“ป้าดโธ่! พี่ฝันทำไมวันนี้สวยแบบนี้เนี่ย”
เมื่อเดินลงมาจากบนบ้านทอรุ้งถึงกับทักท้วงทันทีเพราะไม่เคยเห็นคนเป็นผู้พี่สวยบาดจิตแบบนี้มาก่อน ใครบอกว่าพี่ฝันไม่สวยเธอเถียงใจขาดดิ้นเลยนะ สำหรับเธอหุ่นแบบนี้มาแรงในยุคสมัยนี้จะตายจับตรงไหนก็นุ่มนิ่มไปหมด
“นั่นสิ วันนี้ลูกแม่สวยเป็นพิเศษเลยนะ”
อนุชเดินเข้ามาจับร่างอวบหมุนกลับไปหมุนกลับมาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ เธอต้องสวยสิเพราะอยากให้พี่ลมมองเห็นเธอในสายตาบ้าง
“ขอบคุณนะคะแม่ คืนนี้ฝันไม่ได้กลับนะ งานเลี้ยงเลิกดึกคงเปิดห้องค้างที่โรงแรมเลย”
“จ้า แม่รู้แล้วแกบอกแม่รอบที่สามของวันได้แล้วมั่ง แล้วนี้จะไปยังไง”
“อย่าบอกนะว่าพี่ฝันจะใส่ชุดสวยแว้นมอเตอร์ไซค์ไป”
ยังไม่ทันที่เหมือนฝันจะตอบคนเป็นแม่ทอรุ้งก็รีบทักท้วงขึ้นมาเมื่อเหลือบไปเห็นกุญแจรถในมือพี่สาว
“เฮ้ย! ลืมตัว พี่จะไปแท็กซี่”
หญิงสาวรีบยัดกุญแจรถใส่มือแม่ทันทีแล้วหัวเราะแก้เขินลิงทโมนยังแฝงร่างอยู่ไม่เกินจริงคงเป็นเพราะความเคยชินกับการเร่งรีบแล้วใช้รถสองล้อคู่ใจอยู่เป็นประจำจึงมักหยิบกุญแจรถออกมาจากบ้านทุกครั้ง
“รีบไปเถอะลูก เดี๋ยวจะสายเสียก่อน”
อนุชออกปากเตือนซึ่งก็ประจวบกับรถแท็กซี่ที่เธอเรียกผ่านแอปพลิเคชันก็เคลื่อนเข้ามาจอดหน้าประตูรั้วบ้านพอดีเธอจึงรับขึ้นรถเพื่อเดินทางไปงานเลี้ยงทันที
เสียงแจ้งเตือนในกลุ่มไลน์ดังขึ้นถี่เมื่อหยิบขึ้นมาเปิดอ่านตอนนี้ทุกคนไปถึงงานกันหมดแล้วเหลือแค่เธอคนเดียวจึงถูกส่งข้อความตามตัวจิกถี่ยิ่งกว่าไก่ก็พวกพี่เขาเลยแหละ เมื่อรถแท็กซี่เคลื่อนมาจอดหน้าทางเข้าโรงแรมเหมือนฝันชำระค่าโดยสารเสร็จแล้วก็จ้ำอ้าวเข้างานอย่างไว
แสงไฟสปอร์ไลฟ์สีขาวสาดส่องมายังประตูทางเข้าห้องโถงงานเพื่อต้อนรับพนักงสานหนุ่มหล่อสาวสวยที่แต่งตัวมาประชันกันในงานโดยเฉพาะ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในงานเหมือนฝันเริ่มรู้สึกอายอยู่ไม่น้อยเมื่อทุกคนหันมองเธอเป็นตาเดียวทั้งงานรวมไปถึงตัววายุเองด้วย
ร่างอวบใบหน้าสวยนั้นทำให้เขาจดจ้องได้โดยไม่ละสายตาไปทาง
ไหนเลย เหมือนกับว่ามีภาพทับซ้อนของคนเป็นพี่สาวอยู่ในนั้นด้วย ก็ต้องละม้ายคล้ายกันอยู่บ้างแหละก็เธอสองคนเป็นพี่น้องกันนี่นา
“ว้าว น้องฝันสวยมาก สวยจับจิตสวยจับใจเลือกชุดได้เหมาะกับตัวเองมากไม่เคยเห็นลุคนี้มาก่อนเลย”พี่กุ๊กเอ่ยชมด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“พี่จะบอกฝันว่า เคยชินกับลุคกระเซอะกระเซิงใช่ไหม” เธอแซวกลับด้วยรอยยิ้มหวาน
“เออ บางวันฉันคิดว่าแกตื่นจากที่นอนแล้วก็มาทำงานเลย”
“แรงมาก ยังไงวันนี้ก็มาสายสวยให้พี่กุ๊กวันหนึ่งแล้วนี้ไง”
เหมือนฝันคล้องแขนหยอกเย้าหัวหน้าทีมสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนในกลุ่มซึ่งยืนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้นพอดี
“ชมกันเสร็จแล้วใช่ไหม ถ้าเสร็จแล้วไปนั่งโต๊ะกันเถอะ ดิฉันหิวจะแย่แล้วเจ้าค่ะ คุณผู้หญิงทั้งหลาย”
พี่สมรผายมือเชิญทุกคนไปยังโต๊ะอาหารซึ่งถูกจัดไว้ให้แต่ละแผนกโดยมีป้ายชื่อทีมติดเอาไว้
มื้ออาหารวันนี้เป็นในรูปแบบบุฟเฟ่ต์เรียงรายกันหลากหลายเมนูมีทั้งของคาวและของหวาน ใครชอบกินอะไรทานเยอะทานน้อยก็สามารถเลือกตักได้ตามสบายเพราะมีบริการเติมอาหารอยู่ตลอดเวลา
สิ่งแรกที่เหมือนฝันมองหาไม่ใช่ของกินอย่างเดียวแต่เป็นพี่ลม
ของเธอด้วย เมื่อเห็นเขาอยู่โต๊ะวีไอพีด้านหน้าหญิงสาวก็ยิ้มออกมาด้วยความสุขใจ วันนี้พี่ท่านหล่อผิดตาเลยแหะแล้วแบบนี้เขาจะเห็นหรือเปล่าว่าเธอเองก็แต่งตัวสวยมาเพื่อเขาเหมือนกัน
อ๊อกกกกก
เสียงท้องร้องจนต้องเอามือกุมท้องไว้ต่อให้อยากเห็นหน้าพี่เขาแค่ไหนทว่าพยาธิในลำไส้มันก็ส่งเสียงทักท้วงอยู่เหมือนกันว่าหิวแล้ว เธอจึงลุกขึ้นเดินไปหยิบจานใบใหญ่เลือกตักอาหาร
น่องไก่ชิ้นใหญ่ชิ้นสุดท้ายวางเป็นชิ้นเกรงใจอยู่บนถาดตรงหน้า ที่คีบอาหารกำลังจะเอื้อมไปเอามาไว้ในครอบครองทว่ากลับมีมือปริศนาคีบมันใส่จานไปต่อหน้าต่อตาซึ่งเธอได้แต่มองตาปริบ ๆ อีกทั้งยังทำแก้มป่องจนดูน่าเอ็นดู
ท่าทางน่ารักนั้นเธอไม่รู้เลยว่าตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลอาการถูกแย่งของกินส่วนใหญ่เขาเห็นแต่เด็กเล็กเท่านั้นที่ทำไม่นึกเลยว่าจะได้เป็นในร่างหญิงสาวเจ้าเนื้อตรงหน้า
“เด็กน้อยถูกแย่งน่องไก่ไปซะแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นจนเหมือนฝันหันกลับไปมอง “พี่รันต์”
“ว่าไงยัยหมูน้อย ไม่เจอกันนานเลยนะ” มือหนายกขึ้นวางบนหัว
การันต์ผู้จัดการฝ่ายการตลาดหน้าตาดีขวัญใจชะนีน้อยใหญ่ มุมปากยิ้มโค้งทักทายอย่างเป็นมิตร ดวงตาที่มองมายังหญิงสาวมันแฝงอะไรบางอย่างซึ่งเปล่งประกายวิบวับ ทว่าหญิงสาวกลับดูมันไม่ออกเสีย
ด้วยซ้ำ
“ไม่เจอกันนานอะไรล่ะคะ เดือนที่แล้วก็เจอ”
“เดือนหนึ่งก็นานเหมือนกันนะ”
“นาน? แต่ก็เหมือนไม่นานผ่านไปแป๊บเดียวพี่รันต์ก็กลับมาแล้ว
นี่ไงคะ แถมมาทันงานประจำปีของบริษัทด้วย”
หญิงสาวคุยจ้อไม่หยุดจนเขาอดอมยิ้มไม่ได้กับการจดจำรายละเอียดเมื่อเดือนที่แล้วการันต์ถูกส่งตัวไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้มาบอกหญิงสาวก่อนไป มิวายเหมือนฝันยังกำชับว่าหากกลับมาแล้วต้องมีของมาฝากด้วยนะ ไม่อย่างนั้นเธอจะงอนแล้วไม่พูดด้วยและแน่นอนว่าขากลับเขาต้องซื้อกระเป๋าใบใหม่เพิ่มเพื่อใส่ขนมมาให้เธอโดยเฉพาะ สำรับหมูน้อยตรงหน้าเรื่องกินคือเรื่องใหญ่
“เอ้านี่ พี่หยิบเผื่อไว้ให้แล้ว”
การันต์หยิบน่องไก่ทอดในจานตัวเองให้กับเหมือนฝันหลายชิ้นเพราะรู้ว่าเธอชอบกินกับส้มตำ
“หูย รู้ใจน้องสาวคนนี้ดีจัง ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวค่อมหัวขอบคุณพร้อมกับรอยยิ้มสดใสเหมือนเคย ทว่าอีกฝ่ากับกลับยิ้มรับแหย ๆ กับคำว่า ‘น้องสาว’ ของเธอเพราะว่าเขารู้สึกมากกว่านั้น
[เรียนเชิญท่านประธานกล่าวเปิดงานด้วยครับ]
เสียงพิธีกรดำเนินรายการเชิญวายุขึ้นกล่าวเปิดงานทำให้เหมือนฝันรีบตักอาหารแล้วขอตัวจากการันต์กลับไปนั่งประจำที่ของตัวเองพร้อมกับจดจ้องไปยังใบหน้าหล่อแบบไม่วางตา
เธอไม่ได้สนใจเนื้อหาของบทเปิดงานเสียด้วยซ้ำเพราะกำลังหลงใหลกับผู้ชายที่หลงรักจนกระทั่งเสียงเฮลั่นของผู้คนในงานดังขึ้นเรียกสติเธอให้กลับมาพร้อมกับพี่นิดาจับมือเธอเขย่าด้วยความดีใจ
“เขาดีใจอะไรกันเหรอพี่”
“เอ้า เมื่อกี้ไม่ได้ฟังที่ท่านประธานประกาศเหรอ”
หญิงสาวส่ายหน้ารัว หูเธอดับตั้งแต่เห็นขายาวของพี่ลมก้าวขึ้น
เวทีแล้ว
“โบนัสปีนี้ บริษัทให้ 6.5 เท่า”
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นแล้วเพิ่งนึกได้ว่าต้องดีใจ โบนัสก้อนนี้สามารถปิดหนี้บ้านเธอได้เลยทีเดียว
[ท่านประธานประกาศข่าวดีไปแล้ว ต่อไปจะเป็นการจับรางวัลใหม่พิเศษนะครับ ส่วนของขวัญจะเป็นอะไรท่านประธานก็ไม่ได้บอกเสียด้วยแต่แน่ ๆ ใหญ่ใช่เล่น ทุกคนดูตั๋วในมือให้ดี ๆ นะครับ]
วายุล้วงมือลงไปในโหลแก้ว ควานหาอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบกระดาษแผ่นเล็กขึ้นมายื่นให้กับพิธีกรเพื่อประกาศชื่อผู้โชคดีส่วนเขาก็แค่รอมอบรางวัลก็เท่านั้น
[หมายเลขในมือผมมีสามตัวได้แก่...4…3 และ ...]
เหมือนฝันลุ้นหมายเลขในมือตัวโก่งเพราะสองตัวหน้ามันตรงกับของเธอ จึงได้แต่ภาวนาว่าเป็นเลขเก้าได้ไหม ขอเธอเป็นผู้โชคดีคืนนี้เพื่อรับรางวัลกับมือของเขา
[หมายเลข...] เสียงกองรัวขึ้นยิ่งบีบหัวใจคนที่กำลังลุ้น
[หมายเลข...เก้าครับ!]
“เย้!” ร่างอวบดีดตัวลุกขึ้นดีใจโดยหลงลืมไปว่าตัวเองใส่กระโปรงอยู่ ท่าทางนั้นเรียกรอยยิ้มให้กับวายุอยู่ไม่น้อย ซึ่งมันก็น่าแปลกที่เธอมักเผลอทำให้เขายิ้มออกมาอยู่เป็นประจำทั้งที่เป็นเสือยิ้มยาก
ร่างกลมรีบก้าวเท้าเดินไปด้านหน้าด้วยความเร่งรีบแม้ว่าเจ้ารองเท้าสูงสามนิ้วจะเป็นอุปสรรคในการเดินก็ตามแต่แค่มองเห็นว่าผู้ชายกำลังยืนรอเราอยู่เธอก็มีแรงเดินทันที
“ยินดีด้วยนะ”
ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับยื่นกล่องกำมะหยี่ให้ซึ่งในในนั้นมีสร้อยทองจี้เพชรมูลค่าเกือบห้าหมื่น เรียกได้ว่าโชคหล่นทับเธอสุด ๆ ได้ทั้งรางวัลทางกายได้ทั้งรางวัลทางใจ
หญิงสาวเหลือบมองดูเงาของตัวเองที่สะท้อนแสงไฟเคียงคู่กับเงาของพี่ลมแล้วก็รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก ราตรีนี้เงาของเธอได้เทียบข้างเขาแล้วแม้ว่าชีวิตจริงจะอาจเอื้อมไม่ถึงอย่างน้อยคืนนี้เธอก็ได้เป็น
เงาในราตรีนี้ก็เท่านั้น...
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคุณภูริจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังแล้วก็ทุจริตบริษัทเราไปมากมายขนาดนั้น”พี่นิดารำพึงออกมา แม้ทุกคนจะไม่ได้พูดแต่ก็คิดเหมือนกันเพราะภาพลักษณ์เวลาภูริอยู่ในบริษัทคือผู้ชายอบอุ่นใจดี เข้าใจหัวอกพนักงานแต่เบื้องหลังก็คือคนร้ายนี่เอง“แล้วนี่น้องฝันจะกลับมาทำงานวันไหนอ่า คิดถึงเสียงหัวเราะลั่นห้องจะแย่” พี่สมรทำหน้าเหงาหง่อย“ไม่รู้สิ ก็คุณวายุถูกยิงขนาดนั้นก็คงนานอยู่หรอก” พี่กุ๊กพูดเสริมแล้วทุกคนในแผนกก็ต่างต้องหันไปทางประตูเหมือนว่ามีใครอีกคนกำลังเปิดประตูเข้ามา“มีใครบ่นคิดถึงเหรอคะ”“น้องฝัน!” ทุกคนกรูกันเข้าไปหาแล้วจับหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อสำรวจว่าน้องเล็กของทีมได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า“ฝันไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วงวันนี้เลยแวะมาทำงานช่วงเช้าแล้วก็ช่วงบ่ายจะไปโรงพยาบาลต่อคุณหมดนัดตรวจเจ้าตัวเล็กค่ะ”พูดพร้อมกับลูบหน้าท้องน้อยทุกคนต่างหันมองหน้ากันไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรต่อได้แต่ยกมือเร้า ๆสะกิดกัน ก่อนพี่กุ๊กจะพูดขึ้นเสียงดัง“ฉันกำลังจะได้เป็นป้าของลูกท่านประธานแล้ว” ประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดีเหตุการณ์วันนั้นสร้างความอยากรู้ให้กับเพื่อนร่วมงานเหมือนฝันจึ
“กี่เดือนแล้ว” เขาเงยหน้าขึ้นถาม“สองเดือนค่ะ”“รู้ตอนไหนว่าท้องทำไมไม่บอกพี่เลย” น้ำเสียงนั้นมีความน้อยใจแฝงอยู่“รู้ตอนวันเกิดคุณลุงค่ะ”“ตอนที่ฝันบอกพี่ว่าไปหาหมอนะเหรอ” เหมือนฝันพยักหน้ารับงึก ๆ ทว่าคนฟังกลับมองด้วยสายตาตัดพ้อเขาไม่ได้อยู่ในวันที่รับรู้ข่าวดีว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเราแถมยังปล่อยให้ไปหาหมอเพียงลำพังอีกต่างหาก“อย่าทำสีหน้าอย่างนั้นสิคะ”“ถ้าไม่ให้ทำสีหน้าแบบนี้จะให้ทำสีหน้าแบบไหนล่ะครับ เมียไปหาหมอคนเดียวและรู้ว่าท้องก็ยังไม่บอกอีก”น้ำเสียงเริ่มขึ้นจมูกพลันน้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมาง่ายๆ ยิ่งเธอปลอบเท่าไรเขาก็ร้องไห้หนักขึ้นเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากอยู่ดูแลคนถูกยิงจนหายดีแล้วเพราะแผลไม่ได้ถูกจุดสำคัญหมอก็ให้วายุกลับไปพักฟื้นที่บ้านและแน่นอนว่าเจ้าตัวก็คอยออดอ้อนคนเป็นเมียอยู่ร่ำไปหากใครมาเห็นคงไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคุณวายุ“ป้ามาลีทำอะไรมาให้ผมกินครับเนี่ย ทำไมเหม็นแบบนี้” มือหนาเลื่อนถ้วยข้าวต้มออกแล้วยกมือขึ้นอังจมูก“ก็ข้าวต้มของโปรดคุณลมยังไงคะ ป้าเพิ่งยกลงจากเตาเมื่อกี้สด ๆ ร้อน ๆเลย” แม่บ้านประจำตระกูลหน้าตื่นวินไทยกับวารินทร์ก้ม
ไม่รู้ว่าสายอะไรต่อสายอะไรห้อยระโยระยางเต็มไปหมด คนถูกยิงได้แต่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง ต่อให้เหมือนฝันอยากเข้าไปหาแค่ไหนก็ทำได้แค่มองผ่านกระจกใสอันเล็กของประตูกั้นก็เท่านั้นวายุปลอดภัยแล้วแต่ก็ยังต้องอยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิดจึงยังต้องงดเยี่ยมไปก่อนจนกว่าจะฟื้นขึ้นมาบางคนทยอยกลับกันไปบ้างแล้วเหลือเพียงเหมือนฝันเท่านั้นที่ยังคงนั่งรออยู่ที่เดิมเพราะกลัวว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงนั้น“พี่ว่าแกกลับบ้านไปพักก่อนไหม ถ้าไม่เห็นแก่ตัวเองก็เห็นแก่ลูกในท้องหน่อยก็ดีนะ”เหมือนฟ้าเดินเข้ามาตบไหล่น้องสาวแล้วทรุดตัวนั่งลงด้านข้าง“ฝันอยากอยู่ดูว่าเขาฟื้นแล้ว”“พี่รู้ว่าแกเป็นห่วงลม แต่แกก็ต้องห่วงตัวเองกับลูกด้วย”หญิงสาวช่างใจอยู่ครู่หนึ่งแววความกังวลผุดขึ้นในดวงตา ส่วนอีกมือก็ลูบหน้าท้องน้อยต้องเรียกว่าความโชคดีหรือเปล่านะที่เธอแทบจะไม่มีอาการแพ้ท้องเหมือนคนอื่นเลยแถมยังผ่านเรื่องเครียดมาตั้งมากมายเจ้าก้อนในท้องกลับไม่ทำให้เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด“ก็ได้ค่ะ แต่ขอฝันอยู่ดูพี่ลมอีกสักนิดก่อนได้ไหมคะ”“ตามใจ เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนจะได้ไปส่งแกด้วย แล้ววันนี้กลับไปนอนบ้านค
เหมือนฝันกุมหน้าตัวเองแน่นขึ้นพร้อมกับคิดหาทางออกแต่คิดอย่างไรก็ไม่เป็นผลในเมื่อปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ที่ขมับด้านซ้าย หากเธอตุกติกแม้แต่นิดเดียวมีหวังลูกตะกั่วได้วิ่งเข้าไปทักทายมันสมองเธอแน่นอนวายุรู้สึกหวาดหวั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดขณะที่หัวใจเต้นรัว ดวงตาที่สบกับเหมือนฝันนั้นมันมีอะไรบางอย่างบอกเอาไว้และเขาอ่านมันออกหญิงสาวพยักหน้าให้กับเขาเพื่อเตรียมตัวทำอะไรบางอย่างแต่เขากลับส่ายหัวให้เธออยู่เฉยๆ อย่าทำอะไรทว่ามันกลับไม่ทันเสียแล้วเหมือนฝันใช้วิชาเอาตัวรอดจากการถูกจับเป็นตัวประกันที่ได้เรียนมาเมื่อตอนเข้าชมรมสมัยมหาวิทยาลัยแล้วกระทุ้งหน้าท้องคนร้ายก่อนจะบิดแขนข้างที่มีปืนให้ยกขึ้นฟ้าความชุลมุนเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวเหมือนฝันรีบวิ่งไปหาวายุ ภูริโกรธขึ้นขีดสุดเลยเล็งปืนไปยังเหมือนฝันแล้วเหนียวไกยิงทว่าคนที่รับกระสุนแทนกลับเป็นวายุ เขาใช้ตัวเองบังร่างอวบนั้นไว้แล้วทรุดตัวล้มลง“พี่ลม”หญิงสาวกรี๊ดออกมาสุดเสียงแล้วประคองร่างเลือดท่วมนั้นเอาไว้ จากนั้นเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัดจากการวิสามัญคนร้าย“พี่ลม ไม่นะ อย่าเป็นอะไรนะ ฟื้นสิ” เธอพยายามตบหน้าเขาเบา
“เฮ้ย! พวกนั้นหายไปไหน” ชายใบหน้าดุดันมีรอยบากระหว่างหัวคิ้วร้องตะโกนขึ้นสุดเสียงชายที่เหลือวิ่งหน้าตั้งเข้ามาแล้วกวาดตามองรอบบริเวณไม่เห็นแม่แต่เงาของพวกผู้หญิงที่พวกเขาจับมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่ ทิ้งไว้เพียงหนวดกุ้งรัดแขนเอาไว้ให้ดูต่างหน้าก็เท่านั้น“ไปตามหาตัวพวกมันสิวะ แล้วเอาตัวกลับมาให้ได้ยืนเซ่ออยู่ทำไม”ภูริตวาดลูกน้องลั่นแล้วไล่ด้วยความเดือดดาลก่อนจะวิ่งไปอีกทางเพื่อตามหาเพราะเหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็ได้เวลานัดกับวายุแล้วบริเวณริมป่าละเมาะเหมือนฝันกึ่งเดินกึ่งวิ่งนำหน้าเพื่อมองหาลู่ทางและเข้าใกล้เขตหมู่บ้านคนเพื่อขอความช่วยเหลือทว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ความมืดมิดเสียงวิ่งจากเบื้องหลังด้วยความเร็วพร้อมกับแสงไฟฉายสาดส่องไปมาทำให้รู้ว่าพวกมันใกล้เข้ามาถึงเต็มทีแล้ว“คุณณิ คุณน้ำ เร็วกว่านี้หน่อยค่ะ พวกมันตามมาแล้ว”เหมือนฝันเร่งสองสาวที่เดินรั้งท้ายส่วนตัวเองนั้นก็เริ่มเหนื่อยหอบเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง“เฮ้ย พวกมันอยู่นั้น หยุดนะเว้ย”ความกลัวทำให้วารินทร์สั่นไปทั้งตัววิ่งมองหลังจนไม่ทันระวังสะดุดหินล้มลงบนทางลูกรังจนข้อเท้าพลิกทำให้ลุกขึ้นเดินต่อไม่ได้ พอมอ
ทุกคนมานั่งประจำที่ตัวเองกันหมดแล้วยกเว้นเพียงเหมือนฝันเท่านั้นที่ยังไม่กลับมา“ยัยฝันไปไหน ตั้งแต่แม่ยกถาดอาหารออกมายังไม่เห็นเลย”“น่าจะเอาเสื้อไปเก็บมั่งครับ แต่ก็ไปนานแล้วนะครับ” ตรีวิทย์บอกแล้วยืดคอขึ้นมองไปยังโรงจอดรถ“ถ้างั้นเดี๋ยวป้าไปตามให้นะคะ” ป้ามาลีอาสแล้วก็เดินออกไปไม่นานก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาด้วยสีหน้าตื่นในมือมีรองเท้าอยู่ข้างหนึ่งซึ่งวายุจำได้เป็นอย่างดีว่าเป็นของเหมือนฝัน หัวใจเขากระตุกวูบขึ้นมาแล้วรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดกล้องวงจรปิดดูทันทีเขาขบกรามแน่นเมื่อเห็นผู้ชายตัวใหญ่สองคนกำลังหิ้วปีกร่างไร้สติออกไปจากบ้านอย่างเงียบ ๆ โดยหลบเลี่ยงสายตาจากคนทั้งบ้านโดยไม่มีใครสังเกตเห็น“ต้องเป็นฝีมือไอ้ภูริแน่นอน” วายุสบถออกมา“คนเดียวกันกับที่เคยจับฟ้าไปน่ะเหรอ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับอนุชได้ยินแบบนั้นก็เข่าอ่อนทำท่าจะเป็นลมจนเหมือนฟ้าต้องรีบพยุงและพาไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด ป้ามาลีรีบไปหายาดมมาให้ทันที“ผมพลาดเองที่ละหลวมความปลอดภัยเพราะคิดว่าคนอยู่เยอะกันขณะนี้มันคงไม่กล้าลงมือ”สองมือกำแน่นเข้าหากันเพราะรู้สึกเป็นห่วงเหมือนฝันจับใจ ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นตอนแรก