“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงมารบเร้าที่จะเอาเงินจากผมไปซื้อรองพื้นใหม่อีก ใช้เงินของพ่อของหวายสิ”
“แหม... ดิน มันไม่เหมือนกันนะคะ นั่นมันเงินของพ่อ ไม่ได้เป็นเงินของดิน ที่บอกว่ารักหวายนะ ดินรักหวายจริงไหม หรือแค่พูดสนุกปาก เพื่อนอนกับหวายเอามัน” เธอค้อนเขาตากลับ
“เชอะ! ดินพูดเหมือนกับไม่รักหวายแล้ว อย่างนั้นก็ได้ หวายกลับดีกว่า เฮอะ ๆ มาที่นี่ รถก็เติมน้ำมันนะคะ ไม่ได้เติมน้ำเปล่า” เธอทำท่าจะลุกขึ้น
“เดี๋ยวหวายจะไปไหน”
เขารีบกอดรั้งร่างกายของเธอเอาไว้ อารมณ์บูดบึ้งหายไป เหลือไว้แต่ใบหน้าที่ยิ้ม ๆ
“ไอ้ผีบ้าออกจากร่างของดินแล้วหรือคะ ไอ้ผีตัวเมื่อกี้หายไปเสียแล้วล่ะ” อดที่จะแขวะเขาไม่ได้
“ก็หวาย...”
สุธาวีรีบยกนิ้วชี้มาปิดปากของเขาที่จะพูดมากในทันที เขารีบงับมัน และมองตาของหญิงสาวอย่างหวานเยิ้ม ราวกับถูกมนต์เสน่ห์ของสุธาวีสะกด
“เห็นหน้าสวย ๆ ของหวายแบบนี้แล้ว ดินก็หายคิดถึง”
“ไม่ต้องมาทำปากหวานค่ะ หวายไม่เชื่อ” เหมือนกับคนที่เพิ่งขายขนมจีบกัน มองตากันหวายหยดย้อย
“คนคิดถึงกัน เขาก็ไม่ทำกันแค่นี้หรอกค่ะ” สุธาวีส่งสายตาเชิญชวน
“ถ้าอย่างนั้น ทำแค่ไหนล่ะจ๊ะ ทำแค่นี้ใช่ไหม”
ต่อจากนั้นเขาก็ผลักร่างกายอวบอิ่มของสุธาวีลงไปนอน คณิศรก่ายเกยขึ้นไปทาบทับร่าง มือไม้แข็ง ๆ ของเขาเริ่มรื้อทึ้งเสื้อผ้า
สุธาวีหากลัวไม่ ยิ้มกริ่ม ทำปากแบบเซ็กซี่ยั่วยวนคณิศร มือของเธอก็ตะปบกอบกุมกับห่อหมกตุง ๆ ที่คับแน่นอยู่ในร่มผ้าของเขา
เธอรู้จุดอ่อนของคณิศรดี ตรงไหนที่จะปลุกเร้าทำให้เขาสูดปากยาว ๆ
“อู้...”
มันได้ผล
คณิศรจึงได้ถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกอย่างรวดเร็ว แอลกอฮอล์ที่เขาดื่มลงไป มันช่วยกระตุ้นอารมณ์กำหนัดในร่างกำยำได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มรู้สึกร้อนเร่า และซู่ซ่าออกทั้งตัว
หมับ... เธอจับท่อนแข็งของเขาได้แล้ว และก็งัดออกมาจากเป้ากางเกง ในขณะที่คณิศรก็ช่วยถอด ไม่นานนักทั้งสองหนุ่มสาวก็เปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ต่อหน้าของกันและกัน เขาและเธอกลับหัวกลับหาง
มือของสุธาวีที่กำรอบก็ขยับขึ้น ๆ ลง ๆ เอาจริงข้อดีของคณิศรก็มีเยอะแยะอยู่ เรื่องหนึ่งก็คือเรื่องบนเตียง
“อู้ อ๊า... ซี้ด...”
คณิศรสูดปากยาว ๆ ท่อนรักไซซ์ห้าหกเข้าไปอยู่ในโพรงปากของสุธาวีแล้ว ทำให้เธอร้องไม่ออก ในขณะที่ชายหนุ่มหยิบเอาอุปกรณ์ที่เตรียมเอาไว้ออกมาจากใต้หมอน แล้วเปิดสวิทซ์ให้อุปกรณ์นั้นทำงาน
นิ้วแข็ง ๆ ก็ช่วยอีกแรงบดไปที่ปุ่มรัญจวน แล้วแทงแท่งหรรษาเข้าไปในร่องน้อย ๆ ของสุธาวี ปากของเธอที่ร้องไม่ออก เพื่อระบายความอึดอัด หญิงสาวจึงได้ดูดดุนท่อนลำของเขาเพื่อตอบแทน
“อื้อ... อื้อ... อื้อ...”
ส่วนท่อนล่างของสุธาวีสั่นส่าย แต่เป็นการสั่นสู้เสียมากกว่า คณิศรขยับชักท่อนลำเรียกน้ำย่อย จนหญิงสาวหวีดร้องออกมาด้วยความร้อนแรง
อาการของหนุ่มสาวเหมือนร้อนมาก ทั้งที่แพนั้นติดเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความร้อนภายในกายสงบ มันถูกแผดเผาด้วยไฟปรารถนาที่ปะทุขึ้นมา
“โอ้... หวายปากคุณดีจริง ๆ ไม่มีใครใช้ปากได้เก่งกว่าคุณ”
ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชน ได้กินท่อนไม้ของผู้ชายแบบนี้มาไม่ต่ำกว่าหกสิบท่อน ทำให้เกิดความคล่องแคล่วขึ้นอย่างไม่ต้องมีใครสอน แต่ประสบการณ์บอกตัวของเธอเอง
คณิศรรีบดึงท่อนลำของตัวเองออก สุธาวีเช็ดปากอย่างเสียดาย
“รีบไปไหนคะ”
“หวายไม่มาหาผมกี่วันแล้ว ผมอดยากปากแห้งมากนะ” เขาตัดพ้อตาปรอย
“ชิ... ทำเหมือนกันไม่มีคนอื่น”
“ผมมีหวายแค่คนเดียว”
เพราะไม่มีใครทำกับเขาได้ถึงใจเท่าเธออีกแล้ว คณิศรจึงติดมาก ชอบการปลดปล่อยอารมณ์กับเธอ
“ปากหวาน”
สุธาวีฟังถ้อยคำประเภทนี้จากผู้ชายมาเยอะ เธอรู้ดีว่าต้องทำให้พวกเขาพอใจยังไง
“ชิมแล้วไม่ใช่เหรอ หวานไหม”
“หวานค่ะ ทั้งหวานและ... จุ๊บ”
โน้มใบหน้าของคณิศรเข้ามาใกล้ แล้วบดกลีบปากของตัวเองลงไปทันที
ด้วยความวัวเคยขาม้าเคยขี่ ในขณะที่ปากประกบกันสนิท ดูดดุนเหมือนไม่เคยไม่พบได้เจอกันมาแสนนาน
ร่างกายที่ปะทะกันข้างล่าง ก็ไม่ยอมเสียเวลา จัดท่าจัดทางแล้วจิ้มลงถ้ำ
“ใส่ถุงก่อนนะดิน”
งานนี้ชำนาญ มือหนึ่งจับท่อน อีกมือรับเอาคอนดอมที่หญิงสาวฉีกถูกให้ใส่สวมทันที งานตอกเสาเข็มก็ได้ถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อคณิศรเสือกแท่งแกร่งอัดเข้าไปในร่องสาวของเธออย่างแรง
“เสียวค่ะ อ้า... ทำไมวันนี้ใหญ่จัง”
“ไม่เจอกันนานมันเลยขยายเพราะคิดถึงหวายไง จัดให้มันแน่น ๆ หน่อย”
ข้อดีของคนคุ้นเคยคือพูดคุยกันได้สะดวกปาก ลากมกขนาดไหนก็ได้ไม่ต้องอาย
“เจ็บบอกได้นะ อยากให้กระแทกหนักเบาแบบไหนบอกมาเลย อู้... ซี้ด...”
คณิศรก็เป่าลมออกมาจากปากแบบรัว ๆ สะโพกสอบก็บดโยกเริ่มจังหวะเนิบนาบ ๆ แล้วก็หยุดหมุนควง
“ทำไมมันตอดดีแบบนี้”
สุธาวีฝึกนั่งขมิบมันทั้งวัน หากไม่ทำมีหวังหลวมกันพอดี
ณ เวลานี้ความกระสันแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของชายหนุ่ม คนหนึ่งตอกอัดกระหน่ำกระแทก และอีกคนก็แอ่นเด้งร่องสาวรับอย่างเป็นท่วงทำนองเดียว
ร่างบางกว่าเริ่มสะท้านหวั่นไหว ความเร็วที่คณิศรเร่งสปีดทำให้เธอหวีดร้องออกมาตามสัญชาตญาณ
“อ๊าย!” หญิงสาวสุขสมขึ้นสวรรค์ไปกับท่อนใหญ่ของเขาแล้ว
“นับหนึ่ง”
“จะนับทำไมคะดิน มันนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว”
ได้ยินสุธาวีพูดแบบนี้เขาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ
“อย่างนี้จะต้องจัดให้ร้องขอชีวิต กรี๊ดออกมานะครับที่รัก”
“แรงอีกค่ะดินขา แรง แรง แรง แรง...”
สุธาวีส่งเสียงเชียร์คณิศรใหญ่ เขาก็จัดให้อย่างใจปรารถนา เธอกรีดร้องอย่างไม่ต่อต้าน แถมยังขยับร่างแอ่นรับการกระทำของคณิศรแบบถึงอกถึงใจ
คนหนึ่งเหมือนไฟร้อนแรง อีกคนก็เป็นน้ำมันที่ราดรด คืนนี้เป็นการนัดแบบยกกระชับมิตร เปลี่ยนท่าเป็นทางไปตามที่อีกฝ่ายพึงพอใจ ความสุขสมที่ต่างป้อนให้กันแบบถึงพริกถึงขิง
“หนาวเนอะ” เสียงเปรยจากแพร้านอาหาร เพื่อนยังปักหลักนั่งล้อมวงกันดื่มเหล้า คออ่อนหน่อยก็เมาหลับกันไปตรงนั้น คณิศรใจปั้มเปิดห้องให้บางคนที่กลับไม่ไหว นอนพักกันแบบฟรี ๆ
“มึงว่าใครจะขาลากวะ ระวังไอ้ดินกับหวาย”
ยอยศเป็นหนึ่งในผู้เหลือรอดถาม มือลูบแขนที่ขนลุกตั้งเพราะอากาศยามดึก
“มึงอิจฉา” ลือกฤชย้อน ยกแก้วเบียร์ฟองฟอดขึ้นจิบ
“เออ...” คำตอบที่แสนสั้น
“จะว่าไปหาคู่ซ้อมแบบไอ้ดินก็ดีเหมือนกัน น้ำแตกแล้วแยกทาง”
ยอยศรีบหาผ้ามาคลุมไหล่ เพราะน้ำค้างเริ่มลง และอุณหภูมิรอบด้านเริ่มเย็นมากขึ้นด้วย
“เมี่ยง” คณิศรตกใจ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียว ยังคงเล่นบทคนเศร้าง้อภรรยาอยู่“เมี่ยงไม่ได้อยากให้พี่ตายใช่ไหมครับ เมี่ยงจ๋า...อภัยให้พี่นะ นะครับคนดี”ไม่พูดอย่างเดียว คนที่ยอมทำตัวพิการง่อยเปลี้ยอยู่บนเตียงตั้งนานสองนาน คราวนี้ลุกขึ้นมานั่ง แล้วกอดรัดร่างอรชรเอาไว้แน่น“พี่รักเมี่ยงจริงๆ รู้ตัวแล้วว่าขาดเมี่ยงไม่ได้ พี่ต้องตายแน่ๆ”ชนิษฐารีบยกมือขึ้นมาปิดปากของเขา การที่ไม่ได้อยู่ใกล้คณิศร เธอเองก็แย่ไปเหมือนกันใจที่โกรธขึ้งเรื่องที่เขาทำลงไป สายพิณเล่าแล้วว่าทุกอย่างเป็นเหตุสุดวิสัย และสุธาวีนั้นรุกหนัก เจ้าหล่อนเล่นกับอารมณ์ใคร่ สัญชาตญาณดิบของผู้ชายฤดีรัตน์ก็ช่วยหาข่าวเหมือนกัน เพื่อนเล่าว่าสุธาวีกินกับผู้ชายเกือบทั้งสาขา ล้วนเป็นคนรอบตัวคณิศรทั้งนั้นเขาช่างโง่...โง่มากเหลือเกิน นอกจากนั้นคุณย่ามณียังให้พนักงานที่แพมายืนยัน คณิศรออกคำสั่งไล่สุธาวี ห้ามมาเหยียบทุกพื้นที่ของเขาเด็ดขาดคณิศรทำแล้วสิ่งที่ควรทำ...แล้วชนิษฐาล่ะ เธอควรทำอะไรต่อดี“อย่าพูดคำว่าตายอีกนะ เพราะยังไงพี่ดินก็ต้องอยู่ดูหน้าลูกก่อน”ชนิษฐาตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น เลือกจะให้ครอบครัวได้ไปต่อ“เมี่ยง...”คณิศรคราง แม
พีรพัฒน์เข้ามาแบบมีข้าวของเต็มสองมือ“คุณเมี่ยงไม่อยู่ค่ะ” สายพิณรายงาน“อ้าวเหรอครับ มิน่าล่ะ โทรหาก็ไม่รับ แล้วยังไม่อ่านไลน์ผมอีก สวัสดีครับคุณย่า”คนแก่ลอบถอนหายใจ แต่ก็พยายามปั้นยิ้ม หากชนิษฐาจะตีจากจากคณิศร แล้วไปซบอกผู้ชายคนนี้ มันก็เหมาะสมอยู่พีรพัฒน์มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นคนมั่นคงพึ่งพาได้ แม้เป็นพ่อหม้าย แต่การเลิกร้างนั้นจบลงด้วยดี ไม่มีข่าวลือเสียหายตามหลังเลย แต่ส่วนลึกในใจ...คุณย่ามณีไม่อยากให้ชนิษฐากับคณิศรหย่ากันอยู่ดี“คุณพีได้นัดกับคุณเมี่ยงเอาไว้หรือเปล่าคะ” สายพิณเข้าไปรับเอาข้าวของ ไม่ปล่อยให้เขายืนเก้อเขิน“เปล่าครับ พอดีผ่านมา”“แหม... แค่ผ่านเหรอคะ จอมทองกับเชียงใหม่ มันไม่น่าผ่านกันได้เนอะ”อดที่จะแซวแบบเหน็บๆ ในความพยายามทุ่มสุดตัวของชายหนุ่มไม่ได้“เสียเวลาแย่เลยพ่อพี มาเสียเที่ยวไม่ได้เจอน้อง”คุณย่ามณีเห็นใจ มองออกว่าชนิษฐาไม่เล่นด้วยกับพ่อหม้ายคนนี้ มิเช่นนั้นหลานจะหลบเลี่ยงการพบเจอทำไม“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณย่าอาการเป็นไงบ้างครับ”พีรพัฒน์นั่งลงใกล้ เขาเป็นคนที่โอบอ้อมอารี เอาใจใส่ทุกคน“ก็งั้นๆ แหละจ้ะ สุขภาพทรง ๆ ทรุด ๆ ตามประสาคนแก่ ขาหนึ่งก็ก้า
ที่ห้องพักของคุณย่ามณี ทุกคนได้ยินเสียงโอ้กอ้ากของชนิษฐาดั่งลั่นออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวอาเจียนเอาสิ่งที่เพิ่งกินเมื่อครู่ออกมาแบบหมดไส้หมดพุงคุณย่าที่อยู่บนเตียงสบตาคุณช่อม่วงที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผู้เป็นป้ามองอาการหลานด้วยความกังวล สายพิณเป็นคนลูบหลังให้“ไม่สบายหนักเลยนะเมี่ยง ทำไมกินอะไรถึงได้อ้วกออกมาหมด”“พิณว่าพาคุณเมี่ยงไปตรวจเถอะค่ะ ไหน ๆ ก็ใกล้หมอ อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พี่สินไปโทรเรียกให้คนเอารถเข็นมารับคุณเมี่ยงสิ”“จ้ะๆ ได้จ้ะ ได้” สินเดินไปที่โทรศัพท์ ก่อนจะยกหูไปยังโอเปอร์เรเตอร์ เขาขอรถเข็นมารับผู้ป่วย เพื่อไปตรวจดูเหมือนชนิษฐาจะหมดแรงแล้ว หน้าซีดจางขาวราวกระดาษ อ่อนเพลียร่างอยากจะนอนพักมากๆ“ทำไมต้องมาเกิดเรื่องเกิดราวเอาตอนนี้นะ ดวงราหูจะเข้าแล้วแน่ๆ”คุณช่อม่วงเพิ่งผ่านตาคลิปหมอดูทักจากยูทูป ยามเปิดเล่นแก้เบื่อเมื่อต้องอยู่เฝ้าคุณย่ามณี“พาไปหาหมอซะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร” คุณย่าสั่งด้วยใจห่วงใยปนกังวลไม่นานนักบุรุษพยาบาลก็มาพร้อมกับรถเข็น แล้วพาชนิษฐาเข้าลิฟต์ไปยังห้องตรวจด้านล่างในเวลาต่อมา“หมอว่าเป็นอะไรคะ” ทั้งสายพิณและสินตั้งหน้าตั้งตารอฟังผลที่หน้าห้องตรวจ“หมอว
เมื่อสองป้าหลานไปถึงที่โรงพยาบาลแล้ว เห็นสายพิณนั่งร้องไห้น้ำตานอง เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงของคุณย่ามณี“เกิดอะไรขึ้นหรือคะพี่พิน”“พี่พิณกับคุณย่าไปที่วัด ว่าจะอยู่วิปัสนาที่นั่นสักสองสามคืน แต่ตอนที่กินข้าวกันอยู่ สินโทรเข้ามาว่าคุณดินประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน เท่านั้นแหละค่ะ... คุณย่าก็สำลักข้าวค่ะ อาหารติดคอ ดีนะคะที่ตรงนั้นมีคุณหมอมาวิปัสนาที่วัดอยู่ด้วย เลยเข้ามาปฐมพยาบาลทัน แล้วก็พามาที่นี่แหละค่ะ”“แล้วอาการหนักไหมคะ” คุณช่อม่วงเอ่ยถาม“ดีนะคะหมอบอกว่าสมองไม่ขาดออกซิเจน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ อาจจะกลายเป็น...” สายพิณยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องไห้“คุณเมี่ยงคะ พี่พิณรับไม่ไหวแล้วนะคะ ไหนจะคุณย่า ไหนจะคุณดิน”“แล้วตอนนี้ดินอยู่ไหน” คุณช่อม่วงอีกนั่นแหละที่เป็นคนถามใบหน้าหลานสาวซีดเผือก ตาแดงก่ำราวกับคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมาแล้วชนิษฐาจับมือของคุณย่าและบีบเบา“คุณดินออกจากห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ มาพักอยู่ที่ห้องพิเศษค่ะ”สายพิณรายงานหันไปหาชนิษฐาทั้งตัว“ฮือ... คุณดินน่ะไปทำอะไรมาก็ไม่รู้ค่ะ เห็นว่าประสบอุบัติเหตุในไซต์งานก่อสร้างที่ไปทำตกแต่งสวนนั่นแหละ พิณไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ถามใค
ชนิษฐายืนฟังการสนทนานี้มาตั้งนานแล้ว เธอได้ยินทุกอย่าง“ไปกันได้แล้วค่ะเจ้านาย” เธอแสร้งทำเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้เป็นวันเกิดของคณิศร เธอกับเขาเคยคุยกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันสามคน คุณย่า เขาและก็เธอ แต่ดันมาเกิดเรื่องขึ้นก่อน“ขับรถดีๆ ล่ะ แล้วเมี่ยงจะกลับมากินข้าวเย็นหรือเปล่า”“ป้าไม่ต้องห่วงเมี่ยงค่ะ กินไปก่อนได้เลย”“อ้อ ตอนเย็นๆ ป้าไม่อยากกินอะไรหนักๆ นะ ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากให้เปลืองเงิน”ชนิษฐายิ้มยกมือโบกบ้ายบาย แล้วตามพีรพัฒน์ไปขึ้นรถในรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดคันใหญ่ที่หรูหราจอดไม่ไกลจากตรงนั้นนัก คุณย่ามณีอยู่กับสายพิณและนายสิน ตั้งใจจะมาชวนชนิษฐาไปทำบุญ แต่ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าเสียก่อน คุณย่าถึงกับหน้าหงอย“เฮ้อ...หมดหวังแล้วใช่ไหมสายพิณ”“ยังหรอกค่ะ อย่าตัดสินกับแค่ภาพแบบนี้สิคะ มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้”แต่สินมือไว ยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพ แล้วส่งไปให้อีกคน คณิศรใช้ให้สินมาเป็นสายสืบติดตามชีวิตของภรรยา“ถ้าอย่างนั้นสิน”“ครับ”“ขับไปวัดเถอะ ไปวัดวิปัสนานะ จะไปอยู่สักสองสามวัน”“ครับ”คุณย่ามณีหลับตาลง ตอนนี้เหนื่อยล้าเหลือเกิน คณิศรกอดขวดเหล้าเมาหยำเปทุกวัน ท่านภาว
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน นึกว่าเห็นแก่คนแก่ เอาที่หนูเมี่ยงสบายใจ แต่ย่าบอกแล้วเมื่อรับเป็นหลานอีกคนก็จะไม่ผลักไสไล่หนี เมี่ยงอยู่ที่นี่จนกว่าสบายใจ ไม่อยากกลับไปอยู่กับดินก็ไม่ต้องไป อยู่ที่นี่แหละ ใช้ชีวิตของตัวเอง ดูแลคุณป้า...”จ้องสบตากับคุณช่อม่วงที่ตอนนี้หลบสายตาของคุณย่ามณีแล้ว“อยากทำอะไรก็ทำ ไปหางานทำก็ได้ แต่ย่าจะให้คนของย่าโอนเงินให้ใช้ทุกเดือน เงินจากกงสีนั่นแหละ ถือว่าเป็นหลานสาวแล้ว เป็นคนในครอบครัว และถ้าวันไหนเจอคนที่ถูกใจ อยากจะแต่งงานด้วย ค่อยไปบอกย่าก็แล้วกัน หาคนที่ดูแลกันได้ แล้วย่าจะให้ดินหย่าให้”ดูเหมือนคุณย่ามณีจะไม่รบเร้าอีกต่อไป น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ขวางไป เรือลำใหญ่แค่ไหนก็ล่มได้“สายพิณกลับเถอะ”กลายเป็นว่าคนที่ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าคือสายพิณเสียเอง“พี่พิณก็ไม่เคยมีผัว หรือว่ามีความรักหรอกนะคะ แต่เห็นอยู่หลายคู่ การให้อภัยกันต่างหากค่ะที่มันควรจะเริ่มจากคนในครอบครัว เหมือนที่คุณย่าพูดค่ะคุณเมี่ยง ใครก็ทำผิดพลาดกันได้ สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราญยังรู้พลั้ง ถ้าไม่รักคุณดิน ก็รักคุณย่านะคะ ถ้าคิดว่ายังเป็นหลานคุณย่าก็กลับบ้านเรา” สายพิณเข้ามาประคองคุณย่า อ