Search
Library
Overview
Catalog SCAN CODE TO READ ON APP
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Synopsis

พระเอกเก่ง

ทําฟาร์ม/ปลูกผัก/ทำสวน

ความรักหวาน

CEO

ฉลาด

รวย

พี่น้อง

การฝึกฝน

การให้อภัย

ใครจะคิดว่าแค่มะเขือเทศที่ปลูกเอาไว้เก็บกิน จะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต จากภารโรงประจำโรงเรียนเล็ก ๆ ในหมู่บ้านที่แทบจะไม่มีคนรู้จัก กลับถูกมะเขือเทศนำพาให้กลายมาเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกมะเขือเทศรายใหญ่ ระดับพันล้าน ที่มีผู้คนรู้จักมากมาย!
Chapter 1
บทที่ 1 ทำหน้าที่ด้วยใจ

ช่วงสายของทุกวันที่โรงเรียนบ้านดอนแดงพัฒนา หลังจากที่เด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จเรียบร้อยและขึ้นเรียนกันแล้ว ลุงเหมือง ชายวัย 49 ปี ภารโรงประจำโรงเรียนแห่งนี้ก็จะทำงานของตนเองต่อไปอย่างขยันขันแข็ง วันนี้เองก็เช่นกัน ลุงเหมืองเดินถืออุปกรณ์สำหรับกวาดพื้นไปกวาดพื้นที่โรงประชุมของโรงเรียน ด้านหลังของโรงประชุมคือแปลงผักริมรั้วขนาดไม่ใหญ่มากที่ลุงเหมืองได้ปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้กิน

“บ้านดอนแดงพัฒนา” เป็นหมู่บ้านชนบทเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 10 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 38 กิโลเมตร ในหมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านอาศัยอยู่ร่วมกันแบบพี่แบบน้อง พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันดั่งน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า อาชีพส่วนใหญ่ของคนในหมู่บ้านก็คือทำการเกษตรที่เน้นหนักไปที่การปลูกข้าว

โรงเรียนบ้านดอนแดงพัฒนาเป็นโรงเรียนประจำชุมชนขนาดเล็ก ซึ่งมีตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ไปจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เด็ก ๆ ที่เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้ว ก็จะไปเรียนต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนในตัวอำเภอ

ลุงเหมืองยืนกวาดพื้นโรงประชุม มือหนึ่งจับไม้กวาด มืออีกข้างจับที่ตักขยะ เขาเป็นภารโรงที่โรงเรียนแห่งนี้มา 12 ปีแล้ว กิจวัตรของลุงเหมืองในแต่ละวัน นอกจากจะทำงานต่าง ๆ ในโรงเรียนตามหน้าที่แล้ว เขายังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ชอบทำอยู่เป็นประจำ นั่นก็คือการปลูกผักตามริมรั้ว เพราะนอกจากลุงเหมืองจะได้เก็บผักพวกนั้นไปประกอบอาหารที่บ้านหลังเลิกเรียนได้แล้ว บางวันแม่ครัวประจำของโรงเรียนก็ยังเก็บผักเหล่านี้ไปทำอาหารกลางวันให้เด็ก ๆ ได้อีกด้วย

“วันนี้อากาศดีจัง แดดไม่ค่อยร้อน” ลุงเหมืองพำพึมกับตัวเองขณะที่กวาดพื้นไปด้วย

“คะน้ากับผักบุ้งที่แปลงน่าจะพอเก็บแล้ว”

เขาพูดพร้อมกับชะเง้อคอมองไปที่ด้านหลังโรงประชุม มือที่หยาบกร้านรีบกวาดพื้นอย่างขะมักเขม้นจนเสร็จสรรพ เมื่อเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ลุงเหมืองจึงเดินตรงดิ่งไปที่แปลงผักที่อยู่ด้านหลังโรงประชุม บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ว่าง ลุงเหมืองจึงขุดแปลงผักขึ้นมาและล้อมรั้วไม้ไผ่เอาไว้ปลูกผัก

“โอ้โห ผักบุ้งแตกยอดสวยเชียว ดีเลยหลังเลิกเรียนแวะมาเก็บไปทำผัดผักบุ้งดีกว่า”

ลุงเหมืองตาโตเมื่อเดินมาถึงแปลงผักและเห็นว่าผักบุ้งที่ตนได้หว่านเมล็ดเอาไว้เมื่อหลายวันก่อนนั้นแตกยอดเติบโตพอที่จะเก็บกินได้แล้ว

“อ้าวลุงเหมือง มาดูผักเหรอจ๊ะ”

“ใช่ ผักบุ้งแตกยอดพอเก็บแล้ว เย็นนี้จะเก็บไปผัดสักหน่อย เอ็งมีอะไรเรอะนังสา”

“ฉันว่าจะมาเอากวางตุ้งไปทำผัดกวางตุ้งใส่หมูให้เด็ก ๆ เพิ่มน่ะลุง ขอเก็บหน่อยนะ”

“เอาสิ กวางตุ้งอยู่ด้านโน้นน่ะ เอ็งไปเลือกเก็บเอาเลย”

“ขอบคุณจ้ะลุง”

ลุงเหมืองตอบสาไปเท่านั้นก็หันกลับไปสนใจผักในแปลงต่อ ในใจพลางคิดว่าหลังเลิกเรียนจะมาเก็บผักไปขายที่ตลาดตอนเย็นด้วย หลังจากดูผักในแปลงเสร็จ ลุงเหมืองก็กลับไปทำงานของตนต่อ เริ่มจากกวาดพื้นอาคาร กวาดเศษใบไม้แห้ง และตัดหญ้าที่บริเวณสนาม

เวลาบ่ายสามครึ่ง

ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เด็กนักเรียนเลิกเรียนแล้ว จะเหลือเพียงเด็กบางคนที่เล่นเตะฟุตบอลอยู่ตามสนามเท่านั้น ลุงเหมืองเดินไล่ตรวจสอบห้องเรียนทุกห้องและปิดล็อกห้องเรียนอย่างเรียบร้อย เมื่องานทุกอย่างเสร็จสิ้นลงและเก็บของทุกอย่างเสร็จแล้ว ลุงเหมืองก็ถือตระกร้าไม้ไผ่สานคู่ใจเดินตรงไปยังแปลงผักหลังโรงประชุม

“โอ้ ได้หลายกำเลย เอาไปขายที่ตลาดด้วยดีกว่า” ลุงเหมืองพึมพำกับตัวเอง

ในตระกร้าไม้ไผ่สานเต็มไปด้วยผักหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง ผักชี ทั้งยังมีมะเขือเปราะ และตำลึงจากริมรั้ว

ตลาดประจำหมู่บ้าน ตอนเย็น

ลุงเหมืองเดินตรงไปยังแคร่ไม้ไผ่เก่า ๆ ซึ่งเป็นแผงขายผักประจำของเขาเอง บรรจงวางผักลงเรียงรายบนแคร่ไม้ไผ่ ปากก็ร้องตะโกนเรียกลูกค้า

“ผักจ้า ผักสวย ๆ เก็บมาสด ๆ กำละ 5 บาท 10 บาท ผักจ้า”

“นังหนู เอาผักไหม สวย ๆ สด ๆ เลยนะ เพิ่งเก็บมาเลย”

“ผักชีกำเท่าไหร่ลุง”

“ผักชีกำละ 5 บาท”

“แล้วคะน้าล่ะลุง”

“คะน้า 10 บาท เอากี่กำนังหนู”

“งั้นหนูเอาผักชี 2 กำ คะน้า 2 กำนะลุง นี่เงินจ้ะ 30 บาทนะ”

            “ขอบใจมากนังหนู วันหลังมาอุดหนุนใหม่นะ”

นี่คือรายได้เสริมของลุงเหมืองและยังเป็นกิจวัตรที่เขาทำอยู่เป็นประจำในช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ที่เป็นวันทำงาน นอกจากนั้นในช่วงเสาร์และอาทิตย์ที่เป็นวันหยุด ลุงเหมืองก็จะเก็บผักไปขายที่ตลาดประจำสัปดาห์ในตัวอำเภอด้วย บางครั้งก็ยังมีปู มีหอย มีปลา ที่หาได้จากทุ่งนาไปขายเพิ่ม

กลับจากตลาดมาถึงบ้าน

“เหมือง เอ็งไปขายผักมาเรอะ”

ยายคำแดง หญิงชราวัย 82 ปี เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าลูกชายคนเดียวของตนปั่นจักรยานมาจอดอยู่ตรงใต้ถุงบ้านแล้ว

“ใช่แม่ วันนี้เก็บผักได้หลายกำเลย ได้เงินมาหลายตังค์ด้วยนะ อ่ะนี่ แม่เก็บไว้นะ”

“เอ็งเก็บไว้เถอะ แม่แก่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เงินหรอก”

“แม่ก็ต้องเก็บไว้บ้าง เผื่อตอนฉันไปทำงาน เขามาเก็บค่าน้ำค่าไฟ”

“เออ ๆ แล้ววันนี้จะทำอะไรกินเย็นล่ะ”

“นี่แม่ ฉันแบ่งผักบุ้งมาผัดกินกำหนึ่ง และซื้อหมูมาจากตลาดด้วย ฉันไปทำกับข้าวก่อนนะ”

กิจวัตรการงานของวันได้เสร็จสิ้นลง ซึ่งในทุก ๆ  วันของลุงเหมืองก็ประมาณนี้ ไปทำงานหน้าที่ภารโรงประจำโรงเรียน เก็บผักไปขายที่ตลาด และกลับบ้านมาทำอาหารกินกับแม่สองคน

ฐานะทางบ้านของลุงเหมืองไม่ได้ร่ำรวย ต้องทำงานดิ้นรนหากินเลี้ยงชีพ นับตั้งแต่ที่พ่อของลุงเหมืองเสียชีวิตไปตั้งแต่ลุงเหมืองอายุ 15 ปี ลุงเหมืองก็ช่วยทำงานแบ่งเบาภาระของผู้เป็นแม่มาโดยตลอด ถึงแม้ว่าตอนนี้ลุงเหมืองจะเป็นเพียงภารโรงของโรงเรียนประจำชุมชนเล็ก ๆ แต่เขาก็มีความฝัน ซึ่งเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่ที่เขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก

ลุงเหมืองใฝ่ฝันมาเสมอ ว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ทางบ้านดีขึ้น ได้เป็นเจ้าของโรงงานหรือธุรกิจอะไรสักอย่างที่จะทำให้ทั้งเขาและยายคำแดงผู้เป็นแม่มีชีวิตที่ดีขึ้นได้

ถึงแม้ว่าตอนนี้ลุงเหมืองจะเป็นเพียงภารโรงธรรมดาในโรงเรียนประจำหมู่บ้านขนาดเล็ก แต่เขาก็ไม่เคยหยุดฝัน และยังคงทำหน้าที่ของตัวเองทุกอย่างได้ดีมาเสมอโดยไม่มีขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย...

Expand
Next Chapter
Download
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP