่สวยแน่! ท่านรีบไปตามหานางเถอะ!"เซียวเหิงรู้สึกสั่นไหวในใจหน่วนหน่วนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขา เขาจะไม่เป็นห่วงนางได้อย่างไร?เพื่อปล้นสะดมทรัพย์สินแล้ว พวกโจรภูเขาเหล

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status