Share

บทที่ 11

Author: โม่เสียวชี่
คำพูดของเฉียวเนี่ยน เหมือนดั่งฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ จนทำให้หลินเย่ว์เกิดอาการมึนงงไปชั่วขณะ

ในมโนภาพเห็นแต่เฉียวเนี่ยนดิ้นรนอยู่ในน้ำ ส่วนนางกำนัลอื่นก็อยู่ข้างบ่อซักล้าง ต่างพากันหัวเราะเป็นการใหญ่

พลันรู้สึกเจ็บในหัวอกมากขึ้น เขาคิดจะพูดอะไรต่ออีก แต่คล้ายมีบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ จวบจนแผ่นหลังของเฉียวเนี่ยนถูกบานประตูขวางกั้นจนมองไม่เห็นอีก จึงค่อยมีสติกลับคืนมาบ้าง

“คุณหนู ฮือๆๆ...” เสียงร่ำไห้ของเสี่ยวชุ่ยดังขึ้นที่ข้างหู ทำให้รู้สึกรำคาญยิ่ง

หลินยวนถลึงตาใส่เสี่ยวชุ่ย “เอาแต่ร้องไห้อยู่ได้ ไม่รีบไปตามหมอมาอีก?”

เสี่ยวชุ่ยเพิ่งจะนึกได้ จึงรีบออกไปทันที

หลินเย่ว์ส่งหลินยวนกลับไปยังเรือนลั่วเหมย ส่วนหมอประจำจวนก็มาพร้อมกับฮูหยินหลิน

ขณะที่หมอกำลังตรวจชีพจรดูอาการให้หลินยวนอยู่นั้น ฮูหยินหลินก็พาหลินเย่ว์ออกไปข้างนอก “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? น้องเจ้าอยู่ดีๆ ตกน้ำได้อย่างไร หรือเป็นเพราะว่าเนี่ยนเนี่ยน...”

“ท่านแม่” หลินเย่ว์ขมวดคิ้ว ขัดจังหวะการพูดของฮูหยินหลินทันที “เพราะเนี่ยนเนี่ยนช่วยยวนเอ๋อร์ไว้ต่างหาก”

กล่าวพลาง เขาคล้ายกับนึกอะไรได้ จึงหันไปมองเสี่ยวชุ่ย “เจ้ามานี่”

ใบหน้าซีกซ้ายของเสี่ยวชุ่ยยังคงบวมเป่งอยู่ แสดงให้เห็นว่าหนิงซวงลงมือหนักไม่น้อย

เสี่ยวชุ่ยเดินก้มหน้ามาพร้อมคุกเข่าลงพื้น ไม่รู้ว่าเป็นความจงใจหรือไม่ ใบหน้าซีกที่บวมเป่งหันไปทางฮูหยินหลินพอดี

เมื่อฮูหยินหลินเห็นเข้าก็ตกใจเป็นอย่างมาก “ตายจริง ใบหน้าเจ้าไปโดนอะไรมาน่ะ”

เสี่ยวชุ่ยพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้าหลินเย่ว์ด้วยความหวาดกลัว

หลินเย่ว์จ้องเขม็งไปยังเสี่ยวชุ่ยอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้เอ่ยปากถาม “เจ้ามีเรื่องบาดหมางกับเนี่ยนเนี่ยนรึ?”

เสี่ยวชุ่ยตกใจยิ่ง พลางรีบส่ายหน้า “ไม่มีเจ้าค่ะ บ่าวจะกล้ามีเรื่องกับคุณหนูใหญ่ได้อย่างไร?”

“ในเมื่อไม่มี แล้วเหตุใดจึงได้ใส่ร้ายนางครั้งแล้วครั้งเล่า?” หลินเย่ว์ถามเสียงเย็นชา

เมื่อครู่ตอนอยู่เรือนลั่วเหมย เขาโกรธจนหน้ามืด แต่เรื่องนั้นแม้ไม่ต้องใช้หัวคิดก็พอเข้าใจได้

เนี่ยนเนี่ยนไม่ใช่คนโง่ จะอยู่ในเรือนของตนเอง ซ้ำยังปองร้ายผู้อื่นต่อหน้าผู้คนได้อย่างไร?

และสาวใช้ผู้นี้ก็ไปถึงเรือนฟางเหอไล่เลี่ยกับเขา ซึ่งตอนนั้นเนี่ยนเนี่ยนกับยวนเอ๋อร์ก็ได้ขึ้นฝั่งแล้วทั้งคู่ นางกลับยืนกรานเสียงแข็งว่าเนี่ยนเนี่ยนเป็นคนผลักยวนเอ๋อร์ให้ตกน้ำ

หวนนึกถึงเมื่อสามปีก่อน สาวใช้ผู้นี้ก็เคยยืนกรานเช่นนี้ พูดจาเป็นมั่นเป็นเหมาะ แค่นี้ก็ทำให้หลินเย่ว์เกิดความระแวงแล้ว

เสี่ยวชุ่ยก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่มาจากหลินเย่ว์

นางรู้ดี หากวันนี้ตนพูดผิดไปแม้แต่คำเดียว คงจะถูกลากไปโบยจนเสียชีวิตแน่

จึงรีบกลอกตารวดเร็ว ในที่สุดนางก็หาทางออกได้ “บ่าว...บ่าวเพียงแต่เป็นห่วงคุณหนูมาก เกรงว่านางจะถูกรังแก บ่าวทำเพื่อคุณหนูน่ะเจ้าค่ะ”

“ทำเพื่อคุณหนูกระนั้นรึ?” หลินเย่ว์หัวเราะเสียงเย็น “หรือเป็นเพราะคุณหนูเจ้าสั่งให้ทำเช่นนั้น?”

“ไม่ ไม่ใช่เจ้าค่ะ” เสี่ยวชุ่ยรีบส่ายหน้าปฏิเสธ แต่กลับไม่กล้าพูดมากความอีก

เดิมทีนางคิดว่าหากพูดเช่นนี้อาจทำให้หลินเย่ว์เกิดความเมตตาสงสาร ที่ไหนได้จะพลอยทำให้คุณหนูเดือดร้อนด้วยอีกคนเสียแล้ว

ทันใดนั้นเอง ในห้องมีเสียงหลินยวนเรียกเบาๆ “เสี่ยวชุ่ย...เสี่ยวชุ่ย...”

น้ำเสียงอ่อนแรงราวกับจะขาดใจ ฟังแล้วพาให้นึกเป็นห่วงยิ่ง

หลินเย่ว์ขมวดคิ้วมุ่น ไฟโทสะที่คุกรุ่นขึ้น ในที่สุดก็มอดลงเพราะเสียงเรียกอ่อนแรงของหลินยวน

เขาทำตาดุใส่เสี่ยวชุ่ย พร้อมกล่าวเตือนเสียงเบา “หากมีคราวหน้าอีก ไม่ต้องให้หนิงซวงลงมือ ข้าจะตัดลิ้นเจ้าไปให้สุนัขกิน! ไม่รีบไปดูแลคุณหนูอีก”

“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ” เสี่ยวชุ่ยลุกขึ้นลนลาน พร้อมวิ่งเข้าไปในห้องทันที

ฮูหยินหลินอยู่ด้านข้างค่อยโล่งอกหน่อย มองหน้าหลินเย่ว์คล้ายกับไม่พอใจนัก “ทำไมตำหนิน้องสาวตัวเองเช่นนั้น นิสัยยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไร เจ้ายังไม่รู้อีกรึ?”

หลินเย่ว์มองหน้าฮูหยินหลิน แววตาแสดงออกถึงความผิดหวัง “ท่านแม่ เนี่ยนเนี่ยนว่ายน้ำเป็น ท่านรู้หรือไม่?”

ฮูหยินหลินจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

นางชะงักเล็กน้อยก่อนเอ่ยปาก “ว่ายน้ำเป็น? แต่ว่า เมื่อก่อนนางว่ายน้ำไม่เป็นมิใช่รึ?”

ใช่ คนที่เมื่อก่อนว่ายน้ำไม่เป็น กลับถูกผู้อื่นผลักตกน้ำไป

ซ้ำพวกนางยังใช้ราวตากผ้าไล่ตีนางอีก เพื่อไม่ให้ขึ้นฝั่ง

ในตอนนี้ นางจะรู้สึกหวาดกลัวเพียงไหน?

ในตอนนั้น พี่ชายอย่างเขาไปอยู่ที่ใด?

หลินเย่ว์ไม่คิดตอบโต้อีก จึงหันหลังเดินจากไป

ฮูหยินหลินตะโกนไล่หลังมา “เจ้าจะไปที่ใด?”

“เข้าวัง” คำตอบสั้นๆ บ่งบอกถึงความเย็นชา

ฮูหยินหลินรู้สึกกังวลใจ พลันคล้ายกับนึกอะไรได้ จึงเรียกนางกำนัลผู้อาวุโสผู้หนึ่งมาพบ “เร็วเข้า ไปส่งข่าวให้พระสนมเต๋อกุ้ยเฟย”

“เจ้าค่ะ!”

ไม่นานนัก

ขณะที่หลินเย่ว์โมโหโกรธาพร้อมใช้เท้าเตะประตูกรมซักล้างจนเปิดออก ก็เห็นนางกำนัลกลุ่มหนึ่งกำลังฉุดกระชากลากถูนางกำนัลร่างผอมอีกคนให้ไปทางบ่อซักล้าง

เห็นชัดว่า พวกนางคิดจะผลักนางกำนัลผู้นี้ให้ตกน้ำไปอีก

เหตุการณ์นี้ สร้างความบาดตาให้แก่หลินเย่ว์เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่เขามองเห็น ก็คือนางกำนัลเด็กผู้นี้คล้ายกับเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อน

ในตอนนั้น พวกนางได้รังแกน้องสาวเขาเช่นนี้หรอกรึ?

มีนางกำนัลผู้อาวุโสผู้หนึ่งจำหลินเย่ว์ได้ จึงรีบพาทุกคนเดินมาคารวะ “บ่าวคารวะท่านโหวน้อย ไม่ทราบมีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ?”

หลินเย่ว์ไม่ยอมมองหน้านาง พลางเดินไปทางกลุ่มนางกำนัลที่คุกเข่าอยู่ จากนั้นจึงไม่พูดพล่ามทำเพลง มือกระชากตัวคนไหนได้ก็จับคนนั้นโยนลงน้ำไป

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน จนมีนางกำนัลสองคนร้องตกใจ นางกำนัลผู้อาวุโสจึงได้เอะอะโวยวาย “ตายจริง ท่านโหวน้อยทำอะไรเจ้าคะ?”

ไม่ทันขาดคำ แม้แต่นางกำนัลผู้อาวุโสก็ถูกยกขึ้นเช่นกัน แล้วพริบตา น้ำเย็นเฉียบในบ่อก็ทะลักเข้าปากและจมูกของนาง

หลินเย่ว์ไม่พูดไม่จา ตรงไปจับคนที่เหลือโยนลงน้ำเช่นกัน

นางกำนัลบางคนที่ลงน้ำก่อนคิดตะกายขึ้นฝั่งมา หลินเย่ว์จึงใช้ราวตากผ้าฟาดพวกนางลงไปซ้ำอีก

เขาเป็นคนฝึกวรยุทธ์มาแต่เล็ก การลงมือจึงหนักหน่วง นางกำนัลที่โดนฟาดเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกเหมือนขาจะหัก ร้องเสียงดังพร้อมหมดสติไปทันที

เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ทุกคนจึงไม่กล้าขยับส่งเดชอีก ได้แต่ยอมอยู่ในน้ำดีๆ ด้วยสภาพเปียกปอน

แต่ละนางได้แต่แอบสะอึกสะอื้น เพราะกลัวว่าหากร้องไห้เสียงดัง จะโดนหลินเย่ว์หวดด้วยราวตากผ้าอีก

ดูๆ ไปก็น่าสงสารนัก

แต่ว่า น้องสาวเขาไม่น่าสงสารบ้างรึ?

สมัยก่อนน้องสาวเขาก็เคยยืนร้องไห้อยู่ในบ่อนี้ คนกลุ่มนี้เคยปล่อยนางบ้างหรือไม่?

หลินเย่ว์ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ความเกรี้ยวกราดในดวงตาแทบกลายเป็นไฟโทสะแผดเผานางกำนัลกลุ่มนี้ให้กลายเป็นเถ้าถ่านเสีย

เหล่านางกำนัลเห็นดังนี้ แม้แต่คำวิงวอนร้องขอชีวิตก็ไม่กล้าพูด มีเพียงนางกำนัลผู้อาวุโสอาวุโสผู้นั้นที่ยังกล้าเอ่ยปากเกลี้ยกล่อม "ท่านโหวน้อย บ่าวรู้ว่าท่านทำเช่นนี้ก็เพื่อหวังแก้แค้นแทนแม่นางหลิน แต่ว่า จะตีสุนัขก็ควรดูหน้าเจ้าของเสียก่อน พวกเราล้วนเป็นคนของฝ่าบาททั้งสิ้น ท่านทำเช่นนี้ ถ้าให้ฝ่าบาททรงทราบเข้า...”

หลินเย่ว์ตวัดราวตากผ้าไป จนเกือบฟาดถูกใบหน้านางกำนัลผู้อาวุโสอาวุโสผู้นั้น

พลันได้ยินเขาหัวเราะเสียงเย็น แววตายิ่งเย็นชาไปใหญ่ “ทำไม? คิดเอาฝ่าบาทมาขู่ข้ากระนั้นรึ?”

“ท่านโหวน้อยช่างโอหังนัก”

มีเสียงอ่อนโยนทว่าทรงอำนาจดังมาจากด้านหลังหลินเย่ว์ “แสดงว่าแม้แต่ฝ่าบาทก็ปรามเจ้าไม่อยู่ใช่หรือไม่?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Wednesday 20
เอาเลยฟาดมันท่านพี่ ข้าจะให้อภัยท่านในตอนแรกๆก็ได้
goodnovel comment avatar
Sita
ขอติดตามตอนต่อไปค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 784

    เสียงแม้จะเบา แต่เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ยินไม่ให้นางไป หมายความว่าวันนี้ไม่เพียงแค่เมิ่งอิ้งจือออกไปไม่ได้ แม้แต่นางก็อย่าหวังจะก้าวออกจากประตูตระกูลวั่น!เฉียวเนี่ยนไม่คาดคิดว่า ฮูหยินตระกูลวั่นจะสามารถตัดสินใจเช่นนี้เพื่อบุตรชายของตนได้ในขณะนั้นนางก็หรี่ตาลงเล็กน้อยส่วนฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นเมื่อเห็นสีหน้าของฮูหยินกูลวั่น ก็เห็นได้ชัดว่าเข้าใจอะไรบางอย่างเช่นกันบนร่างของเมิ่งอิ้งจือต้องมีหลักฐาน และจะไม่เป็นผลดีต่อวั่นเจ๋อเยว่ ดังนั้นฮูหยินวั่นถึงได้มีสีหน้าร้อนรนเช่นนี้!แต่เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้จะไม่ปล่อยพวกนางออกไปไม่ได้ตระกูลวั่นไม่อาจจะทำร้ายเฉียวเนี่ยนในเวลากลางวันแสกๆ ได้!บางทีอีกไม่นานก็จะมีคนมาอัครมหาเสนาบดีก็เป็นได้!นางจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร?แต่ว่า...ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นมองไปยังหลานชายสายตรงคนโตที่ตนรักที่สุด ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารนางรู้ดีว่า หากปล่อยเฉียวเนี่ยนไป ก็เท่ากับผลักวั่นเจ๋อเยว่ให้ตกในอันตราย!ชั่วขณะนั้น ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นก็ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตัดสินใจไม่ลงเมื่อเห็นเช่นนั้น ฮูหยินวั่นก็เขย่าแขนฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 783

    ขณะนี้หากไม่ยอมให้นางพาคนออกไป นางต้องเข้าเฝ้าไปฟ้องแน่ได้ยินมาว่า ทุกวันนี้นางมิใช่แค่คอยปรับสมดุลร่างกายให้พวกพระสนมในวังเท่านั้น แม้แต่ฮ่องเต้ยังดื่มยาของนาง เช่นนั้นหากนางเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไปฟ้องเรื่องนี้จะทำอย่างไร?หากเป็นผู้อื่นก็คงไม่เป็นไร แต่นี่กลับเป็นท่านหญิงเฉียวที่เป็นถึงบุตรสาวสายตรงของจวนโหว เป็นน้องสาวบุญธรรมของท่านอ๋องผิงหยาง แถมยังมีความเกี่ยวพันคลุมเครือกับพี่น้องตระกูลเซียวอีกด้วย!หากแตะต้องนาง ตระกูลวั่นจะต้องเป็นศัตรูกับคนมากมายเกินไป!ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นจ้องมองวั่นเจ๋อเยว่ด้วยแววตาเคร่งเครียดแลเห็นว่าวั่นเจ๋อเยว่เจ็บปวดจนเส้นเลือดที่หน้าผากปูดโปน ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นก็อดสงสารไม่ได้ในใจย่อมอดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเองอยู่บ้างหากเป็นเพียงการพูดเกินจริงของแม่นางเฉียวเล่า?หากเป็นแค่แผลเล็กน้อย แต่กลับถูกนางใส่ร้ายว่าเป็นการทารุณเล่า?อาการของเมิ่งอิ้งจือแย่มาหลายปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาแย่เอาตอนนี้!หากถูกทารุณจริง เมิ่งอิ้งจือจะไม่กลับบ้านไปฟ้องเองตั้งนานแล้วหรือ?ใช่แล้ว!ต้องเป็นเฉียวเนี่ยนที่พูดพล่อยๆ แน่!แววตาของฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นฉ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 782

    ได้ยินพระนามขององค์หญิง ตระกูลวั่นต่างพากันสีหน้าเคร่งเครียด มีเพียงฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นเท่านั้นที่สีหน้าไม่เปลี่ยน “เจ้าถึงจะได้รับพระบัญชาขององค์หญิงให้เข้าจวนอัครมหาเสนาบดีเพื่อรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้อื่น แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงมือทำร้ายผู้คน! อย่าเอะอะก็ยกองค์หญิงขึ้นมาข่มขู่ข้า! ต่อให้เป็นองค์หญิง ก็ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง!”“พูดได้ดีนี่เจ้าคะ!” เฉียวเนี่ยนปรบมือชมเชยทันทีฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลวั่นนึกว่าในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็รู้ว่าตนสู้ไม่ได้ รีบเอาใจนางเสียอีก!ใครจะรู้ว่า เฉียวเนี่ยนกลับยิ้มที่มุมปากมากยิ่งขึ้น แววตายิ่งเปื้อนแววเย้ยหยัน “องค์หญิงต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง ตระกูลวั่นของพวกท่านก็ยิ่งต้องเคารพมากกว่า!”“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ตระกูลวั่นของพวกเราไม่เคยละเมิดกฎหมายบ้านเมืองเลยสักครั้ง!”“หรือว่าคุณหนูเฉียวรู้ว่าตนผิด ก็เลยจะโยนความผิดใส่ตระกูลวั่นของเราแทน?”คนตระกูลวั่นพากันลุกขึ้นพูดจาอย่างองอาจราวกับเพียงเอ่ยกันไปคนละคำสองคำ ก็จะสามารถโค่นเฉียวเนี่ยนลงได้เฉียวเนี่ยนก็เพียงยืนอยู่กับที่เงียบๆ รอให้ทุกคนพูดจบเห็นได้ชัดว่านางไม่เพียงไม่หวาดหวั่นเลยแม้แ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 781

    นางพยายามมาหลายวัน กว่าที่อาการของเมิ่งอิ้งจือจะดีขึ้นมาบ้าง ผลคือวั่นเจ๋อเยว่กลับมาทำแบบนี้ ทำให้ความเหนื่อยยากของนางในหลายวันที่ผ่านมาพังไม่เป็นท่า!เมิ่งอิ้งจือไม่ได้สติกลับคืนมา แล้วนางจะไปหายาถอนพิษให้ท่านพี่เซียวได้อย่างไร?ไม่ได้!เมิ่งอิ้งจือจะอยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดีอีกต่อไปไม่ได้!คิดถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็หันไปมองสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ “เจ้าไปแจ้งคนในตระกูลวั่น ว่าข้าจะพาเมิ่งอิ้งจือออกไป”ได้ยินดังนั้น สาวใช้ก็ตกใจนางเองก็รู้ดีว่าการให้ท่านนายหญิงน้อยใหญ่ออกไปเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่เหตุใดต้องแจ้งคนในตระกูลวั่นด้วย?“ท่าน ท่านหญิงเฉียวพานายหญิงน้อยใหญ่ไปอย่างลับๆ ไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ? บ่าว... บ่าวช่วยท่านดูต้นทางได้!”“เจ้าช่วยข้าดู แล้วอย่างไรต่อ? หากคนในตระกูลวั่นรู้ว่าเจ้าทำตัวไม่ภักดี ในฐานะบ่าวในบ้าน ถูกตบตีก็อาจถึงตายได้!” เฉียวเนี่ยนกล่าวอย่างเย็นชา “รีบไปแจ้งคนในตระกูลวั่น ไม่ว่าเป็นเจ้านายจากเรือนไหนก็เรียกมาให้หมด ข้ารู้ดีว่าควรทำเช่นไร”สาวใช้จึงตอบเสียงสั่น “เจ้าค่ะ”พูดจบ นางก็รีบวิ่งออกไปไม่นาน เรือนหน้าห้องของเมิ่งอิ้งจือก็พลันมีเสียงคนมากมายขึ้นมา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 780

    วันรุ่งขึ้นเฉียวเนี่ยนเข้าไปในจวนอัครมหาเสนาบดีอีกครั้ง เพื่อไปเยี่ยมเมิ่งอิ้งจืออาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ถูกองค์หญิงซูหยวนตำหนิไปหนึ่งรอบ หลังจากนั้นเฉียวเนี่ยนก็ไม่เคยพบวั่นเจ๋อเยว่เลยแม้แต่ครั้งเดียวในจวนอัครมหาเสนาบดีแต่วันนี้ ยังไม่ทันที่นางจะผลักประตูเข้าไป ก็เห็นวั่นเจ๋อเยว่เดินออกมาจากห้องของเมิ่งอิ้งจือเฉียวเนี่ยนเผลอแสดงสีหน้าหม่นลงโดยไม่รู้ตัว ถึงขั้นลืมคำนับไปวั่นเจ๋อเยว่เห็นเฉียวเนี่ยนเป็นเช่นนั้น แววตาที่เต็มไปด้วยความดูแคลนยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ “ท่านหญิงเฉียว ตอนนี้พอติดตามองค์หญิงแล้ว ก็ช่างถือดีนัก พบขุนนางผู้นี้แล้วไม่คิดจะคำนับเสียด้วยซ้ำงั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนจึงยกมือคำนับ “คารวะใต้เท้าวั่น”พอเห็นดังนั้น วั่นเจ๋อเยว่ก็เพียงแค่ฮึดฮัดเบาๆ แล้วก้าวจากไปทันทีทันทีที่วั่นเจ๋อเยว่สาวเท้าออกไป เฉียวเนี่ยนก็รีบร้อนเดินเข้าไปในห้องความกังวลในใจกลายเป็นความจริงเห็นเมิ่งอิ้งจือกำลังขดตัวอยู่ที่มุมปลายเตียง สองมือกอดไหล่ตัวเองแน่น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยแววตาทั้งสองข้างว่างเปล่าโดยสิ้นเชิงเสื้อผ้ายับยู่ยี่อย่างมากเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว ไม่กล้าเข้าไปใกล้ในทันที

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 779

    เฉียวเนี่ยนยังคงยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรอีกเข็มไม่ทิ่มอยู่บนผิวตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน ทุกคนต่างก็สามารถหัวเราะให้กับความทุกข์ของผู้อื่นได้ทั้งนั้น“แต่เจ้าก็ยังห่วงหลินเย่ว์อยู่ใช่ไหม?” เซียวชิงหน่วนเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน “ไม่อย่างนั้น ก็คงไม่คุยกับหมอประจำจวนของจวนโหวมาจนถึงตอนนี้หรอก”เฉียวเนี่ยนยังคงไม่พูด เพียงฟังเซียวชิงหน่วนกล่าวต่อ “อย่างไรก็ตาม ท่านพี่หลินก็ยังใส่ใจเจ้ามาก เขาเพิ่งดื่มยาแล้วก็หลับไป แต่ตอนละเมอกลับยังเรียกชื่อเจ้า พวกเจ้าเป็นพี่น้องกันเคยสนิทกันมาก กลับต้องมาทะเลาะกันจนถึงขั้นนี้ มันไม่ควรเลยจริงๆ ท่านพี่หลินก็ผิดจริง แต่ในเมื่อพวกเจ้าเกี่ยวดองทางสายเลือด เหตุใดจึงไม่อาจ...”“คุณหนูเซียว”ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็อดไม่ไหว ขัดจังหวะคำพูดของเซียวชิงหน่วนอาจเพราะเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย จึงฟังดูเหมือนดุอยู่บ้างเซียวชิงหน่วนชะงักไปเล็กน้อย เม้มริมฝีปากน้อยๆ แล้วก็เงียบไปเฉียวเนี่ยนถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วจึงหยิบสร้อยข้อมือลูกประคำออกมาจากเอว“นี่คือของแม่ทัพเซียว” เฉียวเนี่ยนเอ่ยอย่างช้าๆ “ขอรบกวนเจ้าช่วยเอาไปคืนแม่ทัพเซียวให้ข้าด้วย”สร้อยข้อมือลูก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status