บทที่ 6
...
อื๊อ~
“เอ๊ะ! คุณราชันย์”
“ทำไมไม่อาบน้ำ”
ราชันย์ไม่พูดเปล่า มือหนาที่ซุกซนกำลังลูบไล้เรียวขาของเธอไปด้วย ทำให้กอหญ้ามีอาการประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ดันตัวเองลุกจากที่นอนมานั่งมึน ๆ นิ่ง ๆ
“ฉันเผลอหลับไปค่ะ คุณราชันย์หิวไหมคะเดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้ทาน”
“หิว..แต่เหมือนว่าผมจะไม่ได้หิวข้าวนะ คุณพอจะช่วยเลี้ยงอาหารมื้อพิเศษนี้ให้ผมได้ไหมกอหญ้า”
สายตาที่ราชันย์มองหญิงสาวตรงหน้ามันช่างเร่าร้อนจนแทบจะสามารถแผดเผาให้คนที่อยู่ตรงหน้าละลายไปกับที่นอนได้อย่างง่ายดาย เธอหน้าแดงราวกับสีของผลเชอรี่สุกอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ทุกครั้งที่เธอมองราชันย์ร่างกายของเธอก็รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ อย่างควบคุมไม่ได้ทุกครั้ง ยิ่งทำให้ความคิดไม่รักดีผุดเรื่องราวน่าอับอายขึ้นมาอีกหลายต่อหลายฉาก ก่อนที่ทุกอย่างจะเตลิดไปมากกว่านี้เธอจึงต้องสลัดความฟุ้งซ่านนี้ออกไป
“เอ่อ..เดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้ทานนะคะ”
พูดจบเธอก็เด้งตัวโดดลงจากที่นอนมุ่งหน้าเดินไปเข้าครัวทันทีโดยไม่สนใจบุคคลด้านหลังแต่อย่างใด ราชันย์ที่เห็นการกระทำของเธอก็ได้แต่ยิ้มเล็ก ๆ อย่างขบขันกับท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า หากมีคนอื่นมาเห็นอาการนี้ของเขาแล้วต้องคิดว่าเขาเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ เพราะคนอย่างราชันย์แทบไม่เคยยิ้มให้ใครเลยก็ว่าได้ แต่ถึงเธอนั้นจะอยู่ในฐานะของนางบำเรอ แต่งานบ้านที่ราชันย์สั่งไม่เคยบกพร่องแม้แต่อย่างเดียว ราชันย์สลัดภาพหญิงสาวตรงหน้าออกก่อนจะเดินหามือถือที่เพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าวันนี้ลืมเอาไปบริษัทด้วย
“กอหญ้า”
“คะ?”
“เห็นมือถือผมบ้างไหม?”
“เห็นอยู่บนโต๊ะในห้องรับแขกค่ะ”
ราชันย์พยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินออกไปที่ห้องรับแขกตามที่หญิงสาวบอก เมื่อพบมือถือที่ตามหาก็กดต่อสายตรงไปหาธันวาทันที
ตื๊ด ตื๊ด
‘ไอ้ธัน อาทิตย์หน้ากูจะไปฮ่องกง มึงเตรียมเอกสารให้กูด้วยนะ’
‘น่าจะเป็นอาทิตย์ ป๊าให้ไปดูโรงงานที่ฮ่องกงแทน’
‘อืม ขอบใจ’
เมื่อวางสายจากธันวาแล้ว ราชันย์ก็เดินมาหากอหญ้าที่กำลังเตรียมอาหารในครัว ตั้งแต่ที่ให้หญิงสาวคนนี้มาดูแลเรื่องอาหารแล้วทุกอย่างก็ดูเป็นเรื่องที่ดีไปเสียหมด ไม่ว่าจะเรื่องอาหารการกินเธอก็ทำได้ไม่เคยขาด เสื้อผ้าจัดการได้ไม่เคยเสีย ความสะอาดของคอนโดทุกอย่างเธอทำได้ดีมากจริง ๆ ถึงแม้ว่าภายนอกเธอจะดูเหมือนลูกคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น แต่เธอก็ทำให้เห็นแล้วว่าเธอมีความสามารถเรื่องงานบ้านงานเรือนจริง ๆ
“วันนี้เป็นอาหารง่าย ๆ นะคะพอดีของสดหมด เดี๋ยวกอหญ้าจะออกไปซื้อมาเพิ่ม”
“อืม..ว่าแต่เธอจะมานั่งกินข้าวด้วยชุดนี้หรอ ไปอาบน้ำสักหน่อยไหม หรือจะให้ฉันอาบให้ดี”
“เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวกอหญ้าไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
“ส่วนนี่ เป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปในบ้าน”
ราชันย์ ยื่นบัตรATM หนึ่งใบให้เธอ กอหญ้าทำหน้างง ๆ แต่ก็ยื่นมือไปรับมาทันที การที่เธออยู่กับราชันย์มาในหลาย ๆ วันนั้น ทำให้เธอเริ่มจับทางราชันย์ถูก ราชันย์ไม่ชอบให้เธอขัดใจ และที่สำคัญเงินที่ราชันย์เคยให้ไว้ตอนนั้นก็เกือบหมดแล้วด้วย ถึงแม้แทบจะไม่ได้ใช้อะไรเลยก็เถอะ แต่ค่ารถไปกลับกาสิโนก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลยเช่นกัน
“ค่ะ”
“ฉันอาจจะไม่อยู่หลายวัน หวังว่าฉันกลับมาเธอจะไม่สร้างปัญหาอะไรไว้ให้ฉันตามเก็บนะ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นฉันจะจัดการกับเธออย่างหนักเลย”
“รับรองค่ะ ไม่มีปัญหาให้คุณราชันย์ปวดหัวแน่นอน คุณราชันย์สบายใจได้ กอหญ้าขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
“เชิญ”
หลังจากกอหญ้าจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เธอก็ขออนุญาตราชันย์เพื่อออกมาซูเปอร์มาเก็ตเพื่อที่จะซื้อของใช้เข้าห้องทันที เธอเดินเลือกสินค้าทั่วไปหลายชิ้นหยิบลงรถเข็นอย่างเชื่องช้า โดยที่ลืมดูเบื้องหน้า ทำให้รถเข็นของเธอเลื่อนไปชนเข้ากับบุคคลอื่นอย่างไม่ตั้งใจ
“ขอโทษค่ะ ๆ”
“กอหญ้าไม่ใช่หรอ?”
“ปอร์เช่!”
“กอหญ้า นี่เธอหายไปไหนมาตั้งนาน เราไปหาเธอที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่เลย”
“พ่อไม่อยู่บ้านหรอ?”
“ไม่นะ! เราไปตั้งหลายรอบไม่มีใครอยู่เลย เธอไม่รู้หรอ?”
“เอ่อ.. พอดีเราออกมาทำงานพิเศษ แล้วมือถือเราพังพอดี เลยไม่ได้ติดต่อใครเลย ยังไม่ได้ซื้อใหม่ด้วย”
“งั้นไปซื้อกันเถอะ”
“เห้ย! ไม่เป็นไรพอดีหญ้าไม่ค่อยได้ใช้ด้วย หญ้าดีใจนะที่ได้เจอปอร์เช่ที่นี่”
“ไม่เอาอะ! ไปซื้อมือถือกัน เวลาติดต่อเธอไม่ได้เราเป็นห่วงมากรู้ไหม”
“พอดีที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงินน่ะ หญ้าไม่มีเงินมากพอหรอก”
“ไม่เป็นไร ไว้เธอมีเงินค่อยเอามาคืนเราก็ได้”
“คือ...”
“ไปเถอะกอหญ้า ร้านอยู่ชั้น3นี่เอง”
“ขอบคุณนะปอร์เช่ ฉันจะรีบหาเงินมาคืนให้นะ”
“ไม่ต้องรีบเลย ความจริงฉันสงสัยนะว่าฐานะแบบเธอทำไมต้องออกมาทำงานพิเศษด้วย”
“หญ้าขอไม่ตอบเรื่องนี้ได้ไหม”
“ได้อยู่แล้ว สำหรับกอหญ้าเราเชื่อใจเธอมาตลอดนะ”
“ปอร์เช่..”
ปอร์เช่ได้พากอหญ้ามาซื้อมือถือยี่ห้อดังตามที่ต้องการ ก่อนจะพากันมาทานอาหารในร้านอาหารแบรนด์โปรดของกอหญ้า
“มาแลกไลน์กันไว้หน่อย”
“อืม...”
“น้องครับ ขอสั่งอาหารหน่อยครับ”
“ได้ค่ะ รับอะไรดีคะ”
“กอหญ้าเอาเหมือนเดิมไหม”
“เอาเหมือนเดิมเลย”
“ว่าแต่กอหญ้าจะไปไหนต่อหรอ วันนี้เราว่างพอดีให้เราไปเป็นเพื่อนไหม”
“ไม่เป็นไร เราซื้อของเรียบร้อยแล้วแหละ”
“กอหญ้า..เราว่าเธอแปลกไปนะ”
“หญ้าไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก อ๊ะ! อาหารมาพอดีเลย เราทานอาหารกันเถอะ”
ปอร์เช่เองก็ไม่ซักไซ้กอหญ้าให้เสียบรรยากาศ ทั้งสองนั่งทานอาหารกันอย่างบรรยากาศอึมครึม กอหญ้าเองไม่ได้อยากปิดบังปอร์เช่เลยแม้แต่น้อย แต่เนื่องจากอีกแค่สองเดือนกว่า ๆ เท่านั้นสัญญาที่เธอทำไว้กับราชันย์ก็จะสิ้นสุดลงแล้ว เธอไม่อยากให้ปอร์เช่เป็นห่วงเธอด้วย และที่สำคัญ กฎหลักที่ราชันย์ตั้งไว้ คือห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่นระหว่างที่อยู่ในสัญญา แต่ว่านะปอร์เช่เองเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ไม่ใช่คนอื่นคงไม่น่ามีปัญหาหรอกมั้ง
“อร่อยเหมือนเดิมเลยใช่ไหมปอร์เช่”
“ถูกต้องแล้ว”
“เดี๋ยวมื้อนี้หญ้าเลี้ยงเองนะ”
“ไม่ต้องเลย กอหญ้าคนเดียวเราสามารถเลี้ยงได้ไปตลอดชีวิตเลย”
“ปากหวานอีกแล้ว ขอบคุณนะปอร์เช่”
“เดี๋ยวเราไปส่ง พักที่ไหน”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรากลับเอง พอดีจะแวบไปซื้อของใช้ของผู้หญิงนิดหน่อยน่ะ งั้นเดี๋ยวเรากลับก่อนนะ”
“โอเค ถ้าถึงแล้วทักบอกเราด้วยนะ”
กอหญ้าเองก็พยักหน้ารับแทนคำพูด ก่อนจะยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกงขาสั้น และถือสัมภาระทั้งหมดออกมา โบกมือให้ปอร์เช่ และรีบมาเรียกรถประจำทางเพื่อกลับไปคอนโดทันที ด้วยของที่พะรุงพะรังทำให้เธอเดินขึ้นคอนโดอย่างทุลักทุเลเป็นอย่างมาก เธอค่อย ๆ แตะคีย์การ์ดออกมาเปิดประตูออก แล้วเอาของทั้งหมดมาวางบนโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาอย่างหมดแรง
“เฮ้อ! เหนื่อยชะมัด”
เธอเองก็ไม่ลืมที่เพื่อนบอก เธอควานมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของเธอ แล้วก็พบกับมือถือที่เพิ่งซื้อมา กดเปิดโปรแกรมไลน์ ส่งข้อความหาปอร์เช่ เพื่อไม่ให้เขาต้องเป็นห่วง
‘ถึงห้องแล้วนะ’
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ