Share

2 หมาป่าตัวโตแห่งต้าหลาง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-17 11:39:25

หมาป่าตัวโตแห่งต้าหลาง

มู่ชิงซานผู้ดำรงตำแหน่งชินอ๋องแคว้นต้าหลาง นำทหารสามหมื่นชีวิตมาตั้งฐานทัพอยู่ไม่ห่างจากประตูเมืองแคว้นหมิง การยกทัพมาครั้งนี้ทำตามความประสงค์ของฮ่องเต้มู่เส้าซือผู้เป็นบิดา

เกือบสองปีที่ผ่านมามีรายงานถึงความกระด้างกระเดื่องของแคว้นหมิงมิขาด อีกทั้งผู้นำยังคิดร่วมมือกับสิบสองเผ่าคนเถื่อนเพื่อจะได้มีความเข้มแข็งทางการศึกดั่งเช่นแคว้นอื่นๆ ดังนั้นมู่ชิงซานจำเป็นต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ห้ามมิให้แผ่นดินนี้ได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มกำลังใดๆ ด้วยอาจส่งผลร้ายในภายภาคหน้า

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านอยู่กลางกระโจมบัญชาการแม่ทัพสายตาคมกริบจ้องแผนที่จำลองการออกศึก ก่อนหันไปมองภาพวาดสาวงามที่บุรุษทั่วหล้าต่างหมายปอง

“เหล่าสาวงามที่อ๋องชิงซานต้องการมาแล้วขอรับ” หยวนซางเอ่ยขึ้นอีกฝ่ายคือผู้ติดตามเขา เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ เป็นกุนซือประจำตัวมู่ชิงซาน หลายครั้งยังทำหน้าที่เงาให้แก่เขาด้วย

“ในนั้นมีองค์หญิงเยี่ยฉีหรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยถาม องค์หญิงใหญ่เยี่ยฉีนับว่าเป็นไซซีล่มเมือง นางคือผู้อยู่เบื้องหลังการแข็งข้อต่อแคว้นต้าหลางดังนั้นเขาจึงอยากปราบความโอหังของนางลง

“เกรงว่าจะทำให้ท่านอ๋องกริ้ว องค์หญิงเยี่ยฉีบอกว่าให้ประทานแพรขาวสามฉื่อหรือไม่ก็เหล้าพิษ ด้วยนางไม่ต้องการมารับใช้ท่าน”

มู่ชิงซานรู้ว่าที่นางกล่าวเช่นนั้นเพียงต้องการโก่งค่าตัวและหาทางถ่วงเวลา นางคงคิดว่าตนเก่งและเหนือกว่าผู้ใด ทว่าคนอย่างเขาไม่เคยยอมให้สตรีนางใดยื่นข้อเสนอมาต่อรอง

“ฮ่าๆ นางจะไม่ได้สิ่งใดจากข้า แต่จะถูกข้ามัดมือแล้วตีให้ขาหัก สั่งคนให้จับตัวนางมาเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะบุกเข้าไปหานางด้วยตัวเอง”

หยวนซางตกใจต่อคำพูดมู่ชิงซานจึงรีบเอ่ยค้าน

“ท่านอ๋อง เพียงแค่เรามาตั้งกองทัพเช่นนี้ก็บีบบังคับแคว้นหมิงเกินไปแล้ว ชาวเมืองต่างหดหัวอยู่ในบ้าน หากท่านต้องการได้ใจคนที่นี่ ควรให้พวกเขายอมแพ้แต่โดยดี ตามแนวทางของอ๋องหรูซื่อ” หยวนซางเป็นสหายมู่หรูซื่อ น้องชายมู่ชิงซาน ทั้งสองสนิทกัน หยวนซางเห็นว่ามู่หรูซื่อมีความประนีประนอมสูง ผิดกับคนเป็นพี่ชายที่มักมองว่ามู่หรูซื่ออ่อนแอ ทั้งนี้คงเป็นเพราะเขาได้นิสัยบิดา และฮ่องเต้มู่เส้าซือแห่งต้าหลางมีเมตตาสูง ซึ่งหลายครั้งนำมาซึ่งภัยใหญ่น้อยในหมู่เครือญาติ 

“บ้านเมืองที่อดีตผู้ปกครองบ้าตัณหาจนเกือบถูกข่านแห่งสิบสองเผ่าคนเถื่อนยึด พอหมิงอ๋องคนใหม่นั่งบัลลังก์ก็ไร้ซึ่งความเข้มแข็งเพราะถูกพี่สาวกุมอำนาจไว้ในมือครึ่งหนึ่ง หากปล่อยไว้นานกว่านี้ แคว้นหมิงคงล่มสลาย นับว่าบิดาข้ามองการณ์ไกลที่ให้ข้ามาเตรียมรับมือสิ่งต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ตอนนี้ข้าไม่เข้าไปจัดการหมิงอ๋องและพี่สาวของเขาให้ยอมก้มหัวสวามิภักดิ์ ก็นับว่าเห็นแก่สัญญาที่ทั้งเจ็ดแคว้นเคยลงนามไว้มากแล้ว”

หยวนซางถอนหายใจแรงๆ เขามิอาจเกลี้ยกล่อมชายหนุ่มได้ ตอนนี้คงต้องรอให้มู่หรูซื่อกลับมาเสียก่อน ฝ่ายนั้นคงมีวิธีทำให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด ทว่าผ่านไปหลายชั่วยาม เหตุใดองค์ชายสามแห่งแคว้นต้าหลางยังไม่ปรากฏตัว

“หามิได้ท่านอ๋อง อย่างไรข้าคงขอให้ท่านทบทวนเรื่องนี้ใหม่”

“เฮ้อ ข้าเบื่อที่จะฟังเจ้า หากไม่มีสาวงามเป็นที่พอใจ ข้าจะยิ่งหงุดหงิดกว่านี้”

หยวนซางเข้าใจอารมณ์ผู้เป็นนายดี เขาชอบความงามของสตรีพอๆกับการกรำศึกหนัก มู่ชิงซานถือดาบกวัดแกว่งฟาดฟันศัตรูพร้อมเสพสมกับสตรีก็เคยกระทำมาแล้ว แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ คนที่เขาต้องการกลับขู่จะฆ่าตัวตาย

“หากเจ้าพาตัวเยี่ยฉีมาไม่ได้ จงไปคัดเลือกสาวงามในแคว้นหมิงมาอีกหากข้าพึงใจนางใดก็จะใช้เป็นนางบำเรออุ่นเตียง แต่ถ้าไม่ได้เรื่อง จงโยนพวกนางให้ไปรับใช้ในค่ายทหารเถอะ!” คนที่มีอำนาจสูงสุดในกองทัพประกาศเสียงดัง

มู่ชิงซานก้าวออกจากกระโจมขนาดใหญ่ เขาเบื่อหน่ายอย่างหนักแผ่นดินหมิงไม่มีสิ่งใดชวนให้อภิรมย์ คราแรกตั้งใจเข้าไปยึดที่นี่ แต่บิดาสั่งให้ซื้อใจพวกคนขี้ขลาดเอาไว้ อีกทั้งไม่อยากมีปัญหากับแคว้นที่เหลือ ดังนั้นมู่หรูซื่อจึงอาสาเข้าไปเจรจากับหมิงอ๋องด้วยตนเอง

และถ้าหากต้องทำศึกกันจริงๆ แคว้นหมิงที่เล็กอาจได้รับความเสียหาย เขาจำเป็นต้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ไม่ให้บอบช้ำ เพราะเป็นสถานที่ซึ่งปลูกสมุนไพร อีกทั้งพืชผักผลไม้งอกงาม อากาศไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไปมีแม่น้ำไหลผ่านเหมาะแก่การทำเกษตรและค้าขาย ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือต้องทำให้ชาวเมืองยอมก้มหัวให้โดยไม่ใช้กำลังเข้าข่มเหง

ซึ่งในอนาคตเขาหวังจะให้ชาวหมิงส่งบรรณาการให้แก่ต้าหลาง และเป็นสถานที่สำคัญเพื่อให้เขาใช้ตั้งกองทัพเพื่อยกไปปราบสิบสองเผ่าคนเถื่อน

ขณะที่ก้าวออกมาด้านหลังกระโจม เขาก็ขึ้นควบอาชาศึกโดยสั่งห้ามไม่ให้มีผู้ติดตามรวมถึงองครักษ์ บรรยากาศในยามบ่ายแก่ๆ เย็นสบาย แสงอาทิตย์งดงามชวนให้คิดถึงความสำราญใจเมื่อเขาเป็นหนุ่มน้อย และได้อยู่ใกล้ชิดเหล่าหญิงงาม

ทั้งที่ต้องการขี่ม้าอย่างสงบเพื่อชมดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ แต่เสียงหวีดร้องที่ดังจากในป่าทำให้เขาขุ่นใจ ภาพเบื้องหน้าคือสาวงามหลายนางวิ่งกระหืดกระหอบหนีตาย โดยฝีมือกลุ่มทหารจากต้าหลาง แน่นอนว่ามันไม่ใช่คำสั่งของเขา การข่มเหงผู้อ่อนแอกว่ามู่ชิงซานไม่นิยม เขาเพียงแค่ต้องการนางบำเรอ และสตรีที่สนใจคือฟ่านเยี่ยฉี เมื่อเห็นภาพดังกล่าวเบื้องหน้า ย่อมแสดงว่าคำสั่งของเขามีผู้บิดเบือน จนเป็นเหตุให้ทหารปลายแถวพรากลูกสาวชาวบ้านเพื่อไปย่ำยี

ดวงตาดุจพญานกอินทรีมองเหตุการณ์บนหลังม้าเงียบๆ ทหารหลายนายกำลังไล่ต้อนสาวชาวบ้านที่หาของป่า และสตรีนางใดถูกจับตัวได้ก็นำตัวขึ้นรถม้าคันใหญ่ และจุดหมายคือการเป็นโสเภณีในค่ายทหาร แต่แรกเขาหวังจะสั่งสอนพวกทหารปลายแถวเสียเอง ทว่าหากด่วนลงมือจะทำให้เขามิอาจทราบว่าใครเป็นผู้บงการ ดังนั้นเรื่องนี้เขาคงให้หยวนซางสืบในภายหลัง

ชายหนุ่มบังคับม้าให้หมุนตัวไปอีกด้าน เขาควบขี่ต่อไป กระทั่งพบกับร่างหนึ่งที่วิ่งกระหืดกระหอบหนีตายมา ร่างนั้นเป็นสตรีรูปร่างอรชร ทว่าเสื้อผ้านั้นขาดวิ่น จึงเผยเห็นหัวไหล่นวลเนียนและหน้าอกหน้าใจอันอวบอิ่มสองเต้านั้นเด้งไหวตามการเคลื่อนตัว ทว่าพอนางเงยหน้าขึ้นมองมาทางเขา ดวงตาคมกริบพลันประหลาดใจ ยามนั้นหัวคิ้วเข้มๆ ของเขาขมวดมุ่นใบหน้านั้นหาใช่สาวงาม!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    121 ตอนพิเศษ 2 (จบ)

    ฟ่านรั่วเจี๋ยมองเรือนทานตะวันแล้วคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นยามนี้นางมีทุกสิ่งที่ต้องการ ถึงแม้อดีตจะแก้ไขไม่ได้ แต่นางไม่ใช่สตรีอัปลักษณ์ที่อยู่ในตำหนักเย็นอย่างเดิมอีกต่อไป มารดานางคือองค์หญิงหรงจื่อแห่งแคว้นฉีเฟิงที่ล่มสลายลง ในบันทึกสำนึกความผิดที่นางได้อ่าน มารดาไม่ได้เขียนถึงความเจ็บแค้นต่อผู้ใด หากเล่าถึงบ้านเมืองที่จากมารวมถึงการปลูกสมุนไพรต่างๆ ซึ่งล้วนสามารถใช้ในทางการแพทย์ได้“เจี๋ยเจี๋ยอยากให้สามีกระทำสิ่งใดเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของมารดาเจ้าหรือไม่”ฟ่านรั่วเจี๋ยยิ้มแล้วตอบเขาว่า“ข้าคิดว่าความตั้งใจของท่านแม่คือได้ใช้ชีวิตอย่างสงบและช่วยเหลือผู้คน ตำรับยาต่างๆ ที่ข้าได้เรียนรู้อาจไม่ใช่การปรุงยาชั้นเลิศ แต่มันกลับช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย และสิ่งที่ต้องการของท่านแม่หาใช่การแก้แค้นหรือคิดกอบกู้ชาติที่ล่มสลายไปให้คืนกลับมาอย่างที่ข้าเคยเข้าใจ ในความจริงเมื่อวันเวลาเปลี่ยนผู้คนก็เปลี่ยน หลายชีวิตล้มหายตายจาก บ้างได้รับกรรมของตน บ้างสุขสบายมีตำแหน่งใหญ่โต แต่ผู้ใดก่อกรรมไว้อย่างไรคงหนีไม่พ้น เช่นนี้ข้าคงต้องปล่อยให้แต่ละคนรับผลการกระทำของตนเอง น่าจะเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    120 ตอนพิเศษ (1)

    ตอนพิเศษสองใจรวมเป็นหนึ่ง ผมขาวไม่ทอดทิ้งมู่ชิงซานใช้เวลาที่เมืองหลวงต้าหลางไม่นานนัก กระนั้นเด็กฝาแฝดทั้งสองคนก็ได้มีเวลาเที่ยวเล่นจนเป็นที่พอใจ แต่ดูเหมือนคนเป็นบิดาจะไม่ได้ทำหน้าที่แม่ทัพใหญ่เท่าที่ควร ทั้งที่ฮ่องเต้กับฮองเฮาส่งเทียบเชิญมาให้เขาหลายฉบับ แต่ชายหนุ่มเมินเฉย และให้หยวนชางจัดการธุระต่างๆ แทนส่วนตัวเขาเอาแต่อยู่ในเรือนทานตะวัน และหาเรื่องกินฟ่านรั่วเจี๋ยไม่หยุด“เจี๋ยเจี๋ย...อีกนานกว่าข้ากับเจ้าจะได้กลับมาที่นี่ ฉะนั้นเราควรใช้เวลาอย่างเต็มที่ เมื่อจากไปจะได้ไม่คิดเสียดาย”ฟ่านรั่วเจี๋ยมองสามีตัวโต ผู้ชายอย่างเขาพอได้คืบก็จะเอาศอก ตอนแรกที่นางคลอดสองแฝดใหม่ๆ เขาไม่ยอมร่วมเตียงด้วย ทว่าเมื่อนางเปิดโอกาสให้กินปากกินเต้าหู้นาง เจ้าเป็ดน้อยก็กลายร่างเป็นหมาป่าจอมตะกละ“เยี่ยงนั้นอ๋องซานจงออกไปชื่นชมต้นไม้ สวนหิน และน้ำตกจำลองสิเหตุใดถึงเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมภรรยาอยู่เช่นนี้”“มิได้ ข้าหมายถึงการอยู่ด้วยกันสองต่อสองในเรือนทานตะวันอันหอมหวานอย่างไรเล่า หาใช่ออกไปสูดอากาศข้างนอก”ฟ่านรั่วเจี๋ยอมยิ้มอย่างรู้ทันสามี คนอย่างเขาเมื่อตั้งใจจะกระทำสิ่งใดหากให้ล้มเลิกความคิดย่อมเป็นไปไม

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    119 เนื้อแท้ของสตรีอัปลักษณ์ (2)

    “ต่อแต่นี้ท่านจะทำเยี่ยงใด” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยถามเขา“แผ่นดินกว้างใหญ่ คนอย่างข้าย่อมไม่อับจนหนทาง” มู่หรูซื่อยังกล่าวด้วยความหยิ่งทะนง จากนั้นจึงใช้ไม้เท้าพยุงตัวก้าวห่างฟ่านรั่วเจี๋ย“อย่างไรขอให้ท่านอย่าได้ใจร้ายต่อนาง” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยตามหลังมู่หรูซื่อ แต่แรกนางอยากช่วยฟ่านเยี่ยฉีให้หายจากอาการคุ้มดีคุ้มร้าย แต่พอคิดว่าหากอีกฝ่ายได้สติกลับคืน นางคงต้องเจ็บปวดและทุกข์อย่างสาหัสกระนั้นนางก็มิอาจปล่อยให้พี่สาวต่างมารดาเผชิญชีวิตอย่างลำบาก จึงไหว้วานองครักษ์ผู้หนึ่งคอยติดตามความเป็นไปสองคนนี้อยู่ห่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือ“ฮ่าๆ นางปีศาจจิ้งจอกผู้นี้เป็นภรรยาของข้า เยี่ยงนั้นข้าย่อมปฏิบัติต่อนางอย่างให้เกียรติ”เมื่อมู่หรูซื่อกล่าวจบ ฟ่านเยี่ยฉีจึงเอ่ยเสียงราวกับเด็กน้อย“หนอน...นะ...นั่นหนอนกู่!”ฟ่านเยี่ยฉีมองผีเสื้อตัวโตซึ่งมันบินมาอยู่ใกล้ๆ นาง จึงตั้งท่าจะกระโดดจับเอาไว้ แต่มู่หรูซื่อส่งเสียงเข้มตวาดใส่ หญิงสาวเลยกลัวจนตัวสั่น“ในที่สุดนางก็ได้พบมัน แต่ทุกอย่างคงสายเกินไป” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยและมองผีเสื้อที่นางเลี้ยงดูตั้งแต่เป็นนางพญาหนอนกู่จนวันนี้มันกางปีกสวยงาม พร้อมออกไปใช้ชีว

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    118 เนื้อแท้ของสตรีอัปลักษณ์

    เนื้อแท้ของสตรีอัปลักษณ์เซี่ยเหยียนยืนอยู่ที่ลานวัด นางปลาบปลื้มใจเมื่อเห็นหลานฝาแฝดหญิงชาย จูหว่านต้านเทียนเป็นเด็กน่ารัก อีกทั้งใบหน้าและอากัปกิริยาเดินเหินล้วนทำให้ผู้มองมีความสุข“ซานเอ๋อ เจ้าเป็นเด็กใจร้ายต่อแม่ไม่เปลี่ยน” เซี่ยเหยียนเอ่ยจบแล้วต้องหัวเราะอีกคราเมื่อจูหว่านส่งยิ้มให้นาง พร้อมมอบขนมแป้งทอดไส้ไก่สับหน่อไม้ให้ด้วยชิ้นใหญ่ โดยไม่รู้ว่าตั้งแต่มาอยู่บนวัดแห่งนี้ คนเป็นย่ากินเจและถือศีลอย่างเคร่งครัด เซี่ยเหยียนตั้งใจมั่นว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในวังหลวงอีก ดังนั้นยามนี้เซี่ย-เหยียนจึงมีฐานะเป็นเพียงสามัญชน “หลานย่าช่างมีจิตใจดี” นางว่าแล้วจึงลูบผมเด็กหญิงซึ่งตัวโตกว่าน้องชาย ทั้งแข็งแรง เสียงพูดดังกังวาน ท่าทางแม่นางน้อยเฉลียวฉลาด ดูเป็นผู้นำเกินวัย ซึ่งกล่าวไปแล้วหากจูหว่านจะเอาดีทางด้านการทหาร มู่ชิง-ซานคงสนับสนุนนางอย่างไม่คัดค้าน “ท่านย่า ข้ามีของมาฝากเช่นกัน” เด็กชายว่าแล้วจึงส่งปิ่นไม้ปักผมให้เซี่ยเหยียน มันเป็นปิ่นที่เขาซื้อมาจากมู่หรูซื่อนั่นเอง“หลานชายช่างเอาใจสตรีเก่ง” เซี่ยเหยียนว่าและจับปิ่นไม้พลิ

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    117 พ่ายแพ้เพราะตัวเจ้าเอง (3)

    กระทั่งนางกัดเขาที่แก้มจนมู่หรูซื่อร้องโอดโอย ด้วยเลือดเขาไหลทะลักออกมา“นังบ้า!” มู่หรูซื่อเมื่อได้แผลเหวอะหวะจึงบันดาลโทสะ ทั้งตบทั้งถีบฟ่านเยี่ยฉีเท่าที่แรงเขาพอมี แต่มันไม่อาจทำให้นางได้รับอันตรายรุนแรงด้วยชายหนุ่มไร้วรยุทธ์ อีกทั้งแรงของเขายังน้อยกว่านาง“จะ...เจ้าจะทำอะไรลูกของเรา”ฟ่านเยี่ยฉีเอ่ยจบก็เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้ นางมองมายังต้านเทียนเห็นเด็กชายมีใบหน้าคล้ายมู่หรูซื่อหลายส่วน อีกทั้งในแววตาเขาดูคล้ายบิดาของนางเหลือเกิน ซึ่งเต็มไปด้วยความสดใสและอบอุ่น“ลูกแม่...” นางเอ่ยจบจึงกวักมือเรียกต้านเทียนให้เข้าไปหา“ท่านจำคนผิดแล้ว” ต้านเทียนตอบ กระนั้นยังก้าวไปใกล้ๆ นางและพยายามปลอบใจฟ่านเยี่ยฉี“ช่างเป็นคนที่น่าสงสาร ท่านเจ็บปวดตรงไหนหรือไม่” เด็กชายถามฟ่านเยี่ยฉี“แม่ไม่เป็นอะไร” นางว่าจบก็จับที่ท้องของตน พลางย้อนคิดถึงภาพความหลังที่เหมือนกับฝันร้ายยาวนานหลังจากถูกอี๋เซียงจับตัวไป นางถูกตัดหู กรีดหน้าจนตาข้างหนึ่งถลนออกมา สุดท้ายมันเน่าจนต้องควักทิ้ง พอนางฟื้นได้สติอีกครั้งก็รู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ แต่ความยากลำบากที่ต้องหลบหนีศัตรูมากมายทำให้นางแท้งจากนั้นจึงกลายเป็นหญิงเสี

  • ฟ่านรั่วเจี๋ยอัปลักษณ์ตำหนักเย็น    116 พ่ายแพ้เพราะตัวเจ้าเอง (2)

    จางหมิ่นไม่คิดว่าเมื่อครู่ที่ออกตามหาหมูแคระให้จูหว่านจะทำให้ต้านเทียนหายตัวไป แต่เมื่อหาเด็กชายอยู่เกือบชั่วหนึ่งก้านธูปดับ ก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ชอบมาพากล อีกทั้งเหล่าองครักษ์ยังมารายงานว่า คุณชายน้อยอาจถูกใครบางคนลักพาตัวไปเมื่อมู่ชิงซานทราบข่าวเขาไม่ได้ตำหนิใคร เพียงแต่ให้กระจายกำลังตามหาลูกชาย ส่วนจูหว่านที่ก่อเรื่องนางเอาแต่นิ่งเงียบ ด้วยรู้ว่าบิดากับมารดากำลังร้อนใจเรื่องต้านเทียนฟ่านรั่วเจี๋ยสังหรณ์ใจไม่ดี กระทั่งนางเดินไปตามตรอกเล็กๆ ก็ได้ความว่ามีคนเห็นต้านเทียนถูกคนขายเครื่องประดับที่แต่งตัวเหมือนขอทานพาตัวไป“ท่านยายมั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาด”“แน่นอน ข้ากับหลานเห็นเต็มสองตา คนพวกนั้นเหมือนขอทานเร่ร่อนตอนแรกจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาไล่แล้ว แต่เห็นว่าภรรยาของเขาน่าเวทนา ข้าเลยยอมให้นั่งขายของใกล้ๆ กัน”“พวกเขามีหน้าตาและแต่งตัวเช่นไร”หญิงชราเล่ารายละเอียดที่นางพบเห็นให้ฟ่านรั่วเจี๋ยฟัง และเมื่อรับรู้หญิงสาวก็ใจหาย“เป็นพวกเขาจริงๆ แต่เหตุใดถึงได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนั้น”“เจี๋ยเจี๋ย...พวกเขาก่อกรรมมามิน้อย เจ้าสงสารได้แต่อย่าใจอ่อนให้อีก มิเช่นนั้นอาจเป็นเจ้าที่ต้องถูกพวกเขาทำร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status