“หึ ๆ” เขาหัวเราขลุกขลักในคอ ก่อนจะยอมดึงตัวออกห่างร่างบอบบางของหญิงสาวที่นั่งซ่อนหน้าหลบตาเขา หลังชนประตูรถเนื้อตัวเธอสั่นเทาไม่ต่างกับลูกนกต้องลมฝน
พราวรุ้งวางมือแตะอกข้างซ้าย สัมผัสจังหวะเต้นของก้อนเนื้อที่ฝัง อยู่ในอกข้างซ้ายอย่างมีโทสะ โมโหที่ตนไม่สามารถควบคุมความรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งได้ใกล้ชิดเขา แววตากรุ้มกริ่ม รอยยิ้มหว่านเสน่ห์ กับพลังดึงดูดทางเพศของเขาใกล้จะทำลายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอให้พังพินาศลงไปทุกที เธอรีบสั่นศีรษะสลัดความหวั่นไหวที่เกาะกินใจแล้วพึมพำเตือนตัวเอง
“บ้าที่สุดพราวรุ้ง เธอจะหวั่นไหวไปกับคนเลว ๆ อย่างเขาไม่ได้นะ อย่าลืมสิว่าเธอได้ชื่อว่าแต่งงานกับอาธามแล้ว ขืนเผลอมีอะไรกับเขาตอนนี้ เธอก็ขึ้นชื่อว่าคบชู้นะสิ”
เธอวางหน้าผากลงบนพวงมาลัยรถแล้วโขกเบา ๆ เตือนสติตัวเอง ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะมาเคาะกระจกรถทำเธอสะดุ้งตกใจ ตื่นขึ้นจากภวังค์ความคิด รีบหันไปมองคนที่ยืนอยู่นอกรถ
“เป็นอะไรหรือเปล่ารุ้ง อาเห็นเราคว่ำหน้าฟุบอยู่กับพวงมาลัยรถอย่างนั้นมาพักใหญ่ ๆ แล้วนะ” ธมกรเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วงเมื่อพราวรุ้งลดกระจกลง
“ปะ...เปล่าค่ะอาธาม รุ้งแค่เผลอคิดเรื่องงานที่มันยังค