“ยัยมิลิน หนูรูดซื้ออะไรไปเนี่ย” เสียงแหลมแผดดังจนมิลินต้องเอามือขึ้นปิดหู ดวงตาคู่สวยมองไปที่มารดา ท่านทำท่าคล้ายจะเป็นลมจนคนรับใช้ต้องเอายาดมมาให้
“ฮ่า ๆ คุณไม่ชินเหรอ” ชายวัยกลางคนมองลงมาจากราวบันไดที่เคลือบสีทอง เขาหัวเราะให้กับท่าทางของภรรยา ช็อกถึงขั้นที่ต้องมีคนคอยประคองเอาไว้เลยเหรอ
เขาเห็นภรรยาของตัวเองเป็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆ เวลาที่เห็นบิลบัตรเครดิต เธอน่าจะชินได้แล้วแต่ทว่าก็ไม่เห็นจะชินสักที
“คุณดูบิลก่อนเถอะค่ะ ยัยมิลินเอาไปรูดซื้อมาทั้งห้างเลยมั้ง”
“เวอร์ไปค่ะคุณแม่” มิลินหน้างอใส่มารดา ท่านพูดเกินจริงไปมากเพราะบิลก็ไม่ได้สูงไปจากเดิมสักเท่าไหร่ หญิงสาวรับเสื้อสูทของบิดามาถือไว้อย่างเอาใจ จะได้มีคนช่วยไม่ให้ตัวเองต้องถูกแม่ดุ
“ไม่เวอร์หรอก รูดซื้ออะไรไปเป็นล้าน”
“กระเป๋าค่ะ” มิลินตอบออกไปตรง ๆ เธอเอาไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมคอลเลกชันใหม่ อุตส่าห์ไปซื้อมาจนได้ หากช้ากว่านี้เธอก็คงอดแน่ ๆ เพราะยังมีอีกหลายคนที่เข้ามาซื้อแต่ก็ต้องพลาดไป
“ยัยมิลิน แกซื้อกระเป๋าอะไรขนาดนั้น”
“กระเป๋าน่ะส่วนนึง แต่ก็มีซื้อเสื้อผ้า ซื้อเครื่องประดับด้วยค่ะ” เธอตอบว่ากระเป๋าเพราะมูลค่าสูงกว่าอย่างอื่น ไม่ใช่ว่ากระเป๋าใบละเป็นล้านสักหน่อย
“ซื้ออะไรนักหนา ในห้องแกแม่เห็นกระเป๋าเต็มตู้”
มิลินอ้ำอึ้งพูดไม่ออก เธอชื่นชอบกระเป๋าแบรนด์เนมแล้วซื้อมาสะสมเอาไว้จนเต็มตู้ หญิงสาวยังคิดว่าคงต้องซื้อตู้เพิ่มด้วยซ้ำ
“ก็มิลินชอบนิคะแม่” มิลินเอ่ยเสียงแผ่ว เธอกอดแขนบิดาแน่นเพื่อให้ท่านช่วยพูด
“เอาน่าคุณ ลูกชอบอะไรก็ให้ลูกซื้อไปเถอะ” บิดาของมิลินเป็นเจ้าของโรงพยาบาล ฐานะของเขาร่ำรวยพอสมควร เปย์ลูกแค่นี้เขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
หญิงวัยกลางคนถอนหายใจออกมาพรืดยาว สามีของเธอตามใจลูกสาวเสมอ ปกติเธอก็ไม่ขัดแต่ถ้าเยอะเกินไปก็ต้องปรามไว้บ้าง
“อย่าดุเลยค่า มิลินสัญญาว่าจะซื้อให้น้อยลง” มิลินกอดมารดาบ้าง ท่านจะได้ใจอ่อนไม่ดุเธอต่อ
“ให้จริงเถอะ” ท่านค้อนใส่แต่สีหน้าก็มีรอยยิ้มประกายอยู่ ท่านแพ้ความอ้อนของลูกสาวอยู่เสมอ พอดุก็ดุได้แค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ใจอ่อนให้
มิลินอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อยที่เธอสัญญา แต่ทว่าเธอก็ไม่เคยรักษาสัญญาไว้ได้เลย เห็นคอลเลกชันใหม่ทีไรก็พร้อมจะไปซื้อมาไว้ครอบครองเสมอ เธอคิดว่าพ่อและแม่ก็รู้ทัน เพียงแต่ท่านไม่อยากดุต่อแล้ว
หญิงสาวเดินไปส่งพ่อแม่ที่รถเก๋งสีดำ คนขับรถเอามาจอดรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน แล้วกลับขึ้นมาที่ห้องนอนของตัวเอง
“ไปมหาลัยทั้งที ก็ต้องไปแบบปัง ๆ” หญิงสาวอมยิ้มขณะที่สายตาตรึงอยู่ที่ตู้เก็บกระเป๋า กระเป๋าใบใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อมา เธอตั้งใจจะเอาไปมหาวิทยาลัยในวันแรก แล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้ใบอื่นทีหลัง
ก๊อก ก๊อก มิลินหันขวับไปที่ประตู แล้วเปิดให้คนรับใช้เข้ามาข้างใน เธอสั่งให้เอาขนมและน้ำหวานมาเสิร์ฟ วันนี้เธอจะนอนเกลือกกลิ้งดูซีรีส์อยู่ในห้องทั้งวัน เพราะพรุ่งนี้เธอจะต้องไปเรียนแล้ว
บทส่งท้าย (จบ) 3 เดือนต่อมาภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองอบอวลไปด้วยดอกไม้มากมาย โคมไฟระย้าประกายแสงออกมาในโทนอบอุ่น เสียงดนตรีดังคลอเบา ๆแขกเหรื่อมากมายมาร่วมงานฉลองมงคลสมรสระหว่างมิลินและปอร์เช่ จนบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น พ่อแม่ของทั้งสองต้อนรับแขกอยู่ตลอดส่วนบ่าวสาวยังแต่งตัวอยู่ในห้อง มิลินสวยราวกับเจ้าหญิง เพื่อนสนิทเดินเข้าไปหาก็อึ้งในความสวยของเธอ“สวยมากเลยมึง” มินนี่เอ่ยออกมา แววตาของเธอเป็นประกายด้วยความชื่นชม“เห็นมาตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อน ตอนจีบ ตอนมีปัญหากัน ในที่สุดก็ได้เห็นถึงวันนี้ด้วย” อลันเอ่ยออกมา“เห็นมาตลอดแต่พอได้แต่งงานกันก็ซึ้งไปด้วยเนอะ” ไม้เอ่ยออกมา อลันก็พยักหน้าให้ เป็นเพื่อนกันมาจนได้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาทั้งอิ่มสุขและซึ้งกับความรักของเพื่อน“ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ” พิธีกรเดินเข้ามาตามในห้องแต่งตัว บ่าวสาวพยักหน้าให้แล้วเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อน ๆ ก็เดินนำไปที่ห้องจัดเลี้ยงก่อนแล้วประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง เจ้าสาวในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ยืนควงแขนกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทั้งสองเดินเข้ามาข้างใน เพื่อน ๆ โปรยก
บทที่ 97ปอร์เช่พามิลินเดินออกมานั่งดูดาวกันสองคนแบบเงียบ ๆ ส่วนลูกสาวของเขาก็มีเพื่อน ๆ คอยดูแลให้อยู่ “เราเตรียมแผนนี้ไว้ตั้งแต่วันที่รู้ว่าจะไปเลย” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “ปิดเป็นความลับเก่งมากเลย” ก่อนที่จะไปมิลินไม่เอะใจเลยสักนิด ทั้งที่เพื่อน ๆ ก็รู้กันหมด ทุกคนกำความลับเอาไว้ได้มิดมาก “ฮ่า ๆ ถ้าไม่ปิดสนิท มิลินรู้ก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ” ปอร์เช่ลูบศีรษะของแฟนสาวก่อนที่จะดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด มิลินเอียงหัวซบที่แผงอกของเขาแล้วมองแหวนที่นิ้วตัวเอง “แล้วไปซื้อแหวนมาตอนไหน” “ตอนที่ออกไปทำงานน่ะ เรามีเวลาว่างก็ออกไปซื้อแหวนมา” ตัวติดกันตลอดเขามีโอกาสไปซื้อได้แค่ตอนที่ออกไปทำงานเท่านั้น “แล้วแบบนี้เคยหนีเที่ยวบ้างหรือเปล่าเนี่ย” “ไม่เคยครับ” ปอร์เช่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว นอกจากไปซื้อแหวนวงนี้ มิลินหันไปส่งยิ้มให้ก่อนจะจูบปากเขาด้วยความรัก แฟนของเธอทำน่ารักขนาดนี้จนเธอรู้สึกว่าโชคดีจริง ๆ ที่ได้รักกัน “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะ” “ครับ” ปอร์เช่กอดมิลินเอาไว
บทที่ 96“เตรียมแหวนไว้พร้อมแล้วใช่ไหม” ไม้เอ่ยถามเมื่อมิลินเดินออกไปแล้ว“เตรียมไว้แล้ว ขอบคุณมากนะครับที่ทำตามแผนของผม” ปอร์เช่ตอบไม้แล้วเอ่ยกับผู้นำ เขาเป็นคนวางแผนเอาไว้เองว่าจะจัดงานเลี้ยงส่ง แล้วเขาก็จะขอแฟนสาวแต่งงานในคืนนี้“ไม่เป็นไรเลยครับ” ผู้นำตอบกลับปอร์เช่มองไปที่สองแม่ลูกแล้วเดินออกไปหา เขานั่งลงข้าง ๆ แฟนสาวแล้วมองเมญ่าเล่นขายของกับเด็ก ๆ “ลูกเรานี่เข้ากับคนง่ายจริง ๆ เลยเนอะ” ปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา “คิดถูกแล้วที่พาลูกมาด้วย” มิลินตอบกลับ ทีแรกก็กังวลว่าจะอยู่ไม่ได้ แต่เมญ่ากลับอยู่ได้แบบสบาย ๆ นั่งเล่นกับพื้นไม่ได้กลัวเปื้อน แล้วยังสนุกไปกับเพื่อนใหม่อีกด้วย “ลูกกินง่ายอยู่ง่ายเหมือนเราสองคน” มิลินหันไปมองหน้าปอร์เช่แล้วคลี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยที่ลูกสาวเป็นเหมือนเราสองคนที่อยู่ตรงไหนได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายอะไร ตกเย็นชาวบ้านก็มารวมตัวกันที่ลานกว้าง ทำอาหารแล้วมาตั้งไว้ พร้อมกับช่วยกันตกแต่งเป็นสถานที่เลี้ยงส่งกลุ่มหนุ่มสาวที่เข้ามาช่วยกันซ่อมแซมโรงเรียน “มิลินเสร็จแล้วเดินไปก่อนก็ได้” ปอร์เช่เอ่ย
บทที่ 95 วันต่อมาปอร์เช่และกลุ่มเพื่อนตื่นขึ้นมาแต่เช้าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เมญ่ายังคงนอนหลับสบาย มิลินไม่ได้ปลุกขึ้นมา ให้ลูกนอนห่มผ้าหนา ๆ ไปก่อนเพราะกลัวว่าถ้าลุกออกมาเล่นตอนนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วมานั่งเล่นมองหมอกจาง ๆ อยู่ที่หน้าบ้าน สักพักนึงชาวบ้านก็เอากับข้าวมาให้ “ขอบคุณมากนะครับ” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “คุณแม่ขา” “จ้า เดี๋ยวแม่เข้าไปหานะ” มิลินได้ยินเสียงลูกสาวเรียกหาก็เลยลุกเข้าไปในห้องนอน เมญ่าอ้าปากหาวแล้วลุกขึ้นมาหาผู้เป็นแม่ “หนาวไหมลูก” มิลินเอ่ยถาม ถึงตอนนี้จะมีแดดขึ้นมาแต่ก็ยังมีความเย็นอยู่ “ไม่หนาวมากค่ะ” “ถ้างั้นเราไปแปรงฟันกันนะคะ ลุง ๆ ป้า ๆ เอาของกินมาให้เยอะเลย”“ค่ะคุณแม่”มิลินพาน้องเมญ่าไปแปรงฟันแล้วออกมานั่งกินข้าวด้วยกัน หลังจากกินข้าวกันอิ่มแล้วทุกคนก็พากันไปขนของที่รถลงมาโดยที่มีชาวบ้านไปช่วยกันขนด้วย“ไปเล่นกันไหม” เด็กหญิงคนเดิมเดินเข้ามาหาเมญ่า“ไปค่ะ” เมญ่าตอบกลับแล้วพากันเดินไปนั่งเล่นอยู่แถวบ้านอีกหลังนึง ซึ่งอยู่ในสายตาของมิลินและปอร์เ
บทที่ 94 “เมญ่าอยากได้สไลด์เดอร์ค่ะคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่เคยพาไปเล่น เมญ่าชอบมากเลยค่ะ” “ได้เลยหลานรัก เดี๋ยวปู่ซื้อให้นะ” “อย่าเลยค่ะพ่อ ไว้พาไปเล่นข้างนอกดีกว่าค่ะ เพราะเล่นไม่นานเดี๋ยวก็เมญ่าโตขึ้นแล้วเล่นไม่ได้อีกค่ะ” มิลินเดินออกมาได้ยินที่ลูกสาวอ้อนขอของเล่นพอดีก็เลยห้ามไว้ ท่านตามใจเมญ่ามากเกินไปเธอกลัวว่าลูกสาวจะเอาแต่ใจ พออยากได้อะไรก็ต้องได้ ใบหน้าของเมญ่างอง้ำที่ถูกขัดใจ “หน้างอแบบนี้ แม่เอาไก่ทอดไปเก็บดีกว่า” มิลินแกล้งเดินหนีเข้าไปที่ครัว เมญ่ารีบลุกจากตักของคุณปู่แล้ววิ่งตามไป “กินค่ะคุณแม่ เมญ่าไม่หน้างอแล้วค่ะ” “พ่อคงตามใจหลานมากเกินไปหน่อย” พ่อของปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา พอถูกมิลินขัดท่านก็รู้สึกผิดที่ตามใจเมญ่ามากไป พอขอสไลด์เดอร์ก็จะซื้อให้เลยโดยที่ไม่ต้องคิด “ผมเข้าใจพ่อนะครับ ผมเองก็รักลูกหลงลูกจนอยากซื้อของให้ลูกเยอะแยะไปหมดเลย” ปอร์เช่ตอบกลับ เขารักลูกมากพอลูกขออะไรก็อยากให้ แต่เขาก็หักห้ามใจไว้เพราะกลัวว่าลูกจะเสียนิสัย “พ่อก็ต้องห้ามใจแล้วล่ะ” มาเฟียใหญ่คลี่ยิ้มบางแล้วเดินไปที่โต๊ะ
บทที่ 93 หลังจากงานรับปริญญาแล้ว ปอร์เช่เปิดโน้ตบุ๊กค้นหาข้อมูลเรื่องของเด็กบนดอย เขาเคยมีความฝันว่าอยากเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ บนนั้นแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป ตอนนี้เขาและแฟนสาวก็เรียนจบแล้วเขาเลยอยากหาโอกาสไปสักครั้ง “ทำอะไร” มิลินเดินออกมาหลังจากที่พาลูกสาวนอนในช่วงกลางวันแล้ว เห็นคนตัวโตกำลังดูหน้าโน้ตบุ๊กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอก็เลยเอ่ยถามออกมา “เราอยากชวนกันไปช่วยเหลือเด็กบนดอย มิลินสนใจไหม” ปอร์เช่มองหน้ามิลินด้วยความกังวล เพราะว่าการไปที่นั่นก็ค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ว่าแฟนสาวจะอยากไปด้วยไหม “สนใจสิ เราก็อยากไปเหมือนกัน” ได้คำตอบจากมิลินแล้วปอร์เช่ก็คลี่ยิ้มด้วยความโล่งใจ เขาเลยเปิดข้อมูลที่หาเอาไว้ให้มิลินดู หญิงสาวตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลย “ชวนเพื่อนไปด้วยใช่ปะ” มิลินเอ่ยถาม “ใช่ครับ พวกเรายังไม่ได้รวมตัวฉลองที่เรียนจบกันเลย เราก็เลยว่าจะชวนเพื่อนไปที่นั่น” ปอร์เช่ตอบกลับพร้อมกับเอาโทรศัพท์ออกมาส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม “ตอบตกลงกันทุกคนเลยมิลิน” ปอร์เช่หันหน้าจอให้มิลินดู เพื่อนทุกคนตอบว่าไปกันหมด ให้เขาหาสถานท