Home / อื่น ๆ / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / บทที่ 20 — สนธิสัญญาไร้ศรัทธา

Share

บทที่ 20 — สนธิสัญญาไร้ศรัทธา

Author: mafath9
last update Huling Na-update: 2025-06-12 23:22:26

บทที่ 20 — สนธิสัญญาไร้ศรัทธา

"คำสัตย์ในโลกนี้เปรียบได้ดั่งเงาบนน้ำ — ยิ่งมองใกล้ ยิ่งเห็นว่ามันว่างเปล่า"


เมืองฮาราโนะ: สถานที่แห่งการลืมศพ

เมืองฮาราโนะตั้งอยู่ตรงชายแดนสามแคว้น — จุดที่แม่น้ำสามสายบรรจบกันและกลืนซากศพไม่เลือกข้าง เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสนามรบ บัดนี้ถูกแต่งแต้มให้เป็นเวทีของพิธี “สนธิสัญญาแห่งตะวันออก” เพื่อรวมพันธมิตรหลวม ๆ ระหว่างสามตระกูลใหญ่: ตระกูลอินาบะ, โอชิโระ และคิริว

คฤหาสน์กลางน้ำถูกปรับเป็นเรือนรับรอง ขณะที่นักรบจากสามตระกูลทยอยเข้าสู่เมืองอย่างไร้เสียงโห่ร้อง ทว่ามีสายตานับร้อยจ้องมองอยู่ตามเงาเรือน เงาไม้ และเงาความทรงจำ

“สถานที่แห่งนี้เคยมีคนตายเพราะสัญญา”

ฮากุโร่เอ่ยขณะยืนมองแม่น้ำ

ซาโยะอยู่ข้างเขา เงียบ

“ข้าไม่เข้าใจ” นางพูด “หากต่างฝ่ายไม่มีศรัทธา แล้วการทำสนธิสัญญาไปเพื่ออะไร?”

ฮากุโร่หัวเราะแผ่ว

“เพื่อซื้อเวลา…ให้คนที่กลัวความตาย ได้มีความหวังว่าพรุ่งนี้จะไม่มีสงคราม”


การประชุมของหมากรุก

ภายในศาลาใหญ่ ขุนนางและขุนศึกจากสามตระกูลนั่งล้อมวงกลมโต๊ะไม้สูงต่ำไม่เท่ากัน — แสดงอำนาจอย่างแนบเนียน

ท่านโอชิโระ เค็นจิ คือผู้เปิดการเจรจา:

“บ้านเมืองเราไม่อาจทนการเข่นฆ่าอีกต่อไป หากพวกเรามิร่วมมือ ตะวันตกจะกลืนพวกเราทั้งหมด”

อินาบะ ทาเคโมริ ตอบเสียงเรียบ “ความร่วมมือของเรา จะมีเพียงบนกระดาษหรือบนดาบ?”

เค็นจิยิ้ม “แล้วแต่ว่าใครเขียนกระดาษ และใครถือดาบ”

เมื่อถึงตระกูลคิริว หญิงสาวในชุดดำล้วนปรากฏตัว — คิริว ริเอะ ขุนศึกหญิงผู้ควบคุมตระกูลด้วยความเงียบ

นางวางตราประทับลงกลางโต๊ะ พร้อมถ้อยคำสั้นที่สุด

“ข้าไม่ไว้ใจใคร…แต่ข้าเกลียดสงครามมากกว่า”

ข้อตกลงเขียนขึ้นด้วยลายมือสามตระกูล — เพื่อ "ไม่รุกรานกัน", "แบ่งปันเสบียงยามขาดแคลน", และ "ประหารผู้ละเมิดทันที"

ไม่มีใครพูดถึงคำว่า "ศรัทธา"


ฮากุโร่ในเงา และขุนศึกที่ไม่ถูกเรียกชื่อ

หลังการเจรจา ฮากุโร่หลบอยู่ในโรงน้ำชาเบื้องหลังศาลาใหญ่

“สัญญาที่ไม่มีหัวใจ ย่อมอยู่ได้ไม่นาน” เสียงหนึ่งดังขึ้นในความมืด เป็นชายผู้นุ่งชุดนักบวชแต่สะพายดาบ — ขุนศึกที่เคยลี้ภัยไปแคว้นไกลตอนเหนือ

“มาทำไม?” ฮากุโร่ถามโดยไม่หัน

“มามองซากอุดมการณ์ถูกซื้อขายเป็นหมึกกับกระดาษ”

ทั้งสองเงียบ ก่อนขุนศึกไร้นามจะพูดทิ้งท้าย

“เจ้าคิดจะให้นางเป็นแค่พยานของการโกหกเหล่านี้หรือ?”


ซาโยะและอักษรบนหนังสือสาบาน

ซาโยะถูกเชิญให้ลงชื่อเป็น “พยานแห่งแคว้นคาเงะ” ในนามของตระกูลลับที่ยังไม่เปิดตัว เธอเป็นหญิงเดียวในห้องสนธิสัญญา

ทุกสายตาหันมามอง รวมทั้งคิริว ริเอะ ที่มองอย่างเย็นชาและพินิจพิเคราะห์

“เจ้าจะกล้าลงชื่อในคำโกหกหรือไม่?” ริเอะถาม

ซาโยะยิ้มบาง

“ข้าไม่รู้ว่าคำไหนคือโกหก — แต่ข้ารู้ว่า คนที่ไม่ลงชื่อจะไม่มีสิทธิปกป้องใครเลย”

นางจรดปลายพู่กันลงชื่ออย่างมั่นคง มือไม่สั่นเลยแม้แต่น้อย


ดาบที่หลุดฝักโดยไม่ตั้งใจ

กลางคืนหลังกินเลี้ยง เงาผู้หนึ่งพยายามลอบสังหารท่านอินาบะในโรงชาเล็ก โดยใช้ดาบสั้นเคลือบพิษ — แต่ถูกฮากุโร่หยุดไว้

ทั้งสองต่อสู้ใต้แสงจันทร์ ฮากุโร่ไม่ฆ่า แต่จับเป็น

“เจ้าทำงานให้ใคร?”

“สำหรับใครที่ต้องการให้สงครามกลับมา...เพราะสงครามคืออาชีพของเรา”


VI — สุดทางของสนธิสัญญา

รุ่งเช้า ศพของนักลอบสังหารถูกแขวนไว้หน้าศาลา พร้อมป้ายไม้สลักว่า:

“ผลของการละเมิดสัญญา…แม้เพียงคืนเดียว”

แต่ไม่มีใครพูดว่าใครเป็นผู้สั่งประหาร ไม่มีแม้การไต่สวน

ข้อตกลงถูกนำกลับมาอ่านซ้ำ และเพิ่มเติมบรรทัดสุดท้าย:

“ทุกผู้มีสิทธิตัดสินผู้ละเมิด หากเห็นว่าทำเพื่อปกป้องความสงบ”

มันกลายเป็นข้อตกลงที่เปิดให้ทุกคนใช้ “ดาบแห่งศรัทธา” ของตนเอง

...แม้ไม่มีศรัทธาเลยก็ตาม


ซาโยะกับเงาสะท้อนของศรัทธาตนเอง

ก่อนกลับคฤหาสน์ ฮากุโร่ถามนาง

“เจ้ารู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เราเพิ่งสร้าง?”

“ข้ามิรู้ว่าข้าสร้างอะไร หรือมันจะพังเมื่อไร แต่ข้าเลือกลงชื่อ...เพราะข้าอยากมีสิทธิจะปกป้องอะไรสักอย่าง ถึงแม้วันหนึ่งมันจะทรยศข้า”

ฮากุโร่มองนางเงียบ ๆ

ก่อนจะพูดราวกระซิบ

“งั้นเจ้าก็พร้อม...ที่จะให้ดาบแทงเจ้าจากข้างหลัง โดยคนที่เจ้าปกป้องแล้วใช่หรือไม่?”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ศาลาที่ไม่มีลำดับ – เมื่อเสียงแรกไม่ต้องรอผู้อนุญาต

    ศาลาที่ไม่มีลำดับ – เมื่อเสียงแรกไม่ต้องรอผู้อนุญาตศาลาไม้ที่หมู่บ้านโยโคะกาวะครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รวมเสียงสวดแบบดั้งเดิมเด็กไม่สามารถพูดหญิงต้องนั่งด้านหลังชายแก่เท่านั้นที่มีสิทธิ์เปิดสมุดแต่ในเช้าวันหนึ่งเด็กชายอายุสิบสองปีลุกขึ้นถือสมุดเล่มบางเขียนคำสั้น ๆ แล้ววางบนเสื่อหน้าเวที“ชื่อแม่ข้า... ข้าไม่รู้จะสวดอย่างไรแต่ข้าไม่อยากให้หายไป”ไม่มีใครสวด ไม่มีใครกล่าวอาเมนมีแต่ความเงียบจนชายชราผู้เคยเป็นประธานพิธีค่อย ๆ ลุกขึ้น เดินมานั่งข้างเด็กแล้วพูดแค่คำเดียว“ชื่อใคร?”ศาลานั้นไม่มีลำดับอีกต่อไปไม่มีใครรอใบอนุญาตจากวัดไม่มีตารางสวดที่แข็งตายทุกเช้า ใครมา ก็ได้เขียนใครอยู่ ก็ได้ฟังมันไม่ใช่ศาสนามันกลายเป็น ชุมชนในหมู่บ้านข้างเคียงเด็กหญิงผู้ไม่เคยพูดในพิธีเริ่มอ่าน “ชื่อคนที่เธอเห็นตายในสงคราม”ไม่มีใครถามว่าเธอเป็นใครเพราะศาลาไม่มีเวทีมีแต่เสื่อวงกลมที่ใครก็เดินเข้าได้ข่าวไปถึง ตระกูลอาซึกิตระกูลที่เคยยึดมั่นในลำดับพิธีกรรมบุตรชายคนรองถูกส่งมาสังเกตการณ์แต่เขากลับมาด้วยสมุดที่ไม่มีตรามีเพียงประโยคเดียวบนหน้าปก“ข้าเขียน... เพราะไม่อยากให้ใครสวดแทนอีก”เ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   ไคเซ็น — พระหญิงที่แปรพักตร์ และ “พิธีฟัง” แห่งแคว้นตะวันตก

    ไคเซ็น — พระหญิงที่แปรพักตร์ และ “พิธีฟัง” แห่งแคว้นตะวันตกบนยอดเขาอุเมะโนะอามะซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการสวดขอฝนบัดนี้เปลี่ยนไปโดยไม่มีประกาศจากศาสนจักรไม่มีขบวนไม่มีคัมภีร์มีเพียงเสียงเดียว —เสียงของหญิงที่เคยเป็น “พระ” แต่เลือกจะ “ฟัง”ไคเซ็น คือพระหญิงลำดับสามแห่งวัดอินโบเป็นที่รู้จักในนาม "เสียงแห่งเมฆขาว"เธอเป็นผู้เทศน์บทสวดเงียบผู้สามารถสวดได้โดยไม่มีคำพูดเพียงการเคลื่อนไหวของมือและจังหวะลมหายใจแต่หลัง “พิธีล้างเงา” เริ่มแผ่ขยายเธอเงียบ… และเมื่อเธอพูดอีกครั้งคำแรกของเธอคือ “ขอให้ข้าได้ฟังเจ้า”ณ ลานศาลาร้างแห่งหนึ่งในหมู่บ้านโคคุเระเธอประกาศสิ่งที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ศาสนจักร“ข้าไม่ได้ละทิ้งศรัทธาข้าเพียงเลิกฟังตำราที่ปิดหูคนเป็นและเปิดหูให้เสียงคนตายที่ถูกลืม”เธอเรียกสิ่งนั้นว่า “พิธีฟัง”พิธีฟังไม่ใช่การสวดไม่ใช่การเทศน์และไม่มีคัมภีร์มันคือการนั่งเงียบ ๆ เป็นวงกลมโดยมีผู้หนึ่งลุกขึ้นพูด “ชื่อ” ของผู้ที่เคยถูกเผาลืมอีกคนจะเล่า “ความทรงจำ”และทุกคนจะเงียบไม่ขัด ไม่ถาม ไม่ตีความเพียง “ฟัง”สามวันแรกมีเพียงเด็กสาวคนหนึ่งและชายชราขาพิการที่เข้าร่วมวัน

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   การตอบสนองของศาสนจักรส่วนกลาง – พิธีล้างเงา

    การตอบสนองของศาสนจักรส่วนกลาง – พิธีล้างเงาภายใน โคโตคุอิน — หอพิธีศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของศาสนจักรกลางเสียงฆ้องทองสามชั้นดังก้องสะท้อนกำแพงหินพระอาวุโส 9 รูป รวมตัวในพิธีที่ไม่ได้จัดมานานกว่า 37 ปีบนแท่นสูงกลางหอ — สมุดที่ไม่มีชื่อผู้เขียนถูกวางไว้จดหมายของเด็กจากหมู่บ้านชายแดนบทสวดที่ผิดจากตำราและเศษกระดาษเปื้อนหมึกดินถูกเรียงรายพระเร็นชิน ผู้นำสายเคร่งที่สุด กล่าวนำอย่างหนักแน่น“สิ่งใดที่เติบโตจากรากผิด ย่อมกลายเป็นวัชพืชและแม้เงาจะไร้รูปร่าง — มันก็มีพิษเมื่อเกาะอยู่บนหัวใจผู้คน”เขาเสนอให้ประกาศ "พิธีล้างเงา"เป็นพิธีกรรมใหญ่ประจำฤดูใบไม้ร่วงทำในวัดทุกแห่งที่ได้รับ “ข่าวลือศรัทธานอกบท”พิธีล้างเงา คืออะไร?พระอาวุโสจะเดินทางไปยังวัดที่ต้องสงสัยจะเผา "สมุดที่ไม่มีตรา"จะให้ผู้คนกล่าว "บทสาบานสัจจะ" ต่อหน้าพระใหญ่และทุกชื่อที่ถูกจารโดยไม่ได้รับอนุญาต… จะถูกลบด้วยหมึกดำแห่งการปฏิเสธแม้ภายนอกจะดูเป็นพิธีปลอบขวัญแต่เนื้อแท้คือการลบความทรงจำอย่างเป็นทางการกลุ่มพระสายสายลมเงาถูกขึ้นบัญชีลับวัดชายแดนหลายแห่งถูกสั่งย้ายผู้อาวุโสบางคนหายตัวในคืนก่อนพิธีเสียงสะท้อนเริ่มดังจา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   การประชุมศรัทธา – เมื่อ 12 ตระกูลเริ่มเรียกศาสนจักรมาชี้แจง

    การประชุมศรัทธา – เมื่อ 12 ตระกูลเริ่มเรียกศาสนจักรมาชี้แจงศาลาเซย์โรกุ บนยอดเนินฮานะงิคือที่ประชุมใหญ่แห่งตระกูลผู้นำทั่ว 9 แคว้นไม่มีพิธี ไม่มีการบรรเลงขลุ่ยรับแขกมีเพียงเสียงกระดิ่งทองคำเรียกผู้แทนทั้ง 12 ตระกูล ให้ปรากฏตัวในวันเดียวกันเก้าอี้ตรงกลางว่างเปล่า — นั่นคือที่ของศาสนจักรผู้แทนจากวัดหลวงใหญ่ 5 สายถูกเชิญ ไม่ใช่ในฐานะผู้สั่งแต่ในฐานะผู้ตอบไดเมียวอินาริแห่งตระกูลฮานะโมโตะเป็นผู้นั่งหัวโต๊ะแม้ปกติไม่ยุ่งกับพิธีกรรมแต่เมื่อเสียง “เด็กผู้ไม่รู้จักบทสวด” ดังไปถึงประตูปราสาทเขากล่าวเพียงว่า:“เมื่อประชาชนไม่เข้าใจศาสนา — นั่นคือปัญหาของผู้นำแต่เมื่อศาสนาไม่ฟังประชาชน — นั่นคือภัยของแผ่นดิน”ตัวแทนศาสนจักรใหญ่ พระโชอุนก้าวเข้าสู่ศาลาพร้อมคัมภีร์หนาแน่นเขาเริ่มกล่าวด้วยภาษาทางการ:“บทสวดคือรากของความสงบการเบี่ยงจากบท หมายถึงความวุ่นวาย”แต่ยังไม่ทันจบ —ท่านหญิงริวโนะ แห่งตระกูลโคมะอินุวางสมุดเปื้อนหมึกลงบนโต๊ะกลาง“แล้วชื่อของลูกข้าที่ไม่มีบทสวดท่านเรียกว่าความวุ่นวายหรือ?”เสียงฮือทั่วศาลาขุนศึกคิริโนะแห่งตระกูลคุเสะผู้ไม่เคยเข้าร่วมพิธีใดกล่าวเรียบ ๆ โดยไม

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   หอคอยที่เริ่มฟังลม – เมื่อศาสนจักรเริ่มเงี่ยหูฟังจากขอบแผ่นดิน

    หอคอยที่เริ่มฟังลม – เมื่อศาสนจักรเริ่มเงี่ยหูฟังจากขอบแผ่นดินศูนย์กลางศาสนจักรอยู่ที่ โซเรียวเท็นหอคอยสีขาวสูง 7 ชั้น เปรียบดั่ง “หูของเทพเจ้า”สร้างขึ้นเพื่อมองลงมาเหนือแผ่นดินทั้งหมดไม่มีเสียงใดเล็ดลอดเข้าถึงได้ เว้นแต่ผ่านกระบวนการรับรองแต่ในปีนี้...ลมเหนือจากชายแดน ยามากาตะพัดพาเสียงที่ไม่มีตราประทับเข้ามาไม่ใช่รายงานทางการไม่ใช่จดหมายทางศาสนาแต่เป็น สมุดเปื้อนหมึกเด็กที่บันทึก “ชื่อของคนที่ไม่มีบทสวด”พระอาวุโส ชูเคน ผู้ขึ้นนั่งกรรมการศรัทธาอาวุโสอ่านหน้ากระดาษอย่างช้า ๆไม่มีบทสวด ไม่มีตราแต่มีบรรทัดหนึ่งที่ทำให้เขาเงียบงัน“แม่ข้าไม่มีชื่อในวัดแต่ข้ายังพูดชื่อแม่อยู่ทุกคืนถ้านี่คือบาป… บาปนี้ข้ายินดีแบกตลอดชีวิต”ที่ประชุมกรรมการเริ่มมีการพูดถึง “ศรัทธาเงา”บางคนกล่าวว่า“นี่คือภัยร้ายของศาสนาใหม่ที่ไร้แบบแผน”แต่บางคนเงียบ—เงียบเพราะเคยได้ยินเสียงเดียวกันจากหน้าประตูวัดของตนเสียงของหญิงชราเสียงของเด็กที่ไม่ยอมลืมชื่อพ่อเสียงที่ไม่เคยเข้าพิธี แต่ไม่เคยหายไปชูเคนเสนออย่างระมัดระวัง“บางที... หอคอยอาจต้องเปิดหน้าต่างบางบานเพื่อฟังว่า ข้างล่างกำลังพูดอะไรกันแน่

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   กำแพงวัดที่เริ่มสะท้อนเสียงกลับ – เมื่อบทสวดกลายเป็นการตั้งคำถาม

    กำแพงวัดที่เริ่มสะท้อนเสียงกลับ – เมื่อบทสวดกลายเป็นการตั้งคำถามภายในวัดเอย์จิน หนึ่งในวัดที่ขึ้นชื่อว่า “มั่นคงต่อศาสนจักร” พระหนุ่มชื่อ มิโดริน เริ่มสวดผิดเพียงหนึ่งคำ ในพิธีศักดิ์สิทธิ์เดือนที่แล้ว เขาอ่านว่า“ขอจงปลดปล่อยผู้จากไป ด้วยการเรียกชื่อแท้ของเขา…”แทนที่จะกล่าวว่า“ขอจงลบชื่อของผู้พลาด เพื่อไม่ให้ศรัทธาสั่นคลอน”ผิดเพียงคำเดียว แต่มันดังก้องในหูของเด็กสามคนที่กำลังฟังอยู่ และเงียบเกินไปสำหรับหูของพระอาวุโสที่ไม่เคยคิดจะตั้งคำถามหลังพิธี มิโดรินถูกเรียกเข้าห้องสอบสวน แต่เมื่อถูกถามว่า“เจ้าต้องการเปลี่ยนบทสวดหรือ?”เขาตอบเพียงว่า“เปล่า ข้าเพียงอยากรู้ว่า… ใครเขียนบทสวดนี้?”คำถามนั้น ไม่ใช่การต่อต้าน แต่สำหรับศาสนจักร… มันคือระเบิดเสียงกระซิบเริ่มก้องในวัดอีกหลายแห่ง เด็กที่เคยท่องตามพระ เริ่มถามว่า“ทำไมแม่ของข้าจึงไม่มีชื่อในคำสวด?” “ทำไมพี่ชายที่ตายสงครามจึงถูกเรียกว่า ‘ไร้ศรัทธา’?”พระบางรูปตอบไม่ได้ พระบางรูปเริ่มหลบสายตา พระบางรูป… กลับเอาบทสวดฉบับเก่าออกมาอ่านลับ ๆ ใต้แสงเทียนวัดทาโฮะ พระหญิงนามว่า เรย์ชิน ขึ้นเทศน์หน้าคนเกือบร้อย แต่แทนที่จะ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status