Share

บทที่ 10

Aвтор: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนไม่ทันแม้แต่จะคลุมเสื้อนอกที่เพิ่งถอดออกแล้วก็วิ่งออกไป"เกิดอะไรขึ้น? ใครตะโกนอยู่?”

หนิงซวงเองก็เดินตามหลังเฉียวเนี่ยนอย่างร้อนใจพลางส่ายหน้า “บ่าวก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ เพิ่งได้ยินเสียงเรียก คุณหนูสวมเสื้อผ้าสักชุด ข้างนอกหนาวมาก”

แต่เฉียวเนี่ยนไหนเลยจะมีกะจิตกะใจใส่เสื้อผ้า

หลินยวนตกน้ำ จะตกที่ไหนได้อีก

ก็คือสระบัวของเรือนฟางเหอไม่ใช่หรือ?

ตอนนั้นหลินยวนทําถ้วยแตกใบเดียวนางก็ถูกทรมานอยู่ถึงสามปี ถ้าหลินยวนเกิดเรื่องขึ้นกับนาง ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แค่หลินเย่ว์คนเดียวคงตีนางจนตายแน่

เมื่อเฉียวเนี่ยนมาถึง หลินยวนยังคงกระโผลกกระเผลกอยู่ในน้ำ

ผิวน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งได้แตกเป็นรูใหญ่รูหนึ่งแล้ว

บนสะพานหินมีสาวใช้และเด็กรับใช้จํานวนไม่น้อยกําลังเฝ้าดูอยู่

เฉียวเนี่ยนก้าวเท้ายาวๆ วิ่งเข้าไป"พวกเจ้าทุกคนว่ายน้ำไม่เป็นหรือ? ทําไมไม่ช่วยคน?!”

กลับเห็นเด็กรับใช้หลายคนทําหน้าลําบากใจ “พวกบ่าวช่วยได้ก็จริง แต่ถ้าทําลายความบริสุทธิ์ของคุณหนูรองจะทําอย่างไรขอรับ?”

“ความบริสุทธิ์ยังสําคัญกว่าชีวิตอีกหรือ?” เฉียวเนี่ยนถลึงตาใส่เด็กรับใช้ที่กําลังพูดอยู่อย่างดุร้าย

แล้วกระโดดลงไปในน้ำโดยไม่พูดไม่จา

น้ำในสระไม่ลึก แต่เย็นจนเข้ากระดูก

ด้านล่างของแม่น้ำเต็มไปด้วยโคลนและไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงและจะจมลงหากประมาทเล็กน้อย

เฉียวเนี่ยนใช้ความพยายามอย่างมากในการช่วยหลินยวนให้รอดมาได้ หนิงซวงบนฝั่งได้เตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากเฉียวเนี่ยนและหลินยวนขึ้นจากน้ำแล้ว ก็ห่อตัวทั้งสองคนไว้อย่างแน่นหนา

"ยังมัวทําอะไรอยู่? เรียกหมอประจําจวนสิ พวกเจ้าช่วยพาคุณหนูทั้งสองกลับห้องให้ข้าหน่อย ตั้งเตาให้ร้อน เตรียมน้ำชาขิง”

เมื่อหนิงซวงออกคําสั่ง เหล่าคนรับใช้ที่มุงดูอยู่ก็แยกย้ายกันไปทํางานทันที

และเวลานี้เอง เสี่ยวชุ่ยสาวใช้ของหลินยวนก็บุกเข้ามาในเรือนฟางเหอในที่สุด

ด้านหลังเสี่ยวชุ่ยยังมีหลินเย่ว์

เห็นหลินยวนตกน้ำแล้วหน้าซีด ท่าทางกระเซอะกระเซิง เสี่ยวชุ่ยก็ร้อนใจขึ้นมาทันที รีบวิ่งเข้ามากอดหลินยวนไว้ “คุณหนู ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ? ตกลงไปในน้ำได้อย่างไร?”

จากนั้น เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก เสี่ยวชุ่ยพลันมองเฉียวเนี่ยน “เป็นเจ้า เจ้าผลักคุณหนูของข้าตกน้ำ”

ท่าทางที่ชี้หน้าด่านางอย่างมั่นอกมั่นใจนั้นเหมือนกับเมื่อสามปีก่อนไม่มีผิด

เฉียวเนี่ยนรู้สึกเพียงว่าไฟในใจของตนลุกโหมขึ้นมาทันที แต่ยังไม่ทันที่นางจะมีปฏิกิริยาใดๆ หนิงซวงก็พุ่งตัวเข้าไปก่อน แล้วตบหน้าเสี่ยวชุ่ยไปหนึ่งฉาด

“เพียะ!” เสียงที่คมชัดดังก้องไปทั่วท้องฟ้าของเรือนฟางเหอ

ชั่วขณะหนึ่ง เฉียวเนี่ยนถึงกับหยุดหายใจ

แม้แต่หลินเย่ว์ก็ยังตกตะลึงอยู่ ไม่คิดว่าหนิงซวงจะทําแบบนี้

มีเพียงหนิงซวงที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มือข้างหนึ่งเท้าสะเอว อีกข้างหนึ่งชี้ไปที่จมูกของเสี่ยวชุ่ยแล้วด่าว่า “เจ้าคนชั้นต่ำ ปากน่ะถ้าใช้ไม่เป็นข้าก็จะฉีกให้เจ้าแล้ว! ถ้าไม่ใช่คุณหนูของข้ากระโดดลงน้ำไปช่วยคนโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัย ตอนนี้เจ้านายของเจ้าคงแข็งไปแล้ว ในฐานะที่เป็นสาวใช้เห็นเจ้านายตกที่นั่งลําบาก ไม่พูดก็รีบมาดูแลทันที มีแต่จะพ่นขี้ออกมาเต็มปาก! คุณหนูของข้าช่วยคนอยู่เห็นได้ด้วยตาสิบกว่าคู่ที่เรือนฟางเหอหยวน เจ้าบอกว่าคุณหนูของข้าผลักเจ้านายของเจ้าแล้วเจ้าก็เอาหลักฐานออกมาสิ ถ้าเอาออกมาไม่ได้ ดูสิว่าข้าจะฉีกปากเน่าๆ ของเจ้าให้เละหรือเปล่า!”

……

รุนแรงมาก!

เฉียวเนี่ยนจ้องมองหนิงซวงด้วยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสาวน้อยร่างเล็กคนนี้จะเก่งขนาดนี้

และในตอนนี้ผู้คนรอบข้างก็ได้สติแล้ว โดยเฉพาะหลินยวน

ตอนนี้นางยังคงถูกสาวใช้คนอื่นประคองอยู่ เพราะดิ้นรนอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน สําลักน้ำไปหลายอึก ตอนนี้เวลาพูดจึงไม่มีแรง

นางกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำเหมือนเลือด “เจ้า เจ้าลงมือตีคนได้อย่างไร?”

ท่าทางของสาวใช้ที่ปกป้องนางรู้สึกน้อยใจมากจริงๆ

หลินเย่ว์ก็ขมวดคิ้วทันทีและตะโกนใส่หนิงซวงว่า "บังอาจ! กล้าลงมือต่อหน้าข้าหรือ? เจ้ากล้าดียังไงกัน?”

“ข้า”

เฉียวเนี่ยนจึงเอ่ยปากพูดเบาๆ

นางห่อตัวด้วยเสื้อนวมหนาๆ ใบหน้าของนางถูกแช่แข็งจนซีดเล็กน้อย หยดน้ำบนข้าของนางยังคงหยดลงมา แต่ก็มีน้ำแข็งจํานวนไม่น้อย

เมื่อเทียบกับหลินยวนแล้ว นางดูสงบเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าระยะห่างระหว่างนางกับหลินเย่ว์ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว แต่กลับทําให้หลินเย่ว์รู้สึกว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาช่างไกลเหลือเกิน

“สาวใช้ของข้าสั่งสอนคนใช้ชั้นต่ำที่ไม่เคารพข้าและเคยใส่ร้ายข้าในเรือนของข้า ข้าไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร”

เคยใส่ร้าย

สามคํานี้ทําให้หลินยวนและหลินเย่ว์นึกถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย

หลินยวนขดตัวอยู่ในอ้อมอกของสาวใช้ สําลักไอออกมาสองครั้งอย่างน่าสงสาร แล้วถึงค่อยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ ว่า “แต่ แต่ก็ตีคนไม่ได้นะ...”

เมื่อเห็นน้ำตาของหลินยวนไหลไม่หยุด หลินเย่ว์ก็อดนึกถึงเรื่องลําดับวงศ์ตระกูลไม่ได้ เมื่อคิดว่าเฉียวเนี่ยนจงใจพูดถึงในตอนนี้ก็เพื่อให้เขารู้สึกละอายใจ จึงขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเฉียบขาดว่า “ยวนเอ๋อร์พูดถูก ไม่ว่ายังไงก็ตีคนไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าว่ายน้ำไม่เป็นด้วยซ้ำ”

ประโยคสุดท้ายพูดกับเฉียวเนี่ยน สายตาเย็นชา ราวกับมั่นใจว่านางกําลังโกหก!

น้องสาวของตนเอง ตกลงจะว่ายน้ำเป็นหรือไม่ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?

นึกถึงตอนนั้นที่พวกเขาไปล่องเรือที่ชานเมืองด้วยกัน เฉียวเนี่ยนเผลอทําต่างหูที่เซียวเหิงส่งให้ตกลงไปในทะเลสาบ ร้อนใจจนกระโดดลงจากเรือทันที ถ้าไม่ใช่เพราะเขากับเซียวเหิงว่ายน้ำเก่ง วันนั้นเฉียวเนี่ยนคงจมน้ำตายไปแล้ว

ดังนั้นหนิงซวงจึงบอกว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนช่วยไว้ หลินเย่ว์จึงไม่เชื่อเลย

ร่างกายของเฉียวเนี่ยนเริ่มสั่นเล็กน้อย แต่แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่รู้ว่าหนาวหรือโกรธเพราะหลินเย่ว์กันแน่

“ดังนั้น ท่านโหวน้อยก็คิดว่าข้าผลักคุณหนูหลินหรือ?” นางถามกลับอย่างเย็นชา น้ำเสียงสั่นเทิ้ม ความโกรธในใจกําลังจะระเบิดออกมา แต่สุดท้ายก็ถูกนางกดกลับไปอย่างเอาเป็นเอาตาย

หลินเย่ว์ไม่ได้พูดอะไร ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่เมื่อเห็นท่าทางของนางแล้ว คําพูดที่ทําร้ายคนอื่นเหล่านั้นก็พูดไม่ออกอย่างอธิบายไม่ถูก

ดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงมองไปที่หลินยวนอีกครั้ง

เพียงแค่มองอย่างเงียบๆ แบบนี้ แต่เมื่อสบสายตาของนาง หลินยวนก็ก้มหน้าลงอย่างเงียบๆ

เหมือนเมื่อสามปีก่อน ไม่พูดอะไรสักคํา

จนเมื่อตอนที่นางอยู่ในห้อง คําขอโทษทั้งน้ำตาของนางจึงดูน่าขันเป็นพิเศษ

“เฮอะ!”

เฉียวเนี่ยนก็หัวเราะออกมา

น้ำเสียงที่ไม่ดังนักกลับแฝงไว้ด้วยการประชดประชันอย่างรุนแรง

ร่างกายของหลินยวนสั่นเทิ้มตามไปด้วย น้ำตาไหลพรากราวกับเขื่อนที่แตกทลาย

หลินเย่ว์ทนดูท่าทางของหลินยวนไม่ได้จริงๆ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ แต่ก็ไม่อาจโกรธเฉียวเนี่ยนได้ จึงทําได้เพียงตะคอกใส่หนิงซวงอย่างโมโหว่า “ไสหัวไปรับโทษโบยซะ!”

ใบหน้าเล็กๆ ของหนิงซวงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่นางก็ไม่อยากให้เฉียวเนี่ยนลําบากใจ จึงทําความเคารพทันที

แต่มือเย็นจับแขนนางและหยุดนางไว้

ใบหน้าของเฉียวเนี่ยนยังคงสงบนิ่ง แต่ดวงตาซ่อนความเกลียดชังไว้อย่างชัดเจนขณะมองหลินเย่ว์ “วันนี้หนิงซวงไม่ว่าง นางยังต้องคอยปรนนิบัติข้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนคุณหนูหลินตกลงไปในน้ำได้อย่างไรและใครเป็นคนช่วยขึ้นมา ท่านโหวน้อยถามรายละเอียดในภายหลังก็จะรู้ความจริงได้”

พูดจบนางก็ดึงหนิงซวงเดินกลับไป

เพียงแต่ยังเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าวก็หยุดลงอีก เอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วพูดช้าๆ ว่า “เมื่อก่อนน้ำไม่เป็น แต่เมื่อหนึ่งปีก่อนนางบ่าวในวังหลายคนร่วมมือกันจับข้าโยนลงในสระซักล้าง ยืนถือราวตากผ้าป้องกันอยู่ริมฝั่ง ผ่านไปครึ่งชั่วยามถึงอนุญาตให้ข้าขึ้นมา หลังจากนั้นก็เป็นแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Комментарии (6)
goodnovel comment avatar
Nrn O Yt
นางเอกแบบสู้คนฉันชอบ
goodnovel comment avatar
Mini plant
พลัๆนรๆรนไ
goodnovel comment avatar
Mini plant
ดดฃยะะบะีำรีลนะนยยบ
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 880

    บาดแผลของลุงเกิ่งไม่อาจปล่อยไว้ได้ ต้องรีมห้ามเลือดและใส่ยาให้เร็วที่สุด!เฉียวเนี่ยนแทบไม่ต้องคิด รีบพยุงลุงเกิ่งออกไปทันทีเห็นเฉียวเนี่ยนจะจากไป เหล่านักลอบสังหารก็กรูกันเข้ามาทันทีหลินเย่ว์รีบออกไปขวางไว้เสียงดาบกระทบกันดังขึ้นกลางสายฝนอันพรั่งพรู ยิ่งฟังยิ่งบาดหูหนิงซวงก็ลงจากหลังม้าแล้ววิ่งตรงเข้ามาเดิมทีนางตั้งใจจะช่วยเฉียวเนี่ยนพยุงลุงเกิ่งหนี แต่ไม่คิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับผลักลุงเกิ่งให้นางแทน“พาลุงเกิ่งขึ้นม้าแล้วหนี! ขวดฝาสีน้ำเงินเข้มคือน้ำยารักษา รีบหาที่พักแล้วจัดการรักษาแผลให้ลุงเกิ่งซะ!”เฉียวเนี่ยนพูดพลางจะหันกลับไปแต่หนิงซวงคว้าข้อมือนางไว้ทันที “คุณหนู!”ใบหน้าหนิงซวงเต็มไปด้วยความร้อนรน ไม่รู้ว่าบนหน้านั้นคือหยาดน้ำตาหรือหยาดฝนกันแน่เฉียวเนี่ยนรู้ดีว่าหนิงซวงเป็นห่วงนางแต่...“ข้าทิ้งเขาไว้ไม่ได้”พูดจบ เฉียวเนี่ยนก็สะบัดมือหนิงซวงออก แล้ววิ่งกลับไปหาหลินเย่ว์วรยุทธ์ของหลินเย่ว์ไม่เก่งเท่าลุงเกิ่ง ยามเผชิญหน้ากับเหล่านักลอบสังหารจึงยิ่งลำบากเพียงประมือไม่กี่กระบวนท่า หลินเย่ว์ก็ถูกเตะกระเด็นล้มลงกับพื้นและนักลอบสังหารไม่เปิดโอกาสให้แม้แต่น้อ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 879

    “เจ้าหากอยู่ต่อ เจ้าก็ต้องตายเหมือนกัน!”หลินเย่ว์เสียงต่ำหนักแน่น เต็มไปด้วยความเด็ดขาดที่ไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง“ไม่! ข้าไม่ยอมทิ้งลุงเกิ่งไว้คนเดียวแน่!” เฉียวเนี่ยนยังพยายามดิ้นรนแต่หลินเย่ว์กลับโกรธขึ้นมา “เขาเป็นคนที่ฉู่จืออี้ฝากไว้ให้ปกป้องเจ้า เดิมทีก็ต้องยอมตายเพื่อเจ้าอยู่แล้ว!”เฉียวเนี่ยนไม่คาดคิดว่าหลินเย่ว์จะพูดถ้อยคำเยี่ยงนี้ออกมาได้ลุงเกิ่งกับฉู่จืออี้เป็นคนประเภทเดียวกัน ไม่พูดมาก แต่ทำงานรอบคอบน่าเชื่อถือตลอดทางที่ผ่านมา ลุงเกิ่งดูแลนางอย่างดี และยังคอยเกื้อหนุนหลินเย่ว์อยู่เสมอแต่ในตอนนี้ หลินเย่ว์กลับพูดว่าลุงเกิ่งสมควรตาย?บางทีอาจเพราะนางเคยชินที่ถูกคนอื่นไม่เห็นค่าชีวิตของนาง ดังนั้นคำพูดของหลินเย่ว์จึงเหมือนกระตุกเส้นลึกในใจของเฉียวเนี่ยนเข้าอย่างจังนางไม่สนอะไรอีกต่อไป ยอมเสี่ยงกลิ้งตกจากหลังม้าเพื่อลงมาให้ได้หลินเย่ว์ตกใจ รีบรั้งม้าให้หยุดหนิงซวงที่อยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ก็ชะงัก หยุดม้าตามไปด้วยนางมองหลินเย่ว์กับเฉียวเนี่ยนด้วยความไม่รู้จะทำเช่นไรเพียงเห็นเฉียวเนี่ยนเงยหน้าขึ้นมองหลินเย่ว์สายฝนเทลงมาไม่หยุด ทำให้ใบหน้าของเฉียวเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 878

    ได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ก็เผลอยื่นมือไปแตะดาบที่เอวโดยไม่รู้ตัวแต่เฉียวเนี่ยนกลับกดมือเขาไว้หนิงซวงเองก็ถูกคำพูดนี้ทำให้ตกใจ สายตาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังกองไฟตรงหน้า คิดเพียงว่า หากอีกฝ่ายลงมือจริงๆ ตนจะคว้าฟืนที่ลุกไหม้พวกนั้นขว้างใส่นักลอบสังหารพวกนั้นให้หมดจะเผาพวกมันให้วอด!ลุงเกิ่งก็ลดมือลงช้าๆ เตรียมพร้อมจะลงมือเช่นกันขณะที่นักลอบสังหารพวกนั้นต่างก็แววตาแข็งกร้าว หากเฉียวเนี่ยนพูดผิดเพียงประโยคเดียว ก็พร้อมจะพุ่งเข้าไปทันทีเฉียวเนี่ยนรู้สึกเหมือนแม้แต่ลมหายใจก็หยุดชะงักแต่บนใบหน้ากลับยังฝืนทำใจเย็น ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม มองไปที่นักลอบสังหารแล้วพูดว่า “เจ้า เจ้าคนนี้ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก ถึงกับแอบมองติ่งหูของสตรี!”นักลอบสังหารผงะไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนจะกลับเป็นฝ่ายเปิดฉากด่าตนแม้แต่พวกนักลอบสังหารอีกกว่าสิบคนที่อยู่รอบข้าง พอฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมาเฉียวเนี่ยนกล่าวต่อ “ดูแล้วทุกท่านก็เป็นคนในยุทธภพ สมควรจะรู้ดีว่าหญิงสาวออกเดินทางนั้นอันตรายเพียงใด ข้ากับสาวใช้ถึงได้ปลอมตัวเป็นบุรุษ เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายเท่านั้น ไม่ได้สร้างคว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 877

    เฉียวเนี่ยนเพียงอยากจะรีบตัดบทนักลอบสังหารผู้นี้แล้วไล่ไปให้พ้นๆ จึงพยักหน้าเล็กน้อยหลินเย่ว์ถึงได้ลุกขึ้น ยื่นขนมแป้งนึ่งไปให้พลางยิ้ม “ออกเดินทางนอกบ้านก็ต้องช่วยเหลือกัน ท่านมีกันตั้งหลายคน แค่สองชิ้นจะพอหรือ?”“รองท้องได้ก็พอแล้ว ขอบคุณสหายมาก”นักลอบสังหารผู้นั้นรับแป้งนึ่งไป พลางคารวะหลินเย่ว์หนึ่งครั้งหลินเย่ว์ก็คารวะกลับ แต่ทว่า เมื่อนักลอบสังหารคนนั้นรับแป้งนึ่งไว้แล้วกลับไม่จากไป ทั้งยังถามขึ้นด้วยความแปลกใจ “นี่มันขนมแป้งนึ่งร้านนายเฉิน ไม่ทราบว่าพวกท่านก็เดินทางมาจากเมืองหลวงหรือ?”เฉียวเนี่ยนไม่เคยคาดคิดว่านักลอบสังหารคนนี้จะดูออกว่าเป็นของร้านนายเฉินเพียงแค่มองขนมแป้งนึ่ง หัวใจนางพลันสะท้านหลินเย่ว์ก็ตกใจเล็กน้อย สีหน้าก็เปลี่ยนไปแต่ก็ยังยิ้มตอบ “ใช่ พวกเรามาจากเมืองหลวง”ได้ยินดังนั้น นักลอบสังหารคนนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “ข้าก็ว่าแล้ว สำเนียงของท่านคล้ายชาวเมืองหลวงอยู่”ระหว่างที่พูด ดวงตาอันคมกริบของนักลอบสังหารก็ไล่มองพวกเขาทีละคน “ในเมื่อพวกท่านมาจากเมืองหลวง แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ในที่แบบนี้กันเล่า?”หลินเย่ว์แสร้งถอนหายใจยาว “ที่บ้านเกิดเหตุร้ายกะทันหัน ต้องขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 876

    เวลาเลยผ่านไปอีกครึ่งเดือนแล้วยามนี้เข้าสู่ปลายฤดูใบไม้ร่วง ความเย็นในอากาศยิ่งหนักหนา บังเอิญว่าวันนี้ฝนตกหนัก จึงยิ่งหนาวไปกันใหญ่เฉียวเนี่ยนยืนอยู่ใต้ชายคาของวัดร้าง มองสายฝนที่ตกลงมา พลางขมวดคิ้ว “ไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่”หลินเย่ว์จุดกองไฟไว้ข้างๆ พลางมองร่างบางของเฉียวเนี่ยน สีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย “มาผิงไฟอบอุ่นร่างกายก่อนเถอะ ฝนนี้เกรงว่าจะตกไปถึงพรุ่งนี้”“คุณหนู อย่าให้เป็นหวัดเชียวนะเจ้าคะ”หนิงซวงค้นผ้าคลุมจากห่อสัมภาระ นำมาคลุมให้เฉียวเนี่ยน แล้วประคองนางเดินเข้าไปข้างใน “คืนนี้พวกเราคงต้องพักที่นี่ เดี๋ยวบ่าวจะปูที่นอนให้อย่างดี รับรองว่าคุณหนูจะหลับสบายแน่ๆ เจ้าค่ะ!”ลุงเกิ่งก็หยิบเสบียงออกจากห่อ แบ่งให้แต่ละคนทั้งสี่คนจึงนั่งล้อมรอบกองไฟอย่างเงียบๆ กินข้าวกันใครจะคิดว่าในป่าที่เงียบสงบอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าม้ามุ่งมาทางวัดร้างทั้งสี่คนพลันตึงเครียด หันมองออกไปนอกวัดก็เห็นกลุ่มคนราวสิบกว่าคนควบม้ามาหยุดอยู่หน้าวัดร้าง ดูท่าก็เป็นผู้ที่เข้ามาหลบฝนเช่นกัน“อยู่ดีๆ ฝนดันตกหนักเช่นนี้ได้อย่างไรนะ!”หลายคนบ่นไปพลาง เดินเข้าวัดร้างพลาง แล้วก็สบตากับเฉี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 875

    และแน่นอนว่าไม่มีทางคาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนจะควบม้า ผ่านเฉียดกับพวกนักลอบสังหารที่ค้นหาตรงปากทางเข้าเมืองไปได้อย่างหวุดหวิดอีกสามวันต่อมาที่ถนนใหญ่หนิงซวงควบม้าสีแดงเข้ม พลางอดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องในหอนางโลมอีก“คุณชายของข้าช่างเก่งเหลือเกิน เจอพวกนั้นเข้าแท้ๆ ก็ยังไม่ตื่นตระหนก ใจเย็นมั่นคง! ข้าเห็นจังหวะดีอยากจะฉวยโอกาสหนี คุณชายก็รั้งข้าไว้ ไม่อย่างนั้น ป่านนี้คงถูกพวกมันจับได้แล้ว!”พูดแล้วก็ยังรู้สึกว่าหวาดเสียว พวกนักลอบสังหารอยู่ตรงหน้า อยู่ใกล้กันเพียงนิดเดียว แต่กลับไม่ทันสังเกตเห็นนางกับคุณหนู!เฉียวเนี่ยนเห็นหนิงซวงพูดชมตนเองก็อดหัวเราะไม่ได้ “ก็เพราะในกลุ่มนั้นไม่มีใครรู้จักพวกเรา ไม่อย่างนั้นคงไม่รอดง่ายๆ เช่นนั้นหรอก”หากมีคนเคยพบหน้าพวกตนมาก่อน ถึงแม้จะปลอมเป็นชายก็คงยังสังเกตได้อยู่ดีหลินเย่ว์ควบม้าตามหลังเฉียวเนี่ยนมา พอได้ยินก็รู้สึกเห็นด้วย “ข้าก็คิดแบบเดียวกัน ตอนนี้พวกมันคงมีภาพวาดของพวกเจ้าแล้ว อีกหน่อยอาจจะตามมาถึงก็เป็นได้”ทันใดนั้นหนิงซวงก็ตื่นตระหนก “แล้วจะทำอย่างไรดี? กว่าจะถึงชายแดนก็ยังอีกตั้งสองเดือน! พวกเราคงไม่ถูกไล่ล่าแบบนี้ตลอดหรอกใช่ไหมเจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status