Share

ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น
ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น
Author: บ้านเขมปัณณ์

1 บทนำ

last update Huling Na-update: 2025-06-17 11:39:22

          ฟ่านรั่วเจี๋ย รู้ดีว่าบ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะคับขัน แผ่นดินถูกรุกรานโดยอีกฝ่ายมีแม่ทัพใหญ่ เขาเป็นถึงชินอ๋องแห่งแคว้นต้าหลาง มู่ชิงซาน และถูกขนานนามว่า ‘อ๋องปีศาจหรือหมาป่าแห่งรัตติกาล’ คนผู้นี้กระหายสงคราม เป็นบุรุษที่ผีเห็นยังหวั่น

        ทว่าโชคชะตากลับพลิกผัน เมื่ออ๋องปีศาจต้องตกอยู่ในกำมือหญิงอัปลักษณ์ เขากลายเป็น ‘เจ้าเป็ดน้อย’ ความคิดอ่านเหมือนเด็กที่ยังไม่รู้ความ และเรียกฟ่านรั่วเจี๋ยว่า ‘มารดา’ ภายใต้เหตุการณ์แสนประหลาดนี้ นางจะเลือกชำระแค้นด้วยการสังหารศัตรู หรือกักขังเขาไว้ให้เป็นบุตรชายกำมะลอ

        แต่รู้ตัวอีกที...ฟ่านรั่วเจี๋ยก็แจ้งใจว่า ความอัปลักษณ์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของนาง คือสิ่งที่อ๋องปีศาจปรารถนาอยากครอบครอง!

บทนำ

ณ แคว้นหมิง ฟ่านรั่วเจี๋ยออกมาเก็บสมุนไพรเพื่อปรุงตำรับยาสูตรลับ พร้อมตามหาแมลงเต่าทองกับด้วงกว่าง ยามนี้นางอยู่ห่างจากกำแพงเมืองพอสมควร หญิงสาวเพลิดเพลินใจอยู่นานกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงม้าดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

เมื่อสืบเท้าไปข้างหน้าเพื่อดูว่าเกิดสิ่งใด หัวใจพลันหล่นวูบไปอยู่ตรงปลายเท้า ภาพที่เห็นคือหายนะครั้งใหญ่ในชีวิต สองมือเรียวงามชื้นไปด้วยเหงื่อ และการเคลื่อนไหวของชายฉกรรจ์เหล่านั้นซึ่งประจักษ์ต่อดวงตากลมโตส่งผลให้สมองขาวโพลนชั่วขณะ

ชีวิตที่อยู่อย่างระแวดระวังภัยมาโดยตลอดนับแต่มารดาสิ้นใจในสภาพ‘คนหมู’ ซึ่งถูกทำให้ตายอย่างอนาถด้วยการตัดหู ปาก จมูก รวมถึงมือและเท้า แล้วโยนลงกองอาจม ถึงนางจะยังเด็กในช่วงเวลานั้น แต่เสียงร้องของมารดายังกรีดก้องในหัวยามนึกถึง ดังนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฟ่านรั่วเจี๋ยจึงมิอาจไว้ใจผู้ใด

และสถานการณ์ตรงหน้านี้นางคาดคะเนว่าคือภัยร้ายต่อคนในแคว้นหมิง แน่นอนมันย่อมส่งผลกระทบถึงนางด้วย ตอนนี้กองกำลังของทหารผู้มาเยือนมีมากจนนับไม่ถ้วน ธงประจำตัวสีดำมีอักษรสีแดงโลหิตโดดเด่นซึ่งแจ้งชัดว่าผู้นำทัพเป็นถึงชินอ๋องแห่งแคว้นต้าหลาง เขาคือชายผู้ที่ถูกขนานนามว่า ‘อ๋องปีศาจหรือหมาป่ารัตติกาล’ คนผู้นี้รูปร่างสูงใหญ่ราวแปดฉื่อ[1] คือชายผู้กระหายสงครามที่ผีเห็นยังหวั่น โดยเล่าขานกันว่า เขาดื่มเลือดและกัดกินเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร!

มู่ชิงซาน คือชื่อของเขา เพียงแค่เอ่ยถึงฟ่านรั่วเจี๋ยก็ขนลุกไปทั้งสรรพางค์กาย และนางได้ยินผู้คนโจษขานถึงความโหดเหี้ยมของเขามาช้านานชินอ๋องผู้นี้ต้องการประกาศศักดาของแคว้นต้าหลาง เขาหวังครอบครองแคว้นหมิง แผ่นดินที่มีอารยธรรมมายาวนานหลายพันปี อีกทั้งการแพทย์เจริญก้าวหน้า นับเป็นขุมทรัพย์ของอีกเจ็ดแคว้นที่เหลือ

วันนี้นางโชคร้ายเหลือเกินที่ได้เห็นชายตัวโตนั่งอยู่บนหลังม้าศึก เขาสวมหน้ากากเหล็กซึ่งตอกสลักเป็นรูปหัวหมาป่า ดูดุดันน่าเกรงขาม ความสงสัยใคร่รู้ไหลวนอยู่ในหัวฟ่านรั่วเจี๋ยจนก่อเกิดความเครียดมหาศาล เหตุใดมู่ชิงซานจึงยกกำลังมาที่นี่ ด้วยมีข้อตกลงระหว่างเจ็ดแคว้นว่าห้ามมิให้ยึดครองแคว้นหมิง พร้อมให้อิสระในการปกครองตนเองโดยไม่ต้องขึ้นตรงต่อแคว้นใด

จากนั้นความรู้สึกเย็นเยียบก็เข้าปกคลุมจิตใจหญิงสาว หากเกิดศึกสงคราม นางจะเอาตัวรอดอย่างไร แผ่นดินที่นางเกิดอ่อนด้อยเรื่องการศึกกว่าทุกแคว้น นอกจากนั้นพืชผักและสมุนไพร รวมถึงสัตว์หลายชีวิตที่นางเลี้ยงไว้ อาจถูกจับไปเป็นของบรรณาการแก่เหล่าทหารเลวต่างบ้านต่างเมืองเพียงแค่คิดนางก็ครั่นคร้ามใจ

สองขาของฟ่านรั่วเจี๋ยรีบก้าวหนีกลิ่นอายชั่วร้าย นางกึ่งก้าวกึ่งวิ่งอย่างรวดเร็ว กระทั่งเจียนถึงปากถ้ำเล็กๆ มันคือทางลับเข้าสู่ตำหนักซึ่งเป็นที่อยู่ของตน เป็นห้วงเวลาเดียวกันที่จู่ๆ มีร่างหนึ่งเซถลาเข้ามาปะทะนางก่อนอีกฝ่ายจะเสียหลักล้มพับลงต่อหน้า

หัวใจหญิงสาวหล่นหาย ฟ่านรั่วเจี๋ยมองร่างดังกล่าวด้วยความประหลาดใจ ชายผู้นี้สูงเพรียว มีผ้าดำปกปิดใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้ กระนั้นดวงตาดำขลับกับคิ้วเรียวสวยได้แจ้งชัดว่าเขางามกว่าบุรุษทั่วไป เมื่อเขาค่อยๆดึงผ้าปิดหน้าออก ฟ่านรั่วเจี๋ยก็เหมือนถูกสะกดจุดให้นิ่งค้าง

ริมฝีปากบางของเขาเป็นกระจับงาม จมูกโด่งเป็นสัน พิศแล้วชวนให้หลงใหล ผิดแต่ยามนี้ใบหน้าเขาไร้สีเลือด มันขาวซีดราวกับได้รับอันตรายเจียนจะทำให้สิ้นชีพ

“ชะ ช่วยข้าด้วย แม่นาง ข้ามิอาจตายอย่างสูญเปล่า”

หญิงสาวนึกชั่งใจ คราแรกอยากก้าวหนี แต่ด้วยเห็นเขาได้รับบาดเจ็บจึงไม่อาจเพิกเฉย หากผู้ใดต้องการมีชีวิตและไม่สมควรตาย นางคงต้องยื่นมือช่วยเหลือ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นศัตรูก็ตาม

“หากช่วยท่าน ข้าจะมีความผิดหรือไม่” ฟ่านรั่วเจี๋ยถามออกไป แน่นอนนางย่อมต้องการคำตอบที่น่ารับฟัง

“แม่นาง ได้โปรดจงเห็นแก่ชีวิตผู้คน อย่าให้มีใครต้องล้มตายเลย รีบนำป้ายหยกนี้ไปส่งให้ถึงมือชินอ๋องชิงซาน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินการ!!”

เขาเอ่ยจบจึงกระอักเลือดออกมา และยามนี้เขาตกอยู่ในเงื้อมมือของสตรีซึ่งไม่ใช่พระโพธิสัตว์หรือเทพเซียน หากนางคือ...ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์แห่งตำหนักเย็น!

[1] แปดฉื่อ = 181.6 - 184.8 เซนติเมตร

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    45 เจ้าสาวอัปลักษณ์

    เจ้าสาวอัปลักษณ์ก่อนเข้าพิธีวิวาห์กับมู่ชิงซาน เกิดเรื่องที่หวิดทำให้ฟ่านรั่วเจี๋ยต้องถูกหยามเกียรติ เพราะมู่หรูซื่อกลับกลายเป็นคนพยายามเข้ามาตีสนิทนางในช่วงนั้นมู่ชิงซานมีภาระต้องไปประชุมกับรองแม่ทัพที่ค่ายในเมืองอื่นซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ราวๆ สามร้อยลี้ “พี่รองคงไม่ได้สนใจเจ้าดีพอ ข้าจึงพานางรับใช้มามอบให้ อย่างไรช่วงนี้เจ้าต้องดูแลหลายสิ่ง การเป็นสตรีข้างกายชินอ๋องไม่ใช่เรื่องง่าย”ฟ่านรั่วเจี๋ยมองไปยังนางรับใช้สองคนที่ท่าทางเหมือนสตรีชาวบ้านทั่วไป ทั้งคู่เป็นฝาแฝดอายุราวๆ สิบเจ็ดปีเห็นจะได้“รบกวนจวิ้นอ๋องหรูซื่อมากเกินไปแล้ว”“เล็กน้อย เพราะข้าเห็นว่าเจ้าปฏิเสธคนของแคว้นหมิง เลยให้บ่าวสองคนนี้มาช่วยงานแทน”ในครานั้นที่นางปฏิเสธองค์หญิงเล็ก ไม่รับสาวใช้เอาไว้ เพราะฟ่าน-รั่วเจี๋ยไม่รู้ว่าชะตากรรมของตนจะเป็นเช่นไร การให้คนที่อยู่ในแคว้นหมิงมาติดตามก็รังแต่จะสร้างภาระมากกว่าคอยรับใช้ สองฝาแฝดหน้าตาไม่ได้เหมือนกัน ทั้งคู่เป็นคนในแคว้นต้าหลางติดตามกองทัพมาตั้งแต่เล็กเพื่อช่วยงานในครัว คนพี่ชื่อจางฉี มีไฝที่มุมปากด้านซ้าย คนน้องชื่อจางหมิ่น ดวงตาโตและชอบยิ้มอยู่เสมอ“เอาละ ธุระข้ามีเพ

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    44 ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจ (3)

    “รั่วเจี๋ย ข้าสั่งเจ้าได้ยินหรือไม่”นางส่ายหน้าปฏิเสธ ความกลัวครอบคลุมจิตใจอย่างเร็ว นางจึงถอยหลังหนีเขา แต่ร่างสูงกระโดดออกจากอ่างน้ำและคว้าตัวนางไปกอดรัดในอึดใจต่อมา“ทะ...ท่านอ๋อง อย่าได้ข่มเหงน้ำใจข้าจนเกินไป”“ข่มเหงเจ้า ฮ่าๆ เหลวไหล ทั้งหมดที่ทำ ข้าต้องการช่วยเจ้าต่างหากรั่วเจี๋ย” เขาเอ่ยแล้วก็ค่อยๆ ดึงผ้าที่ปิดใบหน้าครึ่งล่างของนางออก หญิงสาวสะเทือนใจต่อการกระทำนั้น ขอบตาแดงระเรื่อ น้ำตาเอ่อคลอหน่วย“ใครอยากเห็นน้ำตาของเจ้า หยุดร้อง ไม่อย่างนั้นข้าจะกัดจมูกเจ้าเสีย” เขาเอ่ย พอเห็นว่านางเริ่มสะอื้นจึงใช้นิ้วยาวๆ บีบจมูกของฟ่านรั่วเจี๋ยซึ่งเป็นตอนนั้นที่นางต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก ถึงจะรู้ว่าตนเองมีสมุนไพรปรุงเอาไว้เพื่อช่วยรักษาความอัปลักษณ์และหินจากบ่อน้ำพุในตำหนักเย็นแต่ยามนี้ได้เกิดความมหัศจรรย์ขึ้น เมื่อไออุ่นจากเรือนกายของมู่ชิงซานมอบความรู้สึกซาบซ่านแก่นาง ซึ่งนอกจากทำให้กายสาวสั่นสะท้าน มันยังช่วยรักษาความน่าเกลียดของฟ่านรั่วเจี๋ยด้วย“คราวนี้เจ้าเข้าใจหรือยังว่าความอัปลักษณ์ที่ติดตัวเจ้านี้ เหตุใดจึงต้องมีข้าคอยดูแล!”ฟ่านรั่วเจี๋ยยังคงปกปิดใบหน้าด้วยผ้าคลุมเช่นเดิม แม้จ

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    43 ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจ (2)

    “ฮึ แล้วข้าสมควรอยู่ที่ใดถึงจะมีชีวิตรอด อย่าบอกนะว่าข้างกายท่าน”เมื่อคนที่วางสีหน้าขึงขังคำรามออกมาอีกหน นางก็ครั่นคร้ามใจ แต่ถึงขั้นนี้ ชีวิตย่อมต้องกลัวสิ่งใดอีก“ข้าคิดว่าตอนนี้เจ้าคงไม่เห็นชอบ แต่หากอยากทวงความยุติธรรมคืนให้ตนเองกับมารดา คงเหลือเพียงทางเลือกเดียวคือเป็นสตรีที่อยู่ข้างกายข้าเท่านั้น”“มะ...มู่ชิงซาน คนเลว! ทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเพราะท่านหลอกลวงข้า” นางเจ็บแค้นใจอย่างที่สุด มองร่างสูงใหญ่นี้แล้วอดคิดถึงเจ้าเป็ดน้อยของตนไม่ได้“ฮ่าๆ ข้าหรือจะมีเวลาล้อเล่นกับเจ้าถึงเพียงนั้น กินอาหารพวกนี้เสียแล้วเตรียมทำหน้าที่ของตนให้ดี”“หน้าที่อันใด!” ฟ่านรั่วเจี๋ยถามเขาเสียงเกรี้ยวกราด เป็นตอนนั้นที่ดวงตาคมกริบมองนางราวกับเป็นของหวาน หรือไม่ก็เนื้อสดๆ ที่เขาจะกลืนลงท้องอย่างโอชะ“เจ้าคิดว่าที่ข้ายอมเสียเกียรติไปรับเจ้ามาจากแคว้นหมิงเพื่อการใดหากไม่ใช่...” เสียงทุ้มตั้งใจยั่วแหย่ฟ่านรั่วเจี๋ย“ตะ...ต่ำช้า ทะ...ท่านคิดล่วงเกินข้าหรอกรึ” หญิงสาวหวีดใส่ชายหนุ่มและมิวายดึงปิ่นปักผมของตนออก พอเลื่อนสลักเล็กๆ มันก็กลายเป็นมีดสั้น ซึ่งนางไม่ได้คิดจะทำร้ายเขา หากใช้มันจี้ลำคอขาวผ่อง

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    42 ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจ

    ตกอยู่ในมืออ๋องปีศาจฟ่านรั่วเจี๋ยถูกพามาอยู่ในกระโจมที่พักส่วนตัวซึ่งสร้างขึ้นใหม่อย่างเร่งด่วน โดยอยู่ด้านหลังสุดของค่ายทหารต้าหลาง พื้นที่ตรงนี้เป็นเนินสูงและมีสายลมพัดผ่านเย็นสบาย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างรอบทิศถึงแม้ตบแต่งเน้นความเรียบง่ายเข้าไว้ แต่ฟ่านรั่วเจี๋ยก็พึงใจ ด้วยมันสงบมีความเป็นส่วนตัวเมื่อนางสำรวจรอบๆ กระโจมจึงพบว่ามีหลายสิ่งชวนให้ประหลาดใจทั้งกลิ่นกำยานหอมอ่อนๆ พร้อมต้นไม้ ดอกไม้ในกระถาง มองแล้วต้องฉงนมันคล้ายจำลองให้เหมือนในตำหนักเย็น เห็นดังนี้จะให้นางไว้ใจหมาป่ามู่ชิงซานได้อย่างไร น้ำหน้าอย่างเขาคงมีแผนร้ายเอาไว้ล่อลวงนางด้านนอกกระโจมมีทหารยามเฝ้าอยู่ พวกเขาถูกสั่งไม่ให้สื่อสารสิ่งใดเมื่อนางเอ่ยถามต่างพากันปั้นสีหน้านิ่งเฉย และทำได้เพียงแค่ชี้มือบอกว่านางห้ามออกไปไหนยามนี้มีสิ่งที่กังวลใจมาก นางไม่ได้อยู่ที่ตำหนักเย็น ดังนั้นหากไม่ได้รับไอความร้อนจากหินในบ่อน้ำพุและแร่ธาตุที่อยู่ในบ่อ ความอัปลักษณ์ก็จะอยู่บนใบหน้านางและประจักษ์ต่อสายตาทุกคนกระทั่งบ่ายคล้อยหยวนซางก็มาหานาง อีกฝ่ายเป็นคนสนิทของมู่ชิง-ซาน ฟ่านรั่วเจี๋ยคิดว่าคนเป็นนายกับลูกน้องช่างแตกต่างกันร

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    41 วาสนาอุ้มสมแล้ว

    ฟ่านรั่วเจี๋ยทำตาโต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คนสมองทึบไม่รู้มารยาร้อยเล่มเกวียนของบุรุษกลับเป็นนางหรอกหรือ! ความคิดของหญิงสาวสับสนหมุนวนไปมา พลางยกมือเรียวสวยข้างหนึ่งขึ้นอย่างเผลอไผล แล้วสัมผัสริมฝีปากอิ่มสวยของตน ยามนั้นนางคิดถึงรอยจูบที่เขาฝากเอาไว้ มือใหญ่ที่สัมผัสเรือนร่าง ทั้งเนินหน้าอกอวบ เอวคอด รวมถึงบั้นท้ายกลมงอน และพื้นที่แสนหวาน ทั้งที่นางบริสุทธิ์ใจ แต่เจ้าหมาป่าตัวร้ายนั้นคิดคด ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นมู่ชิงซานที่ตั้งใจหยามหมิ่นเกียรตินาง!“คนเลวตัวใหญ่...ทะ...ท่านต่ำช้า ข้าจะไม่ยอมให้ท่านดูแลข้าไม่ว่าในฐานะใด” ฟ่านรั่วเจี๋ยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห สองมือกำหมัดแน่นดวงตาคมกริบเกิดประกายวิบวับ เขาชอบใจที่นางกราดเกรี้ยว ฟ่าน-รั่วเจี๋ยย่อมต้องเป็นสตรีที่กล้าแกร่ง ยอมหักไม่ยอมงอ เช่นนี้นับว่าเขาไม่เสียเวลาเปล่ากับสิ่งที่กระทำมาทั้งหมด“ฮ่าๆ ถ้าไม่ยอมให้ตอบแทนน้ำใจ ฉะนั้นข้าก็จะเอาผิดเจ้าโทษฐานล่วงเกินชินอ๋องแห่งต้าหลาง อย่าลืมว่าเจ้าข่มเหงข้าอย่างไร และเรื่องนี้หากใครล่วงรู้ ข้าก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”ดวงตากลมโตมองคนหน้าด้านอย่างเหลือใจ“ชั่วช้า ท่านไม่สมควรเป็นลูกผู้ชาย”“ถูกต

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    40 เลี้ยงไม่เชื่อง

    ภาพเย้าหยอกของมู่ชิงซานกับฟ่านรั่วเจี๋ยทำให้สถานการณ์ที่ดูเหมือนตึงเครียดผ่อนคลายลงไปหลายส่วน กระนั้นหมิงอ๋องกลับคิดไม่ตก ตามที่จ้าวหานรายงาน บุรุษที่ฟ่านรั่วเจี๋ยเรียกว่า ‘เป็ดน้อย’ ย่อมเป็นชายคนนี้มู่ชิงซาน หรือชินอ๋องผู้เก่งกาจของต้าหลางเด็กหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนักพลางมองมู่ชิงซานและพี่สาวแสนอัปลักษณ์ของตน มีทางใดที่เขาจะทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้บัลลังก์มังกรของเขาไม่สั่นคลอน จริงอยู่ แคว้นหมิงเป็นแผ่นดินเล็กๆ เทียบไม่ได้กับแคว้นอื่น กระนั้นถึงจะเล็ก ทว่าดินแดนแห่งนี้กลับอุดมสมบูรณ์ด้วยการเพาะปลูกมีการแพทย์ที่เจริญรุ่งเรือง เป็นแหล่งการค้าทั้งทางแม่น้ำและถนน นอกจากนั้นยังมีสมบัติล้ำค่ามากมายจากธรรมชาติ หากผู้ใดคิดทำลายนับว่าโง่เขลา แต่หากต้องการยึดครอบครองก็ใช่ว่าจะกระทำได้ง่าย ดังนั้นแคว้นใหญ่อย่างต้าหลางจึงกระทำเพียงแค่ตั้งทัพมาคุมเชิงเอาไว้ เพื่อป้องกันการรุกรานด้านอื่นๆ พร้อมส่งไส้ศึกเข้ามาอยู่ในแผ่นดินนี้ เพื่อคอยรายงานข่าวและตัดแขนขาไม่ให้คนในแคว้นหมิงติดต่อขอความช่วยเหลือจากสิบสองเผ่าคนเถื่อนด้วยนานมาแล้วฝ่ายนั้นเคยปกครองที่นี่มาก่อนฟ่านเฉิงซีก้าวขามาข้างหน้าหนึ่งก้าว

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status