ทวงรักคืนใจนายเจย์เดน

ทวงรักคืนใจนายเจย์เดน

last updateLast Updated : 2025-05-08
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
42Chapters
400views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

การกลับมาพบกันอีกครั้งของเขาและเธอจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนหนึ่งปักใจเชื่อไปแล้วว่า "ถูกทิ้ง" แต่อีกคนก็น้ำท่วมปากพูดความจริงอะไรไม่ได้ งานนี้จึงเดิมพันกันด้วยหัวใจ ... "ถ้าพี่ไม่รักผมแล้วก็คืนหัวใจผมมา"

View More

Chapter 1

บทที่ 1 : การกลับมากับจูบปริศนา

สายตาคมกริบราวกับมีดผ่าตัดของคุณหมอกำลังมองผ่านกระจกจากห้องวีไอพีชั้นสองของอาคารที่ถูกตกแต่งเป็นแหล่งความบันเทิงยามค่ำคืนให้กับกลุ่มคนวัยทำงาน เมื่อมองตามสายตานั้นลงไป ก็พบว่าเป้าหมายที่สายตาคู่นี้กำลังจดจ้องอยู่คือ กลุ่มคนที่นั่งโต๊ะมุม ฝั่งปีกขวาของร้านเป็นหนุ่มสาวชาวออฟฟิศกำลังนั่งกิน ดื่ม พูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

“เห็นมองอยู่นานสองนานแล้ว นายสนใจคนไหนล่ะเจฟฟ์ เดี๋ยวเราไปดีลให้ โต๊ะนี้ขาประจำของร้านเรารู้จักดี”

“ศรุต” หนุ่มเพลย์บอยเจ้าของสถานที่ ใช้ไหล่มาแตะกระทบกับไหล่ของ “เจฟฟ์ หรือ เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล” เบาๆ พร้อมทั้งยื่นแก้วไปขอชนด้วย

“เอ๊ะ.. เดี๋ยวนี้นายเปลี่ยนมากินวิสกี้แล้วหรือ เห็นตอนอยู่ที่อเมริกาตอนนั้นกินแต่เบียร์”

“หึ มันก็มีเปลี่ยนกันบ้างสิ กินแต่แบบเดิมก็จำเจแย่”

“เหมือนผู้หญิงด้วยปะล่ะ เดี๋ยวนี้นายยังเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่นเหมือนก่อนหรือเปล่า”

“อันนี้นายพูดถึงตัวเองหรือพูดถึงใคร ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ชายหนุ่มทั้งคู่ยื่นแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอำพันมาชนกันแล้วยกขึ้นจิบแล้วศรุตก็ถามถึงที่มาที่ไปของเจฟฟ์

“เอ่อ.. นี่ นายมาไทยครั้งนี้จะแค่มาเที่ยวหรือมาอยู่ยาว”

“ก็คิดว่าจะย้ายมาประจำสาขาที่เมืองไทยเลย”

“แล้วที่สำนักงานใหญ่ที่อเมริกาล่ะ”

            “ไม่ต้องห่วงที่นั่นหรอก ทีมงานคุณย่าท่านมีเยอะ แล้วเราก็อยากจะมาบุกตลาดอิเล็กทรอนิกส์ในไทยด้วย จะทำให้ที่นี่เป็นฮับของโซนเอเชีย”

“อืม.. สุดยอดเลยเพื่อน นี่เรากำลังกระทบไหล่ว่าที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังที่มีสาขาอยู่มากมายทั่วโลกหรือนี่”

“นายก็ยกยอเกินไปศรุต ว่าแต่นานเถอะ เห็นตอนที่กำลังจะจบโทนายเคยบอกว่าจะที่บ้านจะให้มาดูแลกิจการอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่หรือ และเป็นมาอย่างไรถึงมาเปิดร้านเหล้าได้ล่ะ”

“ก็แค่บอกแม่ว่าถ้าไม่ให้เปิดร้านเหล้าก็จะไม่กลับไทย ก็แค่นี้เองไม่มีอะไร ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังสนทนากันอยู่สายตาของเจฟฟ์ยังคงจดจ้องที่เป้าหมายเดิมคือโต๊ะมุมห้องนั้น โดยเฉพาะผู้หญิงร่างเล็กผิวขาว ผมยาวหน้าตาสะสวย ข้างกายมีผู้ชายผิวขาวตี๋คอยเอาอกเอาใจไม่ห่าง มีหลายครั้งที่เจฟฟ์เผลอกัดฟันดังกร๊อด

“ดูเหมือนนายจะสนใจคุณแป้งใช่ไหม ผู้หญิงตัวเล็ก ผมยาว ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวคนนั้น”

ศรุตเดาจากสายตาเพื่อนรักที่เหมือนเสือกำลังจ้องมองเหยื่อ ชื่อของหญิงที่หลุดจากปากของศรุตออกมายิ่งตอกย้ำเขาเข้าไปอีก

“นายรู้จักเขาด้วยหรือ”

“อืม พอดีเพื่อนเขาเคยมาเป็นออแกไนท์เซอร์ให้เรา แล้วเขาก็พากันมากินที่นี่เราเลยได้โอกาสทำความรู้จัก เห็นแบบนี้นะจีบยากชะมัด”

“เขาคงมีแฟนแล้วมั้ง เห็นมีคนคอยนั่งเอาใจอยู่ไม่ห่างเลย”

“ช่างสังเกตจริงนะ เฮ้ย.. ถ้าจำไม่ผิดคุณแป้งและเพื่อนๆ โต๊ะนี้เขาน่าจะทำงานที่บริษัทของนายนะ”

“จริงสิ”

“ไม่ผิดแน่ เขายกแผนกมากินที่ร้านเราออกจะบ่อย”

เจฟฟ์ยกยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับหยิบแก้วของตนขึ้นมาจิบอย่างพึงพอใจในคำบอกเล่าของเพื่อนเจ้าสถานบริการแห่งนี้

“เดี๋ยวนายนั่งไปก่อนนะ แขกวีไอพีของร้านมาแล้ว เดี๋ยวเราลงไปรับรองก่อน ถ้านายอยากได้อะไรเพิ่มเรียกเด็กได้เลย”

แล้วศรุตก็ออกจากห้องไป ทิ้งให้เจฟฟ์นั่งจิบน้ำอำพันสีทองกับสายตาที่จดจ้องไปยังเป้าหมาย สักพักเป้าหมายเขาก็ขยับตัวลุกออกจากโต๊ะ ซึ่งเจฟฟ์ก็ขยับตัวตามเช่นกัน

            ที่โต๊ะมุมห้องท่ามกลางแสงสลัวของร้านดัง กลุ่มของเพื่อนร่วมงานสาวออฟฟิศอย่างปวริศา, ปรียาพรและปวีณากำลังนั่งจิบเครื่องดื่ม พูดคุยและโยกย้ายตามเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน

            ปรียาพรหรือใบหม่อนสาวออฟฟิศหน้าตาเรียบร้อย พูดน้อยแต่พอมีแอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือดก็ชวนเพื่อนชนแก้วไม่หยุด

            “เอ้าชนแก้ว แก้วนี้ฉลองให้กับเงินที่เข้ามาแล้วหมดไป ฮ่า ฮ่า หมดแก้วนะทุกคน”

            “อย่าเอาเรื่องจริงมาพูดเล่นสิ ใบหม่อน เอ้าหมดแก้ว”

            ปวีณาหรือวีณาสาวมั่นประจำออฟฟิศ เปรี้ยวสุด มั่นใจสุด พูดจาตรงไปตรงมา ได้ยินปรียาพรเพื่อนรักพูดแทงใจก็ขำไม่ไหว แล้วหันไปคุยกับปวริศาหรือแป้งเพื่อนรักอีกคน

            “นี่ยายแป้ง เธอจะมาขี้โกงกินครึ่งแก้วไม่ได้นะ หมดแก้วคือหมดแก้ว”

            “โธ่วีณาฉันยังไม่อยากเมาตอนนี้นะ ฉันดื่มไปเยอะแล้ว”

            “กลัวอะไรยายแป้ง เธอเมาก็มีคนดูแล จริงไหมนุ แต่พวกเราสิ ไม่มี ไม่มีเลยจริงๆ เจ้าค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

            “วิษณุ” หนุ่มหนึ่งเดียวในโต๊ะ ได้แต่ยิ้มรับ ใช่เขาตามจีบ “ปวริศา” เพื่อนร่วมงานมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่วี่แววว่าเจ้าหล่อนจะใจอ่อนสนใจเขา ถึงแม้ว่าปวริศาจะยังไม่รับรักเขา แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการว่ารังเกียจหรือตีตัวออกห่างจากเขา แค่นี้วิษณุก็คิดว่าดีมากแล้ว เขาเชื่อว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนฉันใด สักวันหนึ่งเขาน่าจะได้เลื่อนตำแหน่งจากเพื่อนร่วมงานเป็นคนรู้ใจได้ฉันนั้น

            “แป้งจะไปไหนครับ นุไปเป็นเพื่อนไหม”

            วิษณุลุกขึ้นขยับตัวเข้าไปใกล้ หมายจะช่วยประคองปวริศาที่กำลังลุกขึ้นแล้วยืนเซไปนิด แต่ปวริศาก็เบี่ยงตัวหลบ แล้วยิ้มให้

            “ไม่เป็นไรจ้า แป้งไหว แป้งจะไปห้องน้ำ ตรงนี้เอง แล้วจะโทรบอกแม่ด้วย”

            “ให้ใบหม่อนหรือวีณาไปเป็นเพื่อนไหมแป้ง”

            “ไม่ต้องหรอกจ้ะ ห้องน้ำอยู่ตรงนี้เอง นุนั่งต่อเถอะ”

            ปวริศาโบกมือให้ แล้วพยายามประคองร่างให้เดินให้ตรงทาง ไม่ให้เซเพื่อที่เพื่อนร่วมโต๊ะจะได้ไม่เป็นห่วง

ปวริศาเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการภารกิจของตนเองเสร็จก็เดินออกมา เพียงแค่ก้าวพ้นประตูห้องน้ำมาได้นิดเดียวก็มีมือปริศนามาคว้าที่เอวบางแล้วดึงตัวของเธอเข้าไปที่มุมมืดอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่ปวริศาไม่ทันได้ระวังตัว ประกอบกับแอลกอฮอล์ที่พลุ่งพล่านในกระแสเลือดทำให้ปวริศาเสียหลักถลาตามแรงดึงไปในมุมมืดนั้น

            เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ริมฝีปากของปวริศาถูกใครบางคนทาบทับลงมาสัมผัส แล้วบดจูบอย่างหื่นกระหาย เธอพยายามจะขัดขืนถอยหนีแต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกคนคนนั้นกอดรัดแน่นมากขึ้น พอจะอ้าปากร้องก็เป็นการเปิดช่องทางให้เขาคนนั้นรุกล้ำเข้าไปตักตวงความหวานภายใน จากการจูบที่ดูดดื่มรุนแรงก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นการละเลียดชิมป้อนความหวานให้แก่กัน จนปวริศาเผลอใจโอนอ่อนไปตามรสสัมผัสของอีกคนที่มอบให้ มันคุ้นจังการจูบแบบนี้ รสจูบที่แสนคิดถึง รสจูบที่เธอถวิลหา มือหนาลูบไล้สะโพกกลมกลึงที่ผายได้รูป ส่วนกลางกายของทั้งสองถูกผลักดันให้มาสัมผัสกันมีเพียงเนื้อผ้าของกระโปรงและกางเกงบางๆ กั้นกลางระหว่างกันอยู่ สร้างความวาบหวามใจให้แก่สาวโสดวัยยี่สิบแปดได้ไม่น้อย

            แต่ก่อนที่สติของปวริศาจะหลุดไปมากกว่านี้ เธอรวบรวมแรงทั้งหมดผลักไปที่อกเขาแล้วดึงตัวเองออกมา แล้วแว้ดเสียงใส่

            “คุณเป็นใครเนี่ย โรคจิตหรือเปล่ามาจูบฉันทำไม”

            แล้วปวริศาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเสี้ยวใบหน้าของคนที่ขโมยจูบเธอชัดชัด เหมือนมาก เหมือนมากจริงๆ จนเธอเผลอพูดชื่อใครบางคนที่หายไปจากชีวิตเธอร่วมเกือบสิบปี

            “เจย์เดน..”

            ชายปริศนาคนนั้นหันหลังกลับแล้วเดินหนีออกไปท่ามกลางความมืดและฝูงชนอย่างรวดเร็ว

            ปวริศาเอามือลูบที่ริมฝีปากตนเอง บ่นพรึมพรำพร้อมส่ายหัวไปมา

            “ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้ .. ไม่ใช่เขาหรอก ไม่ใช่เจย์เดน แต่ทำไมเขาดูเหมือนเจย์เดนจังเลย หรือว่าฉันเมาจนตาลายไปหมดแล้วนี่”

            แล้วปวริศาก็คิดไปถึงคำพูดของ “กีต้า” เพื่อนรักของเธอ ที่เคยบอกเธอว่า ‘แป้งเธอนะ มองเห็นใครที่ออกแนวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ก็เหมารวมว่าเป็นเจย์เดนอดีตแฟนเด็กของเธอไปหมด’ ก็คงจะจริงตามที่กีต้าพูดละมั้ง

            “เฮ้อ”

            เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ โดยระหว่างที่เธอกำลังเดินกลับไปที่โต๊ะนั้น เธอก็พยายามสอดส่ายสายตามองหาชายปริศนาลึกลับเมื่อครู่ ที่จู่จู่ก็มาขโมยจูบเธอ มองหาเท่าไร ก็หาไม่เจอ

พอไปถึงเพื่อนสาวที่โต๊ะก็โวยวายใส่เธอเป็นการใหญ่

“นี่ยายแป้งกว่าจะกลับมาได้ ฉันนึกว่าเธอโดนผู้ชายที่ไหนหิ้วไปซั่มเสียแล้ว”

ปวีณาพูดเสียงดัง

“แหมแกที่ห้องน้ำคนมันเยอะ รอต่อคิวนานมาก มันมีอยู่ห้องหนึ่งนะเข้านานมากไม่ยอมออกเสียที สงสัยจะหลับคาห้องน้ำแน่เลย”

แป้งแอบพูดปดไปเล็กน้อย

“เนี่ยแป้งรู้ไหม ว่ามีคนนั่งโต๊ะแทบไม่ติดเลย ชะเง้อคอมองตลอด แล้วก็จะให้เราไปดูแป้งอยู่นั่นแหละ ไม่รู้จะห่วงกันไปไหน”

ปรียาพรพูดเสริมขึ้นมาแล้วหันหน้าไปพยักพเยิดกับวิษณุ เชิงว่า ‘ฉันช่วยทำคะแนนให้เธอแล้วนะ’ แทบทุกคนในที่ทำงานต่างก็ลุ้นก็เชียร์ให้ทั้งคู่เป็นแฟน เพราะดูแล้วคู่นี้เหมาะสมกันดี

วิษณุทำหน้าเขินอาย

“ก็แป้งไปนานนี่นา นุก็ต้องเป็นห่วงสิ เอ.. แป้งมองหาใครอยู่หรือ นุเห็นตั้งแต่แป้งมานั่งที่โต๊ะแล้ว เหมือนจะมองหาใครอยู่ เจอคนรู้จักหรือ”

ปวริศาหันมายิ้มหวานให้ เมื่อถูกจับได้แล้วก็แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ

“ก็มองไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ”

ในขณะที่ทุกคนกำลังดื่ม พูดคุยและรื่นรมย์ไปกับบรรยากาศรอบตัว ปวริศาก็ช็อตฟีลพูดโพร่งขึ้นมา

“ดึกแล้ว แป้งว่าเรากลับกันเถอะ”

“อะไรกันยายแป้งนี่พึ่งจะสี่ทุ่มเองดึกตรงไหน เอาอะไรมาดึกคะสาว”

ปวีณาเถียงขึ้นทันควัน

“ลืมไปว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าพาแม่ไปตลาดและช่วยแม่ทำกับข้าวไปทำบุญนะสิ”

ปวริศาพูดปดไป แท้จริงแล้วเธอไม่มีกระจิตกระใจจะอยู่ต่อ เพราะรสจูบแรงสัมผัสจากชายปริศนาที่น่าจะเป็นแค่ “คนคล้ายคลึงกับคนที่เธอเคยคุ้นเคย” ได้ก่อกวนหัวใจเธอไม่หยุดหย่อน

เหมือน เหมือนมากจริงๆ จะเป็นเขาหรือเปล่านะ คิดถึงจัง เสียงจากหัวใจของปวริศาพร่ำบอกอยู่อย่างนี้ ระหว่างที่เดินออกจากร้าน ไม่วายที่เธอยังหันกลับไปมองในร้านอีก โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทุกการกระทำของเธออยู่ในสายตาของคนที่กำลังเฝ้ามองผ่านกระจกห้องวีไอพี

‘ฮึ เดี๋ยวเราได้เจอกันพี่แป้ง’

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
42 Chapters
บทที่ 1 : การกลับมากับจูบปริศนา
สายตาคมกริบราวกับมีดผ่าตัดของคุณหมอกำลังมองผ่านกระจกจากห้องวีไอพีชั้นสองของอาคารที่ถูกตกแต่งเป็นแหล่งความบันเทิงยามค่ำคืนให้กับกลุ่มคนวัยทำงาน เมื่อมองตามสายตานั้นลงไป ก็พบว่าเป้าหมายที่สายตาคู่นี้กำลังจดจ้องอยู่คือ กลุ่มคนที่นั่งโต๊ะมุม ฝั่งปีกขวาของร้านเป็นหนุ่มสาวชาวออฟฟิศกำลังนั่งกิน ดื่ม พูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน“เห็นมองอยู่นานสองนานแล้ว นายสนใจคนไหนล่ะเจฟฟ์ เดี๋ยวเราไปดีลให้ โต๊ะนี้ขาประจำของร้านเรารู้จักดี”“ศรุต” หนุ่มเพลย์บอยเจ้าของสถานที่ ใช้ไหล่มาแตะกระทบกับไหล่ของ “เจฟฟ์ หรือ เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล” เบาๆ พร้อมทั้งยื่นแก้วไปขอชนด้วย“เอ๊ะ.. เดี๋ยวนี้นายเปลี่ยนมากินวิสกี้แล้วหรือ เห็นตอนอยู่ที่อเมริกาตอนนั้นกินแต่เบียร์”“หึ มันก็มีเปลี่ยนกันบ้างสิ กินแต่แบบเดิมก็จำเจแย่”“เหมือนผู้หญิงด้วยปะล่ะ เดี๋ยวนี้นายยังเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่นเหมือนก่อนหรือเปล่า”“อันนี้นายพูดถึงตัวเองหรือพูดถึงใคร ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ชายหนุ่มทั้งคู่ยื่นแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอำพันมาชนกันแล้วยกขึ้นจิบแล้วศรุตก็ถามถึงที่มาที่ไปของเจฟฟ์“เอ่อ.. นี่ นายมาไทยครั้งนี้จะแค่มาเที่ยวหรือมาอยู่ยาว”“ก็คิดว่าจะย้าย
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 2 : มูฟออน
ร้านคาเฟ่สุดชิค “มีอะไรจะอัปเดต เล่ามาซิสาว ถ้าไม่เด็ดนี่เพื่อนมีเคืองนะ ฉันอุตส่าห์ยกเลิกนัดแอนโทนีเพื่อเธอเลยนะยายแป้ง” กีต้าเพื่อนสาวของปวริศาที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม ปัจจุบันก็ยังคงคบกันอยู่ (อีกหรือ ฮ่า ฮ่า) ซึ่งตอนนี้กีต้าแปลงโฉมเป็นสาวแซบไปอัพหน้าอกเพิ่มไซส์มาเพื่อเอาใจสายฝอ แล้วเธอก็มีผู้ชายสายฝอมาคุยด้วยไม่เคยขาด ซึ่งที่ผ่านมากีต้าก็ไม่ค่อยได้จริงจังกับใคร คุยกันแป๊บแป๊บก็เลิก แต่ดูเหมือนคนล่าสุดที่ชื่อ “แอนโทนี” เนี่ยจะคุยกันมาได้ยาวนานที่สุด “เอ่อ.. คือเมื่อคืนฉันก็ไปกินกับที่ทำงานที่ผับร้านเดิมร้านที่เธอแนะนำนะ แล้วฉันก็คิดว่า ฉันเจอเขา” “นี่ยายแป้ง ฉันจะโกรธเธอแล้วนะ เธอนัดฉันมาคุยเรื่องนี้อีกแล้วหรือ ก็บอกแล้วไง ว่าลืมๆ มันไปซะ ป่านนี้ไอ้เด็กนั้นไม่มีเมียสี่ลูกสองไปแล้วหรือ” กีต้าหงุดหงิดทุกครั้งที่รู้ว่าเพื่อนสาวของตนยังไม่มูฟออน ทั้งที่เวลาก็ผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว “เธอควรมูฟออนได้แล้วนะแป้ง ไม่ใช่ว่าแค่เห็นใครหน้าคล้าย พวกลูกครึ่งก็มานั่งโอดครวญคิดถึงเขาอยู่นั่นล่ะ นี่ถ้าเธอมูฟออนได้ ป่านฉะนี้ตกร่องป่อ
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 3 : ใช่เธอจริงด้วย
คอนโดหรูชั้นสามสิบห้า คอนโดหรู ดีไซน์ทันสมัยเหนือกาลเวลา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราจากแบรนด์และดีไซเนอร์ชั้นนำพร้อมด้วยฟังก์ชันพิเศษ ระบบการใช้งานอัจฉริยะ วิวนอกห้องที่มองไปเห็นสายน้ำคดโค้งดูสบายตา “ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย” เสียงเจ้าของห้องจามติดติดกันจนหงุดหงิด เช้านี้เป็นอะไรนะ เขาถึงได้จามติดติดกันแบบนี้ เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่พึ่งเดินทางมาแตะแผ่นดินสยามประเทศได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ อยู่อยู่ก็จามแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยหรือว่าเขาจะแพ้อากาศของเมืองไทยกันนะ เจฟฟ์คิดพร้อมจิบกาแฟแล้วทอดสายตามองออกไปนอกระเบียงของคอนโดหรูมองเห็นสายน้ำของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเส้นเลือดใหญ่ไหลผ่านกลางเมืองหลวง ฉากหลังเป็นตึกสูงต่ำเรียงรายสลับกัน นี่เป็นครั้งแรกในรอบเก้าปี ที่เขากลับมาที่ผืนแผ่นดินแม่อีก หลังจากที่เขาได้วางแผนแรกไว้ว่าเขาจะไปเรียนปริญญาตรีจนจบ แล้วจะกลับมาไทย แต่สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป เมื่อใครบางคนที่ทำให้เขาแทบคลั่ง อยากจะบินกลับไทยทุกวินาที กลับเอาใจออกห่างเขาเพียงแค่ห่างกันไม่กี่เดือน จากที่เคยคุยกันทุกวัน ก็เริ่มเป็น สองสามวันครั้ง เป็น
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 4 : กาแฟเป็นเหตุ
ที่แผนกประสานงานขายต่างประเทศ “เดี๋ยวพี่จะไปประชุมกับฝ่ายบริหาร ใครมีอะไรด่วนไหม”ศศิวิมลสอบถามทีมงานระหว่างที่เก็บของเตรียมไปเข้าประชุม“ทำไมช่วงนี้พี่ศศิมีประชุมกับฝ่ายบริหารบ่อยจังคะ ปกติแผนกเราจะประชุมกับฝ่ายบริหารก็เดือนละครั้งไม่ใช่หรือคะ นี่พี่ก็พึ่งจะประชุมไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเองนี่คะ”ปรียาพรถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ก็ยอดขายไม่ได้เป้าแบบนี้ ก็ต้องโดนเพ่งเล็งเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นดูแลลูกค้าของตัวเองให้ดี อย่าให้ยอดตก อย่าให้ลูกค้าร้องเรียน มิฉะนั้นอาจโดนโยกย้ายโดนเด้งทั้งแผนก รู้แล้วใช่ไหมว่าตอนนี้บริษัทแม่ที่อเมริกาส่งคนมานั่งที่นี่และสำคัญเขาจะมาดูแผนกเราโดยเฉพาะด้วย”สิ้นสุดเสียงราบเรียบของศศิวิมล ทั้งสามสาวก็หันหน้ามาทางเดียวกัน ปวีณาทำตาโต ส่วนปวริศากับปรียาพรทำหน้าซีด“ย้ายไปไหนหรือคะ หรือเขาจะให้พวกเราย้ายไปที่อเมริกา แล้วให้คนที่โน่นย้ายมาทำที่นี่ ถ้าเป็นแบบนี้วีณาเต็มใจค่ะ”“จะบ้าหรือวีณา ถ้าไม่ได้เป้าเขาจะเอาเราไปถ่วงที่อเมริกาทำไม เขาจะแจกซองขาวให้พวกเราก็ไม่ว่าละซิ”“แหมแก ฉันก็ไม่อยากให้บรรยากาศมันเสียอะนะ ทำซีเรียสไปได้ยายหม่อน”ศศิวิมลลอ
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 5 : วันที่โชคไม่เข้าข้าง
ที่แผนกประสานงานขายต่างประเทศ ปวริศายื่นมือไปรับสูทหรูราคาแพงเปื้อนคราบกาแฟ ที่เธอเป็นคนทำ จากมือของศศิวิมลแล้วกล่าวว่า “เดี๋ยวแป้งเอาไปส่งซักให้เองค่ะพี่ศศิ” “ก็ต้องเป็นเธออยู่แล้วแหละยายแป้ง เฮ้อ... วันนี้เธอเป็นอะไรของเธอนะ ทั้งซุ่มซ่าม ทั้งเหม่อลอย มีสติหน่อยสิคะคุณน้อง” ศศิวิมลบ่นอุบอิ่มแล้วส่งสูทให้ ส่วนปรียาพรเพื่อนของเธอก็อมยิ้มทำหน้าล้อเลียน ขณะที่กำลังทายาให้มือขาวที่มีรอยแดงเป็นจ้ำอยู่ “เอ๊ะ.. หรือว่าเธอตกตะลึงในความหล่อของบอสคนใหม่ของเราจ๊ะแป้ง” “เอ่อ.. แป้งคงจะมึนๆค่ะ เมื่อคืนนอนน้อยด้วย เอ.. แถวนี้มีร้านซักแห้งที่รับงานด่วนบ้างไหมนะ แป้งไม่ค่อยรู้จักด้วยสิ” ปวริศาแก้ต่างไปพร้อมกับสีหน้าที่กังวลครุ่นคิด ปรียาพรก็พิมพ์อะไรยุกยิกในโทรศัพท์มือถือแล้วก็ยิ้มออกมา “ไม่เห็นจะยากเลย ก็ถามอากู๋สิ นี่ไงมีร้านรับซักรีด ซักแห้งรับงานด่วนรอรับได้อยู่ในซอยยี่สิบสี่เลยสี่แยกไฟแดงไปหน่อยนึง ไม่ไกลนะ แต่ออกไปตอนนี้รถคงติดน่าดู” “ขอบใจจ้ะหม่อน เดี๋ยวแป้งนั่งวินไปดีกว่า เอ่อ.. พี่ศศิค
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 6 : ออกงานด้วยกัน
ปวริศาลงจากรถมอเตอร์ไซค์ได้ก็วิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดยืนหอบที่หน้าห้องรับรองของโรงแรมชื่อดังตามที่เขียนไว้ในแผ่นกระดาษ มองนาฬิกาเหลือเวลาอีก 10 นาทีจะสี่โมงเย็น ก็ถือว่าเธอมาทันเวลาอยู่นะ แต่ เธอจะหาเขาเจอได้ยังไงนี่สิ รีบร้อนจนไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อ ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะให้เอามาให้นอกบริษัท ปวริศาพยายามกวาดสายตามอง แต่ก็ไม่เห็นคนคนนั้น และในทางกลับกันตอนนี้เหมือนสายตาหลายๆคู่เริ่มให้ความสนใจมองมาที่เธอ ก็งานนี้ดูจะมีแต่ผู้ชายใส่สูท มาดนักธุรกิจเต็มไปหมด ผู้หญิงก็มีบ้างไม่กี่คน ซึ่งทุกคนก็แต่งตัวดูดีกันทั้งนั้น มีแต่เธอเท่านั้นที่หัวฟูกระเซอะกระเซิง คือพอถอดหมวกกันน็อคออกก็ไม่ได้จัดแต่งทรงผมเลย กลัวจะไม่ทัน รีบวิ่งเข้ามาทั้งแบบนั้น “ว้าย” ปวริศาสะดุ้งตกใจเมื่อมีใครมาจับแขนของเธอ พอหันไปมองก็เจอกับคนเจ้าปัญหาที่เธอกำลังมองหาตัวอยู่ เธอรีบยื่นเสื้อให้ แต่เขากลับไม่ยอมรับแล้วก้มมากระซิบข้างหูเธอว่า “ใส่ให้หน่อยสิ” ปวริศาได้ยินก็ทำหน้างง คืออะไร แต่ก็เข้าไปช่วยใส่เสื้อและจัดระเบียบให้เขานะ จัดการเสร็จก็ก้มศีรษะให้เขาเล็กน้อ
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 7 : คนแปลกหน้า
“สวัสดีครับ ผมอยากรู้จักคุณจัง ขอคุยด้วยนะครับ” เสียงใครคนหนึ่งดังมาจากทางด้านหลัง และเหมือนว่าเขากำลังจะพูดคุยกับเธอเสียด้วยสิปวริศาหันไปมองหนุ่มปริศนาที่เข้ามาทักทายแล้วเอามือป้องปากที่กำลังเคี้ยวเจ้ามินิแซนด์วิชอยู่ แล้วโค้งศีรษะให้นิดหนึ่ง ประมาณว่ารอแป๊บนะกำลังเคี้ยวอยู่พูดไม่ได้ จนชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มที่เดินเข้ามาทักอมยิ้มและหัวเราะมาเบาๆ“ขอโทษครับไม่ต้องรีบครับ ค่อยๆเคี้ยวเดี๋ยวจะติดคอ นี่ครับน้ำ”พูดจบชายหนุ่มตรงหน้าก็ยื่นทิชชูกับแก้วน้ำให้ ปวริศายื่นมือเข้าไปรับของที่ชายแปลกหน้ายื่นมาให้ แล้วก็สะดุ้งนิดที่ปลายนิ้วของเขาแตะที่หลังมือของเธอ แล้วก็ตกใจอีกรอบเมื่อมีมือดีมาหยิบแก้วน้ำออกจากมือเธอไปแล้ววางลงบนโต๊ะ ปวริศาหันไปมองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเจ้านายคนใหม่ของเธอนี่เอง“เอ่อ.. บอสคะ”“ไปตรงโน้นกันเถอะ”ไม่พูดเปล่า ข้อมือบางของปวริศาก็ถูกกุมแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้ชายแปลกหน้ายืนจ้องมองตามคนทั้งคู่ไป“ฮึ.. แน่ใจหรือว่าเป็นแค่ผู้ช่วย ดี หวงแบบนี้สิดี มีอะไรสนุกให้เล่นอีกแล้ว”พอเดินไปได้สักพัก ปวริศาก็พยายามใช้มือข้างที่เป็นอิสระมืออีกข้างใ
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 8 : บรรยากาศแสนคุ้นเคย
เจฟฟ์ขับรถเข้ามาในหมู่บ้านที่เขาแสนจะคุ้นเคย เขาขับมาเรื่อยๆ แล้วมาชะลอความเร็วเมื่อเข้าใกล้หน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านแฝดอยู่ท้ายหมู่บ้าน เขาเห็นผู้หญิงสูงวัยแต่ยังดูดีคนหนึ่งกำลังเปิดประตูรั้วออกมาแล้วเอาโต๊ะตัวเล็กมาวางไว้ที่หน้าบ้าน เขาค่อยๆจอดรถชิดกับริมรั้วแล้วก้าวออกมาจากรถ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คุณน้าผู้หญิงคนนั้นถือถาดที่มีถุงกับข้าว ถุงข้าวสวย ขวดน้ำและขนมมาวางไว้หน้าบ้านเพื่อเตรียมใส่บาตรเจฟฟ์นึกในใจว่าน้าปิ่นยังสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด เขาเดินเข้าไปใกล้แล้วยกมือไหว้ทักทาย หญิงสูงวัยคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความแปลกใจ เธอจดจ้องสำรวจไปที่ใบหน้าและรูปร่างของชายหนุ่ม“สวัสดีครับผมชื่อเจฟฟ์เป็นเพื่อนร่วมงานของคุณปวริศาครับ พอดีเมื่อวานคุณปวริศาไปทำงานให้ผมแล้วทิ้งรถไว้ที่บริษัท วันนี้ผมเลยขออนุญาตมารับครับ คุณน้าเป็นคุณแม่ของคุณปวริศาใช่ไหมครับ”หญิงตรงหน้ารับไหว้และพยักหน้ารับพร้อมส่งรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้“ค่ะ น้าเป็นแม่ของยายแป้ง แล้วเจ..”“เจฟฟ์ครับคุณน้า”“คุณเจฟฟ์มาแต่เช้าเลย ยายแป้งพึ่งเตรียมของใส่บาตรให้น้าเสร็จ นี่ก็คงกำล
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 9 : ใกล้กันไปแล้ว
“บอสคะ วันนี้เวลา 09.30 น. มีประชุมกับฝ่ายบัญชีและการเงินนะคะส่วนช่วงบ่ายมีประชุมกับฝ่ายขายค่ะ” “ขอบคุณครับคุณนี”เจฟฟ์วางสายคุณเลขาภาวินี แล้วนั่งทำงานไปจนถึงเวลาใกล้ 09.30น. เขาจึงลุกออกจากห้องไปยังห้องประชุม ขณะที่เขากำลังเดินผ่านฝ่ายประสานงานขายต่างประเทศ สายตาเขาเหลือบไปเห็นวิษณุหนุ่มไอทีกำลังนั่ง ตรวจเช็คคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่โต๊ะของปวริศา ซึ่งถ้าเป็นสายตาของคนอื่นก็มองเป็นเรื่องปกติ เพราะภาพที่เห็นคือ วิษณุนั่งที่โต๊ะทำงานของปวริศากำลังตรวจเช็คโน้ตบุ๊กให้ โดยมีปวริศายืนดูอยู่ข้างๆ แต่ในสายตาของเจฟฟ์กลับมองว่าทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากเกินไปแล้ว ภาพที่เห็นสร้างความหงุดหงิดใจให้เขาไม่ใช่น้อย เขาจึงเอ่ยทักทายไปว่า“โน้ตบุ๊กมีปัญหาอะไรหรือครับ”ทั้งวิษณุและปวริศาเงยหน้าพร้อมกันแล้วหนุ่มไอทีก็ยิ้มตาตี่พร้อมกับตอบไปว่า“โน้ตบุ๊กคุณแป้งมีปัญหานิดหน่อยครับผมกำลังแก้ไขให้อยู่ เครื่องนี้ก็ใช้มาหลายปีแล้ว”เจฟฟ์พยักหน้ารับฟังข้อมูล“ทางไอทีมีการเซ็ตแผนเรื่องอายุงานของโน้ตบุ๊กไว้หรือเปล่าครับ”“มีครับ”“แล้วเครื่องนี้ยังอยู่ในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่”“ถ้านับตามที่วางไว้ ก็ถึงเวลาที่ต
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
บทที่ 10 : ห้องครัวแห่งความทรงจำ
วันนี้เจฟฟ์ตื่นแต่เช้าเพราะมีภารกิจบางอย่างที่เขาต้องไปทำ เขาแต่งตัวแบบสบายๆ ในชุดลำลองเสื้อฮาวายแขนสั้นสีสดใส กางเกงเนื้อยีนส์สีน้ำตาลขาสั้นประมาณเข่า เขาออกจากห้องพร้อมกับหิ้วถุงผ้าขนาดใหญ่ที่ภายในเต็มไปด้วยผลไม้หลากชนิดที่เขาไปเดินชอปปิ้งเลือกซื้อมาเมื่อคืน เจฟฟ์ขับรถออกจากคอนโดมุ่งหน้าไปตามถนนใหญ่ จุดหมายคือบ้านแฝดท้ายซอยของหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปอีก 15 กม. เขาเลี้ยวเลาะเข้าสู่ถนนของหมู่บ้านแล้วชะลอความเร็วเมื่อใกล้ถึงท้ายซอย เขาจอดรถข้างรั้วสีเขียวขจีจากต้นโมกข์ที่เริ่มออกดอกสีขาวให้กลิ่นหอมอบอวล เขาเปิดประตูรถออกมาแล้วไม่ลืมที่จะหยิบถุงผ้าใบโตออกมาด้วยแล้วมาที่บ้านที่แสนคุ้นเคย และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประตูรั้วสีขาวนั้นถูกเลื่อนดันให้เปิดออก “สวัสดีครับน้าปิ่น” เสียงนุ่มทักทายผู้สูงวัยกว่าอย่างคุ้นเคยพร้อมยกมือไหว้อย่างนอบน้อม คนที่กำลังเปิดประตูรั้วหันมามองแล้วรับไหว้ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “สวัสดีจ้ะคุณเจฟฟ์มาแต่เช้าเลย มารับยายแป้งหรือจ๊ะ เอ.. ไม่เห็นยายแป้งพูดอะไรเลยนี่ก็ยังนอนยังไม่ลุกเลย เดี๋ยวน้าไปเรียกให้นะ”
last updateLast Updated : 2025-05-08
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status