“อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าตัวเองไม่เป็นอะไร บางทีเจ้าอาจจะมีอาการป่วยแอบแฝงอยู่ก็ได้ วันมะรืนพ่อข้าจะมาเยี่ยม จะให้ท่านพ่อข้าช่วยตรวจดูอาการให้… ”
ลี่หมิงเอ่ยถึงบิดา…
เขามีนามว่า ‘ลี่ถัง’ เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่วัยห้าสิบปีที่มีวิชาความรู้ทางการแพทย์แผนโบราณ และยังชำนาญในการนวดที่เรียกว่า ‘ทุยหนา’
คือการนวดแบบดั้งเดิมของจีนซึ่งเน้นการกด คลึง ดีด บีบไปตามเส้นลมปราณเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย ลดอาการโลหิตคั่ง โลหิตหนืดที่เป็นต้นเหตุของความไม่สบายทั้งปวง
“ดีจัง ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านพ่อของท่านพี่มีความรู้เรื่องการนวด… ”
“ใช่แล้ว… ท่านพ่อของข้านอกจากจะมีความรู้เรื่องนวดก็ยังเชี่ยวชาญในเรื่องสมุนไพรรักษาโรค งั้นช่วงนี้เจ้าต้องพักผ่อนให้มากๆ งานอะไรที่ต้องออกแรงเยอะทิ้งไว้ให้เป็นหน้าที่ของข้าจัดการเอง… ”
ลี่หมิงกล่าวด้วยความรักและห่วงใยภรรยา…
ตั้งแต่อยู่กันมาปีกว่าเขาไม่เคยใช้ให้นางต้องทำงานหนัก หน้าที่ของซูเจียวคือการดูแลงานบ้านและทำอาหาร
ส่วนงานในไร่ในสวนนั้นลี่หมิงเป็นคนรับผิดชอบเองทุกอย่าง เรียกว่าแทบจะไม่ให้ซูเจียวออกมาโดนแดดโดนลมเลยก็ว่าได้
“เข้านอนเถอะ… น้ำค้างตกใส่หัวเดี๋ยวเจ้าจะป่วย”
ลี่หมิงช้อนร่างเอิบอิ่มของเมียรักอุ้มไว้ในอ้อมแขน พานางกลับเข้ามาในห้องนอน
ซูเจียวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที…
เมื่อรู้ว่าวันมะรืนพ่อสามีจะมาเยี่ยมบ้าน ในชีวิตของนางเคยเจอกับลี่ถังเพียงแค่ครั้งเดียวในวันแต่งงานปีก่อน
แต่ก็น่าแปลก…
แม้จะเคยเจอกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอันใดนางจึงยังไม่ลืมใบหน้าคมคร้ามหล่อเข้มและรูปร่างสูงใหญ่กำยำไปด้วยกล้ามเนื้อของผู้ชายคนนี้
หรืออาจเป็นเพราะเขามีบุคลิกลักษณะอันน่าจดจำ มิเช่นนั้นภาพของพ่อสามีนามว่า ‘ลี่ถัง’ ก็คงจะไม่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของซูเจียวมาจนถึงตอนนี้
ในเวลาต่อมา
เมื่อวันที่ซูเจียวรอคอยมาถึง คือวันที่พ่อสามีนามว่าลี่ถังแวะมาเยี่ยมบ้าน
“ท่านพ่อ… ข้าดีใจเหลือเกินที่ท่านมา”
ลี่หมิงประสานมือสองข้างขึ้นมา เอามือหนึ่งกุมอีกมือเพื่อแสดงการคารวะบิดาที่ไม่ได้เจอกันนาน…
“ข้าก็ดีใจที่เจอเจ้า… แล้วเจ้ากับซูเจียวฮูหยินของเจ้าสบายดีรึ”
ลี่ถังถามถึงสะใภ้…
หลังจากเคยเห็นเมื่อวันวิวาห์ที่มาร่วมงาน จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
“ข้าสบายดีท่านพ่อ… แต่ซูเจียวไม่ค่อยสบายนัก”
ลี่หมิงตอบไปตามความจริง…
ลี่ถังได้ยินก็หันไปหาสะใภ้แล้วถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหนลองบอกอาการของเจ้า… ที่ว่าไม่สบาย”
ลี่ถังจ้องมองใบหน้างดงามของสะใภ้…
นางมีใบหน้ารูปไข่…
ดวงตาคมสวย คิ้วโก่ง คางได้รูป รับกับใบหน้า อีกทั้งริมฝีปากก็เอิมอิ่มเย้ายวน ผิวพรรณของนางนั้นขาวเนียนเปล่งปลั่งสะดุดตาเหลือเกิน โดยเฉพาะปทุมถันอวบใหญ่
เพียงแค่มองจากภายนอก…
ลี่ถังก็พอจะสรุปได้ว่านางไม่ได้ป่วยอะไรมาก จะมีก็เพียงแววตาที่ดูเก็บกดความรู้สึกเร้นลับบางอย่างเอาไว้
“ข้า… ข้าบอกไม่ถูกค่ะท่านพ่อ มันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ บางครั้งก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อย่างหาสาเหตุไม่ได้… ”
ซูเจียวตอบไปตามตรง…
ยากนักที่จะอธิบายความรู้สึกนี้ออกมาเป็นคำพูด
“ขอข้าตรวจชีพจร…”
ลี่ถังเอื้อมมือไปจับข้อมือสะใภ้ ตรวจด้วยวิธี ‘แมะ’ คือการใช้นิ้วมือทั้งสามคือนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง แตะลงบนตำแหน่งของชีพจร เป็นวิธีการตรวจโรคในศาสตร์แพทย์แผนจีนโบราณวิธีหนึ่ง
“อืมม… ชีพจรของเจ้าก็ปกตินี่นา เอาไว้ข้าจะตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง… ”
ลี่ถังกล่าวทิ้งเอาไว้…
จากนั้นซูเจียวก็ลงมือทำอาหารมากมายต้อนรับการมาเยือนของพ่อสามี
ครู่ต่อมา…
“ท่านพี่คะ… ท่านช่วยไปซื้อเต้าหู้ให้ข้าที”
ซูเจียวรู้มาจากปากของลี่หมิงว่าพ่อสามีของนางชอบกินเต้าหู้ยัดไส้นึ่งซีอิ๊ว แต่วันนี้ที่บ้านไม่มีเต้าหู้
“ได้… เดี๋ยวข้าไปซื้อให้”
ลี่หมิงอยากให้ผู้เป็นบิดาได้กินของอร่อย และอยากให้สะใภ้ได้แสดงเสน่ห์ปลายจวัก
จึงกุลีกุจอออกไปซื้อเต้าหู้ทั้งที่ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว จะมีก็ที่ร้านใหญ่ในตลาดที่ยังเปิดขายถึงค่ำ
จึงหาจังหวะมาซ้ำอีกรอบ สลับให้ตาเฒ่าเว่ยกังออกไปนวดให้คหบดีจางเพื่อถ่วงเวลาในระหว่างที่กำลังเอากับนางอีกครั้ง“อยากนักก็รีบเข้ามา… จะมัวช้าอยู่ทำไม”ด้วยอารมณ์ที่ยังค้างคาไม่เคยอิ่มไม่เคยพอ…ซูเจินซึ่งยังนอนระทวยอยู่บนโต๊ะลุกขึ้นคุกเข่า หันก้นอวบขาวออกมาหาร่างสูงใหญ่ของหมอจื่ออย่างยั่วยวน“ร่านแบบนี้ข้าชอบนัก… ”หมอจื่อมองสบตาของนางเหลียวหลังกลับมาส่งสายตาท้าทายชอบแววตาของซูเจินที่เต็มไปด้วยประกายของความเร่าร้อน รีบจับแท่งเอ็นยาวใหญ่กระแทกเข้าใส่รูสวาทปลิ้นอ้าเป็นร่องทะลักออกมาระหว่างง่ามก้นด้านหลัง“อ๊ะ… อ๊ายยยย… ”ซูเจินร้องครวญคราง…แรงกระเด้าหน่วงหนักทำเอาริมฝีปากของนางเผยออ้า ใบหน้าเชิดมองเพดานห้อง ดวงตาเบิกโพลงไปกับความเสียวซ่านสุดจะบรรยาย“อูยยย… แน่นเหลือเกิน”ซูเจินสูดปาก…จิตใจกระเจิดกระเจิง อารมณ์จดจ่ออยู่กับความรู้สึกคับแน่นเมื่อลำเนื้อมหึมาสอดใส่เข้ามามิดสุดตอโคนอวบหนา“อู้ววว… คราวนี้ขอข้ากระแทกให้ถนัด”เว่ยกังกล่าวพร้อมกับเอามือรวบเอวของนาง รั้งเข้ามาโก่งเอวกระเด้าอย่างเมามันเสียงเนื้อกระทบกันดังตั่บๆ…คลอไปกับเสียงครวญครางทรมานของซูเจิน กระดกก้นอย่างเพลิดเพลินให้จื่อ
ยกให้ง่ามก้นแอ่นขึ้นมา สองกลีบแบะอ้าท้าทายลำเนื้อยาวใหญ่ กระแทกเข้าใส่มิดสุดตอโคน“อ๊ะ… อ๊ายยยย… ”ซูเจินสะดุ้ง…น้ำหล่อลื่นของนางแตกพุ่งออกมาอาบชุ่มรอบตอโคนอวบหนาที่มีเส้นขนสีดำหยาบแข็งโอบล้อมเอาไว้“อ๊า… ข้าแน่น… อูยยย… ”ซูเจินสะบัดใบหน้าไปมา…เว่ยกังค่อยๆ ขยับ รู้สึกสะใจที่รู้เห็นนางกำลังทรมาน หลังจากโดนลำเนื้ออลังการรุกคืบเข้าใส่จนมิด จึงกระตุ้นซ้ำด้วยการก้มลงจูบไซ้ปทุมถันสองเต้า กำลังกระเพื่อมตามแรงกระเด้าเสียงดังตั่บๆ“อ่า… อ่า… อ่า… ข้ามันสุดๆ รูของเจ้าทั้งตอดทั้งแน่นจนข้าปวดลำไปหมดแล้ว”ใบหน้าของตาเฒ่าแดงก่ำ…เหงื่อกาฬแตกซ่านไปทั้งร่าง ขบกรามแน่นเพราะลำเอ็นโดนรูสวาทบีบรัดหนึบแน่นก่อนจะเอื้อมมือลงมาที่ง่ามขาซึ่งเป็นจุดที่อวัยวะเพศกำลังสอดประสาน ไล้ลูบลำเนื้ออลังการของตัวเอง กำลังเสียบคาเต็มลำเต็มรู“อู้ววว… เต็มลำเต็มรูดีเหลือเกิน”เว่ยกังชอบใจ ขยับควงบั้นเอวให้เส้นเลือดลายเอ็นปูดโปนโอบรอบลำครูดถูกับตำแหน่งของเม็ดกระสัน ทำเอาฮูหยินพริ้มตาเสียวซ่านปั่นป่วนใกล้จะถึงสวรรค์“อูยยย… แตกเถอะข้าทรมาน”ซูเจินร้องครวญคราง…ในท่าที่กำลังนอนหงายเม้มปากแน่น ถ่างขาอยู่ใต้ร่างกำยำของตาเฒ่า
โดนกระทุ้งจนต้องปลดปล่อยน้ำเสียวที่พยายามขมิบกลั้นเอาไว้ ให้ไหลหลั่งซ่านออกมาช่วยลดแรงเสียดสีของเนื้อกับเนื้อ“อู้ววว… ข้ามันสุดๆ… รูของเจ้าหนึบแน่นเหลือเกิน”เว่ยกังเอามือรวบเอวคอดของนาง…รั้งเข้ามากระเด้าแล้วกดใบหน้าเข้ามาจูบไซ้สองเต้าอวบใหญ่ กระเด้าและดูดนมไปด้วยช่วยกระตุ้นยอดปทุมตูมตั้ง ปลุกอารมณ์ของนางให้ระเริงหลงไปกับลีลาสวาทที่กำลังปรนเปรอจัดหนักให้อย่างถึงอกถึงใจ“จะไม่แน่นได้ยังไง… อูยยย… เอ็นของเจ้าใหญ่ยังกับท่อนแขนข้า… อ๊า… อ๊า… รูข้าจะฉีกไหม”ซูเจินเสียงกระเส่า…สองมือโอบกอดรอบคอของเว่ยกัง กดใบหน้าเข้าหาสองเต้าเนียนขาวจนแลเห็นเส้นเลือดสีเขียวกระจายเป็นสายรางๆ อยู่ภายใต้ความเปล่งปลั่งเย้ายวนของปทุมถัน กำลังกระเพื่อมสั่นตามแรงกระเด้า“ไม่ต้องกลัวน่ะเจ้ารับไหว… อู้ว… ข้าชอบนมของเจ้าเหลือเกิน”เว่ยกังก้มลงจูบเต้านมอวบใหญ่น่าขยำ…ก่อนจะเอามือบีบเคล้นอย่างแรง ปลายหัวนมปูดปลิ้นออกมาจากซอกนิ้วมือหยาบใหญ่ ก้มลงดูดไซ้กินนมจากเต้าของฮูหยินอย่างตะกละตะกลามเสียงดังซ่วบๆ“อ๊า… ขะ… ข้าเสียวหัวนม… อูย… ”ซูเจินร้องคราง…หลุบตาลงมองหัวนมของตัวเอง กำลังโดนริมฝีปากหนาของเว่ยกังกะซวกดูดอย่าง
สอดชำแรกลิ้นสากเข้ามาในกลีบปากสีชมพูนุ่มละมุนของฮูหยิน ไชชอนลิ้นไล้เลียเรียวลิ้นของนาง ร้อยรัดกันอย่างโหยหาขณะสองมือบีบขยำเต้านมไปด้วย“ซี้ด… อ๊า… เจ้าช่างจูบได้ร้อนแรงเหลือเกิน… ”ความเสียวซ่านในรสสัมผัสแปลกใหม่ดุดันและกลิ่นกายแปลกใหม่ไม่คุ้นเคยของตาเฒ่า ทำให้ฮูหยินยิ่งมีอารมณ์ ยอมจูบปากแลกลิ้นกับเว่ยกังอย่างเร่าร้อนลืมตัว“อูยยย… ข้าเสียว… ”ซูเจินบิดกายไปมา “เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าเสียวยิ่งกว่านี้”เสื้อของฮูหยินคนงามโดนเปลื้องจนหลุดร่นลงมากองอยู่ที่ต้นแขน เต้านมอวบใหญ่ทั้งขาวทั้งเนียนผุดเด้งออกมาอวดความอะร้าอร่าม สุดท้ายนางก็ทนไม่ไหว… จำต้องทรุดร่างลงนั่งคุกเข่าอยู่ตรงง่ามขาของเว่ยกัง กำลังเอนหลังนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน แอ่นท่อนเอ็นลำใหญ่มหึมาออกมายั่วยวนอยู่ตรงหน้าของนาง “ข้ารู้นะว่าเจ้าอยากเลีย… ” เว่ยกังจับหัวเอ็นสีม่วงถอกบานเข้ามาชิดริมฝีปากเอิบอิ่มของฮูหยิน กลิ่นคาวน้ำใครที่ไหลเยิ้มอาบเป็นมันเลื่อมลอยมากระทบจมูก ทำเอาซูเจินรู้สึกมีอารมณ์จนต้องก้มลงครอบริมฝีปากดูดรัดลงบนหัวเอ็นเสียงดังบล๊วบ… “อ่า… ซี้ดดดดด… ”
นางยอมรับว่ารู้สึกหวั่นไหว สายตายังจ้องมองเรือนร่างสูงใหญ่กำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้ามสมชายชาตรี ผิวสีน้ำตาลเข้มคล้ำสะท้อนกับประกายแสงแดดสาดเข้ามาจากหน้าต่าง ยิ่งทำให้เรือนร่างของตาเฒ่าคนนี้น่ามอง แม้อายุจะแก่แล้ว แต่ยังมีแรงดึงดูดทางเพศล้นเหลือจนนางไม่อาจต้าน“นี่เจ้ากล้าชวนข้าอาบน้ำเชียวรึ… ”ซูเจินกวาดสายตามองเว่ยกังตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ว่าอายุเยอะแล้ว แต่ร่างกายยังดูกำยำล่ำสันราวกับเคยผ่านการทำงานหรือฝึกวรยุทธมาอย่างนัก“กล้าสิ… ถ้าเจ้าไม่อยากก็คงจะเดินออกจากห้องนี้ไปแล้ว”เว่ยกังช่างกล้า…ก็จะไม่กล้าได้อย่างไร เพราะว่าเมื่อครู่ก่อนหน้าเพิ่งแอบดูจื่อหาวฝังเข็มไว้ฮูหยินของคหบดีจางอย่างเมามัน ได้เห็นความร้อนแรงของฮูหยิน เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังฉากกั้นอย่างนึกอิจฉา จนต้องแอบยืนเอามือรูดแท่งเอ็นของตัวเองชักว่าวไปพลาง“เจ้าช่างปากดีนัก… ”ซูเจินจ้องมองใบหน้าคมคร้ามดุดัน สืบเท้าเข้ามาใกล้ร่างกำยำไปด้วยมัดกล้าม… ก่อนจะเอามือดึงผ้าเตี่ยวผืนเล็กหลุดออกไปจากกึ่งกลางกาย ส่งผลให้แท่งหยกแห่งความเป็นชายของเว่ยกังดีดผึงออกมาอวดความอลังการ“โอ๊ววว… นี่มันท่อนแขนชัดๆ”ซูเ
ของแท่งเนื้อมหึมา กำลังสไลด์เข้าออกในสองกลีบนุ่มแน่นเป็นจังหวะ“อู้ววว… ซี้ดดดด… ”ซูเจินเผลอครางออกมา…ไม่ง่ายนักที่จะทำสีหน้าและแววตาให้ปกติ เพราะว่ารูสวาทของนางกำลังโดนแทงอย่างหน่วงหนักซูเจินทนเสียวไม่ไหว…นางเกือบจะเผลอร้องออกมา ดีว่าตั้งสติได้จึงรีบเอื้อมมือคว้าชายผ้ามากัดไว้ในปากเพราะทนไม่ไหวนางพยายามข่มกลั้นเสียงครางเสียวซ่านจากการโดนกระเด้าอย่างเมามัน จื่อหาวกระแทกกระทั้นหน่วงหนักสะใจนางเหลือเกิน“เอ่อ… หมอจื่อ… ข้าจะต้องแช่อยู่ในอ่างอีกนานแค่ไหน”คหบดีจางหยวนร้องถามออกมาทั้งที่ไม่เห็นหน้าของหมอจื่อ เพราะเขาอ้างว่าตัวเองกำลังฝังเข็มให้ซูเจินอยู่หลังผืนผ้าที่ขึงเป็นฉากกั้นเอาไว้“อีกเดี๋ยว…ขะ… ข้าจะเสร็จแล้วเดี๋ยวข้าจะไปดูให้”เสียงของหมอจื่อสั่นเครือ…ดังออกมาจากด้านหลังผ้าที่เป็นฉากกั้น จางหยวนสังเกตเห็นเตียงขยับดังกึกกักอยู่ชั่วครู่ จากนั้นซูเจินก็ร้องออกมาด้วยความลืมตัว“อ๊ะ… อ๊ายยยย… ”ดวงตาของนางหลับพริ้มเคลิบเคลิ้ม…ริมฝีปากเม้มแน่น อิ่มเอมอยู่ลึกๆ ข้างในรูสวาท รู้สึกว่ากล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายผ่อนคลายความตึงเครียดลงอย่างประหลาดภายหลังจากน้ำกามสีขาวข้นของหมอจื่อแตกท