Share

กลยุทธ์ของตระกูล

Author: mafath9
last update Last Updated: 2025-06-13 02:18:02

เหตุการณ์ย้อนอดีตของกลศึก “อิบาระใต้จันทร์”

1.กลศึก “อิบาระใต้จันทร์”

ปีที่ 4 แห่งรัชสมัยโซริว

“จันทร์เต็มดวงที่แคว้นอิบาระ ไม่มีเสียงดาบกระทบกัน — มีเพียงเงาของความเข้าใจผิดที่ฆ่ากันเอง”


บริบท

แคว้นอิบาระ เป็นดินแดนชายขอบระหว่างเขตตระกูลอาเกะมุโระ และเมืองการค้าภายใต้การคุ้มครองของตระกูลคุเสะ มีบทบาทสำคัญในเส้นทางส่งเสบียงไปยังชายแดนทิศเหนือ

ขุนศึกอิบาระนามว่า “โชอิน” เป็นผู้นำรุ่นใหม่ มีเกียรติ มีอุดมการณ์ แต่ขาดไหวพริบต่อโลกเบื้องหลังม่าน


จุดเริ่มต้นของกลศึก

หัวหน้าตระกูลคุเสะในเวลานั้น “คุเสะ โซเรียว” ส่งทูตมาพร้อมของกำนัล — กล่องไม้หอมแกะสลัก ภายในบรรจุดอกบัวขาวแห้งกับจดหมายสันติภาพสลักด้วยบทกลอน

“แม้นเถาวัลย์พันราก จะเบียดบังจันทรา

แต่ใจข้ามิได้ยึดแสงนั้นไว้”

แต่ในจดหมายนั้นมีลายเซ็นที่ผิดเพี้ยนโดยจงใจ — ทำให้ดูราวกับจดหมายถูกส่งมาจากขุนศึกอาเกะมุโระแทน!


แผนซ้อนซ่อนแผน

ขณะเดียวกัน ทูตอีกคนของคุเสะปลอมตัวเป็นพ่อค้าอาวุธจากอาเกะมุโระ ลอบเข้าเมืองอิบาระ ปล่อยข่าวลือว่า “อาเกะมุโระจะตีอิบาระภายในสามคืน” และแจกอาวุธให้พวกหัวรุนแรงในหมู่บ้านชั้นนอก

เกิดการตื่นตระหนก โชอินรวบรัดจัดกองกำลังออกมาตรวจชายแดนกลางดึก...

ในคืนนั้น แสงจันทร์สาดผ่านกิ่งไม้ พื้นดินกลายเป็นลายเงาที่บิดเบี้ยว — ขณะโชอินและกองกำลังของเขาพบ “ขบวนทูต” จากอาเกะมุโระ ซึ่งแท้จริงแล้วคือกลุ่มล่อของคุเสะ

ในความคลุมเครือของข่าวลือ ท่ามกลางความกังวลใจและแสงจันทร์ที่ไม่แน่ชัด — โชอินลงมือสังหารทูตทันทีโดยมิได้ตรวจสอบ


ผลลัพธ์: สงครามโดยไม่ตั้งใจ

ข่าวการสังหารทูตปลอมแพร่ไปทั่วแคว้นอาเกะมุโระ

พวกเขาโกรธเกรี้ยว แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่า “ผู้ถูกฆ่า” เป็นทูตจริงหรือไม่ จึงขอการพิสูจน์จากตระกูลคุเสะ ซึ่งเสนอเป็น “คนกลางไกล่เกลี่ย”

คุเสะกลับเสนอให้จับโชอิน “ขึ้นศาลสงคราม” — และระหว่างที่โชอินเดินทางไปเจรจา เขาถูกลอบสังหารในวัดเก่าแห่งหนึ่ง โดย “นักบวชเร่ร่อน” ซึ่งหายตัวไปหลังเหตุการณ์


2.กลศึกที่ถูกกล่าวขาน

ในหมู่ขุนนางฝ่ายข่าวกรอง กลศึกนี้ถูกขนานนามว่า “ดอกบัวไร้ราก”

เพราะมันทำลายศัตรูโดยไม่แตะต้องแม้แต่ดินของเขา

“ไม่จำเป็นต้องยกทัพ — หากสามารถทำให้ศัตรูยกดาบใส่เงาของตนเอง”

— คำกล่าวของ คุเสะ โซเรียว (บันทึกลับแห่งคิริยามะ)

กลยุทธ์ของตระกูลคุเสะ ในฉากหลังของ “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” คือสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม — พวกเขาไม่เพียงเป็นตระกูลขุนนางที่แข็งแกร่งในด้านกำลังทหาร แต่ยังเชี่ยวชาญศิลป์แห่งการบิดเบือนข้อมูล ปั่นประสาทคู่แข่ง และสร้าง “สนามรบที่มองไม่เห็น”


🦊 กลยุทธ์หลัก: “หมอกลวงตา”

นิยาม: เปรียบดั่งหมอกที่บดบังวิสัยทัศน์ — คุเสะมิได้เปิดศึกด้วยดาบก่อน แต่ด้วยข่าวลือ การซ้อนซ่อน และการบิดเบือนพันธมิตรให้กัดกันเอง

1. ลอบสื่อสารด้วยรหัสในบทกวี

คำสั่งลับระหว่างทหารของคุเสะส่งผ่านบทกวีไฮกุ หรือถ้อยคำจากคัมภีร์

ตัวอย่าง: บทกลอนที่ส่งให้แคว้นอุเอะงิ ใช้ถ้อยคำหมายถึงการ “ปล่อยดอกบัวไหลสายน้ำ” = ให้ทหารถอยออกเพื่อให้ข้าศึกเข้าเมืองโดยไม่มีการต่อต้าน — แล้วจึงเผาเมืองทิ้งกลางคืน

2. สร้างภาพศัตรูให้กลายเป็นผู้รุกราน

ในสงครามที่แล้ว คุเสะปล่อยข่าวปลอมว่าฮากุโร่มีบุตรกับหญิงต่างแคว้น เพื่อให้แคว้นนั้นประกาศศึกกับมิสุโนะ

แม้เป็นเท็จ แต่เมื่อเลือดแรกตก ก็ไม่อาจย้อนคืน

3. “หมากเบี้ยหลอก”

ส่งทูตปลอมที่มีลักษณะคล้ายขุนศึกตัวจริง เจรจาสันติพร้อมถวายของขวัญ

ขณะเดียวกัน ทหารจริงแอบตีผ่านแนวหลังของเมืองคู่เจรจา

ใช้สำเร็จมาแล้วในศึก “อิบาระใต้จันทร์”

 

🎭 คำสอนจากหัวหน้าตระกูลคุเสะ

“การรบที่ชนะด้วยดาบจะจบในสามคืน

แต่การรบที่ชนะด้วยความคิด จะทำลายศัตรูไปชั่วรุ่น”    

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   กำแพงที่เริ่มมีเสียง

    กำแพงที่เริ่มมีเสียง– พระในศาสนจักรกลางเริ่มแอบเขียนสมุดเงา**ภายในหอคำสวดแห่งเท็นเซ็นจิ ศูนย์กลางศาสนจักรของแผ่นดินกำแพงหินสูงกว่าเจ็ดเมตรที่เคยสะท้อนแต่เสียงพระ สวดแต่คำเดิมซ้ำบัดนี้เริ่มได้ยินเสียง...ที่ไม่เคยมีในบทใดมาก่อนในยามค่ำ ที่โคมธูปล้าแสงพระรูปหนึ่งยืนอยู่ลำพังหน้าแท่นบูชาว่างเปล่าเขาชื่อว่า เซียวอิน — พระลำดับที่ห้าในสายการเทศน์ผู้ไม่เคยพูดนอกตำราผู้ไม่เคยมองตาเด็กแต่คืนนั้น เขาเขียนชื่อหนึ่ง...ด้วยหมึกจาง บนกระดาษสมุดธรรมะเก่าชื่อของ “อาคิ” — เด็กหญิงที่เขาเคยพบเมื่อนานมาแล้วผู้พูดชื่อพ่อของตนแทนบทสวด“ทำไมเจ้าถึงไม่สวด?”“ข้ากลัว... ว่าถ้าข้าสวด ข้าจะลืมชื่อพ่อ”วันนั้นเขาเงียบแต่วันนี้... เขาไม่เงียบอีกต่อไปเสียงแรกในกำแพงคือเสียงขีดปากกาเล็ก ๆ ที่จดชื่อทีละคนไม่ใช่เสียงสวดไม่ใช่เสียงสั่งเป็นเพียงเสียงของการ “จำ”ไม่นานนัก สมุดเงาเล่มแรกก็เกิดขึ้นในศาสนจักรกลางถูกซ่อนไว้ใต้ผ้าห่มที่พระชั้นล่างใช้มีชื่อของหญิงชราในหมู่บ้านที่ถูกสังเวยชื่อของชายที่หายตัวหลังเทศน์ขัดคำและชื่อของเด็กชายที่พูดบทกลอนแทนคำสวดไม่มีคำว่า “ผู้สละตน”ไม่มีคำว่า “ศักดิ์สิทธิ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ศาลาที่ไม่มีลำดับ – เมื่อเสียงแรกไม่ต้องรอผู้อนุญาต

    ศาลาที่ไม่มีลำดับ – เมื่อเสียงแรกไม่ต้องรอผู้อนุญาตศาลาไม้ที่หมู่บ้านโยโคะกาวะครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รวมเสียงสวดแบบดั้งเดิมเด็กไม่สามารถพูดหญิงต้องนั่งด้านหลังชายแก่เท่านั้นที่มีสิทธิ์เปิดสมุดแต่ในเช้าวันหนึ่งเด็กชายอายุสิบสองปีลุกขึ้นถือสมุดเล่มบางเขียนคำสั้น ๆ แล้ววางบนเสื่อหน้าเวที“ชื่อแม่ข้า... ข้าไม่รู้จะสวดอย่างไรแต่ข้าไม่อยากให้หายไป”ไม่มีใครสวด ไม่มีใครกล่าวอาเมนมีแต่ความเงียบจนชายชราผู้เคยเป็นประธานพิธีค่อย ๆ ลุกขึ้น เดินมานั่งข้างเด็กแล้วพูดแค่คำเดียว“ชื่อใคร?”ศาลานั้นไม่มีลำดับอีกต่อไปไม่มีใครรอใบอนุญาตจากวัดไม่มีตารางสวดที่แข็งตายทุกเช้า ใครมา ก็ได้เขียนใครอยู่ ก็ได้ฟังมันไม่ใช่ศาสนามันกลายเป็น ชุมชนในหมู่บ้านข้างเคียงเด็กหญิงผู้ไม่เคยพูดในพิธีเริ่มอ่าน “ชื่อคนที่เธอเห็นตายในสงคราม”ไม่มีใครถามว่าเธอเป็นใครเพราะศาลาไม่มีเวทีมีแต่เสื่อวงกลมที่ใครก็เดินเข้าได้ข่าวไปถึง ตระกูลอาซึกิตระกูลที่เคยยึดมั่นในลำดับพิธีกรรมบุตรชายคนรองถูกส่งมาสังเกตการณ์แต่เขากลับมาด้วยสมุดที่ไม่มีตรามีเพียงประโยคเดียวบนหน้าปก“ข้าเขียน... เพราะไม่อยากให้ใครสวดแทนอีก”เ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ไคเซ็น — พระหญิงที่แปรพักตร์ และ “พิธีฟัง” แห่งแคว้นตะวันตก

    ไคเซ็น — พระหญิงที่แปรพักตร์ และ “พิธีฟัง” แห่งแคว้นตะวันตกบนยอดเขาอุเมะโนะอามะซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการสวดขอฝนบัดนี้เปลี่ยนไปโดยไม่มีประกาศจากศาสนจักรไม่มีขบวนไม่มีคัมภีร์มีเพียงเสียงเดียว —เสียงของหญิงที่เคยเป็น “พระ” แต่เลือกจะ “ฟัง”ไคเซ็น คือพระหญิงลำดับสามแห่งวัดอินโบเป็นที่รู้จักในนาม "เสียงแห่งเมฆขาว"เธอเป็นผู้เทศน์บทสวดเงียบผู้สามารถสวดได้โดยไม่มีคำพูดเพียงการเคลื่อนไหวของมือและจังหวะลมหายใจแต่หลัง “พิธีล้างเงา” เริ่มแผ่ขยายเธอเงียบ… และเมื่อเธอพูดอีกครั้งคำแรกของเธอคือ “ขอให้ข้าได้ฟังเจ้า”ณ ลานศาลาร้างแห่งหนึ่งในหมู่บ้านโคคุเระเธอประกาศสิ่งที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ศาสนจักร“ข้าไม่ได้ละทิ้งศรัทธาข้าเพียงเลิกฟังตำราที่ปิดหูคนเป็นและเปิดหูให้เสียงคนตายที่ถูกลืม”เธอเรียกสิ่งนั้นว่า “พิธีฟัง”พิธีฟังไม่ใช่การสวดไม่ใช่การเทศน์และไม่มีคัมภีร์มันคือการนั่งเงียบ ๆ เป็นวงกลมโดยมีผู้หนึ่งลุกขึ้นพูด “ชื่อ” ของผู้ที่เคยถูกเผาลืมอีกคนจะเล่า “ความทรงจำ”และทุกคนจะเงียบไม่ขัด ไม่ถาม ไม่ตีความเพียง “ฟัง”สามวันแรกมีเพียงเด็กสาวคนหนึ่งและชายชราขาพิการที่เข้าร่วมวัน

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   การตอบสนองของศาสนจักรส่วนกลาง – พิธีล้างเงา

    การตอบสนองของศาสนจักรส่วนกลาง – พิธีล้างเงาภายใน โคโตคุอิน — หอพิธีศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของศาสนจักรกลางเสียงฆ้องทองสามชั้นดังก้องสะท้อนกำแพงหินพระอาวุโส 9 รูป รวมตัวในพิธีที่ไม่ได้จัดมานานกว่า 37 ปีบนแท่นสูงกลางหอ — สมุดที่ไม่มีชื่อผู้เขียนถูกวางไว้จดหมายของเด็กจากหมู่บ้านชายแดนบทสวดที่ผิดจากตำราและเศษกระดาษเปื้อนหมึกดินถูกเรียงรายพระเร็นชิน ผู้นำสายเคร่งที่สุด กล่าวนำอย่างหนักแน่น“สิ่งใดที่เติบโตจากรากผิด ย่อมกลายเป็นวัชพืชและแม้เงาจะไร้รูปร่าง — มันก็มีพิษเมื่อเกาะอยู่บนหัวใจผู้คน”เขาเสนอให้ประกาศ "พิธีล้างเงา"เป็นพิธีกรรมใหญ่ประจำฤดูใบไม้ร่วงทำในวัดทุกแห่งที่ได้รับ “ข่าวลือศรัทธานอกบท”พิธีล้างเงา คืออะไร?พระอาวุโสจะเดินทางไปยังวัดที่ต้องสงสัยจะเผา "สมุดที่ไม่มีตรา"จะให้ผู้คนกล่าว "บทสาบานสัจจะ" ต่อหน้าพระใหญ่และทุกชื่อที่ถูกจารโดยไม่ได้รับอนุญาต… จะถูกลบด้วยหมึกดำแห่งการปฏิเสธแม้ภายนอกจะดูเป็นพิธีปลอบขวัญแต่เนื้อแท้คือการลบความทรงจำอย่างเป็นทางการกลุ่มพระสายสายลมเงาถูกขึ้นบัญชีลับวัดชายแดนหลายแห่งถูกสั่งย้ายผู้อาวุโสบางคนหายตัวในคืนก่อนพิธีเสียงสะท้อนเริ่มดังจา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   การประชุมศรัทธา – เมื่อ 12 ตระกูลเริ่มเรียกศาสนจักรมาชี้แจง

    การประชุมศรัทธา – เมื่อ 12 ตระกูลเริ่มเรียกศาสนจักรมาชี้แจงศาลาเซย์โรกุ บนยอดเนินฮานะงิคือที่ประชุมใหญ่แห่งตระกูลผู้นำทั่ว 9 แคว้นไม่มีพิธี ไม่มีการบรรเลงขลุ่ยรับแขกมีเพียงเสียงกระดิ่งทองคำเรียกผู้แทนทั้ง 12 ตระกูล ให้ปรากฏตัวในวันเดียวกันเก้าอี้ตรงกลางว่างเปล่า — นั่นคือที่ของศาสนจักรผู้แทนจากวัดหลวงใหญ่ 5 สายถูกเชิญ ไม่ใช่ในฐานะผู้สั่งแต่ในฐานะผู้ตอบไดเมียวอินาริแห่งตระกูลฮานะโมโตะเป็นผู้นั่งหัวโต๊ะแม้ปกติไม่ยุ่งกับพิธีกรรมแต่เมื่อเสียง “เด็กผู้ไม่รู้จักบทสวด” ดังไปถึงประตูปราสาทเขากล่าวเพียงว่า:“เมื่อประชาชนไม่เข้าใจศาสนา — นั่นคือปัญหาของผู้นำแต่เมื่อศาสนาไม่ฟังประชาชน — นั่นคือภัยของแผ่นดิน”ตัวแทนศาสนจักรใหญ่ พระโชอุนก้าวเข้าสู่ศาลาพร้อมคัมภีร์หนาแน่นเขาเริ่มกล่าวด้วยภาษาทางการ:“บทสวดคือรากของความสงบการเบี่ยงจากบท หมายถึงความวุ่นวาย”แต่ยังไม่ทันจบ —ท่านหญิงริวโนะ แห่งตระกูลโคมะอินุวางสมุดเปื้อนหมึกลงบนโต๊ะกลาง“แล้วชื่อของลูกข้าที่ไม่มีบทสวดท่านเรียกว่าความวุ่นวายหรือ?”เสียงฮือทั่วศาลาขุนศึกคิริโนะแห่งตระกูลคุเสะผู้ไม่เคยเข้าร่วมพิธีใดกล่าวเรียบ ๆ โดยไม

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   หอคอยที่เริ่มฟังลม – เมื่อศาสนจักรเริ่มเงี่ยหูฟังจากขอบแผ่นดิน

    หอคอยที่เริ่มฟังลม – เมื่อศาสนจักรเริ่มเงี่ยหูฟังจากขอบแผ่นดินศูนย์กลางศาสนจักรอยู่ที่ โซเรียวเท็นหอคอยสีขาวสูง 7 ชั้น เปรียบดั่ง “หูของเทพเจ้า”สร้างขึ้นเพื่อมองลงมาเหนือแผ่นดินทั้งหมดไม่มีเสียงใดเล็ดลอดเข้าถึงได้ เว้นแต่ผ่านกระบวนการรับรองแต่ในปีนี้...ลมเหนือจากชายแดน ยามากาตะพัดพาเสียงที่ไม่มีตราประทับเข้ามาไม่ใช่รายงานทางการไม่ใช่จดหมายทางศาสนาแต่เป็น สมุดเปื้อนหมึกเด็กที่บันทึก “ชื่อของคนที่ไม่มีบทสวด”พระอาวุโส ชูเคน ผู้ขึ้นนั่งกรรมการศรัทธาอาวุโสอ่านหน้ากระดาษอย่างช้า ๆไม่มีบทสวด ไม่มีตราแต่มีบรรทัดหนึ่งที่ทำให้เขาเงียบงัน“แม่ข้าไม่มีชื่อในวัดแต่ข้ายังพูดชื่อแม่อยู่ทุกคืนถ้านี่คือบาป… บาปนี้ข้ายินดีแบกตลอดชีวิต”ที่ประชุมกรรมการเริ่มมีการพูดถึง “ศรัทธาเงา”บางคนกล่าวว่า“นี่คือภัยร้ายของศาสนาใหม่ที่ไร้แบบแผน”แต่บางคนเงียบ—เงียบเพราะเคยได้ยินเสียงเดียวกันจากหน้าประตูวัดของตนเสียงของหญิงชราเสียงของเด็กที่ไม่ยอมลืมชื่อพ่อเสียงที่ไม่เคยเข้าพิธี แต่ไม่เคยหายไปชูเคนเสนออย่างระมัดระวัง“บางที... หอคอยอาจต้องเปิดหน้าต่างบางบานเพื่อฟังว่า ข้างล่างกำลังพูดอะไรกันแน่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status