Share

บทที่ 11

Author: โม่เสียวชี่
คำพูดของเฉียวเนี่ยน เหมือนดั่งฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ จนทำให้หลินเย่ว์เกิดอาการมึนงงไปชั่วขณะ

ในมโนภาพเห็นแต่เฉียวเนี่ยนดิ้นรนอยู่ในน้ำ ส่วนนางกำนัลอื่นก็อยู่ข้างบ่อซักล้าง ต่างพากันหัวเราะเป็นการใหญ่

พลันรู้สึกเจ็บในหัวอกมากขึ้น เขาคิดจะพูดอะไรต่ออีก แต่คล้ายมีบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ จวบจนแผ่นหลังของเฉียวเนี่ยนถูกบานประตูขวางกั้นจนมองไม่เห็นอีก จึงค่อยมีสติกลับคืนมาบ้าง

“คุณหนู ฮือๆๆ...” เสียงร่ำไห้ของเสี่ยวชุ่ยดังขึ้นที่ข้างหู ทำให้รู้สึกรำคาญยิ่ง

หลินยวนถลึงตาใส่เสี่ยวชุ่ย “เอาแต่ร้องไห้อยู่ได้ ไม่รีบไปตามหมอมาอีก?”

เสี่ยวชุ่ยเพิ่งจะนึกได้ จึงรีบออกไปทันที

หลินเย่ว์ส่งหลินยวนกลับไปยังเรือนลั่วเหมย ส่วนหมอประจำจวนก็มาพร้อมกับฮูหยินหลิน

ขณะที่หมอกำลังตรวจชีพจรดูอาการให้หลินยวนอยู่นั้น ฮูหยินหลินก็พาหลินเย่ว์ออกไปข้างนอก “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? น้องเจ้าอยู่ดีๆ ตกน้ำได้อย่างไร หรือเป็นเพราะว่าเนี่ยนเนี่ยน...”

“ท่านแม่” หลินเย่ว์ขมวดคิ้ว ขัดจังหวะการพูดของฮูหยินหลินทันที “เพราะเนี่ยนเนี่ยนช่วยยวนเอ๋อร์ไว้ต่างหาก”

กล่าวพลาง เขาคล้ายกับนึกอะไรได้ จึงหันไปมองเสี่ยวชุ่ย “เจ้ามานี่”

ใบหน้าซีกซ้ายของเสี่ยวชุ่ยยังคงบวมเป่งอยู่ แสดงให้เห็นว่าหนิงซวงลงมือหนักไม่น้อย

เสี่ยวชุ่ยเดินก้มหน้ามาพร้อมคุกเข่าลงพื้น ไม่รู้ว่าเป็นความจงใจหรือไม่ ใบหน้าซีกที่บวมเป่งหันไปทางฮูหยินหลินพอดี

เมื่อฮูหยินหลินเห็นเข้าก็ตกใจเป็นอย่างมาก “ตายจริง ใบหน้าเจ้าไปโดนอะไรมาน่ะ”

เสี่ยวชุ่ยพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้าหลินเย่ว์ด้วยความหวาดกลัว

หลินเย่ว์จ้องเขม็งไปยังเสี่ยวชุ่ยอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้เอ่ยปากถาม “เจ้ามีเรื่องบาดหมางกับเนี่ยนเนี่ยนรึ?”

เสี่ยวชุ่ยตกใจยิ่ง พลางรีบส่ายหน้า “ไม่มีเจ้าค่ะ บ่าวจะกล้ามีเรื่องกับคุณหนูใหญ่ได้อย่างไร?”

“ในเมื่อไม่มี แล้วเหตุใดจึงได้ใส่ร้ายนางครั้งแล้วครั้งเล่า?” หลินเย่ว์ถามเสียงเย็นชา

เมื่อครู่ตอนอยู่เรือนลั่วเหมย เขาโกรธจนหน้ามืด แต่เรื่องนั้นแม้ไม่ต้องใช้หัวคิดก็พอเข้าใจได้

เนี่ยนเนี่ยนไม่ใช่คนโง่ จะอยู่ในเรือนของตนเอง ซ้ำยังปองร้ายผู้อื่นต่อหน้าผู้คนได้อย่างไร?

และสาวใช้ผู้นี้ก็ไปถึงเรือนฟางเหอไล่เลี่ยกับเขา ซึ่งตอนนั้นเนี่ยนเนี่ยนกับยวนเอ๋อร์ก็ได้ขึ้นฝั่งแล้วทั้งคู่ นางกลับยืนกรานเสียงแข็งว่าเนี่ยนเนี่ยนเป็นคนผลักยวนเอ๋อร์ให้ตกน้ำ

หวนนึกถึงเมื่อสามปีก่อน สาวใช้ผู้นี้ก็เคยยืนกรานเช่นนี้ พูดจาเป็นมั่นเป็นเหมาะ แค่นี้ก็ทำให้หลินเย่ว์เกิดความระแวงแล้ว

เสี่ยวชุ่ยก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่มาจากหลินเย่ว์

นางรู้ดี หากวันนี้ตนพูดผิดไปแม้แต่คำเดียว คงจะถูกลากไปโบยจนเสียชีวิตแน่

จึงรีบกลอกตารวดเร็ว ในที่สุดนางก็หาทางออกได้ “บ่าว...บ่าวเพียงแต่เป็นห่วงคุณหนูมาก เกรงว่านางจะถูกรังแก บ่าวทำเพื่อคุณหนูน่ะเจ้าค่ะ”

“ทำเพื่อคุณหนูกระนั้นรึ?” หลินเย่ว์หัวเราะเสียงเย็น “หรือเป็นเพราะคุณหนูเจ้าสั่งให้ทำเช่นนั้น?”

“ไม่ ไม่ใช่เจ้าค่ะ” เสี่ยวชุ่ยรีบส่ายหน้าปฏิเสธ แต่กลับไม่กล้าพูดมากความอีก

เดิมทีนางคิดว่าหากพูดเช่นนี้อาจทำให้หลินเย่ว์เกิดความเมตตาสงสาร ที่ไหนได้จะพลอยทำให้คุณหนูเดือดร้อนด้วยอีกคนเสียแล้ว

ทันใดนั้นเอง ในห้องมีเสียงหลินยวนเรียกเบาๆ “เสี่ยวชุ่ย...เสี่ยวชุ่ย...”

น้ำเสียงอ่อนแรงราวกับจะขาดใจ ฟังแล้วพาให้นึกเป็นห่วงยิ่ง

หลินเย่ว์ขมวดคิ้วมุ่น ไฟโทสะที่คุกรุ่นขึ้น ในที่สุดก็มอดลงเพราะเสียงเรียกอ่อนแรงของหลินยวน

เขาทำตาดุใส่เสี่ยวชุ่ย พร้อมกล่าวเตือนเสียงเบา “หากมีคราวหน้าอีก ไม่ต้องให้หนิงซวงลงมือ ข้าจะตัดลิ้นเจ้าไปให้สุนัขกิน! ไม่รีบไปดูแลคุณหนูอีก”

“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ” เสี่ยวชุ่ยลุกขึ้นลนลาน พร้อมวิ่งเข้าไปในห้องทันที

ฮูหยินหลินอยู่ด้านข้างค่อยโล่งอกหน่อย มองหน้าหลินเย่ว์คล้ายกับไม่พอใจนัก “ทำไมตำหนิน้องสาวตัวเองเช่นนั้น นิสัยยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไร เจ้ายังไม่รู้อีกรึ?”

หลินเย่ว์มองหน้าฮูหยินหลิน แววตาแสดงออกถึงความผิดหวัง “ท่านแม่ เนี่ยนเนี่ยนว่ายน้ำเป็น ท่านรู้หรือไม่?”

ฮูหยินหลินจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

นางชะงักเล็กน้อยก่อนเอ่ยปาก “ว่ายน้ำเป็น? แต่ว่า เมื่อก่อนนางว่ายน้ำไม่เป็นมิใช่รึ?”

ใช่ คนที่เมื่อก่อนว่ายน้ำไม่เป็น กลับถูกผู้อื่นผลักตกน้ำไป

ซ้ำพวกนางยังใช้ราวตากผ้าไล่ตีนางอีก เพื่อไม่ให้ขึ้นฝั่ง

ในตอนนี้ นางจะรู้สึกหวาดกลัวเพียงไหน?

ในตอนนั้น พี่ชายอย่างเขาไปอยู่ที่ใด?

หลินเย่ว์ไม่คิดตอบโต้อีก จึงหันหลังเดินจากไป

ฮูหยินหลินตะโกนไล่หลังมา “เจ้าจะไปที่ใด?”

“เข้าวัง” คำตอบสั้นๆ บ่งบอกถึงความเย็นชา

ฮูหยินหลินรู้สึกกังวลใจ พลันคล้ายกับนึกอะไรได้ จึงเรียกนางกำนัลผู้อาวุโสผู้หนึ่งมาพบ “เร็วเข้า ไปส่งข่าวให้พระสนมเต๋อกุ้ยเฟย”

“เจ้าค่ะ!”

ไม่นานนัก

ขณะที่หลินเย่ว์โมโหโกรธาพร้อมใช้เท้าเตะประตูกรมซักล้างจนเปิดออก ก็เห็นนางกำนัลกลุ่มหนึ่งกำลังฉุดกระชากลากถูนางกำนัลร่างผอมอีกคนให้ไปทางบ่อซักล้าง

เห็นชัดว่า พวกนางคิดจะผลักนางกำนัลผู้นี้ให้ตกน้ำไปอีก

เหตุการณ์นี้ สร้างความบาดตาให้แก่หลินเย่ว์เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่เขามองเห็น ก็คือนางกำนัลเด็กผู้นี้คล้ายกับเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อน

ในตอนนั้น พวกนางได้รังแกน้องสาวเขาเช่นนี้หรอกรึ?

มีนางกำนัลผู้อาวุโสผู้หนึ่งจำหลินเย่ว์ได้ จึงรีบพาทุกคนเดินมาคารวะ “บ่าวคารวะท่านโหวน้อย ไม่ทราบมีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ?”

หลินเย่ว์ไม่ยอมมองหน้านาง พลางเดินไปทางกลุ่มนางกำนัลที่คุกเข่าอยู่ จากนั้นจึงไม่พูดพล่ามทำเพลง มือกระชากตัวคนไหนได้ก็จับคนนั้นโยนลงน้ำไป

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน จนมีนางกำนัลสองคนร้องตกใจ นางกำนัลผู้อาวุโสจึงได้เอะอะโวยวาย “ตายจริง ท่านโหวน้อยทำอะไรเจ้าคะ?”

ไม่ทันขาดคำ แม้แต่นางกำนัลผู้อาวุโสก็ถูกยกขึ้นเช่นกัน แล้วพริบตา น้ำเย็นเฉียบในบ่อก็ทะลักเข้าปากและจมูกของนาง

หลินเย่ว์ไม่พูดไม่จา ตรงไปจับคนที่เหลือโยนลงน้ำเช่นกัน

นางกำนัลบางคนที่ลงน้ำก่อนคิดตะกายขึ้นฝั่งมา หลินเย่ว์จึงใช้ราวตากผ้าฟาดพวกนางลงไปซ้ำอีก

เขาเป็นคนฝึกวรยุทธ์มาแต่เล็ก การลงมือจึงหนักหน่วง นางกำนัลที่โดนฟาดเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกเหมือนขาจะหัก ร้องเสียงดังพร้อมหมดสติไปทันที

เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ทุกคนจึงไม่กล้าขยับส่งเดชอีก ได้แต่ยอมอยู่ในน้ำดีๆ ด้วยสภาพเปียกปอน

แต่ละนางได้แต่แอบสะอึกสะอื้น เพราะกลัวว่าหากร้องไห้เสียงดัง จะโดนหลินเย่ว์หวดด้วยราวตากผ้าอีก

ดูๆ ไปก็น่าสงสารนัก

แต่ว่า น้องสาวเขาไม่น่าสงสารบ้างรึ?

สมัยก่อนน้องสาวเขาก็เคยยืนร้องไห้อยู่ในบ่อนี้ คนกลุ่มนี้เคยปล่อยนางบ้างหรือไม่?

หลินเย่ว์ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ความเกรี้ยวกราดในดวงตาแทบกลายเป็นไฟโทสะแผดเผานางกำนัลกลุ่มนี้ให้กลายเป็นเถ้าถ่านเสีย

เหล่านางกำนัลเห็นดังนี้ แม้แต่คำวิงวอนร้องขอชีวิตก็ไม่กล้าพูด มีเพียงนางกำนัลผู้อาวุโสอาวุโสผู้นั้นที่ยังกล้าเอ่ยปากเกลี้ยกล่อม "ท่านโหวน้อย บ่าวรู้ว่าท่านทำเช่นนี้ก็เพื่อหวังแก้แค้นแทนแม่นางหลิน แต่ว่า จะตีสุนัขก็ควรดูหน้าเจ้าของเสียก่อน พวกเราล้วนเป็นคนของฝ่าบาททั้งสิ้น ท่านทำเช่นนี้ ถ้าให้ฝ่าบาททรงทราบเข้า...”

หลินเย่ว์ตวัดราวตากผ้าไป จนเกือบฟาดถูกใบหน้านางกำนัลผู้อาวุโสอาวุโสผู้นั้น

พลันได้ยินเขาหัวเราะเสียงเย็น แววตายิ่งเย็นชาไปใหญ่ “ทำไม? คิดเอาฝ่าบาทมาขู่ข้ากระนั้นรึ?”

“ท่านโหวน้อยช่างโอหังนัก”

มีเสียงอ่อนโยนทว่าทรงอำนาจดังมาจากด้านหลังหลินเย่ว์ “แสดงว่าแม้แต่ฝ่าบาทก็ปรามเจ้าไม่อยู่ใช่หรือไม่?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Wednesday 20
เอาเลยฟาดมันท่านพี่ ข้าจะให้อภัยท่านในตอนแรกๆก็ได้
goodnovel comment avatar
Sita
ขอติดตามตอนต่อไปค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 752

    วั่นเจ๋อเยว่ตอบคำนับตอบ “นึกว่าท่านหญิงเฉียวจะต้องรอเลิกเวรเสียก่อนถึงจะมาเสียอีก”เพียงแต่ ท่าทางการคำนับกลับของเขานั้นไม่ถูกต้องนัก น้ำเสียงก็ไม่ถือว่านอบน้อม กระทั่งสายตาที่มองไปยังเฉียวเนี่ยนยังแฝงด้วยความดูแคลนอยู่บ้างเห็นได้ชัดว่าเขาดูแคลนนางเฉียวเนี่ยนแอบคิดในใจ ว่าบางทีตั้งแต่นางยังเล็ก วั่นเจ๋อเยว่ก็คงดูแคลนนางเสียแล้ว ไม่เช่นนั้นจะลอบกลั่นแกล้งอยู่เรื่อยไปหรือ?ส่วนสถานการณ์ของเมิ่งอิ้งจือตอนนี้ เกรงว่าจะเป็นฝีมือของวั่นเจ๋อเยว่เป็นเพราะวั่นเจ๋อเยว่ทำร้ายทารุณ จนจิตใจของเมิ่งอิ้งจือพังทลาย หมดสิ้นแม้แต่ความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ จึงค่อยๆกลายเป็นเช่นนี้ทีละน้อยคิดดูแล้ว วั่นเจ๋อเยว่คงไม่อยากให้หมอมารักษาเมิ่งอิ้งจือ ที่แน่ๆคืออาการของเมิ่งอิ้งจือไม่ได้เพิ่งเกิดเพียงแค่วันสองวันแต่น่าแปลกที่ในเมืองหลวงกลับไม่มีข่าวลือใดๆ เกี่ยวกับเมิ่งอิ้งจือเลยแม้แต่น้อยหากไม่เห็นกับตาในวันนี้ นางก็ไม่มีทางนึกฝันว่าเมิ่งอิ้งจือจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้คงเป็นเพราะคำแนะนำของพี่หญิงชิว ทำให้วั่นเจ๋อเยว่ปฏิเสธไม่ได้ จึงให้สาวใช้ของเมิ่งอิ้งจือไปเชิญนางมานอกจากนี้ แน่นอนว่ายังมีเรื่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 751

    เมื่อมองดูดวงตาที่ไร้แววใดๆ คู่นั้น ในใจเฉียวเนี่ยนก็รู้สึกสะท้านไปครู่หนึ่งนางตระหนักได้ว่า ไม่ว่านางจะพูดอะไรในตอนนี้ เมิ่งอิ้งจือก็คงจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยังเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ข้าน้อยคือหมอหญิงแห่งโรงหมอหลวง ได้รับมอบหมายมาเพื่อรักษานายหญิงน้อยใหญ่เจ้าค่ะ”และเมื่อคำพูดนั้นจบลง เมิ่งอิ้งจือก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตามคาดเฉียวเนี่ยนจึงไม่ใส่ใจอะไรนัก เอื้อมมือออกไปจับชีพจรของเมิ่งอิ้งจือเฉียวเนี่ยนเกิดความสงสัย สายตาจึงจับจ้องอยู่ที่สาวใช้ผู้นั้นอย่างแนบแน่นชีพจรนั้นอ่อนแรงอย่างยิ่ง ถึงขั้นสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความตายโดยทั่วไปแล้ว คนที่มีชีพจรเช่นนี้ ล้วนเป็นผู้ที่ใกล้ตายเฉียวเนี่ยนชักมือกลับอย่างครุ่นคิด ไม่ค่อยเข้าใจว่าเมิ่งอิ้งจือในวัยเพียงเท่านี้ เหตุใดจึงต้องมีจุดจบเช่นนี้ทว่าในตอนนั้นเอง สาวใช้คนเดิมก็ยกถ้วยน้ำชามา “ท่านหญิงเฉียว เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”เฉียวเนี่ยนกล่าวขอบคุณ ยื่นมือไปรับ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าถ้วยน้ำชานั้นกลับถูกทำหกน้ำชาไม่ได้หกลงบนตัวเฉียวเนี่ยน ทว่าไหลลงบนผ้าห่มของเมิ่งอิ้งจือแทน“ว้าย! บ่าวสมควรตายเจ้าค่ะ!” สาวใช้เอ่ยพลางรีบจัดเก็บด้วยความลนลานเฉี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 750

    วันถัดมา เฉียวเนี่ยนต้องไปเข้าเวรที่โรงหมอหลวงทว่ารถม้าเพิ่งออกจากจวนอ๋องผิงหยางได้ไม่นาน ก็มีคนมาขวางไว้“บังอาจ! ผู้ใดกล้าขวางรถม้าของจวนอ๋องผิงหยาง? ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือ?!”สารถี ตวาดเสียงเข้ม หนักแน่นเหมือนคนที่เคยฝึกยุทธ์เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ในรถม้า ได้ยินเสียงชักดาบของสารถีแต่ไม่คาดคิดว่า เสียงที่ดังขึ้นตามมาจากด้านนอกกลับแฝงเสียงสะอื้นอยู่บ้าง “ท่านหญิงเฉียวโปรดให้อภัย บ่าวเป็นคนของคุณชายใหญ่ ถูกส่งมารับท่านหญิงเฉียวไปยังจวน เพื่อช่วยรักษานายหญิงน้อยใหญ่ของพวกบ่าวเจ้าค่ะ!”ไม่นานหลังจากเสียงนั้นจบลง มือคู่หนึ่งก็ยื่นเข้ามาจากนอกรถม้าเป็นสารถีที่ยื่นหยกชิ้นหนึ่งเข้ามาหยกนั้นเนื้อใสดังหยดน้ำ เพียงเห็นก็รู้ว่าเป็นของดี หาได้ยากนักที่สำคัญคือ ด้านบนมีสลักอักษร ‘วั่น’นั่นคือสิ่งที่มีเพียงคนของตระกูลวั่นแห่งจวนอัครมหาเสนาบดีเท่านั้นที่จะครอบครองได้นายหญิงน้อยใหญ่?เฉียวเนี่ยนจำได้ว่าพี่ใหญ่เซียวเคยบอกไว้ ภายหลังเมิ่งอิ้งจือแต่งออกเรือนไปกับคุณชายใหญ่ผู้สืบทอดตำแหน่งสายตรงของจวนอัครมหาเสนาบดีบังเอิญอะไรเช่นนี้ เพิ่งเมื่อวานนางยังกลุ้มใจว่าจะเข้าหาเมิ่งอิ้งจืออย่าง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 749

    ถึงอย่างไร สภาพของสวีเหม่ยเหรินในตอนนี้ ต่อให้ท้ายที่สุดจะไม่คลอดก่อนกำหนดจนตาย ก็ต้องถูกคนของฮองเฮาฆ่าตายอยู่ดีแต่หากรีบเร่งช่วยสวีเหม่ยเหรินก่อน ทั้งสองฝ่ายก็ยังพอมีโอกาสรอดคิดถึงตรงนี้แล้ว เฉียวเนี่ยนจึงเอ่ยว่า “ขอท่านอาจารย์แบ่งปันกระบวนการผลิตยานิทราจำแลงให้ข้าด้วย ข้าจะได้ช่วยท่านอาจารย์วิจัยร่วมกัน เผื่อจะได้เร็วขึ้น! ส่วนเรื่องท่านพี่เซียว ข้าจะคอยจับตาดูอยู่ตลอด หากแขนท่านพี่เซียวเริ่มเย็น พวกเราค่อยเร่งศึกษาพิษเยือกมรณะ ดีหรือไม่? ท่านอาจารย์บอกไม่ใช่หรือหรือเจ้าคะ ว่าพิษเยือกมรณะไม่นับเป็นพิษชั้นดี เช่นนั้นแล้ว คงไม่ยากเกินไปนักที่จะศึกษามัน!”ถึงอย่างไร พิษอย่างบุปผาจันทรา พิษสลายกระดูกเช่นนั้น ท่านอาจารย์ของนางก็สามารถคิดหาวิธีแก้ได้แล้วทั้งสิ้น!ท่านหมอมองเฉียวเนี่ยน สุดท้ายก็พยักหน้าเล็กน้อยทว่ากลับไม่ได้บอกความจริงแก่นางวิธีแก้ทั้งหมดเหล่านั้น ผู้คิดค้นมิใช่เขา แต่เป็นเจ้าสำนักราชาโอสถหากเป็นคนที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องพิษ จะให้ศึกษาเรื่องพิษเยือกมรณะได้ ช่างยากเย็นนัก!เมื่อคิดถึงตรงนี้ ท่านหมอก็ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม สายตาเหลือบไปยังห่ออาหารข้างกาย ก็พลันคิดอะไรบา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 748

    ท่านหมอพูดจาเช่นนี้ ทำให้เฉียวเนี่ยนถึงกับยืนอึ้งอยู่กับที่ก็ได้ยินท่านหมอกล่าวต่อ ว่า “พิษที่ทำให้ผู้บัญชาการเซียวกลายเป็นคนพิการนั้น น่าจะเป็นพิษสลายกระดูก ชื่ออาจฟังดูน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วมิได้กัดกร่อนกระดูกของคน เพียงแค่ทำให้ขาเป็นอัมพาต เคลื่อนไหวไม่ได้ อีกทั้งผู้ถูกพิษยังมีอาการพิษกำเริบบ่อยครั้ง ขาทั้งสองจะปวดราวกับกระดูกถูกทุบ เช่นเดียวกับอาการของผู้บัญชาการเซียวในตอนนั้น“เฉียวเนี่ยนตั้งใจฟังคำอธิบายของท่านหมอนางหาได้ใส่ใจพิษสลายกระดูกไม่ ในเมื่อขาของท่านพี่เซียวสามารถยืนขึ้นมาได้แล้วสิ่งที่นางกังวลคือพิษอีกชนิดหนึ่งในร่างของท่านพี่เซียวต่างหาก!ท่านหมอสูดลมหายใจลึก แล้วกล่าวต่อว่า “ส่วนพิษอีกชนิดในร่างของผู้บัญชาการเซียว น่าจะเป็นพิษเยือกมรณะ พิษนี้ในช่วงแรกจะทำให้มือเท้ารู้สึกเย็นเป็นพักๆ แต่ยิ่งอยู่ในร่างกายนานเท่าไร เวลาที่รู้สึกเย็นก็จะยิ่งนานขึ้น จนท้ายที่สุด ความเย็นจะลุกลามจากแขนขาไปทั่วร่าง แล้วผู้ถูกพิษก็จะเสียชีวิตด้วยร่างกายที่เย็นเฉียบ”เมื่อได้ฟังคำของท่านหมอ เฉียวเนี่ยนรู้สึกเหมือนทั้งตัวกลายเป็นน้ำแข็งไปหมดท่านหมอลูบเคราแล้วกล่าวต่อว่า “แต่ในสำนักรา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 747

    แกล้งตาย?ท่านหมอลูบเคราของตน สีหน้าเคร่งขรึม “สำนักราชาโอสถมียานิทราจำแลง หลังกินข้าไปแล้ว ภายในหนึ่งชั่วยามจะไร้ลมหายใจเหมือนคนตาย เพียงแต่ยานี้ทำยากนัก ขั้นตอนซับซ้อนมาก ข้าเองก็ใช่ว่าจะทำขึ้นมาได้!”เฉียวเนี่ยนก็ขมวดคิ้ว “ถ้าเช่นนั้น นอกเหนือจากนี้ ยังมีวิธีอื่นอีกหรือไม่?”“ก็ยังพอมี” ท่านหมอกล่าวจริงจัง “แค่ฝังเข็มที่จุดสำคัญสองแห่งของเส้นลมปราณปอดและเส้นลมปราณหัวใจ ปักลึกหนึ่งชุ่นสามเฟิน ก็สามารถทำให้คนตกอยู่ในสภาวะแกล้งตายได้ เพียงแต่ วิธีนี้อันตรายมาก หากพลาดก็อาจถึงชีวิตจริงๆ”หากเป็นเช่นนั้น ยานิทราจำแลงก็ดูจะน่าไว้ใจมากกว่านักคิดได้ดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็ลุกขึ้น ทำความเคารพท่านหมอ “ขอท่านอาจารย์โปรดลองดูเถิด โปรดผลิตเม็ดยานิทราจำแลงออกมาให้ได้!”ท่านหมอก็ลุกขึ้นประคองเฉียวเนี่ยน “เจ้ามีจิตใจเมตตา ข้าย่อมจะพยายามสุดความสามารถ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้อันตรายมาก ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้ถูกองค์หญิงกับฮองเฮาสงสัยเข้า เจ้าต้องเตรียมแผนการให้รอบคอบก่อนจะลงมือ มิฉะนั้น ถ้าช่วยชีวิตคนไม่สำเร็จ เกรงว่าจะนำภัยมาถึงตัวเจ้าเอง”“เจ้าค่ะ ศิษย์เข้าใจดี!” เฉียวเนี่ยนพยักหน้าอย่างหนักแน่น จากน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status