"เรื่องจริงเหรอ" เสียงของอาเธอร์สั่นอย่างคนที่ได้ฟังเรื่องตลกร้ายที่กำลังพยายามควบคุมอารมณ์ให้มันเป็นแค่เรื่องแกล้งหยอกกันเล่นไม่เป็นความจริง
"จริงนี้ผลตรวจ" ลูกศรหยิบเอกสารใบรับรองพร้อมกับยาพร้อมกับยาบำรุงครรภ์ที่ได้มาวันนี้
"เชี้ยเรื่องจริงวะ" อาเธอร์หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านให้ละเอียดไม่ต้องถามอะไรก็รู้ว่าเด็กมาในคืนงานเลี้ยงรุ่นแน่นอน
"ระเราอยากถามอาเธอร์ว่าจะทำยังไงกันดีกับเด็กในท้องที่มาถามความเห็นเพราะเราสองคนเป็นคนทำให้เขาเกิดมาเลยต้องถามความเห็นของนายด้วย" ร่างสูงรู้สึกเหมือนกำลังโดนต่อยเพราะตอนนี้ในหัวของเขามันมึนไปหมดจนแทบจะคิดอะไรไม่ออกแล้ว
"เดี๋ยวขอตั้งสติสักยี่สิบนาทีไม่สิสามสิบนาทีเลยแล้วกัน" อาเธอร์ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ลูกศรพูดอะไรอีก
เมื่อเห็นอาการของอาเธอร์ที่ไม่ต่างจากจินตนาการของตัวเองที่คิดมาแล้วว่าเขาต้องเป็นแบบนี้ทำให้ลูกศรยกน้ำผึ้งมะนาวขึ้นดื่มรอเวลาที่เขาจะตั้งสติได้แล้วให้คำตอบกับเธอ เราทั้งสองคนต่างก็เงียบทั้งสองฝ่าย
ลูกศรมองคนที่เดินผ่านไปมานอกร้านผ่านกระจกร้านคาเฟ่เป็นการฆ่าเวลาและคิดเอาไว้ว่าจะเลือกทางไหนให้กับตัวเองจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
"เธออยากจะเก็บเด็กเอาไว้ไหม" อาเธอร์ถามผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟนสาวไม่เชิงว่าเป็นเพื่อนเพราะไม่เคยคุยกันเลยแต่ดันได้มานอนด้วยกันแค่คืนเดียวกับทำให้ชีวิตของพวกเขาสองคนเหมือนจะผูกติดกันเอาไว้อย่างแน่นหนา
"อยาก...แต่เรากลัว" ลูกศรมองผู้ชายตรงหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำคล้ายกับคนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ
"เธอกลัวอะไร"
"เรายังเรียนไม่จบถึงแม้ว่าฝึกงานจะเหลือวอร์ดสุดท้ายที่จะเสร็จในอีกสองเดือนข้างหน้าจะเรียนจบ แต่นายก็รู้ว่าหลังเรียนจบยังมีสอบใบประกอบวิชาชีพอีกเรายังไม่มีงานทำจะเอาอเงินที่ไหนมาดูแลเขาได้ฮึกฮื่อ!หรือนายไม่กลัวเลย" ลูกศรระบายความอัดอันตันใจให้กับพ่อของเด็กในท้องให้เขาได้รับฟังความรู้สึกภายในของเธอ
"กลัวสิแต่เรากลัวขาดอิสระนะ ส่วนเรื่องเงินเลี้ยงดูเด็กทางบ้านเราไม่มีปัญหาเธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก" อาเธอร์เองก็ยอมรับว่าเขากลัวเหมือนกันแต่กลัวว่าเขาต้องรับผิดชอบผู้หญิงตรงหน้าไปด้วย
"หมายความว่ายังไงเหรอที่นายกลัวว่าจะขาดอิสระ" ลูกศรไม่ค่อยแน่ใจกับคำถามของอาเธอร์เรื่องที่เขากลัว
"บอกตามตรงนะตอนนี้ฉันยังมีความสุขกับชีวิตโสดยังรู้สึกว่าตัวเองอายุยังน้อยไม่พร้อมจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนในตอนนี้" อาเธอร์มองสบตาผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังจะกลายเป็นแม่ของลูกของเขาตั้งแต่เรียนยังไม่จบมหาลัย
"เราเข้าใจแล้ว อาเธอร์ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นเราจะไม่บอกทางบ้านเรื่องเด็กในท้องจนกว่าจะรับปริญญาเด็กคงคลอดแล้วจะไม่มีการแต่งงานนอกจากรับรองบุตร เราสองคนจะเป็นแค่เพียงพ่อแม่ของเด็กเท่านั้น..." ท้ายประโยคลูกศรแทบฝืนให้พูดต่อไม่จบเกือบจะปล่อยโฮออกมาแต่โชคดีที่กลั่นน้ำตาเอาไว้ได้แม้เสียงจะสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ไหวกับเรื่องที่เจอและแบกรับตอนนี้
"เราจะเชื่อคำพูดเธอได้แค่ไหน" อาเธอร์ถามด้วยความไม่ไว้ใจและคิดว่าพ่อแม่ของเขาก็เช่นกัน
"ไม่รู้สิแต่เรามั่นใจว่าตัวเองจะไม่มีวันผิดคำพูดว่าเราสองคนจะเกี่ยวข้องกันแค่เรื่องเด็กเท่านั้น" ลูกศรสะบัดหน้าเฉิดขึ้นสูงอย่างเย้อหยิ่งอย่างฉุนเฉียวอารมณ์ขึ้นมา
"เอาอย่างนี้เราจะให้ทนายประจำตระกูลมาร่างสัญญาขึ้นมาแล้วก็เซ็นรับรองถ้าเธอผิดสัญญาจะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย" คำพูดที่เหมือนกำลังข่มขู่ทำเธอรู้สึกสะอึกจนแทบจะกลั่นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ใช่อยู่ว่าตัวเธอแอบชอบผู้ชายตรงหน้าเขามันคุณชายผู้แสนจะเพอร์เฟคหล่อรวยแต่ใช่ว่าเธอจะต้องยอมเขาดูถูกได้อย่างนี้
"เอ่อร่างมาเลย! เราต่างมีอิสระจะมีแฟนอะไรก็ต่างคนต่างมีไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย" ลูกศรตะคอกเสียงดังแต่น้ำตากับไหลหยดลงใส่ฝ่ามือเธอใช้หลังมือปาดออกรวดๆไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายใจร้ายตรงหน้าให้เขาด่าว่าเธอริอ่านจะอยากจับเขาจนตัวสั่น
"ตกลงเราจะรับผิดชอบแค่เด็กในท้องของเธอ" พอตกลงกันได้ลูกศรก็รีบออกจากร้านคาเฟ่ทันทีเธอไม่อยากจะมองหน้าคนอย่างเขาให้ช้ำใจเพราะรู้ดีแก่ใจว่าเขาไม่ผิดมีแต่หัวใจเจ้ากรรมของเธอที่มันไปสอบเขาเอง
"จำใส่สมองแกไว้นะลูกศรเขาบอกอยู่ว่าจะไม่ชอบแกเพราะงั้นตัดใจได้แล้วความหวังลมๆแร้งๆมันไม่มีวันมีอยู่จริงสำหรับคนอย่างแกหรอกลูกศรฮื่อฮึก!" ลูกศรด่าตัวเองให้จำแล้วเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่หอพักใกล้มหาลัยของเธอ
ถึงจะเสียใจร้องไห้เครียดจนจะเป็นบ้าแต่พอมองเห็นนาฬิกาเป็นเวลาเกือบสองทุ่มอารมณ์ดิ่งก็ถูกฉุดนั้นขึ้นมาจากความนึกคิดของตัวเองมือบางลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบอยู่เพราะอายุครรภ์แค่สองเดือนแต่ความอบอุ่นกับวาบขึ้นมาในหัวใจเมื่อนึกถึงเด็กตัวเล็กๆที่กำลังขดตัวอยู่ข้างในท้องที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวันจนกว่าจะครบเก้าเดือนถึงจะเห็นหน้าเขา
"ไหนดูหน่อยซิว่าในตู้เย็นมีอะไรที่มีประโยชน์พอให้หนูกินบ้าง" ลูกศรลูบท้องและพูดกับลูกน้องที่ยังเป็นก้อนเล็กเท่าเมล็ดถั่วอยู่ ในตู้เย็นมีเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและไข่เท่านั้นของสดอย่างอื่นหมดแล้วจะลงไปก็เหนื่อยทั้งกายและใจไม่มีแรงแม้กระทั้งจะเดินแล้วตอนนี้คงต้องกินเท่าที่มีไปก่อน
"กินแค่นี้ไปก่อนนะลูก แม่สัญญาว่าพรุ่งนี้จะไปหาซื้อของสดที่มีประโยชน์สำหรับหนูมาไว้ให้เยอะๆเลย" ว่าแล้วลูกศรก็จัดการต้มบะหมี่สำเร็จรูปและใส่ไข่ลงไปในหม้อที่น้ำเดือดไม่นานก็ตักใส่ถ้วยยกวางไว้โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่ใช้อ่านหนังสือเวลาอยากนั่งกับพื้นพร้อมกับเปิดไอแพดทบทวนบทเรียนไปด้วย ชีวิตนักศึกษาแพทย์แม้จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่เรื่องเรียนต้องมาก่อนเสมอ
เพื่อนทักมาถามมาให้กำลังใจและบอกว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับให้รู้กันแค่สี่คนพอแต่ลูกศรรู้ดีกว่าเมื่อท้องเธอโตขึ้นก็คงปิดเรื่องนี้เอาไว้ไม่อยู่แน่นอน
พอกินเสร็จก็อาบน้ำเตรียมเข้านอนโทรศัพท์ก็มีข้อความแจ้งเตือนเข้ามาพอหยิบขึ้นมาดูถึงเห็นว่าจากอาเธอร์ที่ยังไม่ได้เพิ่มเพื่อนในแอปฟ้า
อาเธอร์ 'นี้ไฟล์เอกสารที่เธอต้องเซ็นแล้ว'
ลูกศร 'เดียวพรุ่งนี้เซ็นต์แล้วจะส่งไปให้' พอตอบข้อความแล้วเสร็จแล้วลูกศรก็ไม่รอให้อาเธอร์ตอบกับปิดโทรศัพท์แล้วนอนอย่างไม่สนใจเธอต้องนึกถึงสุขภาพของลูกในท้องเป็นหลักต้องรู้จักรักคนที่จะรักเธออย่างไม่มีเงื่อนไขที่กำลังจะลืมตาดูโลก
โรงอาหารในโรงพยาบาล
"ตาบวมมากสาว" แจนทักลูกศรที่เดินมานั่งลงโต๊ะตามที่นัดกินข้าวเช้าด้วยกันก่อนจะแยกย้ายกันไปขึ้นวอร์ดที่ตัวเองราว
"มันอดที่จะน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ก็เลยร้องออกมา" ลูกศรพูดบอกเล่าระบายให้เพื่อนสนิทฟัง
"คิดดีแล้วนะว่าจะเก็บเด็กเอาไว้จริงๆ" แจนกระซิบถามลูกศรเสียงเบาเพื่อไม่ให้คนที่อยู่ใกล้ๆได้ยิน
"ทำร้ายเขาไม่ลงวะแก ยังไงก็ต้องเก็บเอาไว้ต้องเลี้ยงให้ไหวสิ" ลูกศรมุ่งมั่นยังไงก็ต้องทำให้ได้เขาไม่ผิดที่เกิดมาเพราะความผิดส่วนหนึ่งก็เกิดจากตัวเธอเองที่เผลอลืมกินยาคุมกำเนิดแต่ในเมื่อเขาเกิดมาแล้วถึงจะไม่พร้อมแต่ก็จะพยายามดูแลเด็กคนนี้ให้ได้
"ถ้าแกตัดสินใจดีแล้วก็ตามใจแก เดียวน้าแจนจะช่วยเลี้ยงหนูอีกแรงนะเด็กดี"
"ขอบใจน้าแจนมากนะเพื่อน"
"ไม่เป็นไรเพื่อนกันไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว
3เดือนต่อมา..."อาเธอร์ฉันซื้อเนคไทด์ใหม่มาให้ลองเปิดดูซิว่านายจะชอบลายที่ฉันเลือกมาให้ไหม" วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ปกติลูกศรต้องไปทำงานแต่อาเธอร์อนุญาตให้ทำงานได้แค่วันเสาร์เท่านั้น ส่วนในวันอาทิตย์ให้เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง"ว้าวไหนดูซิว่าเธอจะเลือกแบบไหนให้สามีที่รักคนนนี้" อาเธอร์รับเอากล่องที่ภรรยาสาวยื่นให้กับเขา"เร็วๆรีบเปิดดูซิ" ลูกศรตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของคนเป็นสามีอย่างเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องดู"ดูเธอจะตื่นเต้นมากเลยนะลูกศร เดือนนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของฉันนี้น่ามีอะไรกัน" อาเธอร์งงกับท่าทางของเมียตัวเองแต่ก็ยอมเปิดกล่องที่ลูกศรเอามาให้นี้ พอเปิดฝากล่องออกมาก็เจอกับ..."ที่ตรวจครรภ์นี้น่าลูกศร ธะเธอท้องแล้วเหรอเนี้ยโอ้สุดยอด" คนเป็นพ่อที่ขยันทำลูกแทบทุกคืนไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังคงพยายามหื่นใส่ลูกศรทุกคืนโดยให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าต้องมีน้องตัวน้อยๆให้ออกัส"ใช่ได้3เดือนแล้วนายดีใจมากไหมรอมานานหลายเดือนแล้วนี้น่า""ดีใจที่สุดเลยลูกศร ฉะฉันต้องไปบอกออกัสไม่สิพ่อแม่ของเราด้วยว่าพวกท่านกำลังจะได้มีหลานเพิ่มแล้วไปก่อนนะ" คนเป็นพ่อรีบวิ่งเอาที่ตรวจภรรค์ไปบอกข่าว
หลังจากงานแต่งงานที่บ้านนอกจบลง ลูกศรกับอาเธอร์ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะคนนึงมีงานอีกคนมีเรียนทำให้จำเป็นต้องกลับกรุงเทพเลยฉากลาจากของตายายหลานชายวัยสามขวบก็เรียกเสียงร้องไห้งอแงไม่อยากกลับของออกัสเหมือนเดิมกว่าจะหายงอแงก็จนถึงบ้านที่กรุงเทพนั้นแหละตอนนี้ลูกศรนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดหรูของอาเธอร์ที่หยุดงานขอฮันนีมูนในคอนโดหรูกลางกรุงแห่งนี้โดยที่เจ้าลูกชายตัวป่วนไปโรงเรียน"ลูกศรเธอต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในคืนเข้าหอนะ" อาเธอ์กอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นซบหน้ากับบ่าเล็กคอเคลียร์ปากพ้นจูบไปเรื่อยจนถึงซอกคอ"สัญญาเหรอเรื่องอะไรนะทำไมยักกะจำไม่ได้""ลูกศรอย่ามาแกล้งเซไสอย่างนี้นะ เธอบอกจะขึ้นให้ฉันต้องทำตามสัญญานะบนโซฟานี้มองเห็นวิวตึกสูงข้างนอกอ้าส์วิวดีเหมาะกับการผลิตน้องสาวให้ออกัสมากๆเลยที่รัก""ท่าทางแบบนี้หักล้างใบหน้าหล่อๆของนายมากอาเธอร์ อย่ามาทำหน้าตาหื่นกามลามกแบบนี้ใส่ฉันนะ""ฮ่าๆฉันหื่นใส่เมียตัวเองผิดตรงไหนเนี้ยลูกศรยัยบ๊อง" อาเธอร์ดีดหน้าผากของลูกศรเบาอย่างหมั่นเขียวแล้วตวาดอุ้มร่างบางไปยังโซฟาที่เขาหมายมาดอย่างที่พูดออกมาเสื้อยืดสีขาวถูกถอดออกไปพร้อมโยนทิ้งอย่างไม่สนทิศทางตามด้วยกาง
งานช่วงกลางคืน"ก่อนที่จะทำการแสดงหมอลำในค่ำคืนนี้พวกเราอยากให้คู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ให้กับแขกในงานได้รับรู้หน่อยครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกบ่าวเช้าที่ยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานในค่ำคืนนี้"ขอสัมภาษณ์ความเป็นมาของเส้นทางรักในครั้งนี้หน่อยนะครับ ก่อนอื่นหมออาเธอร์กับหมอลูกศรรู้จักกันได้ยังไงครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นคนตอบก่อน"ผมเจอหน้าเธอครั้งแรกในร้านกาแฟหน้ามหาลัยครับ วันนั้นลูกศรนัดผมผ่านเพื่อนของเธอ เราคุยกันเรื่องสำคัญทำให้มีเรื่องให้เจอและสนิทกันจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาใน4ปีที่ผ่านมาครับ""ว้าวรักตอนเรียนมหาลัยโรแมนติกมากๆเลยครับ เอาล่ะผมว่าใครๆก็คงอยากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวบอกรักกันและหอมแก้มกันโชว์ความหวานให้พวกเราดูหน่อยนะครับ""อาเธอร์ฉันรักนายนะ" ลูกศรหอมแก้มเจ้าบ่าว"ลูกศรฉันก็รักเธอนะ" อาเธอร์ก็หอมแก้มเจ้าสาวแสนสวยของเขา"ว้าวปรบมือให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับเจ้าของงานในคืนนี้ด้วยนะครับ" เสียงปรบมือแสดงยินดีดังกระหึ่มก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะพากันเดินลงจากเวทีไปนั่งยังโต๊ะของครอบครัวเสียงดนตรี
"ว้าแม่ขึ้นมาเสียเที่ยวเลยแต่ใกล้จะได้ฤกษ์แห่ขันหมากอีกสามสิบนาทีนี้แล้วแม่ไปเช็คความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะลูก""ได้ค่ะแม่หนูก็เสร็จเรียบดีแล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ" แม่เดินมากอดลูกศรพร้อมกับอดที่จะน้ำตาคลอจะไหลออกมาไม่ได้"ฮึกแม่ดีใจมากที่ได้ส่งลูกสาวคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาสักที""ฮึกหนูก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกันค่ะแม่" สองแม่ลูกกอดกันกลมน้ำตาที่ไหลเป็นน้ำตาแห่งเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปิติยินดีอีกหนึ่งวันในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่"เอาๆอย่าร้องไห้วันนี้เป็นวันมงคลยิ้มกว้างๆเดียวเครื่องสำอางจะเลอะเอาได้นะลูก" แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกศร"ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณที่ไม่ว่าหนูจะทำตัวทั้งดีและไม่ดีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ใหอภัยหนูเสมอมา" ลูกศรที่กอดแม่อยู่ก็พยักหน้ายิ้มให้ท่าน"แม่กับพ่อภูมิใจในตัวของลูกเสมอนะไม่ว่าเรื่องอะไรแม้กระทั้งเรื่องหลานลูกสาวของแม่ก็เลี้ยงดูออกัสน้อยออกมาได้ดีมากอย่างโทษตัวเองอีกเลยพ่อกับแม่ไม่โกรธลูกแล้วปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปนะลูก""หนูรักแม่ที่สุดเลย""ขบวนขันหมากแห่มาแล้ว!" เสียงร้องตะโกนโห่ขันหมากเข้ามาในบ้าน"ลูกได้เวลาฤกษ์แล้ว แม่ออกไปก่อนนะลูก" แม่รีบเด
"พวกลูกจะไปจัดงานแต่งงานที่บ้านต่างจังหวัดของหนูลูกศรเหรอ" คุณย่าของออกัสถามลูกชายกับลูกสะใภ้ของท่านที่เล่าเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างปุ๊บปั๊บแบบแต่งงานสายฟ้าแลบ"ใช่ครับ รบกวนคุณแม่ให้ไปหาฤกษ์ให้ผมกับลูกศรภายในสองเดือนนี้เลยได้ไหมครับ" คนใจร้อนที่ครั้งนี้ลูกศรไม่คิดจะห้ามเขาพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า"โอ้ยแกใจร้อนไปไหมเจ้าอาเธอร์" คุณปู่ของออกัสอดที่จะแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกันเพราะว่าท่านก็รอคอยให้ครอบครัวของลูกชายสมบูรณ์จริงๆสักที"ไม่ร้อนหรอกครับพ่อ ผมกับลูกศรเสียเวลาที่จะได้แต่งงานกันมา4ปีแล้วนะพ่อกับแม่ก็รู้ดี""นั้นสิเนอะเอาจริงถ้าเริ่มนับตั้งแต่ลูกว่ามาตอนนี้ก็ช้าไปจริงๆนั้นแหละเจ้าอาเธอร์แล้วหนูลูกศรบอกพ่อแม่ของหนูหรือยังจ๊ะ" "ยังค่ะคุณแม่เดียวคุยเสร็จจากตรงนี้ หนูค่อยโทรบอกพวกท่านเลยนะคะ""ได้ๆถ้างั้นกลางเดือนนี้แม่จะไปคุยเรื่องสินสอดทองหมั่นพร้อมกันกับพวกลูกในวันที่กลับบ้านของหนูในกลางเดือน" "ได้ค่ะคุณแม่" เมื่อตกลงกันได้คุณย่าของออกัสก็ออกไปพร้อมกับคุณปู่เพื่อไปหาพระอาจารย์ดังที่พวกท่านนับถือให้หาฤกษ์ภายในสองเดือนให้ตามที่
ตกกลางคืน"ออกัสนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอครับ" เจ้าหนูคอตกกอดหุ่นยนต์ซุปเปอร์แมนเอาไว้ยู้ปากอย่างแงงอนไม่ยินยอม"ไม่ได้ห้องลูกเสร็จแล้วคืนนี้จะต้องเป็นคืนแรกที่ออกัสต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่โดยการนอนคนเดียวนะลูก" คนเป็นพ่อยังแค้นเจ้าลูกชายที่มาขัดจังหวะหวานซึ้งระหว่างขอคนเป็นแม่แต่งงานอยู่บอกเสียงแข็งอย่างไม่ยินยอมใจอ่อนให้เจ้าหนูวัยสามขวบกว่าๆคนนี้ได้นอนกับพ่อแม่ในคืนนี้"กัสเป็นเด็กนะพ่อ" เจ้าหนูแสนฉลาดตอบโต้พ่อของแกอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน"ลูกโตแล้วนะออกัสไปโรงเรียนแล้วควรแยกห้องนอนคนเดียวได้แล้ว""แต่พี่ป.1บอกว่ากัสเป็นเด็กที่สุดเลยนะพ่อยังไม่โตเล้ยยย" อาเธอร์ถึงกับอยากบิดหูเจ้าหนูตรงหน้านี้เขาเป็นที่สุดท่องเอาไว้อาเธอร์ลูกเราเหมือนเราโว้ยจะอดทนไม่ไหวแล้วเนี้ย"ฮึกฮ่าๆพอๆทั้งพ่อทั้งลูกเลิกเถียงกันได้แล้ว มาครับออกัสมาแม่อุ้มพาไปดูห้องใหม่กัน ถ้าลูกเห็นแล้วยังอยากนอนกับพ่อแม่อยู่แม่ก็จะไม่บังคับลูกนะจ๊ะ" แม่อุ้มเจ้าหนูพาเดินไปยังทิศทางห้องนอนใหม่ของแกชั้นบนของบ้านเพื่อตัดปัญหาที่ผู้ชายหน้าตาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ขนาดยืนเท้าใส่เอวเถียงกันไม่หยุดจนจะดึกดื่นเลยเวลานอนของลูกไปแล้ว"ทีกับแม่