แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เมื่อได้ยินคําถามนี้ น้ำตาในดวงตาของหลินยวนก็ไหลออกมาในที่สุด นางส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า"ไม่ใช่ ข้าไม่เคยทําร้ายพี่หญิงเลย ตอนนั้นเป็นข้าที่ทําถ้วยแตก เป็นความผิดของข้าเอง แต่คนที่ใส่ร้ายพี่หญิงคือเสี่ยวชุ่ย...”

นางพยายามอย่างยิ่งที่จะบอกเฉียวเนี่ยนว่าตัวเองไม่เคยทําร้ายนาง

แต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะพิงอยู่ข้างประตู ถามนางอย่างอ่อนโยนว่า “แล้วทําไมเจ้าไม่บอกเมื่อสามปีก่อนล่ะ?”

หลินยวนอึ้งไปชั่วขณะ ไม่ทันได้เข้าใจว่าคําพูดของเฉียวเนี่ยนหมายความว่าอย่างไร?

มุมปากของเฉียวเนี่ยนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันอย่างรุนแรง “เจ้าเป็นคนทําถ้วยแตกเอง แปดคํานี้ เมื่อสามปีก่อนต่อหน้าฮองเฮากับองค์หญิง ทําไมเจ้าถึงไม่พูด?”

หลินยวนถอยหลังไปก้าวหนึ่งราวกับยืนไม่มั่น “ข้า ข้าไม่กล้า... นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าเข้าวัง เป็นครั้งแรกที่เจอคนสูงศักดิ์มากมายขนาดนี้ ข้า ตอนนั้นข้ากลัวมาก ข้า...”

“แล้วตอนนี้เจ้าจะมาพูดอะไรกับข้าอีกล่ะ?” เฉียวเนี่ยนขัดจังหวะคําพูดของหลินยวนอีกครั้ง

ต้องพูดอะไรกันแน่ถึงจะให้นางทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดสามปีที่ผ่านมา

หลินยวนร้องไห้สะอึกสะอื้น ก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเฉียวเนี่ยนอีก “ขอแค่พี่หญิงให้อภัยข้า ข้ายอมคืนทุกอย่างให้พี่หญิง ข้าจะบอกพ่อแม่และพี่ชายว่า พี่หญิงท่านไม่เคยรังแกข้า เรือนลั่วเหมย ข้าก็สามารถคืนให้กับพี่หญิงได้ ยังมี ยังมีพี่เหิงด้วย ข้า ข้าก็สามารถคืนให้กับพี่หญิงได้หมด”

ฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็เข้าใจจุดประสงค์ที่หลินยวนมาในวันนี้แล้ว

“หลินยวน ข้าเคยบอกแล้วว่านั่นคือพ่อแม่และพี่ชายของเจ้า ไม่เกี่ยวกับข้า” นางส่ายหัวเล็กน้อยและพ่นลมหายใจที่ขุ่นมัวออกมาจากอกอย่างรุนแรง แม้ว่าเรือนลั่วเหมยสร้างขึ้นเพราะชอบ แต่ล้วนเป็นความพยายามของท่านโหว และควรเป็นของเจ้าด้วย แม้แต่เรือนฟางเหอแห่งนี้ หากเจ้าต้องการก็แค่พูดประโยคเดียวเท่านั้น”

ได้ยินดังนั้น หลินยวนก็ส่ายหัวทันที “ข้าไม่เอา ข้าไม่ได้มาแย่งที่อยู่กับพี่หญิง”

“ข้ารู้” เฉียวเนี่ยนยิ้มบางๆ แฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันเล็กน้อย “เจ้ามาเพื่อเซียวเหิง”

พูดอะไรขอให้นางให้อภัย อ้อมค้อมขนาดนี้ ก็เพื่อผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น

นางพูดเข้าเรื่องของหลินยวนทันที ทําให้หลินยวนหน้าแดงทันที

กลับได้ยินเฉียวเนี่ยนพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากังวลเรื่องอะไรอยู่ เมื่อสามปีก่อนตอนที่ข้ายังไม่ถูกลงโทษเข้ากรมซักล้าง การหมั้นหมายนี้ก็ตกอยู่กับเจ้าแล้ว ตอนนี้แม้ว่าข้าจะยังอาศัยอยู่ในจวนโหว แต่ทั้งหมดเป็นเพราะท่านย่ารักข้าเท่านั้น ข้าถึงขั้นไม่ได้แซ่หลินแล้ว ในจวนโหวนี้ข้าเป็นเพียงคนนอก การหมั้นหมายระหว่างตระกูลเซียวกับตระกูลหลินอย่างไรก็ไม่ตกอยู่ที่ข้า”

“อีกอย่าง เมื่อครู่ตอนอยู่กับท่านย่าข้าก็พูดชัดเจนแล้ว ข้าไม่ชอบเซียวเหิงอีกแล้ว เจ้าตั้งใจมาลองใจข้าเพราะเรื่องนี้ มันไม่จําเป็นจริงๆ”

“ข้าไม่ได้มาเพื่อหยั่งเชิงพี่หญิง” หลินยวนเหมือนถูกเข้าใจผิด รู้สึกใจร้อนเล็กน้อย “ข้าขอร้องพี่หญิงให้อภัยจากใจจริง เพียงแต่...”

เพียงแค่หยั่งเชิงท่าทีของเฉียวเนี่ยน ก็เป็นจุดประสงค์หนึ่งเช่นกัน

แต่นางต้องยอมรับว่านางรู้สึกกลัวจริงๆ

ท่าทีของเซียวเหิงในวันนี้ทําให้นางจับต้นชนปลายไม่ถูก นางเป็นห่วงจริงๆ ว่าคนที่เซียวเหิงอยากแต่งงานด้วยคือเฉียวเนี่ยน ดังนั้นจึงรีบมาหาเฉียวเนี่ยนที่นี่

“ไม่ว่ายังไง ความคิดของข้าก็ชัดเจนอยู่แล้ว สุขภาพของท่านย่าไม่ดีเท่าเมื่อก่อน ข้าแค่อยากดูแลท่านย่าให้ดีๆ อย่างอื่น ข้าไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น เฉียวเนี่ยนเล่าความคิดของตัวเองให้หลินยวนฟังอย่างละเอียดลออ แค่อยากให้หลินยวนรู้ว่าต่อไปถ้าไม่มีอะไรทําก็อย่ามาหาเรื่องเขาบ่อยๆ

คนของจวนโหวนี้ นอกจากท่านย่าแล้ว นางไม่อยากเห็นหน้าใครเลยจริงๆ

หลินยวนยืนอยู่ที่เดิมและกัดริมฝีปากล่างของตัวเองโดยไม่พูดอะไร

ใบหน้ายังมีคราบน้ำตา บนขนตายังมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งติดอยู่

เฉียวเนี่ยนคิดว่า ถ้าหลินเย่ว์มาตอนนี้ คงเหมือนกับตอนที่ผลักตัวเองตกตึกเมื่อสามปีก่อน เตะนางลงไปในสระบัวโดยไม่พูดไม่จา

อากาศที่นี่หนาวมาก ตกน้ำนางกลัวจะป่วยหลายวันเอาได้

แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว เฉียวเนี่ยนอดนวดขมับตัวเองไม่ได้ แค่อยากรีบส่งตัวหายนะนี้ไป “วันนี้ข้าตื่นเช้าไปหน่อย ตอนนี้เหนื่อยจริงๆ ถ้าเจ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ข้าก็ไม่ไปส่งเจ้าแล้ว”

พอฟังออกถึงการไล่แขกของเฉียวเนี่ยน หลินยวนก็ไม่อยากอยู่แบบหน้าด้านๆ อีกแล้ว จึงทําได้เพียงพยักหน้า “งั้นพี่หญิงพักผ่อนให้สบายนะ ข้า ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ”

พูดจบ หลินยวนก็โค้งตัวทําความเคารพแล้วเดินออกไปข้างนอก

หลินยวนเพิ่งออกจากบ้านไม่นานหนิงซวงก็เข้ามาแล้ว

“คุณหนู คุณหนูรองมาคุยอะไรกับท่านหรือเจ้าคะ?” เด็กสาวทําหน้าสงสัยใคร่รู้ พลางมองแผ่นหลังของหลินยวนอย่างอดไม่ได้ “บ่าวเห็นดวงตาของนางแดงก่ำ ร้องไห้แล้วหรือเจ้าคะ?”

เฉียวเนี่ยนไม่มีกะจิตกะใจจะรับมือกับหนิงซวง จึงเดินเข้าไปข้างใน “เจ้าอยากรู้อยากเห็นขนาดนี้ ไม่สู้ไปถามนางโดยตรงดีกว่า”

หนิงซวงตามมาอย่างหน้าด้านๆ “บ่าวเป็นบ่าวของคุณหนู มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปหาคุณหนูรองกัน?”

สิ้นเสียงฝีเท้าของเฉียวเนี่ยนก็หยุดลงเช่นกัน

นางหันไปมองหนิงซวงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หนิงซวงตกใจ ขยิบตาให้เฉียวเนี่ยนสองครั้ง “คุณหนู ท่านเป็นอะไรไป?”

“ข้ารู้ว่าเจ้านายของเจ้าส่งเจ้ามาปรนนิบัติข้าเพราะมีจุดประสงค์ของเขา ข้าจะไม่ทําให้เจ้าลําบากใจ แต่เจ้าก็ไม่จําเป็นต้องเตือนข้าตลอดเวลาว่าเจ้าเป็นคนของข้า เพราะข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่”

เฉียวเนี่ยนอยู่ในกรมซักล้างมาสามปี ในสถานที่แห่งนั้น คนรอบข้างล้วนเป็นศัตรูของนาง ดังนั้นนางจึงเคยชินกับการพูดจาที่เย็นชาและดุดันเช่นนี้

นางไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะทําร้ายจิตใจของสาวใช้คนหนึ่ง

ดวงตาคู่โตของหนิงซวงแทบจะเต็มไปด้วยน้ำตาทันที

ต่างจากหลินยวน เฉียวเนี่ยนมองนาง ใจอ่อนลงทันที

แต่นางก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรปลอบนางหรือไม่ จึงได้แต่ขมวดคิ้ว “ข้าจะนอนสักพัก เจ้าไปทํางานเถอะ”

พูดจบก็หันหลังเดินเข้าไปในห้อง

หนิงซวงยืนอยู่ที่เดิม ได้แต่มองเฉียวเนี่ยนขวางนางเอาไว้ข้างนอก น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มในที่สุด

แต่ไม่นานนางก็เช็ดน้ำตาออก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจเมื่อสักครู่กลับเต็มไปด้วยความไม่สนใจ

คุณหนูของนางถูกทรมานอยู่ในกรมซักล้างเป็นเวลาสามปี ตอนนี้ต่อให้ไม่มีน้ำใจแล้วจะเป็นไรไป

คุณหนูมีแผลมากมายอยู่บนร่างกาย หากตนเองไม่โหดร้ายสักหน่อย เกรงว่าก็คงไม่รอดแล้ว

แม้จะถูกคุณหนูเข้าใจผิด แต่นางเชื่อว่าขอแค่จริงใจต่อคุณหนู สักวันหนึ่งคุณหนูจะสามารถมองเห็นความจริงใจของนางได้

หนิงซวงแอบให้กําลังใจตัวเอง แล้วจึงร้องเรียกในห้อง “เช่นนั้นคุณหนูพักผ่อนให้สบายนะเจ้าคะ บ่าวจะเฝ้าอยู่ข้างนอก หากคุณหนูต้องการอะไรก็บอกบ่าวได้เลย”

เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ร่างกายของเฉียวเนี่ยนก็ชะงักไปเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

ที่ไหนสักแห่งในหัวใจเหมือนมีกระแสอุ่นๆ ไหลผ่าน

นางเองก็บอกไม่ถูกว่ามันรู้สึกอย่างไรกันแน่ แต่...อารมณ์ที่วุ่นวายเพราะหลินยวนเมื่อสักครู่ได้บรรเทาลงไม่น้อย

นางถอนหายใจยาวและกําลังจะเข้านอน แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องที่น่าตกใจดังมาจากข้างนอก

"แย่แล้ว! ใครก็ได้มาเร็ว คุณหนูรองตกน้ำแล้ว”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Ann-Earth Oua-nguan
ยัยคุณหนูรองสร้างเรื่องอีกรึ
goodnovel comment avatar
Sita
ติดตามตอนต่อไปค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 948

    พระพุทธรูปหยก!เฉียวเนี่ยนรู้จักดีเมื่อคราวนั้นฮูหยินหลินยังเคยมาขอร้องนางเพื่อหลินยวน ขอพระพุทธรูปหยกหนึ่งองค์ไปเป็นสินเดิมให้หลินยวนเมื่อมู่คังเซิ่งพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัยว่า “พระพุทธรูปหยกมีอะไรหรือเจ้าคะ?”มู่คังเซิ่งสูดหายใจลึก สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ในพระพุทธรูปหยกนั้น ซ่อนเศษแผนที่สมบัติไว้สองชิ้น ซึ่งสามารถช่วยพวกเราตามหาขุมสมบัติที่บรรพชนของตระกูลมู่ทิ้งไว้ และช่วยให้ตระกูลมู่รอดพ้นจากวิกฤตในตอนนี้ได้”เมื่อได้ยินคำว่า ‘แผนที่สมบัติ’ หลินเย่ว์ก็โกรธขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ “ข้าว่าพวกเจ้าจะเล่นละครมากเกินไปแล้วล่ะ! แผนที่สมบัติรึ! หากมีแผนที่สมบัติจริง เหตุใดต้องซ่อนอยู่ในพระพุทธรูปหยก? แล้วเหตุใดในปีนั้นถึงกลายเป็นสินสมรสของท่านย่าเราตอนแต่งงานที่แคว้นจิ้ง? หากมีแผนที่สมบัติจริง แต่ละปีที่ผ่านมา ด้วยกำลังของพวกตระกูลมู่ เจ้าก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหาท่านย่าแล้วสิ ไยต้องรอจนกว่าน้องสาวข้าจะเอาเครื่องรางหยกออกมาให้เห็น เจ้าถึงจะรู้ว่าท่านย่าแต่งเข้ามาอยู่ที่แคว้นจิ้ง?”แม้หลินเย่ว์จะมุทะลุไปหน่อย แต่คำถามเหล่านี้ ก็ล้วนเป็นส

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 947

    ความรู้สึกนี้ แปลกประหลาดอยู่บ้างมู่คังเซิ่งถอนหายใจพลางกล่าวว่า “ท่านปู่ของมู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยตอนยังมีชีวิตอยู่ เคยพยายามอย่างหนักเพื่อจะตามหาท่านย่าของเจ้า ไม่คิดว่ากว่าจะหาเจอ ทั้งสองก็... เฮ้อ!”เฉียวเนี่ยนก้มหน้าลง ไม่กล่าวอะไรภายในใจเกิดคลื่นแห่งความโศกเศร้าอ่อนจางบางคนไม่ว่าจะจากไปนานแค่ไหน เพียงหวนระลึกถึงอีกครั้ง ใจก็ยังคงปวดร้าวอยู่ดีพอเห็นเฉียวเนี่ยนมีปฏิกิริยาเช่นนี้ มู่คังเซิ่งก็กล่าวอีกว่า “แต่ว่าโชคดีที่ตอนนี้หาเจ้าพบแล้ว! สวรรค์ช่างไม่ใจร้ายต่อตระกูลมู่เลยจริงๆ!”พอคำพูดนี้สิ้นสุดลง สีหน้าของเฉียวเนี่ยนกับหลินเย่ว์ก็พลันเปลี่ยนไปหลินเย่ว์ก้าวเข้ามา แววตามีความไม่พอใจปนอยู่ แต่ทว่าน้ำเสียงยังคงรักษาความสุภาพขั้นพื้นฐาน “ขอเรียนถามท่านผู้นำตระกูลตระกูลมู่ ว่าคำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร?”มู่คังเซิ่งเงยหน้ามองหลินเย่ว์แวบหนึ่ง แววตาธรรมดาไร้ความรู้สึก แต่กลับให้ความรู้สึกเย้ยหยันอย่างประหลาดเขาไม่ได้หันไปมองหลินเย่ว์ แต่กลับหันไปทางเฉียวเนี่ยนแล้วเอ่ยว่า “เด็กน้อย เจ้าจะกลับไปเยือนตระกูลมู่กับเราสักครั้งเมื่อไรดีล่ะ?”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว “ท่านผู้นำตร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 946

    เฉียวเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่งก็เห็นชายชราผู้หนึ่งยืนอยู่กลางโถงชั้นล่างสวมเสื้อคลุมผ้าไหมสีดำ ปักลายด้วยดิ้นทอง คาดผ้าคาดเอวสีดำเข้มที่ดูเก่าเล็กน้อย บนผ้านั้นห้อยจี้หยกชิ้นหนึ่งบนจี้หยกนั้นแกะสลักไว้ด้วยอักษร ‘มู่’มู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยยืนอยู่คนละข้างของชายชราทั้งที่คนหนึ่งสุขุม อีกคนหนึ่งองอาจเปี่ยมชีวิตชีวา ทว่าเมื่อยืนข้างชายชราผู้นั้น กลับดูราวกับเด็กรับใช้ไปถนัดตาไม่ต้องบอก เฉียวเนี่ยนก็รู้ได้ทันทีว่าชายชราคือผู้นำตระกูลมู่เวลานั้น สายตาของผู้นำตระกูลมู่เปล่งประกายเป็นประกายจ้า จ้องมองเฉียวเนี่ยนแน่นิ่งเหมือนกำลังจ้องมองสมบัติล้ำค่าเฉียวเนี่ยนไม่ชอบสายตาเช่นนี้นักนางรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นสิ่งของอะไรบางอย่างสิ่งของที่สำคัญยิ่งต่อตระกูลมู่มู่ซ่างเสวี่ยกล่าวแนะนำว่า “ท่านอา นางก็คือเนี่ยนเนี่ยน หลานสาวแท้ๆ ของป้าทวด อีกท่านหนึ่งนามว่าหลินเย่ว์ เป็นหลานชายแท้ๆ ของป้าทวดเช่นกันขอรับ”ขณะกล่าว เฉียวเนี่ยนก็ลงบันไดมาแล้ว นางก้าวเข้ามากล่าวคำนับต่อผู้นำตระกูลมู่ “คารวะท่านผู้นำตระกูลเจ้าค่ะ”ผู้นำตระกูลมู่มีนามว่ามู่คังเซิ่ง ปีนี้อายุหกสิบห้า เป็นพี่ใหญ่แท้ๆ ขอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 945

    แต่นางกลับนึกถึงฉู่จืออี้ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยหากวันนี้ฉู่จืออี้อยู่ละก็ ย่อมไม่มีทางปล่อยให้ไอ้หัวหงอกนั่นพาตัวนางไปได้แน่ถึงแม้จะถูกพาตัวไปจริงๆ ก็คงจะหานางเจออย่างรวดเร็วถึงแม้จะไม่รวดเร็ว อย่างน้อยในตอนนี้ เขาก็จะต้องบอกนางว่า อย่าคิดมากคิดถึงตรงนี้ ใจของนางก็สงบลงอย่างไม่มีเหตุผลเฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ หลับตาลง แล้วในที่สุดก็ค่อยๆ หลับไปเช้าวันถัดมา นางก็นอนเต็มอิ่มจริงๆเมื่อลุกออกจากห้องก็ล่วงเลยถึงช่วงสายด้านล่างของโรงแรมมีคนนั่งอยู่ไม่น้อย เฉียวเนี่ยนกวาดตามอง ส่วนมากเป็นคนของตระกูลมู่แต่มู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยกลับไม่อยู่นางก็ไม่ได้ถามมากความ หันไปที่ห้องของพี่ห้าแทนวันนี้พี่ห้าดูดีกว่าเมื่อวานมากพอเห็นเฉียวเนี่ยน เขาก็อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ว่า “เมื่อวานไอ้แก่นั่นได้ทำอะไรให้เจ้าลำบากใจหรือไม่?”เฉียวเนี่ยนเดินไปตรวจชีพจรให้พี่ห้า แล้วจึงพูดว่า “ไม่ เขาบอกว่าอยากรับข้าเป็นศิษย์ ข้าปฏิเสธ เขาก็เลยปล่อยข้าไว้บนดาดฟ้า”พอนึกถึงเรื่องนี้ ใจเฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะเดือดดาลเจ้าเฒ่านั่นเจ้าเล่ห์เสียจริงพี่ห้าก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 944

    โชคดีที่หลังจากนั้นไม่นาน คนตระกูลมู่ก็มาถึง รับตัวคนทั้งสองลงมาได้มู่ซ่างเสวี่ยถอดผ้าคลุมของตนออก คลุมร่างเฉียวเนี่ยนเอาไว้ทั้งตัว พอเห็นใบหน้าซีดเซียวของเฉียวเนี่ยนที่หนาวจนแทบไม่มีสีเลือด ก็คิ้วขมวดแน่น “เร็วเข้า! พาคุณหนูกลับไป! เตรียมน้ำอุ่นกับน้ำขิงไว้!”"เจ้าค่ะ!"สาวใช้ก็เข้ามาพยุงเฉียวเนี่ยนมุ่งหน้าไปยังรถม้าที่จอดอยู่ไม่ไกลในทันทีตลอดทาง เฉียวเนี่ยนไม่ได้หันกลับไปมองเพราะนางรู้ดีว่าหลินเย่ว์อยู่ด้านหลังของนางสายตานั้นร้อนแรง ราวกับจะเจาะทะลุแผ่นหลังของนางให้เป็นรูเพียงแต่ ตอนก้าวขึ้นรถม้า นางก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางหลินเย่ว์ก็เห็นว่าหลินเย่ว์ยังคงยืนจ้องมองนางอยู่ที่เดิม พอเห็นนางหันมา ก็มอบรอยยิ้มให้นางหนึ่งที ประหนึ่งบอกให้นางไม่ต้องเป็นห่วงใจเฉียวเนี่ยนพลันสะดุด ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที สุดท้ายนางก็ขึ้นรถม้าไปสาวใช้ของตระกูลมู่พูดเสียงนุ่มจากนอกรถม้า “คุณหนู มีเตาอุ่นมืออยู่ในรถม้า ท่านถือไว้ให้มืออบอุ่นขึ้นนะเจ้าคะ”เฉียวเนี่ยนเพิ่งเห็นว่าบนโต๊ะเล็กข้างๆ มีเตาอุ่นมือวางอยู่จริงๆนางหยิบเตาอุ่นมือขึ้นมา แล้วกดแนบไว้ตรงอก เพียงหวังว่าไออุ่นจากมันจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 943

    น่าเสียดาย นางกลับไปอดีตไม่ได้อีกแล้วทุกคนไม่มีวันหวนกลับไปยังอดีตได้อีก...“เนี่ยนเนี่ยน! เนี่ยนเนี่ยน!”หลินเย่ว์ยังคงตะโกนเรียก ร่ำร้องด้วยความร้อนใจ“เนี่ยนเนี่ยน เจ้าหาอยู่ที่ไหน! เจ้าอย่าทำให้พี่ใหญ่ตกใจสิ!”“เนี่ยนเนี่ยน! ออกมาเถอะ! พี่ใหญ่มารับเจ้าแล้ว!”“ขอโทษนะเนี่ยนเนี่ยน พี่ใหญ่มาช้าเกินไป พี่ใหญ่ไม่ควรมาช้าอย่างนี้เลย!”“เนี่ยนเนี่ยน เจ้าอย่าทำให้พี่ใหญ่ตกใจ เจ้าอยู่ที่ไหน ตอบพี่ใหญ่มาสักคำเถอะ!”เสียงของหลินเย่ว์เริ่มปนเสียงสะอื้นบางทีอาจเพราะถูกความรู้สึกนั้นส่งผ่านมา เฉียวเนี่ยนที่พยายามกลั้นน้ำตาไว้ก็สุดจะกลั้น สุดท้ายน้ำตาก็ไหลลงมาใช่แล้ว มาช้าเกินไปจริงๆทำไมถึงมาช้าได้เพียงนี้?เจ้ารู้ไหมว่าสามปีนั้น ขอแค่เจ้าปรากฏตัวขึ้นสักครั้ง แค่ครั้งเดียว...ตอนนี้ นางก็ยังจะมีพี่ใหญ่อยู่...“ข้างบนนั่นมีคน!”ไม่รู้ว่าใครร้องขึ้นมาหลินเย่ว์เงยหน้าขึ้นมองในที่สุดท้องฟ้ายามค่ำมืดมิดเกินไปเขามองไม่เห็นใบหน้าของเฉียวเนี่ยน แต่เพียงแวบเดียวก็จำได้ว่าเงาร่างนั้นคือเฉียวเนี่ยนเขาจึงโบกมือให้เฉียวเนี่ยน “เนี่ยนเนี่ยน! เจ้าอย่ากลัว! พี่ใหญ่มาแล้ว! เจ้าอย่าขยับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status