Share

บทที่ 17

Author: หูเทียนเสี่ยว
บ้าระห่ำ

จั๋วซือหรานชอบคนบ้าระห่ำเช่นนี้ นางรู้สึกเจอคนประเภทเดียวและเกิดความรู้สึกการเอ็นดู

เฟิงเหยียนเดินจากไปแล้ว และนางคิดชื่อจากคำพูดของเขา “จั๋วเสี่ยวจิ่ว(จิ่วหมายถึง เลข เก้า ในภาษาไทย)หรือ ดีแล้วข้าไม่ได้เปิดเป็นบุตรคนที่สองของตระกูล...ไม่อย่างนั้น ก็จะดูเหมือนคนรับใช้ที่ร้านแล้ว”

“จิ่ว...คุณหญิงจิ่วขอรับ” คนขับรถม้าเดินเข้ามาอย่างสั่นเทา “กลับ..กลับตอนนี้หรือขอรับ”

"เจ้าค่ะ กลับเถอะ" จั๋วซือหรานเห็นคนขับรถม้าไสั่นเช่นนี้ นางอดไม่ได้ที่ต้องสงสายและถาม"เจ้าหนาวหรือ"

คนขับหดคอลงจนเกือบจะร้องไห้ "เมื่อครู่นั้น ท่านอ๋องเฟิงทำเช่นนั้น...ข้า..ข้าน้อยกลัวแทบจะตาย"

จั๋วซือหรานนึกถึงเจตนาฆ่าของเฟิงเหยียนที่เขาประกายในเมื่อครู่ คนทั่วไปรับพลังนั้นไม่ไหวเสียจริง

นางยกมือขึ้นแล้วโบกมือให้คนขับรถม้า คนขับรถม้ารู้สึกมีสายลมพัดมาบนใบหน้าของเขา และความรู้สึกการกดขี่ที่น่ากลัวก่อนหน้านี้ก็หายไป

*

ในห้องส่วนตัว

จั๋วซือหรานหรี่ตาลงและจ้องมองไปที่แหวนสีแดงเข้มที่เรียบง่ายบนนิ้วชี้ของมือขวาของนาง มันคือแหวนเสวียนเหยียนจริง ๆ

แต่นางไม่เข้าใจ

“ทำไมถึงตามข้ามา” จั๋วซือหรานพึมพำ

จิตวิญญาณเดินข้ามเวลา เรื่องนี้น่าแปลกใจอยู่แล้ว ทีนี้ แหวนเสวียนเหยียนข้ามเวลามาด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ลี้ลับมหาศจรรย์อย่างมาก

“บางทีอาจมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับกระบี่เสวียนเหยียนจริง ๆ ” จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ดูเหมือนว่า หลังจากดึงกระบี่เสวียนเหยียนออกมาแล้ว…”

นิ้วชี้ของนางเริ่มร้อนและคันเล็กน้อย นางก็ไม่ได้คิดมาก ใครจะรู้ว่า ตอนที่นางกำลังรักษาไทเฮาในตำหนักหย่งโซ่ว แหวนเสวียนเหยียนก็ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน และยังเสกเข็มทองชุดหนึ่งออกมาได้ตามที่นางต้องการ

ในชาติที่แล้ว นี่เป็นแก่นแท้ให้นางได้ตั้งถิ่นฐานและมีชีวิตอยู่ได้ แหวนวงนี้สามารถเก็บสิ่งของและข้าวของทั้งหมดของนางไว้ข้างในได้ นอกจากนี้ ยังสามารถออมพลังไว้ ซึ่งพูดได้เลยว่า แหวนเสวียนเหยียนเหมือนกระบี่ประจำตระกูลเฟิง

จั๋วซือหรานเริ่มตรวจสอบว่าการทำงานของแหวนเสวียนเหยียนยังคงสมบูรณ์หรือไม่ เมื่อพลิกฝ่ามือ ปืนสีดำพร้อมตัวกระบอกเสียงก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง นางวางนิ้วบนไกปืน และการสัมผัสก็ไม่ต่างไปจากเมื่อก่อน

"ถ้าเป็นสมัยโบราณ คันธนูและลูกธนูเหมาะกว่า..." จั๋วซือหรานพลิกฝ่ามือ และปืนสีดำก็หายไปทันที และคันธนูโค้งสีดำก็ปรากฏขึ้น

จั๋วซือหรานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ นางเก็บคันธนู และค่อย ๆ หมุนแหวน

มันเหมือนกับประตูสักบานหนึ่งออก

พลังแสนรุนแรงก็ระเบิดออกจากร่างกายของนางในทันที

หากคนขับรถม้าของเมื่อครู่นี้อยู่ที่นี่ เขาจะตระหนักได้ว่า ความรู้สึกกดดันที่นางมอบให้กับผู้คนในขณะนี้นั้นไม่น้อยไปกว่าความรู้สึกกดดันที่เกิดจากเจตนาฆ่าของท่านอ๋องเฟิงในเมื่อก่อน

“ฟังก์ชั่นครบถ้วน” จั๋วซือหรานพูดอย่างดีใจ นางหมุนแหวนไปยังตำแหน่งเดิม และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ปั้งปั้งปั้ง

ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูอย่างรุนแรง

“ท่านพี่ ท่านพี่” จั๋วหวายร้องเรียกอย่างร้อนรนที่นอกประตู

“เป็นออะไร” จั๋วซือหรานเปิดประตู “รีบร้นจนเหงื่อแตกเลย”

จั๋วหวายมองเข้าไปในห้องของนางอย่างระมัดระวัง “ท่านพี่ไม่เป็นไรใช่ไหมขอรับ”

“ข้าจะเป็นอะไรไปได้ล่ะ”

“จู่ ๆ ข้ารู้สึกได้ถึงการกดขี่ที่เลวร้ายเป็นพิเศษ บางทีอาจเป็นเพราะข้ารู้สึกผิดก็ได้นะ” จั๋วหวายเกาหัว สุดท้ายเขารู้สึกโล่งใจ “ท่านพี่ไม่ได้เป็นอะไร ดีแล้ว”

ตัวเขาเองยังเป็นเด็กอยู่ แต่อยากปกป้องนางมาโดยตลอด

จั๋วซือหรานรู้สึกขมขื่นเล็กน้อยในใจเมื่อนางนึกถึงน้องชายคนนี้ในชะตากรรมเดิม ซึ่งภายหลัง น้องชายคนนี้เสียชีวิตระหว่างถูกเนรเทศ

“เสี่ยวหวาย พรุ่งนี้พี่พาเจ้าไปเรียนดีไหม” จั๋วซือหรานพูดด้วยความอ่อนโยน

สีหน้าของจั๋วหวยเปลี่ยนไปทันที เขารีบถอยหลังสามก้าวแล้วโบกมืออย่างแรง “ไม่ ไม่เอา”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
ก้อย ดวงกมล
น่าติดตาม อ่านได้ยาวๆ
goodnovel comment avatar
Nawa Wutti
สะกดคำผิด เยอะมาก
goodnovel comment avatar
Ratana632017 Tassna
ดีอ่านสนุก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1401

    ชิ่งหมิงได้ยินคำนี้ สายตาก็ชะงักไปตอนที่เงยหน้าขึ้นมองปันอวิ๋น ก็ไม่ได้รู้สึกตกตะลึงอะไร ดูสงบนิ่งมาก "ฝีมือก็ดีขึ้นมากจริงๆ เพียงแต่ว่า...ข้ากับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมายนัก"ปันอวิ๋นไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เขาโบกไม้โบกมือ "ไม่เป็นไร ถึงยังไงพวกเราก็ไม่ได้มีพ่อที่ดีกันนักหรอก"จั๋วซือหรานขมวดคิ้วมองเขา "เจ้ามองออกตั้งแต่เมื่อไรกัน?""ข้าไม่ได้ตาบอดนะ เหล่าจวงเองก็แอบมองจวงชิ่งหมิงอยู่ตลอด ทั้งสองคนสกุลจวงเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นในแววตาของเหล่าจวงกับจวงชิ่งหมิงก็คล้ายคลึงกันด้วย แค่มองเฉยๆ อาจไม่รู้สึก แต่ถ้าสองคนอยู่ในภาพเดียวกัน ก็จะสัมผัสได้เลย"ปันอวิ๋นบางครั้งดูแล้วก้เหมือนเป็นคนขี้เกียจที่เหมือนไม่ใส่ใจกับอะไรเลยแต่อันที่จริง เขาเป็นคนละเอียดอ่อนและเฉียบแหลมมากมีหลายเรื่อง ที่แม้เขาจะไม่พูด แต่อันที่จริงในใจก็รู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่างปันอวิ๋นเอ่ยต่อ "ไม่เป็นไร ถ้าไม่ชอบฟังคราวหลังจะไม่พูดอีก"แต่เขาคิดๆ จากนั้นก็เสริมมาอีกคำหนึ่ง "น่าจะเพราะว่า ข้ากับเฟิงเหยียนแต่ก่อนรู้ว่าตนเองต้องแบกภาระโชคชะตาแบบไหนไว้ ดังนั้นจึงค่อยๆ ปรับความเข้าใจกับตนเอง จะพูดถึงยังไงก็ได้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1400

    ถึงยังไงการทำงานในโรงคณิกา บ่อยครั้งที่จะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกแม่เล้ากลอกตาไปมา "ทั้งสามท่านมาที่นี่เพื่อหาความสำราญแบบใดหรือ? เคาะประตูดีดีก็พอนี่นา ไม่เห็นต้องพังประตูใหญ่แบบนี้..."นางจ้องปันอวิ๋นไม่วางตา "แขกท่านนี้ต้องการจะฟังดนตรี หรือจะค้างคืนกันล่ะ? ต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่ม?"ปันอวิ๋นฟังครึ่งประโยคแรก ก็ขมวดคิ้วแล้ว พอได้ยินครึ่งประโยคหลังก็หนักเลย "อะไรนะ?"แม่เล้าเห็นความเย็นชาในสายตาเขา ก็รู้สึกสันหลังวาบ สั่นเทาไปทั้งตัวจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ฟังแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ปันอวิ๋นหน้าตาดี ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นความงามเฉพาะตัวด้วย บุคลิกเย้ายวนชวนหลงใหลแต่กำเนิดนั่น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจะอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่มกันแน่...จั๋วซือหรานกระแอมแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เอ่ยขึ้นว่า "...แค่ก พวกเรามากินข้าวน่ะ พวกเจ้าที่นี่มีกับข้าวและสุราอะไรที่อร่อยก็ยกมาให้หมดเลย"หลังจากที่แม่เล้าได้ยิน เดิมทียังคิดจะถามอยู่ว่าพวกเขาต้องการแม่นางหรือชายหนุ่มไหม แต่ก็รู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นมันจะเหมือนว่าตนเองเบื่อชีวิตแล้วก็เลยอ้าปากพะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1399

    ทั้งซื่อหนานล้วนเป็นขอบเขตขั้วอำนาจของเนี่ยคุน ดังนั้นข่าวของบ่อนพนัน ไม่นานนักก็ส่งไปถึงหูของเนี่ยคุนแล้วเขาโมโหจนแทบกระอักเลือด!ใครจะคิดว่าหญิงสาวคนนี้ เอาจวนของเขาไปแล้วก็ยังไม่พอตอนนี้ยังคิดจะทำลายกิจการของเขาอีก!เนี่ยคุนทำได้แค่รีบกำชับออกไป "หญิงสาวคนนี้น่าจะจงใจเล่นงานข้า เร็ว กำชับออกไป ให้โรงคณิกาทางนั้นวันนี้ปิดประตูไม่รับแขก จะได้ไม่ให้นังมารร้ายนั่นพอเบื่อบ่อนพนันแล้วหันไปเล่นทางโรงคณิกาต่อ"คนใช้รู้สึกว่าเนี่ยคุนจะคิดมากเกินไป "ท่านเจ้าเมือง คงไม่หรอกกระมัง? นางเป็นหญิงสาวนะ จะไปโรงคณิกาทำไมกัน..."นั่นมันที่ที่ชายหนุ่มไปเล่นกับหญิงสาวนะ!เนี่ยคุนหัวเราะเย็นชา "นางเป็นโหว ขนาดบ่อนพนันยังไปได้ ยังมีเรื่องอะไรที่นางไม่กล้าทำอีกกัน...?"ตอนนี้ต่อให้มีคนมาบอกเขาว่า หญิงสาวคนนี้บินได้!เนี่ยคุนก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรด้วยซ้ำ!ส่วนอีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานก็พาปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงมาอยู่หน้าประตูโรงคณิกาอย่างสบายอารมณ์"เจ้ามาจริงๆ ด้วยแฮะ" ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว จมูกก็ย่นลง เหมือนได้กลิ่นเครื่องประทินเข้มข้นลอยออกมาจากในโรงคณิกา"เจ้าเด็กนี่ยังเด็กอยู่เลยนะ" ป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1398

    "ได้"จั๋วซือหรานมองเขา ถามขึ้นว่า "ถ้างั้น ใครจะมาเขย่าล่ะ?"ผู้ดูแลเอ่ยขึ้น "ข้า ข้าเอง ข้าเขย่าเอง...ข้าเขย่าเสร็จจะปล่อยมือทันที ไม่มีโอกาสทำอะไรแน่นอน!"จั๋วซือหรานพยักหน้ายิ้มๆ "ได้ได้ งั้นเจ้าเขย่าเลย"ผู้ดูแลให้คนเอากระบอกเขย่าลูกเต๋ามาด้านในมีลูกเต๋าไม้สามลูกวิธีการก็เหมือนกับกติกาในชาติที่แล้วของจั๋วซือหราน เป็นวิธีเล่นที่ง่ายที่สุดจริงๆจั๋วซือหรานไม่ได้ติดใจที่จะเล่นกับเขาสักตา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเขามือสะอาดจริง ชนะก็ชนะแพ้ก็แพ้ นางก็ไม่ใช่จะเล่นไม่ได้แต่ใครจะรู้ ว่าก็ยังมีวิะีการโกงอยู่จริงๆคนผู้นี้น่าจะรู้สึกว่าตัวเขามั่นในใจในแรงควบคุมลูกเต๋าเป็นพิเศษ ดังนั้นพริบตาที่นางตอบตกลงให้เขามาเขย่าลูกเต๋า บนหน้าเขาก็มีสีหน้าถอนใจโล่งออกมาอย่างชัดเจนมันชัดเสียจนทำให้จั๋วซือหรานมองข้ามไปไม่ได้เลยจั๋วซือหรานดูท่าทางเขย่าลูกเต๋าของเขา น่าจะเป็นท่าทางบวกกับการสร้างขึ้นเป็นพิเศษของลูกเต๋า ดังั้นพอรวมกับการเคลื่อนไหวที่พิเศษของเขา สามารถหมุนไปตามที่เขาคิดได้และสามารถทำให้เขาได้แต้มที่เขาต้องการแม้จั๋วจะไม่ได้ดูล้ำสมัยเหมือนพวกอุปกรณ์การพนันที่จั๋วซือหรานรู้ในชาติ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1397

    น่าจะเพราะกลุ่มของหญิงสาวคนนี้ พอเข้ามาถึงก็มีแรงคุกคามมหาศาลกระทั่งท่าทีของผู้ดูแลที่มีต่อพวกเขาก็ยังหวาดหวั่นมากเขาเป็นแค่คนแจกไพ่ แน่นอนว่าไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็ไม่กล้ามองสายตาของผู้ดูแลด้วย จึงทำได้แค่เปิดไพ่อย่างว่าง่ายไปจั๋วซือหรานจึงชนะสองตาของผู้ดูแลดำเมี่ยมไปแล้ว ถ้าปล่อยให้นางชนะต่อไป...แล้วยังมีสหายที่เก่งกาจเรื่องพนันของนางกวาดเรียบที่โต๊ะอื่นด้วยแบบนี้ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้พวกนางไม่เอาชีวิตเขา หลัจากนี้เนี่ยคุนก็เล่นเขาตายอยู่ดีดังนั้นสีหน้าผู้ดูแลจึงบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังกลัดกลุ้มกับเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากมากมองออกว่าค่อนข้างลำบากใจแล้วจั๋วซือหรานยืนขึ้นมา เดินไปทางโต๊ะของปันอวิ๋น บอกกับเขาว่า "เอาล่ะ พอจบตาของเจ้าแล้ว พวกเราก็พอเถอะ"ปันอวิ๋นมองตั๋วทองบนมือจั๋วซือหราน ตาก็เป็นประกาย "ถ้างั้นข้าก็ชนะแล้วสิ?"จั๋วซือหรานยิ้มๆ "ได้ได้ ข้ายอมแพ้แล้ว"เดิมทีนางก็ไม่คิดจะเอาชนะปันอวิ๋นอยู่แล้ว ก็แค่ให้เขาได้เป็นพ่อทูนหัวอย่างสมใจอยากก็เท่านั้นเห็นท่าทางนี้ของเขา จั๋วซือหรานรู้สึกว่าเขาน่าจะไม่คิดมีลูกหลานสืบทอดอะไรแล้วเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1396

    "เอาล่ะไม่พูดแล้ว ข้าต้องรีบหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวปันอวิ๋นได้ชนะพอดี เขาดูแล้วก็ไม่ใช่พวกเคี้ยวง่ายด้วยนี่สิ"ไม่นานนักบรรยากาศในบ่อนพนันก็ผิดปกติไปแล้วโต๊ะที่ปันอวิ๋นอยู่ อารมณ์ของทุกคนก็เหมือนจะไม่ไหวแล้ว...ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มหน้าตางดงามคนนี้ทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงราวกับมีเนตรสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น ไม่แพ้เลยสักตาเดียว?ส่วนหญิงสาวที่อยู่อีกโต๊ะคนนั้นเองก็สุดยอดมาก...ไม่แพ้เลยสักครั้งเดียวเหมือนกันแต่พวกเขาก็ดูเป็นแค่นักพนันเท่านั้น...มาขลุกอยู่แต่ในบ่อนพนันคับแคบแบบนี้ ไม่ได้เข้าใจและไม่คิดจะไปทำความเข้าใจโลกภายนอกเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง...ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ตัวตนฐานะของจั๋วซือหรานกับปันอวิ๋นและคนอีกหลายคนก็ไม่ค่อยจะรู้ ว่าพวกเขาเป็นคนแบบไหน สังหารคนที่ประตูเมืองไปแล้วเท่าไร...และผู้ดูแลบ่อนพนันที่ถูกตั๋วทองทำให้เคลิ้มก่อนหน้าคนนั้น ตอนนี้ก็คลายลงมาจากสภาพนั้นแล้วเสียใจ ตอนนี้คือความสำนึกเสียใจขีดสุดเขารีบตรงไปข้างโต๊ะของจั๋วซือหราน เอ่ยอย่างอ้อนวอนว่า "แม่นาง เอ่อไม่ใช่สิ ใต้เท้า...ใต้เท้า! กิจการของเราเล็กๆ มีทุนน้อย ไม่ทราบว่าท่าน..."เขาชูตั๋วทองขึ้นมาสองใบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status