“หากเจ้ากล้าขยับแขนออกไปเพียงนิดละก็…” “นี่ก็แทบจะสิงร่างของพระองค์แล้วนะเพคะ” “เจ้าเลือกจะทำเช่นนี้เอง เช่นนั้นก็อย่าบ่น” "จ้าวเฟยเฟย แพทย์สนามยุคปัจจุบันถูกศัตรูสังหารกลางสนามรบระหว่างรักษาทหารที่ป่วย" ข้ามมิติกลับมายุคโบราณสวมร่างแฝดคนน้องของคหบดีที่ร่ำรวยที่สุด "หลินเฟยเย่" ที่ถูกพิษจนตาย เรื่องราวดำดิ่งจนกลายเป็นความแค้นระหว่างสตรีในตำหนักอ๋อง.... นางเอกสายเหวี่ยง กลับเข้าตำหนักอ๋องครั้งนี้... โหด ดุ ฟาดไม่ไว้หน้าไม่ว่าจะหัวหงอกหัวดำก็ไม่ไว้หน้าทั้งสิ้น!! แต่จู่ๆ....ท่านอ๋องผู้นั้นก็กลับมา... นี่มันไม่ได้อยู่ในแผนนะ แล้วทำไม..ท่านอ๋องถึงรูปงามขนาดนี้เล่าเพคะ "แม่จับปล้ำซะดีมั้ยนะ!!! นิยายเป็นแนว ตบ ตี ตลาด แก้แค้น เอาคืนปากจัด นางเอกสายเหวี่ยง ฟาดนะคะ พระเอกก็ออกแนวคลั่งรัก ละมุนแต่ก็แอบฟาดอยู่เด้อ แม้จะไม่ดุเหมือนเรื่องอื่น แต่เรื่องบนเตียงน๊านนน...ไม้แพ้อ๋องในในใต้หล้า...
ดูเพิ่มเติมเมืองฉางอัน
เสียงประทัดมงคลดังขึ้นหน้าจวนคหบดีหลิน ต่อเนื่องยาวทั้งตรอกลั่วจินเนื่องจากงานมงคลใหญ่ บุตรีของคหบดีหลินเต๋อ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระชายาท่านอ๋อง “เว่ยจื่อหาน” อ๋องผู้ปกครองแคว้นเฉินโจว
“เจ้าสาวเรียบร้อยหรือยัง มาเร็ว ๆ เกี้ยวมารอรับอยู่หน้าจวนแล้ว”
“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”
“คุณหนู”
“อาจิงฝากดูแลเฟยเย่ด้วย”
“คุณหนูเจ้าคะ”
“ข้าไปนะ”
คำนั้นน่าจะเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ "หลินเฟยลี่" บุตรสาวคนโตของคหบดีเลื่องชื่อบอกกับสาวใช้ที่ดูแลพวกนางและเติบโตมาพร้อมกัน
แคว้นเฉินโจวที่ปกครองโดยเว่ยอ๋องผู้เป็นบุตรของท่านอ๋องเว่ยเสวี่ยที่สิ้นไปเมื่อสี่ปีก่อน แม้ว่าจะปกครองด้วยคุณธรรม แต่บ้านเมืองในยามนี้มีศึกสงครามรอบด้าน
หลายแคว้นทำศึกต่อเนื่อง ทั้งทรัพยากรและเงินทองต่างก็เริ่มหมดจากท้องพระคลัง ราชสำนักไม่มีเงินมากพอที่จะแจกจ่ายไปตามแคว้นต่าง ๆ
ดังนั้นท่านอ๋อง“เว่ยจื่อหาน” จึงตัดสินใจรับข้อเสนอของคหบดีผู้มั่งคั่งที่สุดในเฉินโจว โดยการอภิเษกและแต่งตั้งบุตรสาวของหลินเต๋อเป็นพระชายา
“ส่งตัวเจ้าสาว”
ตำหนักท่านอ๋อง
“นางก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาแล้วงั้นหรือ”
“ทูลไท่เฟย เกี้ยวออกมาจากจวนคหบดีหลินแล้วเพคะ”
“แล้วสินเดิมที่ติดตัวนางมา จัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง เอารายการมาให้ข้าดูอีกที ก่อนส่งนางเข้าตำหนักจงให้คนตรวจสอบให้ละเอียด”
“เพคะ แต่ว่าไท่เฟย ท่านอ๋องตรัสสั่งไว้ว่า…”
“ที่นี่มีข้าดูแลอยู่ การตรวจสอบเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว ก่อนจะส่งให้ท่านอ๋อง ข้าปกครองในเรือนหลัง การรับนางเข้ามาก็เท่ากับนางเป็นคนตำหนักอ๋อง ดังนั้น ทรัพย์สินที่ติดตัวนางมา…”
“เพคะ หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะไท่เฟย”
“ท่านอ๋องเตรียมตัวเสร็จแล้วหรือยัง”
“ทูลไท่เฟย ท่านอ๋อง…อยู่ที่ห้องทรงอักษรเพคะ”
“อืม ให้คนไปแจ้งตอนเวลาส่งตัวก็แล้วกัน ถึงอย่างไรการแต่งงานนี้ เขาก็มิอาจเลี่ยงได้แล้ว”
“เพคะไท่เฟย”
“หยงไท่เฟย” พระชายารองของอดีตท่านอ๋องเว่ยผู้เป็นบิดา ในตอนนี้นางเป็นผู้ดูแลตำหนักอ๋องและเรือนหลัง
นางเป็นคนออกอุบายเสนอให้บุตรสาวคหบดีแต่งเข้ามาในตำหนักอ๋องเพื่อแลกกับทรัพย์สินกึ่งหนึ่งของจวนคหบดีหลินโดยอ้างว่าจะต้องนำเงินมาช่วยกองทัพเฉินโจวเพื่อช่วยท่านอ๋องรับศึกที่เกิดที่ชายแดนในตอนนี้
จวนคหบดี
“พี่ใหญ่ข้าละ ท่านพี่…แค่ก แค่ก”
“คุณหนู อย่าพึ่งลุกเจ้าค่ะ”
“อาจิง ข้าได้ยินเสียงประทัด ได้ยินเสียงแตรและวงดนตรี บอกข้ามา เฮือก!!…ว่าท่านพี่…แคก แคก”
“คุณหนูเจ้าคะ ได้โปรดนั่งลงก่อน ท่านไอเป็นเลือดอีกแล้ว”
“บอกข้ามา!!”
อาจิงตัวสั่นเทาไปทั้งตัวพร้อมกับน้ำตารื้นที่เช็ดออกไม่หมด นางรับปากคุณหนูใหญ่เอาไว้ ให้นางออกจากจวนก่อนแล้วค่อยบอก
“หลินเฟยเย่” น้องสาวฝาแฝดของนาง“คุณหนูใหญ่….ไปแล้วเจ้าค่ะ”
สีหน้าตกใจของหลินเฟยเย่ทำเอาอาจิงตกใจเมื่อนางเริ่มตาค้างและหายใจติดขัด นางป่วยกระเสาะกระแสะเพราะถูกพิษก่อนหน้าจะถึงงานแต่งงานที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
“เจ้าบอกว่าพี่ใหญ่….ไป….ไปแล้ว นาง…นี่นาง…เฮือก….”
“คุณหนู!! เร็วเข้าใครอยู่ข้างนอก รีบเรียกท่านหมอเร็วเข้า คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู!!”
กองทัพรักษาการณ์ชายแดนประเทศจีน ปี 2023
ระเบิด สายลับนั่น ลอบเข้ามาในกองทัพ ใช้อาวุธร้ายแรงทำให้พวกเขาสำลักควันพิษ ฉันหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิดแต่ก็ถูกพวกมันจับได้และยิงเข้ากลางหลังจนตาย ทำไมกัน นี่ฉันยังทำภารกิจไม่สำเร็จเลย ทำไม ไม่ยุติธรรม!!
“เธอเป็นใคร ร้องไห้ทำไม”
“ช่วยข้า ช่วยข้ากับพี่สาวข้าด้วย”
“ภาษาอะไรกัน ทำไมพูดเหมือน โห ไม่ใช่แค่คำพูด ชุดก็โบราณมากหรือว่า…ไม่สิ ไม่ละมั้ง เรื่องแบบนี้มีแต่นิยายเท่านั้นแหละที่กล้าเขียน แม้แต่ซีรี่ย์ยังไม่กล้าทำเลยนะ”
“ช่วยด้วย ช่วยข้ากับพี่สาวด้วย ไม่มีเวลาแล้วข้ากลับไปไม่ได้ แต่เจ้าไปได้ข้าจะค่อย ๆ บอกทีหลัง”
“เดี๋ยวก่อนสิ เธออย่าผลักฉัน เดี๋ยวก่อนจะให้ไปไหนละ ฉันก็อยากกลับบ้านนะ เฮ้ย เวรเอ๊ย!! อ๊ากก…..”
ราวกับถูกผลักไปในหลุมที่ไม่มีที่สิ้นสุด ใบหน้าสุดท้ายที่มองเห็นช่างงดงามแต่ก็เศร้าที่สุดที่เคยพบมา เธอเป็นใครกันนะแล้วนี่คือฉันตายแล้วเหรอ
“เฮือก!!….”
“คุณหนู!! ท่านฟื้นขึ้นมาแล้ว ท่านหมอเจ้าคะ เร็วเข้า คุณหนู ….ฟื้นแล้ว”
“โอ๊ย เชี่ยไรเนี่ย เจ็บชิบ….แสงอะไรจ้าแบบนี้ โอ๊ย อะไรวะเนี่ย”
ราวกับหลับไปนานแสนนาน “จ้าวเฟยเฟย” ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงที่จ้าจนนางปรับตัวไม่ทัน แต่เรื่องที่นางฝันนั้นประหลาดนัก บุตรคหบดีของเฉินโจวเป็นฝาแฝด เดิมทีนางต้องแต่งเข้าจวนอ๋องแต่ถูกวางยาพิษเสียก่อน พี่สาวฝาแฝดจึงถูกส่งตัวไปแต่งแทน
พวกนางมิได้ยินยอมที่จะแต่งงาน บิดาของพวกนางถูกข่มขู่แกมบังคับจากหยงไท่เฟยเป็นผู้ออกอุบายในเรื่องนี้เพราะความโลภในทรัพย์สินของจวนคหบดีหลิน
“โอย ปวดตา”
“คุณหนูเจ้าคะ ท่านหมอมาแล้วเจ้าค่ะ”
นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา มองเห็นท่านหมอที่ดูมีอายุ ไว้เคราขาวเล็กน้อยหน้าตามีภูมิและมีความรู้ดูใจดีจ้องมองมาที่นางที่กำลังมองเขาอย่างนึกสงสัย
“คุณหนู ท่านรู้สึกยังไงบ้างขอรับ สองเดือนที่ท่านหลับไปไม่รู้สึกตัว ตาของท่านอาจจะยังปรับแสงได้ยากนิดหน่อยขอรับ”
หลับไปเกือบสองเดือนงั้นหรือ นางหันไปมองรอบ ๆ สภาพห้องนอนที่หรูหรา เครื่องประดับไม้ราคาแพงถ้วยโถประดับไปด้วยเครื่องทองเหลืองมูลค่าสูงแม้แต่เครื่องแต่งกายของสาวใช้และเครื่องนุ่งห่ม แค่มองก็พอจะรู้ว่า “คุณหนู” ที่พวกนางเรียกนั้นร่ำรวยขนาดไหน นั่นแสดงว่าเรื่องที่อยู่ในหัวนางตอนนี้….
“Oh! Shit!! Impossible!! (เป็นไปไม่ได้)”
อาจิงและท่านหมอตกใจจนเกือบทำถ้วยยาในมือร่วงเมื่อได้ยินหลินเฟยเย่พูดจาด้วยภาษาประหลาดที่นางไม่เคยได้ยินมาก่อน และตอนนี้นางก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นมาและเดินไปรอบ ๆ ห้องราวกับจะสำรวจ
ความทรงจำของหลินเฟยเย่ทุกๆความทรงจำไหลเข้ามาตั้งแต่นางนอนอยู่จนตอนนี้นางจำได้จนหมดว่าเกิดอะไรกับร่างนี้ นางเหลือบไปดูคนรอบ ๆ ข้างนางอย่างนึกระแวง
“ไม่ได้ พวกเขาจะรู้ไม่ได้ งั้นฉัน ไม่ใช่ ข้าก็ต้องรับบทเป็นนางสินะ เอาละนะหลินเฟยเย่ในเมื่อข้าได้โอกาสเข้ามาอยู่ในร่างของเจ้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”
หลินเฟยเย่เดินไปที่กระจกพร้อมกับส่องดูใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย นางเคยเห็นใบหน้านี้มาก่อนราวกับกำลังสำรวจเรือนร่างอย่างนึกพอใจจนอาจิงและท่านหมอนั่งอ้าปากค้างเพราะคิดว่านางคงบ้าไปแล้ว
“สวยฟาดมากแม่ ตัวเล็กแต่หน้าอกใหญ่ใช่เล่นนะเรา หึหึ”
“คะ…คุณหนูเจ้าคะ ทะ…ท่าน สบายดีหรือไม่”
“อ้อ ข้าสบายดี สบายดีมากเลยละ ไหนดูก่อนนะ”
นางหันมาตอบอาจิงและหมุนตัวมานั่งพร้อมกับจับชีพจรของตัวเองเพื่อตรวจดู ท่านหมอยังคงอ้าปากค้างอยู่ด้วยความไม่เข้าใจว่านางกำลังทำอะไร
“อืม ถูกพิษกระจอกนี่ก็ป่วยแล้วสินะ อืม แก้ไม่ยาก พิษนี้สมัยข้ามียาแก้แล้วเพียงแค่ต้องใช้ของมากหน่อย ร่างกายอ่อนแอเกินไปลมหายใจไม่สม่ำเสมอคงต้องปรับธาตุในร่างกายใหม่ ความดันต่ำ นอนขนาดนี้ยังต่ำอีก โห ต้องบำรุงด่วน ๆ เลยนะเนี่ย นี่...เจ้าน่ะ!!”
อาจิงถึงกับตกใจเมื่อหลินเฟยเย่หันมาเรียกนางเสียงดัง
“เจ้าคะคุณหนู”
“ไปต้มยาบำรุงให้ข้าที บอกให้เขาต้มซุบ ไม่สิ น้ำแกงใส่กระดูกหมู โกจิเบอร์รี่ ไม่สิ ๆ สมัยนี้เขาเรียกอะไรละ อ้อ เก๋ากี้ ใส่รากบัวเยอะ ๆ เง็กเต็ก ปักคี้มากหน่อยข้าต้องบำรุง อ้อ ไม่ต้องใส่ตานเซินมานะ ข้านอนมากพอแล้ว”
“เอ่อ…..เจ้าค่ะ”
เฟยเย่หลับไปหลังจากให้นมท่านหญิงน้อยไม่นานเพราะความอ่อนเพลีย หลังจากนั้นท่านอ๋องน้อยก็เดินกลับมาพร้อมกับอาชิงและแม่นมลี่ที่บอกท่านอ๋องน้อง จื่อหรงเรื่องการคลอดบุตร“จริงหรือแม่นม ครั้งที่คลอดข้าเสด็จแม่ก็ร้องเช่นนี้หรือ”“ใช่เพคะ แต่ครั้งนี้พระชายาทรงเจ็บสองครั้งเพราะว่าท่านอ๋องน้อยได้น้องสาวเพิ่มมาสองคนเลยนะเพคะ”“สองคนหรือ สองคนเลยงั้นหรือ ที่เสด็จพ่อบอกว่าจะมีแฝดคือคลอดสองคนงั้นหรือ”“ใช่เพคะ ท่านอ๋องอยากจะไปเยี่ยมท่านหญิงทั้งสองหรือไม่เพคะ”“ข้าไปได้งั้นหรือ แล้วเสด็จแม่เล่า”“พระชายานอนพักอยู่ในห้องพักเพคะท่านอ๋องทรงเฝ้าอยู่เพคะ”“ไป ข้าอยากไปหาน้องสาวของข้า”“ได้เพคะหม่อมฉันจะพาไปนะเพคะ”แม่นมลี่และอาจิงพาจื่อหรงเดินไปที่ห้องของท่านหญิงน้อยสองคนที่นอนอยู่ที่แปลเดียวกัน ซึ่งเป็นเปลที่ท่านอ๋องน้อยเคยใช้มาก่อนหน้านี้แต่ในตอนนี้คงต้องสั่งทำเพิ่มเพราะน้องสาวเขามีสองคน จื่อหรงมองไปยังเด็กที่มีผ้าแพรสีแดงห่อหุ้มอยู่อีกคนห่อด้วยผ้าแพรสีน้ำเงินทั้งคู่หลับสนิทอยู่ในเปลเดียวกัน“นั่น…เด็กงั้นหรือเหตุใดพวกนางจึงตัวเล็กและนอนนิ่งนัก”“ท่านหญิงพึ่งจะกินนมและหลับไปเพคะ”“เป็นก้อนกลม ๆ อ้วน
หลังจากที่ท่านอ๋องน้อยได้รับการสอนวิชาดาบ มากว่าสามเดือน วันนี้เว่ยจื่อหรงได้มีโอกาสจับดาบเป็นครั้งแรก อาจารย์ผู้สอนให้เขาทดลองจับดาบกิเลนไฟที่เขาได้รับจากท่านอ๋องในวันครบรอบหนึ่งขวบ ท่านอ๋องแม้ว่าในครั้งแรกจะแทบยกไม่ขึ้นแต่ก็ไม่ทิ้งความพยายามในการร่ำเรียน ไม่นานก็เริ่มคล่องและเริ่มฝึกอย่างจริงจัง“เหตุใดเจ้ายังมานั่งดูจื่อหรงอยู่ตรงนี้อีกเล่าเฟยเฟย แล้วยาพวกนี้ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าไม่ให้ทำแล้ว เหตุใดพวกเจ้าไม่ปรามนาง”“ก็แค่นั่งคัดแยกเอาไว้แก้เบื่อเพคะ เหตุใดพระองค์ช่างบ่นมากความ บ่นมากกว่าแม่นมลี่เสียอีก”“ท้องเจ้าโตขนาดนี้ยังจะมานั่งตากลมอีก แม้ว่าจะเป็นช่วงปลายฤดูหนาวแล้วแต่อากาศก็ยังคงเย็นอยู่นะ”ท่านอ๋องบ่นพลางกับสวมชุดคลุมให้เฟยเย่อีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ร่างกายนางอบอุ่นแต่เขาดึงถาดยาที่นางถือไว้ยื่นไปให้อาจิงแล้วพร้อมกับจับมือนางมาซุกเตาอุ่นมือ“มือเย็นขนาดนี้ยังจะเถียงข้าอีก เหตุใดเจ้าต้องดื้อแข่งกับจื่อหรงด้วยนะ”“พระองค์ทรงกังวลเกินไปต่างหาก หม่อมฉันก็แค่…”ท่านอ๋องหันไปมองใบหน้าที่บิดเบี้ยวแปลก ๆ ของพระชายา พร้อมกับที่นางเริ่มจับที่ท้องที่โตเกินกว่าตัวนาง“เฟยเฟยเจ้าเป็นอะไร
ฤดูหนาวห้าปีถัดมา“จื่อหรง เจ้าอย่าวิ่งเล่นไปทั่วเช่นนั้นหากเสด็จพ่อมาเห็นเจ้าเล่นดาบไม้แล้วไม่นำไปเก็บให้ดีละก็….”“เสด็จแม่ ท่านก็อย่าบอกเสด็จพ่อสิพ่ะย่ะค่ะ ลูกแค่อยากเล่นเพิ่มอีกหน่อยมิใช่ว่าจะไม่เก็บแต่เมื่อเช้าอาจารย์หวางเอ่ยชมข้าด้วยว่าข้าตอบกลยุทธ์การศึกได้ยอดเยี่ยม”“ก็ได้ ๆ แต่เจ้าอย่าวิ่งวนไปใกล้สระเช่นนั้น หากพลัดตกลงไปแม่จะลุกไปช่วยเจ้าไม่ทัน”“ท่านอ๋องเสด็จ!!”“หรงเอ๋อร์เสด็จพ่อมาแล้ว รีบมานั่งนี่เร็วเข้าทำตัวเงียบ ๆเก็บดาบไม้เจ้าไปก่อน”แม้ว่าจะปรามบุตรชายก่อนหน้านี้แต่เมื่อถึงเวลาเข้าจริง ๆ พระชายาก็ไม่อยากให้ท่านอ๋องน้อย “เว่ยจื่อหรง”ต้องถูกท่านอ๋องตำหนิเอาได้ แม้ว่าพักหลัง ๆ เว่ยจื่อหานจะลดความดุดันลงแล้วบ้างเพราะเห็นว่าพระชายาตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม“เฟยเฟย เหตุใดยังนั่งตากลมอยู่ตรงนี้อีก ทำไมไม่รีบเข้าไปพักในตำหนักหิมะเริ่มจะตกแล้ว”“หม่อมฉันแค่มานั่งเล่นและตรวจดูยาสมุนไพรที่นำมาตากเอาไว้ พอหิมะตกเลยสั่งให้คนเก็บเพคะ”“ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำอีกเจ้าก็ไม่ฟัง จื่อหรงวันนี้อาจารย์หวางบอกพ่อว่าเจ้าตอบคำถามในชั้นเรียนได้อย่างยอดเยี่ยม เจ้าอยากได้รางวัลอะไร”“เสด็จพ่อ ได้
ท่านอ๋องยืนกอดพระชายาไว้พร้อมกับมองหิมะที่ตกลงมาก่อนจะพยุงนางเดินกลับรถม้าที่จอดรออยู่ เขานั่งกอดนางมาตลอดทางเพราะคิดว่านางเห็นภาพการประหารเช่นนั้นคงจะไม่สบายใจ“เฟยเฟย เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง”“หม่อมฉันรู้สึกดีและอบอุ่นมากเพคะเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของพระองค์เช่นนี้”“แล้วเจ้าหายกลัวหรือยัง”“หม่อมฉันมิได้กลัวนะเพคะ เพียงแค่รู้สึกเศร้าไปหน่อยเท่านั้น”“เศร้างั้นหรือ”“คนคนหนึ่งทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่อยากครอบครอง จนทำเรื่องที่ผิดไปมากมาย อันถงไม่น่าจบชีวิตเช่นนี้หากว่านางมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ ก็คงจะดีเพคะ”“ไม่มีผู้ใดเลือกได้นอกจากตัวนางเอง นางเลือกเดินเส้นทางที่ผิดตั้งแต่แรก”“จริงด้วย ว่าแต่แม่นางซ่ง…”“อ้อ ข้าเองก็ลืมบอกเจ้าไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางเลยตัดสินใจไปที่อารามหย่งชิงพร้อมกับไท่เฟยเพื่อจะไปดูแลนางน่ะ พวกนางจะออกเดินทางในอีกสองวัน”“เช่นนี้นี่เอง ท่านอ๋องไม่เสียพระทัยหรือเพคะ”“หืม ข้าหรือเหตุใดต้องเสียใจอีกเล่า”“ก็เห็นวันก่อนพระองค์ยังคลอเคลียกับนางในตำหนักอย่างสนิทสนม คิดว่าจะห้ามมิให้นางไปแสวงบุญเสียอีก”“นี่เจ้า!! นั่นมิใช่เพราะทำตามคำสั่งเจ้าหรืออย่างไร สั่งให้ข้าทำเช
โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากอีก เฟยเย่รู้ดีว่าเขาจะทำสิ่งใดเมื่อเขาจับนางหันหน้ามาและจับนางนั่งคร่อมเขาอีกครั้ง เมื่อครู่พึ่งจะล้างตัวกันไปเอง เสียงน้ำกระเพื่อมทำให้เฟยเย่เริ่มจุดไฟรักเร่าร้อนนั้นอีกครั้งด้วยตัวเอง“ท่านอ๋อง เสียว….อ๊าาา ในน้ำนี่..”“ดีใช่หรือไม่”“อื้มมม ดี อ๊าา เสียวดีจัง อ๊าา จื่อหาน หม่อมฉันช้ำไปหมดแล้ว”“อีกรอบเดียวนะ ข้าสัญญาว่าจะล้างตัวแล้วพาเจ้าไปนอนพักแล้ว แต่ตอนนี้ อาา เหตุใดยังคับแน่นอยู่เช่นนี้กันนะ เฟยเฟยของข้าช่าง งดงามจริง ๆ”“อ๊าาา ท่านอ๋องเพคะ”“เปลี่ยนท่าหน่อย ไม่ไหวหรอกท่านี้มันเสียวเกินไป”“เดี๋ยวก่อน มันแคบเช่นนี้ อ๊าา…”เขาจับนางไปเกาะที่ขอบสระพร้อมกับดันกระแทกจากด้านหลัง ท่านอ๋องไม่เคยลดละความดุดันลงได้เลยในเรื่องนี้ น้ำกระเพื่อมออกเกือบครึ่งสระแต่เขากลับไม่ใส่ใจเสียงน้ำและกล้ามเนื้อกระแทกกันทำเอาทั้งคู่อารมณ์กระเจิงจนทั้งสองเริ่มเกร็ง เฟยเย่จับขอบสระเอาไว้แน่นพร้อมกรีดเสียงร้องออกมา ท่านอ๋องเองก็จับบั้นท้ายนางเอาไว้แน่นเช่นกัน“อาาา…เฟยเฟย…”ท่านอ๋องต้องอุ้มนางขึ้นมาหลังจากที่ทั้งคู่ล้างตัวเสร็จ เขาวางนางลงที่เตียงพร้อมกับกอดนางเอาไว้“พรุ่งนี้พระองค์
ทหารดึงตัวนางขึ้นและพาเดินออกจากห้องโถงไป อันถงไม่มีท่าทีของคนที่รู้สึกผิดเลยสักนิด เมื่อเดินผ่านหลินเฟยเย่นางหันกลับมาพูดกับนางอีกครั้ง“เจ้าคิดหรือว่าท่านอ๋องจะรักเจ้าเพียงคนเดียว เขากำจัดข้าได้ ก็ทำกับเจ้าได้เช่นกัน”เฟยเย่หันไปสบตากับอันถง แม้ในตอนนี้จะถูกจับและรอลงทัณฑ์ แต่อันถงก็ยังไม่รู้สึกกลัว“ข้าไม่เหมือนเจ้า อย่างน้อยข้าก็ไม่เคยวางแผนร้ายเพื่อแย่งผู้ใดมา”“อย่ามั่นใจมากไปหน่อยเลย เขาไม่มีหัวใจตั้งแต่แรกอย่าคิดว่าเขาจะรักเจ้า”“อันถง เพียงแค่ท่านอ๋องไม่รักเจ้า มิได้หมายถึงว่าท่านอ๋องไม่มีหัวใจที่สำคัญ ข้ามั่นใจและเชื่อใจในตัวท่านอ๋องมากพอ”“เจ้า….”“นำตัวนางออกไปได้แล้ว”“พ่ะย่ะค่ะพระชายา”ท่านอ๋องเดินมาหลังจากฝานป๋ายให้คนพยุงหยงไท่เฟยกลับเข้าไปพักผ่อนแล้ว“เจ้าพูดสิ่งใดกับนางงั้นหรือ”“ก็แค่ สั่งลาครั้งสุดท้าย”“เจ้าไม่ขอให้ข้าลดโทษให้นางงั้นหรือ”“ไม่เพคะ โทษที่นางได้รับสมควรแล้ว หม่อมฉันจะไปดูการประหารนางด้วยตนเองพรุ่งนี้ มองด้วยตาของตัวเองจนถึงช่วงเวลาสุดท้าย”“ได้สิข้าอนุญาต พวกเรากลับตำหนักก่อนดีหรือไม่”“ไท่เฟยเข้าไปพักแล้วหรือเพคะ”“ไปแล้วละ นางขอข้าว่าหากหายดีแล้ว อ
ความคิดเห็น