Share

หากย้อนเวลาได้

last update Last Updated: 2024-11-22 07:26:07

คนขับแมคโคร เลิกคิ้วสูง

“ผมรับ เท่านี้ประจำ”ยืนยันหนักแน่น

“แต่นี่ยังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำไป เอาน่า เรายังไม่แน่ใจว่าจะต้องขุดอีกมากเท่าไหร่ ถ้ายอมลดให้ ต่อไปเราสัญญาว่าจะใช้บริการของคุณทุกครั้งแต่ถ้าไม่ยอมลดให้ คราวหลังเราคงต้องใช้บริการของ บริษัทอื่น”

ลุงคนดูแลบ้านยิ้มขำกับการต่อรองแบบนี้ลูกล่อลูกชนของพริมมี่

“ก็ได้ แต่คราวหน้าคุณต้องเรียกใช้พวกเรานะ”

พริมมี่ยิ้ม หักเงินออกจากจำนวนเต็มยื่นส่งให้ คนขับแมคโคร

“แน่นอน เราไม่มีทางมองบริการของคนอื่นในเมื่อคุณดีกับเราขนาดนี้”

โรยยาหอม คนขับแมคโครยิ้ม สมศักดิ์ส่ายหน้าไปมา เมื่อคนขับแมคโครจากไป

“พี่พริม นี่เขี้ยวจริงๆ ”

“นี่ พูดดีดีหน่อยฉันช่วยประหยัดเงินให้คุณซุนก็ดีแค่ไหนแล้ว ทำงานแบบนี้บางที่ต้องมีโอนอ่อนกันบ้าง ดินก็ไม่ได้แข็งอะไร แล้วอีกอย่างทำไม่ถึงชั่วโมงเพราะใต้ต้นแปะก๊วยดินดีไม่น้อยขุดง่ายนิดเดียว”

“ขอบคุณคุณหนูมากๆ ครับ ถ้าไม่ได้คุณหนู เราอาจต้องจ่ายแพงๆ ”

ลุงคนดูแลบ้านเอ่ยปากขอบคุณ

พริมมี่ยิ้ม

“มันคือผลประโยชน์ของเราจะปล่อยให้เขาเอาเปรียบไม่ดีนัก เซฟเงินไว้มาเลี้ยงขนมพวกเรากันเองดีกว่า”

ลุงดูแลบ้านเคราขาวยิ้มบางๆ

"คุณพริมมี่ครับ เจออะไรบางอย่างแล้วครับ"

พริมมี่วิ่งไปยังด้านข้างของต้นแปะก๊วยมองเห็นทีมขุดกำลังมุงดูอะไรบางอย่าง แทรกตัวเข้าไปมองเห็นกล่องทองเหลืองที่โผล่ขึ้นมาจากดิน

“สมศักดิ์หินสีจริงๆ ด้วย”

แปรงขนอ่อนถูกส่งไว้ในมือพริมมี่ใช้แปลงปัดเศษดินที่ เกาะติดออกช้าๆ

ใจเต้นรัว นี่แหละคือสิ่งที่พริมมี่ชื่นชอบ มันคือความตื่นเต้นในยามที่พบโบราณวัตถุไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เกียงอันเล็กในมือแซะเข้าไปรอบๆ กล่องทองเหลืองท่ามกลางสายตาจับจ้องของทีมขุดและลุงพ่อบ้าน กล่องถูกยกขึ้นมา สายตาทุกคู่จับจ้องพริมมี่ เปิดสลักของกล่องทองเหลืองออกช้าๆ

หยิบเอาสายสร้อยสีทองขึ้นมากำไว้ปลายด้านหนึ่งเป็นนาฬิกาพกมันคือนาฬิกาพกที่ลวดลาย และลักษณะไม่ต่างจากที่ พริมมี่มีอยู่

“พี่พริม”

สมศักดิ์เองก็คงคิดเหมือนกันกับพริมมี่มีใครเล่นตลกอะไรหรือเปล่า ในเมื่อของสองอย่างที่เหมือนกันราวกับเป็นชิ้นเดียวกันจะมาอยู่ที่นี่เวลานี้ และคนที่มาขุดมันก็มีของที่เหมือนกันติดตัว

“คุณลุง พูดความจริงมามีใครเล่นตลกอะไรหรือเปล่า”

ลุงพ่อบ้านทำสีหน้าจริงจัง

“คุณพูดแบบนี้เท่ากับไม่ให้เกียรติคุณซุน เป็นความจริงยิ่งกว่าสิ่งใดนั่นคือไม่มีใคร ลงทุนทำเรื่องนี้เพราะไม่ว่ามองมุมไหนเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร”

พริมมี่คิดตามจะปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ลุงพ่อบ้านพูดมาเป็นเรื่องจริง คุณซุนร่ำรวยขนาดนี้ ถ้าจะทำแค่สนุกหรือแก้เบื่อก็ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้

“ลงมือขุดรอบๆ กันต่อได้เลย”

พริมมี่วางนาฬิกาพกที่ส่องประกายเแวววาวต้องแสงอาทิตย์พร้อมกับกล่องทองเหลืองไว้บนกระบะไม้

“คงต้องส่งให้เขาพิสูจน์อายุของมันว่าเก่าจริงหรือเปล่า ถึงเวลานั้นค่อยคุยกัน”สมศักดิ์พยักหน้า

“หากจะเป็นเรื่องบังเอิญก็คงเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติที่เราไม่อาจพิสูจน์ได้ พี่พริมเราทำงานพวกนี้มาเยอะ เอาเข้าจริงๆ เราก็ไม่เคยเจอเรื่องเหนือธรรมชาติมาก่อนไม่ว่าผีหรือสิ่งลี้ลับ”

พริมมี่พยักหน้ายกเอากระบะไม้เดินไปที่ร่มไม้ข้างๆ

“พี่พริม ความจริงที่ลุงพ่อบ้านพูดมาก็น่าเชื่อเขาจะทำเพื่ออะไรพี่ก็หน้าตาบ้านๆ ไม่ได้สวยเสียหน่อยหรือเราก็ไม่ใช่คนรวยที่ใครจะมาหลอกเขาจะจัดฉากไปทำไมกัน”

สมศักดิ์พูดเบาๆ พอได้ยินกันสองคน

“คงต้องส่งพิสูจน์จริงๆ หากเป็นของใหม่ ก็คงต้องบายกันละงานนี้ แต่ถ้าเป็นของเก่า นั่นคงต้องงมกันไปอีกนานเย็นนี้พี่จะลองโทรคุยกับแม่อรดูว่า นาฬิกาของพี่ได้มาอย่างไงเอาให้ลงรายละเอียดมากที่สุด”

การตรวจสอบวัตถุโบราณนั้นทำได้ไม่ยากแล้ว เพราะมีบริการตรวจสอบงานศิลปะและวัตถุโบราณที่ทั้งง่าย สะดวก แถมไม่ทำลายตัวอย่างชิ้นงานด้วย ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. เปิดให้บริการตรวจสอบงานศิลปะและวัตถุโบราณ ด้วยเครื่องไมโคร อีดีเอ็กซ์อาร์เอฟ (Micro Energy Dispersive X-Ray Fluorescence Spectrometer) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ หาองค์ประกอบของธาตุจากตัวอย่าง โดยใช้รังสีเอกซ์แบบการกระจาย จุดเด่นของเครื่องมือชิ้นนี้ คือ ใช้วิเคราะห์ธาตุหรือสารประกอบในตัวอย่างได้ โดยไม่ทำลายชิ้นงาน ทำให้นำมาประยุกต์ใช้ตรวจสอบวัตถุโบราณได้ โดยสามารถตรวจชิ้นงานได้ทั้งขนาดเล็กเป็นผง จนถึงชิ้นงานขนาดใหญ่ รับหนักได้สูงสุดถึง 4 กิโลกรัม และยังสามารถถ่ายภาพด้วยกำลังขยาย 10 และ 70 เท่าด้วย

ถ้าเป็นในประเทศไทยส่งตรวจได้ที่กรมศิลปากร แต่ในเมืองจีนคงต้องให้คุณลุงพ่อบ้านกับสมศักดิ์ช่วยกันประสานงานคงใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามวันเป็นอย่างต่ำ

พริมมี่ใช้เวลาทำความสะอาด นาฬิกาพกเรือนนั้นอย่างประณีต รู้สึกผูกพันไม่น้อยหากจะเป็นความบังเอิญ พริมมี่ก็คงถูกแรงดึงดูดของของสิ่งนี้ พามาที่นี่ใจอยากให้ของชิ้นนี้มีอายุหลายร้อยปีจะได้มีเรื่องราวให้ค้นหาเชื่อมโยงหรือนาฬิกาพกของพริมมี่จะเป็นของที่ทำเลียนแบบแต่ดันไปเหมือนของชิ้นนี้ ที่รู้สึกว่ามันขลังจริงๆ

จนบ่ายจนเย็นทีมขุดก็ไม่พบสิ่งใดเพิ่มเติม สมศักดิ์หอบเอา จอบเสียมมาวางไว้รวมกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   ไม่พรากจากกันจนแก่ชรา

    ปี2004“คุณ พงษ์ปรีดาค่ะภรรยาคุณคลอดแล้วค่ะคุณได้ลูกสาวหน้าตาน่าชังเชียวค่ะ”พ่อของพริมมี่ รีบสาวเท้าเข้าไปยังห้องคลอด อรอุมา อุ้มทารกเพศหญิงให้ดื่มนมจากอก“โอ้ลูกพ่อ ให้ผมดูหน้าเขาหน่อย พริมมี่ของพ่อ”“คุณพงษ์ยังไม่เห็นหน้าลูกอีกหรือ อรคิดว่าคุณเข้ามาก่อนแล้ว”สีหน้าแสดงความสงสัย พงษ์ปรีดารับเอาร่างกระจ้อย“เปล่านี่”“แล้วนี่คืออะไร”คุณอรอุมาวางนาฬิกาพกลงบนเตียงสีขาวสะอาดตา“นาฬิกา”“ค่ะ อรเห็นมันวางอยู่ข้างๆ ลูกของเรา”คุณพงษ์ปรีดาหันหน้าหันหลัง“อาจเป็นใครสักคน” คว้านาฬิกาขึ้นมาดูเสียงนาฬิกายังเดินปกติ“ผมจะลองเอาออกไปไกลๆ ไม่แน่อาจเป็นระเบิดเวลาหรือมีอะไรซุกซ่อนอยู่”"ดีเลยค่ะให้พยาบาลประกาศตามหาเจ้าของดีไหม”คุณพงษ์ปรีดาพยักหน้าก่อนจะรวบนาฬิกาออกห่างจากพริมมี่น้อย“อุ๊แว อุ๊แวๆๆๆๆๆๆๆ”อยู่ๆพริมมี่ก็ร้องไห้จ้า“คุณค่ะ”คุณอรอุมาให้พริมมี่กินนม เห่กล่อมก็ไม่ยอมหยุด คุณพงษ์ปรีดาวางนาฬิกาพกลงข้างๆร่างกระจ้อย ก่อนที่ร่างเล็กจะมีรอยยิ้มทั้งๆที่เพิ่งจะคลอดออกมา“อย่าเลยคุณ บางทีนี่อาจเป็นของยายหนูก็ได้แกจึงหวงมากขนาดนี้”คุณพงษ์ปรีดาถอนหายใจ จูซุนก้าวขายาวๆ ออกจากโรงพยาบาล“ฉันรอเธออย

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   แล้วภพหน้ามาพบกันอีกครา

    คุณหมอหย่งก้าวขามายืนหน้าห้องพิเศษSuper vipที่พริมมี่ นอนไม่ได้สติอยู่ที่นั่น จูซุน เอนกายลงบนเตียงนอนคู่ด้านข้าง อีกฝั่งเป็นกระจกกว้างที่มองเห็นท้องฟ้าสีฟ้าสวย และทิวทัศน์จากมุมสูง“ก็อกๆ”เคาะประตูไปสองครั้งเบาๆ“เชิญเข้ามา” จูซุน ขยับกายนั่งห้อยขาที่เตียงนอน“คุณจูซุนขอรับ กระผมมาตรวจดูอาการของ..ของคู่รักของคุณจูซุนครับ”ร่างสูงในวัยแก่กว่าจูซุนไม่กี่ปี ก้าวขามายังเตียงคนไข้ที่พริมมี่นอนอยู่แต่กลับตะลึงจังงัง กับใบหน้าคุ้นตาของพริมมี่“อืมมมยินดีที่ได้พบกัน..อีกครั้ง”หมอหย่งไม่ได้สะดุดหูกับคำพูดของจูซันทว่าสะดุดใจกับใบหน้าของพริมมี่ที่เขาเอาแต่เฝ้าฝันถึง“เอ่อ คะครับผมคุณผู้หญิงท่านนี้ นอนหลับไม่ได้สติมาสามคืน แล้วตามที่ผมวินิจฉัยอาการเบื้องต้นจากข้อมูลและประวัติของคนไข้ทำให้รู้ว่าร่างกายของเธอไม่ได้มีความผิดปกติอะไรสมองยังคงสมบูรณ์ไม่ได้เกิดการกระทบกระเทือนทางสมอง หรือบาดเจ็บที่ศีรษะหรือภาษาบ้านๆ คือล้มหัวฟาดหรืออะไร….”จูซุนมองหมอหย่งที่บรรยายเนิบๆ สายตาจับจ้องที่ใบหน้าของพริมมี่ มือก็สารวนกับการ ใช้เครื่องเสตทโตสโคปวางลงที่อกข้างซ้าย“แล้วทำไมเธอถึงไม่ฟื้นขึ้นมาทันที”หมอหย่งถอ

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   ให้พบกันท่ามกลางผู้คนนับพัน

    "อะอะนายท่านเกรงใจไปแล้วนายท่านสูงส่งรินสุราให้สุ่ยหลีไม่เหมาะนัก""ข้าเต็มใจเจ้าดื่มหมดจอกแทนคำขอบคุณข้า"สุ่ยหลียิ้มทั้งน้ำตายกจอกสุรารินลงคออย่างไม่ลังเลเพียงพริบตาสุ่ยหลีก็คอพับลงไปกับพื้นหลับใหลไปในทันที"นายท่านโธ่นายท่าน"ตะวันบ่ายสุ่ยหลีคร่ำครวญกับกองสัมภาระน้ำตาเต็มสองตาดึงยกเป้สัมภาระไม้ไผ่ขึ้นทาบแผ่นหลัง"ข้าจะตามนายท่านขึ้นไปเดี๋ยวนี้""ตุ๊บ"บางอย่างล่วงลงพื้นสุยหลีทรุดกายลงพิงต้นไม้ใหญ่คลี่ก้อนผ้าที่มีตัวอักษรอยู่บนนั้น"สุ่ยหลีฟังข้าที่เป่ยจิง มีโรงเตี๊ยมชื่อว่า…สุ่ยหลีที่นั่นข้าใช้เงินสร้างมันเพื่อเจ้ากลับไปรอข้าที่นั่น หากตามขึ้นมาวันไหนที่ข้ากลับไปจึงไม่พบเจ้า ฝากดูแลตำหนักชมดาว..แทนข้า แล้วเราจึงจะได้พบกัน..อย่าฝืนบัญชาหากยังตามข้าขึ้นไปพบข้าเราจึงตัดขาดกัน"ปาดน้ำตาที่ไหลรินสะอื้นอย่างหนัก"ข้าเช่นไรจะกล้าฝืนบัญชาฝ่าบาท กล้าให้ฝ่าบาทตัดขาดกับข้า"ปาดน้ำตาแห้งเหือดหันมองเทือกเขาเหลียงซานยิ้มเศร้าๆ ก้าวขาบ่ายหน้ากลับไปยังเป่ยจิงรอวันพบกันกับจูเหวินหน้าผาสูงสลับซับซ้อน มือเรียวราวลำเทียนยึดเกาะปีนป่าย"เหลือเพียงที่แห่งนี้ที่ขายังไม่เคยเสาะแสวงหาน้ำพุกาลเวลาหวังว่

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   ต่อไป

    สุ่ยหลียิ้ม“เช่นนั้นเขาเหลียงซานเบื้องหน้าเหมาะที่จะปีนป่ายต่อเติมความหวังในเมื่อเราเดินทางไปมาจนทั่วยังไม่พบน้ำพุแห่งกาลเวลา บางทีควรจะลองปีนเขาดูบ้าง”เจี้ยนเหวินยิ้มกว้างเป่ยจิง"จักรพรรดิหย่งเล่อทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี"เสียงถวายพระพรดังกึกก้องเมื่อจักรพรรดิหย่งเล่อหรือเอี้ยนอ๋องจูตี้ในอดีตเสด็จขึ้นนั่งบัลลังก์มังกร หย่งเล่ออมยิ้มอดคิดถึงพริมมี่กับคำว่าหย่งเล่อหรือหยกเลอค่ายกกำไลหยกสีแดงขึ้นมามองดู"ยังคงคิดถึงเจ้าเหมือนเดิมมีมี่"พึมพำเบาๆ ยิ้มเศร้าๆ"ฝ่าบาท เมืองหลวงเป่ยจิงและพระราชวังต้องห้ามบัดนี้ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว ตามพระบัญชา""ดีมาก จิ้งเหอท่านควรจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเรื่องนี้""พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทเป่ยจิงของเรารุ่งเรืองร่มเย็น ต่างชาติล้วนต้องการผูกมิตร""ดียิ่งแล้วข้าน้อมนำดำรัสของไท่หวงซางหมิงไท่จูสืบต่อมาหวังว่าบรรพบุรุษจะชื่นชม ครั้งนี้ตั้งใจส่งสินค้าและราชทูตยังต่างชาติต่างภาษาเพื่อเจริญสัมพันธ์ทางการทูต"จิ้งเหอประสานมือตรงหน้า"ข้าน้อยยินดีเป็นตัวแทนเดินเรือยังต่างแคว้น"จักรพรรดิหย่งเล่อยิ้มกว้าง"ดีแล้วจิ้งเหอท่านไม่เคยทำให้ข้าผิดหวัง"จักรพรรดิหย่งเล่อเดินเอามื

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   เมื่อพานพบกลับไร้วาสนาจำต้องแยกจากกัน

    แม้จะเจ็บปวดเพียงใดขอแค่ให้ได้ลอง พริมมี่ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ เลือดไหลซึมออกจากอกข้างซ้าย“ฉันกำลังจะตายใช่ไหม ฉันจะตายจริงๆ ใช่ไหม”บนเนินเขา นั่นแสงทองสุดท้ายสาดส่องไปที่ต้นไป๋กว่อ เหลืองอร่ามใบสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองงดงามราวกับภาพฝัน สุ่ยหลีหยุดเกี้ยว เจี้ยนเหวินอ้าปากค้างเมื่อเห็น สีเหลืองอร่ามตานั้น“พริมมี่ ดูนั่น”พยุงพริมมี่ให้ลงไปยังต้นไป๋กว่อพริมมี่ยิ้มเศร้าๆ เสียงหายใจรวยรินหอบเหนื่อยใกล้เข้ามาแล้วสินะใกล้ถึงเวลาแล้ว“ต้องอย่างนี้สิสำหรับพริมมี่ต้องงดงามแบบนี้ พาข้าไปที่นั่นเถิด”เจี้ยนเหวินช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขน พาพริมมี่ไปยังต้นไป๋กว่อเหลืองอร่ามตา“จะต้องทำอย่างไร”เจี้ยนเหวินเอ่ยปากเสียแหบแห้ง ไม่อยากให้พริมมี่ต้องจากไปถึงตอนนี้คำพูดของพริมมี่ ที่เขาคิดว่าเป็นเพียงการคาดเดากลับเกิดขึ้นจริงทุกอย่าง เช่นไรจึงไม่เชื่อว่านางมาจากอนาคตแล้วหากนางจะกลับไปเช่นไรเขาจึงจะไม่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น“พริมมี่แค่หวังว่า จะได้กลับไปจริงๆ ขอแค่ได้ลองนาฬิกาสองเรือนนั้นพาพริมมี่มาที่นี่จะต้องพากลับไปได้แน่ ภายใต้อักษรง่ายๆ แค่กดมันลงไป พริมมี่ก็จะข้ามภพกลับไปยังที่เดิม”ยิ้มบางๆ ในใจหว

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   รอ3

    เจี้ยนเหวินยิ้มเศร้าๆ“ไม่มีนาง ไม่มีข้า ไม่พบนางไม่มีข้า เพราะหัวใจข้าแหลกสลายไปเสียแล้ว มีนางจึงมีข้า”เอี้ยนอ๋องถอนหายใจ“หวังว่าฝ่าบาทจะยังไม่ทิ้งหนานจิง”“หนานจิงกับข้า บอบช้ำพอกัน เพียงแค่ข้าไม่อาจปกป้องสิ่งใดได้แม้แต่คนที่รัก ก็ไม่ควรจะลอยหน้าอยู่ได้อีก เอี้ยนอ๋องหวังว่าราชวงค์หมิงจะรุ่งเรืองดังที่เสด็จปู่ต้องการ ข้าตั้งใจเร้นกายไปกับนางตั้งแต่แรกแล้ว ทุกอย่างจึงมอบให้อาสี่จึงดี”เอี้ยนอ๋องจูตี้หลับตาลงช้าๆ สะกดกลั้นความเจ็บปวดในใจเขาก็อยากจะเลือกพริมมี่เช่นเดียวกับเจี้ยนเหวินแต่นางไม่เลือกเขา“เคลื่อนเกี้ยว”สุายหลี ตวัดแส้ลงบนหลังม้าทั้งหกให้พุ่งทะยานไปยังเป่ยจิงที่อยู่ห่างออกไป1,022กิโลเมตร หรือ2,044ลี้ปี2024ซุนจูยืนยิ้มมองร่างไร้สติของพริมมี่ที่ใบหน้ากลับมีสีเลือดขึ้นมากว่าเมื่อวาน“ข้าใจแทบสลายในวันนั้นวันที่ต้องพาเจ้าเดินทางรอนแรมสองพันลี้เพื่อพาเจ้ากลับมาที่นี่ แต่จนแล้วจนรอด ก็ต้องมารอเจ้าถึงหกร้อยปีอยู่ที่นี่รอเจ้านานเหลือเกินพริมมี่ เรากำลังจะได้พบกันอีกครั้ง”“ฝ่าบาท ระยะทางยาวไกลเช่นไรจะพาพระสนมไปถึงที่นั่นได้”สุ่ยหลีแสดงความกังวลเจี้ยนเหวินประคองร่างเล็กที่หายใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status