“เจ้านายคุณจี๊ดโอเคมั้ยคะ” พลอยใสรีบถามเมื่อสุจิตราเดินกลับเข้ามาในห้อง
“โอเคค่ะ แต่มีเงื่อนไขนิดหน่อยเกี่ยวกับจำนวนเงินสองแสนที่คุณพลอยอยากจะได้ล่วงหน้า”
“เงื่อนไขอะไรคะ”
“จี๊ดอยากให้ทำสัญญาแยกเป็นสองฉบับค่ะ ฉบับหนึ่งเป็นสัญญากับเด็กที่จะจ้างส่วนอีกฉบับหนึ่งอยากให้เป็นสัญญากู้ยืมเงินได้ไหมเพราะจำนวนเงินมันค่อนข้างเยอะอีกอย่างกว่าจะได้เริ่มงานก็ต้องรอให้เจ้านายของจี๊ดกลับจากต่างประเทศซึ่งระยะเวลามันก็เกือบเดือนเลยนะคะ” เพราะทุกครั้งจะจ่ายเงินในวันที่เริ่มเข้าไปทำงานแต่ครั้งนี้เป็นการจ่ายเงินล่วงหน้า
“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะพลอยจะบอกเด็กให้แล้วคุณจี๊ดจะเข้ามาทำสัญญาเองหรือจะส่งมาทางไลน์คะ”
“น่าจะเข้ามาด้วยตัวเองค่ะ คงเป็นเสาร์หน้า”
“ได้ค่ะ พลอยจะบอกเด็กไปจัดการเรื่องตรวจเลือดกับฉีดยาคุมให้เรียบร้อยก่อนวันทำสัญญานะคะ”
“ไปที่คลินิกเดิมนะคะ จี๊ดจะแจ้งคลินิกให้เด็กของคุณพลอยแค่เข้าไปตรวจฉีกยาแล้วก็กลับบ้านได้เลยค่ะ”
“คุณจี๊ดเตรียมสัญญากู้ยืมเงินมาได้เลยนะคะ ส่วนสัญญาที่จะเซ็นกับเด็กก็ใช้สัญญาเดิม”
“ขอบคุณค่ะคุณพลอย จี๊ดขอชื่อจริงกับนามสกุลจริงและภาพถ่ายบัตรประชาชนของเด็กได้ไหมเพราะจะต้องระบุในสัญญาว่าเป็นผู้ยืมเงินค่ะ ให้เขาระบุในบัตรประชาชนด้วยนะคะว่าใช้สำหรับกู้ยืมเงินจากจี๊ดใส่วันที่มาเลยก็ได้จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง”
“ได้ค่ะเดี๋ยวพลอยจะจัดการเรื่องนี้ให้แล้วจะไลน์ไปให้คุณจี๊ดนะคะ ขอบคุณมากนะคะคุณจี๊ดที่เรียกใช้เด็กของพลอยแล้วยอมจ่ายเงินค่าจ้างล่วงหน้าให้อีก”
เมื่อคุณสุจิตราเดินออกจากห้องทำงานไปแล้วพลอยใสก็รีบโทรศัพท์ไปหากชณิชาทันทีเพื่อแจ้งข่าวดี
“จริงเหรอคะพี่พลอย” หญิงสาวดีใจมากที่ตนเองได้งานทั้งที่เพิ่งเข้าไปคุยกับพี่พลอยใสไม่ถึงสองชั่วโมง
“จริงสิเขาตกลงแล้ว”
“เกรซต้องทำยังไงบ้างคะ เขาให้เริ่มงานเมื่อไรแล้วจะได้เงินตอนไหน” กชณิชาถามด้วยความตื่นเต้นเพราะเริ่มงานเร็วเธอก็จะได้เงินมาใช้หนี้เร็ว
“เกรซยังไม่ต้องเริ่มงานตอนนี้หรอกนะเพราะเจ้านายของเขาจะเดินทางไปต่างประเทศน่ะ กว่าจะเริ่มงานอีกทีก็น่าจะกลางเดือนหน้าเลย แต่ในการรับงานของลูกค้าคนนี้เกรซต้องไปตรวจเลือดตามที่พี่ส่งรายละเอียดให้และต้องฉีดยาคุมกำเนิดด้วยเกรซจะโอเคกับข้อตกลงตรงนี้หรือเปล่าล่ะ”
“โอเคค่ะ” ไม่ว่านายจ้างจะให้ทำอะไรตอนนี้หญิงสาวก็ยอมทุกอย่างขอแค่ได้เงินมาใช้หนี้ก็พอ
“เกรซส่งรูปถ่ายบัตรประชาชนพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้องระบุว่าใช้สำหรับกู้ยืมเงินให้พี่ด้วยนะ พี่จะส่งรายละเอียดให้ว่าคนที่ให้เรากู้เงินชื่ออะไร”
“ทำไมต้องทำสัญญากู้เงินด้วยล่ะคะ”
“ก็เราเอาเงินเขามาล่วงหน้าตั้งสองแสนแล้วยังไม่ได้เริ่มงานเขาก็คงกันไว้ก่อนเพราะกลัวว่าเราจะไปหลอกเขาแล้วหนี” พลอยใสอธิบายอย่างใจเย็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่กชณิชารับงานและการรับงานของเธอมันก็ต่างจากเด็กคนอื่น
“แต่เรื่องสัญญาพี่จะช่วยดูให้อีกที เขาจะเข้ามาทำสัญญาเสาร์หน้าเกรซสะดวกเข้ามาใหม”
“สะดวกค่ะ พี่พลอยช่วยคุยให้เกรชหน่อยได้ไหมคะ เกรซลืมคิดไปว่าถ้าได้เงินมาสองแสนก็ต้องหักให้พี่พลอยหกหมื่นบาทมันคงไม่พอใช้หนี้หรอกค่ะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเพราะในกรณีนี้พี่จะได้เปอร์เซ็นต์ต่างหากไม่เกี่ยวไม่ได้หักจากเด็กจ้ะ”
“จริงเหรอคะพี่พลอย”
“จริงสิ”
“ไม่ใช่ว่าพี่พลอยไม่เอาเปอร์เซ็นต์จากเกรซเพราะสงสารที่เกรซเป็นหนี้หรอกนะคะ”
“ไม่หรอกเรื่องเงินเรื่องทองพี่ไม่สงสารใครทั้งนั้นแหละเกรซก็รู้นี่ว่าพี่งกเงินขนาดไหน พี่ไม่ยอมเสียเปรียบแน่” พลอยใสพูดออกไปตามตรงเพราะในกรณีที่ดิวเด็กให้เป็นคู่นอนแบบนี้เธอจะได้เปอร์เซ็นต์ต่างหากจากนายจ้าง
“ขอบคุณมากนะคะพี่พลอย”
“ไม่เป็นไรจ้ะตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ที่เกรซจะตัดสินใจถ้าระหว่างนี้เปลี่ยนใจก็โทรบอกพี่ได้พี่จะได้โทรแจ้งฝ่ายโน้น อันที่จริงพี่ไม่อยากให้เรารับงานแบบนี้เลยแต่มันเป็นงานที่ได้เงินดีและได้เงินเร็ว”
“เกรซก็ไม่อยากรับงานหรอกค่ะพี่แต่ทำยังไงได้ล่ะความจนมันบีบบังคับเงินตั้งสองแสนจะให้ไปทำงานสุจริตที่ไหนมันจะทันล่ะ”
“พี่เข้าใจจ้ะ”
“ขอบคุณพี่พลอยอีกครั้งนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะเราก็ได้เงินกันทั้งคู่ พี่วางสายก่อนนะแล้วจะส่งรายละเอียดให้”
“ค่ะพี่พลอย”
“พี่พลอยว่ายังไงบ้างเกรซ” กัญญาวีร์รีบถามเมื่อเพื่อนวางสายตอนนี้ทั้งสองคนนั่งอยู่ในร้านชาบูแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้า
“พี่เขาบอกว่ามีคนตกลงจะจ้างน่ะ”
“อะไรนะทำไมมันเร็วแบบนี้ล่ะ แล้วเกรซจะเตรียมตัวทันเหรอ”
“ยังไม่เริ่มงานตอนนี้หรอกนายจ้างเขาไปทำธุระที่ต่างประเทศน่ะ แต่ตอนนี้เกรซต้องตรวจเลือดแล้วก็ฉีดยาคุมก่อน”
“โอ้โหต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วเงินล่ะเขาให้ตามที่ขอไหม”
“เขาหาสองแสนบาทนั่นแหละ”
“ก็เหลือแสนสี่”
“ครั้งนี้เกรซได้เต็มจำนวนเลยเพราะพี่พลอยจะได้ต่างหากจากนายจ้างเอง แต่เขาก็มีข้อแม้นะ”
“ข้อแม้อะไรเหรอถ้าเรื่องมันเยอะหรือเราเสียเปรียบมากกัญว่าเกรซต้องคิดดีๆ นะ”
“เขาให้เกรซเข้าไปทำสัญญาวันเสาร์หน้าน่ะ เป็นสัญญากู้ยืมเงินเพราะครั้งนี้จำนวนเงินที่เราขอครั้งแรกมันค่อนข้างเยอะอีกอย่างก็ยังไม่ได้เริ่มงานทันทีเขาก็เลยกลัวว่าเราจะเบี้ยว”
“ถ้าอย่างงั้นเสาร์หน้ากัญจะมารับเคสไปโมเดลลิ่งของพี่พลอยด้วยกันนะจะได้ช่วยกันดูสัญญาไง”
“ถ้ากัญไม่เสนอว่าจะไปด้วยเกรซก็ต้องขอร้องให้กัญไปด้วยอยู่นั่นแหละ เกรซเองก็กลัวโดนโกงเหมือนกันเกิดเขาใส่เลขศูนย์เกินมาตัวสองตัวคงได้ใช้หนี้กันหัวโตแน่ๆ”
“แต่เกรซจะไม่ลองคิดดูอีกทีหนึ่งเหรอ”
“พี่พลอยก็บอกให้เกรซลองคิดดูเหมือนกัน”
“ยังมีเวลาที่จะตัดสินใจก่อนจะถึงวันเสาร์หน้านะเกรซ”
“แต่เกรซคิดว่าคงไม่เปลี่ยนใจแล้วแหละในเมื่อพระเจ้าให้เรือนร่างและหน้าตาเรามาแต่ท่านไม่ได้ให้เงินทองมากมายกับเราเราก็ควรจะใช้หน้าตาที่ท่านให้มาเป็นประโยชน์”
“แล้วถ้าวันหนึ่งเกรซมีแฟนแล้วเขารู้เรื่องนี้ขึ้นมามันจะไม่มีปัญหาทีหลังเหรอ”
“เกรซคิดจะรับงานแค่ครั้งเดียวนะ แล้วจะบอกกับผู้ชายที่เข้ามาจีบด้วยว่าเกรซเคยทำงานแบบนี้เขาจะรับได้หรือจะคบกันต่อก็ค่อยว่ากันอีกที แต่คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกตอนนี้เกรซไม่อยากจะคิดอะไรเลยขอแค่ได้เงินมาใช้หนี้ให้พ่อเลี้ยงและให้แม่เกรซได้เป็นอิสระจากผู้ชายคนนั้นก็พอ”
“กัญไม่เข้าใจเลยนะโลกนี้มันไม่ยุติธรรมเลยบางคนมีเงินรวยล้นฟ้าใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยกระเป๋าใบหนึ่งของเขาเท่ากับเงินเดือนเราเกือบสองสามปีเลย แต่บางคนก็ขัดสนจนต้องยอมขายศักดิ์ศรี”
“โลกนี้มันไม่มีอะไรยุติธรรมหรอก ในเมื่อเราไม่ได้รวยล้นฟ้าศักดิ์ศรีมันก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่หรอก ใครจะมองยังไงเกรซไม่สนใจหรอกเพราะถ้าหากไม่ทำแบบนี้ก็คงต้องถูกพ่อเลี้ยงพาไปขายให้เสียที่บ่อนและถึงตอนนั้นคิดว่าสถานการณ์มันก็คงแย่มากๆ”
“กัญรู้ว่าที่เกรซทำทุกอย่างก็เพราะความจำเป็น”
เกือบสองเดือนแล้วที่ธามนิธิไม่ได้ข่าวคราวของกชณิชาเลย เขาไม่รู้จะไปตามหาเธอที่ไหนเพราะไม่รู้จักเพื่อนหรือครอบครัวของหญิงสาวเลย ในทุกวันจึงได้แต่หวังว่าจะบังเอิญเจอกับเธอที่ไหนสักแห่งชายหนุ่มไปยังร้านอาหารที่เคยพาหญิงสาวไปทาน บางครั้งก็ไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าที่เคยพาเธอไปเดินซื้อของแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาธามนิธิไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับตัวหญิงสาวเลยสักนิดชายหนุ่มให้คุณสุจิตราติดต่อไปที่โมเดลลิ่งแต่ก็ทางโมเดลลิ่งก็บอกว่าหญิงสาวไม่ได้ติดต่อมาที่นี่นานแล้วชายหนุ่มได้เบอร์โทรศัพท์ของกัญญาวีร์มาจากโมเดลลิ่งเขาโทรไปถามเธอแต่กัญญาวีร์ก็บอกว่าเธอเองก็ไม่ได้เจอกับกชณิชานานแล้วเหมือนกันเขาไม่รู้เลยว่าป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างเธอจะทำงานที่ไหน มีชีวิตที่สุขสบายดีหรือเปล่าและจะคิดถึงเขาบ้างไหม ส่วนตัวเขาเองนั้นไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิดถึงเธอวันนี้เขารู้สึกเซ็งสุดขีดเนื่องจากเพื่อนสนิทอย่างภากรและณัฐวิทย์ไม่ว่างทำให้เขาต้องออกมานั่งดื่มที่ผับแห่งนี้ตามลำพังธามนิธิเลือกที่จะนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์แทนการขึ้นไปนั่งบริเวณโซนวีไอพีชั้นสองอย่างเคยเพราะขึ้นไปนั่งบนนั้นคนเดียวก็รู้สึกเหงา ชายหนุ่มนั่งดื
ธามนิธิรู้เรื่องลาออกของกชณิชาก็ตกใจเป็นอย่างมากเขารีบโทรศัพท์มาคุยกับเธอทันทีเมื่อทราบเรื่อง“ผมว่าเราต้องคุยกันนะเกรซว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเกรซต้องลาออกด้วย”“คุณธามยังจะต้องถามเกรซอีกเหรอคะ คุณก็น่าจะรู้ว่าทำไมเกรซถึงต้องลาออก”“แล้วมันเพราะอะไรล่ะ”“คุณอย่าทำเหมือนไม่รู้เรื่องเลยนะคะ เกรซรู้หมดแล้วว่าคุณมีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงานกันในไม่ช้า”“ผมขอโทษที่ไม่บอก ผมไม่คิดว่ายุ้ยจะกลับมาเร็วแบบนี้”“คุณรู้มาตลอดว่าคุณมีคู่หมั้นแต่คุณก็มาขอคบกับเกรซ เกรซคงเป็นแค่ผู้หญิงคั่นเวลาสำหรับคุณใช่มั้ยคะ”“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะเกรซ”“คุณธามไม่คิดแล้วทำไมถึงมาขอคบกับเกรซทั้งที่ตัวเองมีคู่หมั้นอยู่แล้วล่ะคะ”“มันไม่ใช่แบบนั้นเลยนะเกรซ”“แล้วมันเป็นแบบไหนคะ”“ที่ผมบอกคุณว่าจะบอกทุกคนเรื่องของเราในงานปีใหม่ผมพูดจริงนะเกรซจากนั้นผมก็จะบอกคุณพ่อคุณแม่ให้ยกเลิกการหมั้นระหว่างผมกับยุ้ย”“แต่มันก็สายเกินไปแล้วค่ะคุณธาม ตอนนี้คุณสองคนกำลังจะแต่งงานกันแล้วจะให้เกรซทนทำงานอยู่ในบริษัทได้ยังไงคะ”“แล้วคุณจะไปทำงานที่ไหนล่ะเกรซ เอาอย่างนี้ดีมั๊ยคุณไม่ต้องทำงานเลยผมจะให้เงินเดือนคุณเอง ผมจะให้คุณอยู่ที่คอนโ
บ่ายนี้กชณิชาไม่มีสมาธิทำงานเลยสักนิดแต่เธอก็พยายามเคลียร์งานตรงหน้าให้เสร็จทันตามเวลาหญิงสาวอยากจะโทรศัพท์ไปถามธามนิธิว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังเลยสักครั้ง เมื่อวานชายหนุ่มเพิ่งพูดว่าจะบอกคนอื่นเรื่องที่คบกับเธอในงานปีใหม่ แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มีเรื่องคู่หมั้นของเขามาให้เธอได้ยินกชณิชาอยากโทรศัพท์ไปถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่คิดว่าคงไม่ได้รับคำตอบอย่างแน่นอนหญิงสาวเลยคิดจะไปดักรอเขาที่ลานจอดรถเมื่อถึงเวลาเลิกงานหญิงสาวก็ไปยืนแอบอยู่ที่เสาต้นใหญ่ใกล้รถของธามนิธิและคิดว่าเมื่อเขามาถึงเธอจะเข้าไปถามเขาให้รู้เรื่อง หญิงสาวรอด้วยหัวใจที่เต้นแรงและหวังว่าเรื่องที่วนิดาได้ยินมามันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเธอยืนแอบอยู่หลังเสาต้นใหญ่ประมาณสิบนาทีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางลานจอดรถ ตอนนี้เหลือเพียงแค่รถของธามนิธิเพียงคันเดียวเท่านั้นเธอกำลังจะก้าวขาออกมาแต่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดเขามาเสียก่อน“พี่ธามคะคุณแม่บอกว่าวันเสาร์นี้เราต้องไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วยกันนะคะพี่ธามว่างไหมคะ”“ไม่ว่างก็ต้องว่างนั่นแหละ แล้วยุ้ยล่ะโอเคไหมสำหรับงานแต่งงาน”“โอเคค่ะ สำหรับ
เพราะตนเองก็มีใจให้กับธามนิธิอยู่แล้วกชณิชาจึงใช้เวลาในการตัดสินใจไม่นาน เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่เธอเห็นถึงความพยายามของเขาที่ทั้งโทรศัพท์มาหาและตามรับส่ง หญิงสาวก็ยอมตกลงคบกับเขาการคบกันครั้งนี้ไม่มีเรื่องเงินหรือสัญญาเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ทั้งสองก็ยังไม่บอกให้ใครรู้แม้กระทั่งคุณสุจิตราเลขาของชายหนุ่มเองก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับกชณิชาเลยเพราะเธอเองก็ชอบที่จะอยู่เงียบๆ แบบนี้หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าสถานะของตนเองกับธามนิธินั้นจะคบกันได้นานแค่ไหนเธอรู้แค่ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากธามนิธิเอาใจเธอทุกอย่างและเธอเองก็ตามใจเขาในทุกๆเรื่องรวมถึงเรื่องบนเตียงซึ่งทั้งสองก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เธอกับเขาใช้เวลาในทุกๆ วันด้วยกันอย่างมีความสุขตอนนี้กชณิชาย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมแห่งเดิมแล้วโดยที่ธามนิธิก็ย้ายของใช้ของตนเองเข้ามาอยู่กับเธอด้วยหญิงสาวรู้ว่าเขาเองก็มีคอนโดมิเนียมอีกแห่งหนึ่งแต่เธอก็ไม่เคยถามหรืออยากจะไปที่นั่นเพราะเข้าใจดีว่าเขาก็อาจจะอยากมีโลกส่วนตัวเหมือนกับเธอที่ถึงแม้จะย้ายมาอยู่กับเขาได้เดือนกว่าแล้วแต่ก็ยังคงเช่าหอพักไว้อย่างเดิมและมักจะแวะไปทำความสะอาดอยู่บ่อยๆใ
ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ธามนิธิไม่ได้เจอกชณิชา เขาเว้นระยะเพราะคิดว่าถ้าห่างจากเธอแล้วความรู้สึกของตนเองจะชัดเจนขึ้นและมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆตอนนี้เขารู้ใจตัวเองแล้วว่าความรู้สึกที่มีให้กับกชณิชานั้นมันมากกว่าคู่นอนและอาจจะเรียกว่ารักเลยก็ได้ ธามนิธิไม่อยากชักช้าอีกต่อไปเขาคิดว่าจากนี้จะจัดการทุกอย่างไปตามที่หัวใจตนเองต้องการชายหนุ่มโทรศัพท์ไปหากชณิชาแต่หญิงสาวก็ไม่ยอมรับสายเขาจึงใช้โทรศัพท์ภายในโทรไปที่โต๊ะทำงานของเธอ“สวัสดีค่ะแผนกธุรการค่ะ” กชณิชารับสาย“เกรซผมเองอย่าเพิ่งวางสายนะ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”“เกรซไม่มีเรื่องจะคุยอะไรกับคุณหรอกนะคะ”“แต่ผมมี”“คุณธามคะนี่มันเป็นเวลางานเกรซขอทำงานก่อนนะคะ” หญิงสาวกระซิบเพราะกลัวว่าเพื่อนร่วมงานจะได้ยินว่าเธอคุยกับใคร“เกรซถ้าคุณไม่ยอมคุยกับผม ผมจะไปหาคุณที่แผนกนะ” ธามนิธิขู่เสียงเข้ม“อย่านะคะ” หญิงสาวตกใจเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะมาหาที่แผนกตามที่พูดจริงๆ“ถ้าไม่อยากให้ผมไปหาคุณที่แผนกเย็นนี้เจอกันหน่อยได้ไหม”“แต่.....”“ไม่มีแต่นะเกรซครั้งนี้ผมขอสั่งคุณในฐานะเจ้าของบริษัทก็แล้วกัน คุณไปเจอผมร้านอาหารญี่ปุ่นร้านเดิมที่เราเคยไปด้วยกัน
ธามนิธิรู้สึกโกรธและโมโหมากที่กชณิชาไม่ยอมทำตามข้อเสนอของเขา แต่ชายหนุ่มก็ไม่รู้จะทำยังไงให้เธอยอมทำสัญญากับตนเองอีกครั้ง ครั้นจะไปบังคับเธอก็ไม่ใช่นิสัยของเขาหรือจะไปขอร้องเธอก็กลัวเสียศักดิ์ศรีวันนี้เขารู้สึกเบื่อๆ จริงออกมานั่งดื่มกับเพื่อนที่ผับประจำของพวกเขา“ว่าไงวะหายไปนานเลยวันนี้ไม่พาน้องเกรซมาด้วยเหรอ” ภากรทักทายเพื่อนเป็นคนแรก“จะพามาได้ยังไงล่ะตอนนี้หมดสัญญาแล้ว”“สามเดือนนี่ไวเหมือนกันนะ แล้วผู้หญิงคนต่อไปล่ะเป็นใครพามาให้เพื่อนรู้จักนะจะได้ไม่ทับทางกัน” ณัฐวิทย์พูดอย่างอารมณ์ดี เขารู้ว่าเพื่อนมักจะขาดผู้หญิงไม่ได้เมื่อคนเก่าครบสัญญาเขาก็จะหาคนใหม่มาทำสัญญาทันที“ตอนนี้เบื่อว่ะฉันยังไม่อยากได้ผู้หญิงคนใหม่”“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำว่าเบื่อออกมาจากปากนายนะธาม”“ก็มันเบื่อจริงนี่กร”“แต่ท่าทางนายเหมือนคนอกหักเลยนะ มีอะไรหรือเปล่า” ภากรสังเกตว่าวันนี้เพื่อนของตนไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเดิม“นิดหน่อยน่ะ”“มันเรื่องอะไรเหรอธาม ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้เลย”“นายว่าเกรซเป็นยังไงล่ะณัฐ”“เท่าที่ได้เจอกันสองสามครั้งฉันก็ว่าเธอเป็นคนน่ารักดีนะหรือที่ยังไม่ยอมมีคนใหม่เพราะเกิดต