เอ่ก อี้ เอก เอ้ก
แสงแดดยามเช้าสาดส่องพร้อมกับเสียงไก่ที่ขันรอบหมู่บ้านดังขึ้น ปนกับเสียงหมาหอนเป็นจังหวะที่ปลุกชาวบ้านให้ลุกขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวัน ที่หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน พลในเสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงยีนส์ตัวเก่งยืนจัดกระเป๋าผ้าสำหรับจ่ายตลาด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นทำให้เข้มที่ยืนอยู่ข้างๆ เผลอยิ้มออกมา
“พร้อมยัง?” เข้มถามขึ้นขณะที่โยนกุญแจรถขึ้นลงในมือ พร้อมกับใบหน้าหล่อที่ยักคิ้วขึ้น
“พร้อมครับ! แต่อ้ายเข้มต้องช่วยผมนะ” พลพลอยตอบเสียงใส รอยยิ้มกว้างจนตาหยีทำให้เข้มอดไม่ได้ที่จะยกมือขยี้ผมของพลเบาๆ
“ก็ช่วยอยู่แล้ว เดี๋ยวหาว่าพี่ปล่อยให้ทำคนเดียว” เข้มพูดขึ้นพร้อมกับตรงไปยังรถยนต์ ก่อนที่จะตรงออกจากหมู่บ้านมุ้งเข้าสู้ตัวอำเภอไป
เมื่อมาถึงตลาดสดที่ตั้งอยู่ใจกลางของตัวอำเภอ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เสียงแม่ค้าขายผักผลไม้ที่เรียกลูกค้าดังแข่งกับเสียงคนพูดคุยของคนที่เดินสวนไปมาในตลาด พลเดินดูของด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ทั้งความหลากหลายของสินค้าที่แต่ละร้านออกมานำเสนอ ทั้งผักสด เนื้อสัตว์ และของพื้นบ้าน ทำให้เขาอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ พลเกาะแขนอีกฝ่ายแน่นพร้อมกับชี้โน้นชี้นี่ให้คนร่างสูงหันมาหัวเราะไปกับเขาไปพลางๆ
“อ้ายเข้ม ดูสิครับ! ผักสดมากเลยครับ น่าจะเอาไปให้พวกแม่บ้านทำกับข้าวเลี้ยงคนที่มาช่วยงานนะครับ” พลชี้ไปที่กระจาดผักที่จัดไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมกับแม่ค้าที่ร้องเรียกลูกค้าเสียงหวาน จนพลเองก็ถึงกับเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เป็นประกาย จนเข้มเองก็เบือนหน้าไปอีกทางก่อนที่จะหันมาพูดขึ้น
“งั้นก็ซื้อสิ” เข้มยิ้ม ขณะที่ล้วงเงินในกระเป๋าส่งให้ ก่อนที่พลเขาจะไม่รับไว้ เพราะเขามีเงินสดติดตัวมาอยู่
“ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมเอาเงินตัวเองก็ได้ครับ ขอบคุณนะครับ” พลรีบยกมือห้าม พร้อมกับตอบปฏิเสธด้วยรอยยิ้มหวานเพื่อไม่อีกฝ่ายเสียน้ำใจ
“ไม่เอาน่า ของที่จะใช้ในงานบุญบ้าน พี่เลี้ยงเอง” เข้มพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะยื่นเงินให้แม่ค้า แม่ค้ายิ้มให้กับทั้งสองอย่างเอ็นดู ก่อนที่จะพูดขึ้นในขณะที่จับผักใส่ถุงพร้อมกับยื่นให้
“โอ้ย เนื้อคู่กันแท้ๆ เนาะ” (โอ้ย เนื้อคู่กันแท้ๆ) แม่ค้าพูดขึ้นเมื่อยื่นผักให้เข้มก่อนที่จะคว้ามือหนาไว้ เข้มเองก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่จะตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ
“กะประมาณนั้นครับป้า” (ก็ประมาณนั้นครับป้า)
คำพูดนั้นทำให้พลหน้าแดงขึ้น ขณะที่เข้มหัวเราะเบาๆ ระหว่างที่เดินจ่ายตลาด ทั้งสองหยุดซื้อของไปเรื่อยๆ ทั้งเนื้อไก่สด ข้าวเหนียวใหม่ และวัตถุดิบสำหรับทำขนมหวานพื้นบ้าน
รวมถึงของที่จะนำมาเลี้ยงชาวบ้านที่จะมาช่วยในการทำตลาดชุมชน พลจดรายการในสมุดเล่มเล็กที่เขาเตรียมมาอย่างตั้งใจ ก่อนที่จะใช้สายตายไล่ดูทั้งหมดพร้อมกับพบว่ามันครบหมดแล้วพลจึ้งหันไปที่ร่างสูงที่ในตอนนี้ถือของเต็มไม้เต็มมือ “มีความสุขจังมีผู้ใหญ่ใจดีจ่ายเงินด้วย” พลคิดขึ้นในใจพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
“นี่ก็ครบแล้วนะครับ” พลพูดพร้อมปิดสมุดบันทึกเล่มเล็กของตนพร้อมกับเก็บลงกระเป๋าดังเดิม
“อืม” เข้มพูดพร้อมกับตอบอีกฝ่ายไปอย่างส่งๆ เพราะตอนนี้ของที่ซื้อ มันเต็มไม้เต็มมือไปหมด
“อ้ายเข้มๆ! พลอยากกินน้ำปั่นจัง...”
พลพูดด้วยน้ำพเสียงที่ตื่นเต้นพร้อมกับเขย่าแขนของคนข้างๆ จนเข้มก็หันไปมองพร้อมกับเผยให้เห็นร้านน้ำปั่น ก่อนที่พลจะจูงมือเข้มเดินเข้ามายังหน้าร้านด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“คุณพี่เข้มครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง ผมจะซื้อไปฝากขิมด้วยพ่อแม่ที่บ้านด้วย รวมถึงพี่ด้วยนะ” พลพูดพร้อมเงยหน้ามองคนตัวสูงที่ในสตอนนี้ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เข้มวางของลงข้าง ๆ ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าตังของตัวเองขึ้น พร้อมกับพบว่าเงินของเขาเริ่มเหลือน้อยเต็มที
“มันแพงมากเลยนะพล” เข้มพูดพร้อมที่จะหยิบจ่ายเงินให้กับแม่ค้า พลเองก็จับแขนของเข้มไว้ ก่อนที่จะพูดตอบออกไปด้วยร้อยยิ้มหวานป่านน้ำผึ้งเดือนห้า
“ไม่เป็นไรครับ ผมเลี้ยงเอง” พลพูดจบก็หยิบกระเป๋าตังใบเล็กขึ้นมา พร้อมกับเข้มที่ชำเรืองมองในกระเป๋าใบนั้นที่มีแบงค์สีเทาหลายใบ ทำให้เขามั่นใจได้ว่าคนตรงหน้าต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ แต่ทว่าคนตรงหน้าไม่ได้มาเป็นพิษเป็นภัยก็ตาม แต่เขาก็แอบหวังว่าจะไม่มีผลกระทบอะไรที่ตามมา
เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อใหญ่มีกับแม่ปลาพ่อแม่ของเข้มกำลังเตรียมอุปกรณ์สำหรับการทำขนมในงานบุญอยู่ ขิมที่นั่งถักดอกไม้ก็เงยหน้าขึ้นยิ้มกว้างเมื่อเห็นพี่ชายและพลกลับมา พร้อมกับพลที่หิ้วถุงกระดาษลงมาก่อนที่ขิมเธอจะเดินตรงไปช่วยถือของ
“ซื้อของมาครบบ่จ้าอ้าย บ่แม่นมีแต่ย่างหวานกันในตลาดเด้อ” (ซื้อของมาครบไหมคะพี่ ไม่ใช่ว่าไปเดินหวานกันในนะตลาดเหรอ) ขิมแซวขำๆ ขึ้น พลเองก็พลางหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เข้มทำเป็นไม่สนใจ ก่อนที่จะวางของที่ซื้อมาทั้งหมดวางลงตรงแคร่ไม้ก่อนที่จะหันไปยิ้มพร้อมกับพูดตอบ
“ครบเบิดแล้ว ไม่ต้องห่วง” (ครบหมดแล้วไม่ต้องห่วง)
“ถ้าครบกะมาซอยกันแน่จ้า เดี๋ยวหนูกับอีแม่สิเตรียมของตรงนี้ต่อ” (ถ้าครบแล้วก็มาช่วยกันหน่อยคะ เดี๋ยวหนูกับแม่จะเตรียมของตรงนี้ต่อ”
“เดี๋ยวสิครับพ่อมีแม่ปลา ผมมีอะไรมาฝากด้วย?”
ไม่นานทุกสายตาก็จับจ้องมายังพล พลเองก็หยิบน้ำปั้นออกมาจากถุงกระดาษ ก่อนที่จะแจกจ่าย โดยเฉพาะขิมพลได้ซื้อสตอเบอร์รี่โยเกิร์ดปั่นแบบเดี๋ยวกันกับที่เขากิน พลหวังว่าขิมเธอจะชอบเหมือนกัน
“ขอบคุณหลายๆ จ้าอ้ายพล” (ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่พล) ขิมเธอยิ้มตอบพลพร้อมกับรับมาด้วยรอยยิ้มหวานแทบแก้มจะแตก เพราะเธอไม่เคยได้กินมาก่อน เธอไม่รอช้าที่จะปักหลอดลงพร้อมกับดูด เมื่อเธอได้ลิ้มรสเธอก็ต้องถึงกับตาโตในความอร่อย
“แซ่บหลายจ้า มักแฮงแฮง” (อร่อยมากเลยค่ะ ชอบมาก)
“ชอบก็กินเยอะนะครับ ไว้เดี๋ยวพี่ซื้อมาฝากอีก” พลพูดพร้อมกับยิ้มตอบเธอ ในขณะที่ขิมเธอเองก็พลอยดูดน้ำปั่นจนแก้มป่อง
ช่วงสายใต้ถุนบ้าน พลและเข้มกำลังช่วยกันจัดวัตถุดิบสำหรับมื้ออาหาร ขณะที่พลเองง่วนอยู่กับการจัดเรียงอุปกรณ์ อย่างใจจดจ่อกับการนับถุงผักและของที่ตนซื้อมา ไม่นานเสียงแผ่วเบาของจิ้งจกบนคานไม้ก็ดูเหมือนจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่พลสนใจ พลแหงนหน้าไปดูสักพัก ก่อนที่จะพลชะงัก หันหน้ามามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยผสมความประหลาดใจว่าเข้มจับมอตนทำไม
"อ้ายเข้ม?มีอะไรรึเปล่าครับ?" พลถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานถึงแม้จะยุ่งอยู่ เข้มเองเขาก็ไม่ตอบกลับในทันที แต่เขากลับกระตุกยิ้มมุมปาก เข้มเขาขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวน
"ไม่มีอะไรหรอก...แค่อยากจับมือเฉย นุ่มดีนะ" คำตอบนั้นทำให้พลเบิกตากว้างเล็กน้อย ก่อนจะรีบดึงมือกลับ
"อ้ายเข้ม! อย่ามาเล่นกับระบบนะครับ ผมกำลังยุ่งอยู่" พลเขาพลางเอ็ดคนตรงหน้า แต่ไม่ทันจะห้ามใจตัวเองได้ หน้าเขาก็แดงซ่านขึ้นเรื่อยๆ เข้มเองเขาก็ยกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นอย่างกวนๆ ก่อนจะเชยคางของพลด้วยนิ้วเดียว
"ก็อยากลองอยู่นะ ว่าระบบมันเป็นยังไง" เขากล่าวพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ จนพลเองก็อดที่จะขนลุกไม่ได้
"ดีไม่ดี ระบบอาจรวนก่อนก็ได้" พลอึ้งเล็กน้อย พยายามตั้งตัวแต่ไม่ทันแล้ว สายตาของเขาดันหลุดไปจ้องใบหน้าคมเข้มตรงหน้าอย่างลืมตัว
"ก็ลองดูสิ..." พลตอบกลับเบาๆ เสียงแทบกระซิบ เขาก็เป็นคนสู้คนเหมือนกันก่อนที่จะเอี้ยวหน้าเข้าใกล้กับใบหน้าหล่อ เข้มเองยิ้มมุมปาก ท่าทางเจ้าเล่ห์ยิ่งชัด
"หึ จะจูบให้ระบบล้มเลย" คำพูดนั้นเหมือนระเบิดความเขินเข้าใส่ พลเบิกตากว้าง แต่ยังไม่ทันที่อะไรจะเกิดขึ้น เสียงทักก็ดังมาจากทางด้านหน้าของทั้งสอง
"เฮ่ยๆ บ้านเด้อบ้าน บ่แม่นเถียงนาคอยฮัก!" (เฮ่ยๆ บ้านะบ้าน ไม่ใช่ถียงนาคอยรัก) เสียงดินดังขึ้นพร้อมกับมอเตอร์ไซค์เก่าที่จอดอยู่หน้าบ้าน ดินเขาเอ่ยแซวทั้งคู่พลางหัวเราะเบาๆ ภาพตรงหน้าที่เข้มและพลจ้องกันใกล้ชิดจนแทบจะจูบกัน ทำให้ดินยิ้มกว้างกว่าเดิม
พลสะดุ้งจนเกือบทำอุปกรณ์ในมือร่วง มือเล็กรีบยื่นตีไปที่ไหล่กว้างของเข้มเบาๆ ก่อนที่พลจะหันไปพูดคุยกับดินที่พึ่งเดินเข้ามาอย่างกับเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"โธ่ อ้ายดิน! มาทำให้ตกใจหมดเลย" เขาโวยวายทั้งที่หน้าแดงก่ำ เข้มหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะหันไปหาดินพร้อมกับพูดกระซิบแบบที่พลได้ยินด้วย
"อย่ามาขัดลาภ คนกำลังจะได้เลื่อนขั้น"
พลได้ยินก็แทบอยากแทรกแผ่นดินหนี รีบก้มหน้าก้มตาจัดของต่อไป แต่ในใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาคิดกับตัวเองว่า “ถ้าได้จูบก็ดีสิ จะได้เลื่อนขั้นเอย่างที่พี่เข้มว่า นายหัวสิงหากับคุณหญิงฐาต้องภูมิใจแน่ มีลูกเขยเป็นถึงลูกชายผู้ใหญ่บ้าน แถมงานดีสุดๆ” พลคิดขึ้นในพร้อมกับหน้าแดงขึ้น
ตอนกลางวันใต้ถุนบ้านก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความครึกครื้นของชาวบ้านที่มาร่วมกันเตรียมงานบุญยามเย็น พลในชุดเสื้อยืดสีขาวเปื้อนเหงื่อและกางเกงยีนต์ตัวเก่ง กำลังขะมักเขม้นจัดโต๊ะและเสิร์ฟของว่างให้ชาวบ้านที่มาช่วยงาน บางคนก็ถึงกับชมเขา และบางคนแซวว่า “หนุ่มเมืองกรุงคือขยันแท้” (หนุ่มเมืองกรุ่งขยันจัง) พลยิ้มรับคำชมเหล่านั้นด้วยความเขินอาย
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ชาวบ้านทยอยกลับบ้านเพื่อพักผ่อน เหลือเพียงพลที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะอาหารมองผลงานด้วยความภาคภูมิใจ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลอาบแก้ม แต่ใบหน้าเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ไม่นานเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง พลหันไปพบเข้มในชุดเสื้อกล้ามสีเทากับกางเกงผ้าสบายๆ เดินตรงมาหา กลิ่นหอมจางๆ จากสบู่สมุนไพรที่อีกฝ่ายอาบน้ำมาหมาดๆ ทำให้พลรู้สึกผ่อนคลาย
“เหนื่อยไหม?” เข้มเอ่ยถามพลพลางยืนพิงเสาไม้ใกล้ๆ ด้วยท่าทีสบายๆ แต่แววตากลับเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เหนื่อยครับ สนุกดี ได้เจอคนเยอะๆ แบบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้เติมพลัง ชาวบ้านน่ารักมากเลยครับ” พลตอบพลางยิ้มสดใส ใบหน้าที่เปื้อนเหงื่อดูน่ามองจนเข้มอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ
“หัวเราะอะไรครับ?” พลขมวดคิ้วถาม
“หัวเราะคนขยันน่ะสิ พี่ว่าครั้งหน้าต้องบอกพ่อแล้ว ว่าให้พลเป็นหัวหน้างานบุญเลยดีกว่า ทั้งเลี้ยงเก่ง จัดดารเก่งแถมขยันด้วย” เข้มก้มลงมากระซิบข้างหู เสียงทุ้มของเขาทำให้หัวใจพลเต้นระส่ำ
“อ้ายเข้ม! แซวผมอีกแล้ว แค่นี้ผมก็จะตายอยู่แล้ว” พลตีแขนเข้มเบาๆ ด้วยความเขิน ก่อนจะทำหน้ามุ่ย เข้มมองอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับไหล่ของพลแน่น
“พี่พูดจริงนะ พลเหมาะกับที่นี่มากจริงๆ เหมือนเกิดมาเพื่ออยู่ตรงนี้” คำพูดนั้นเหมือนลมเย็นที่พัดผ่านใจพล ความเหนื่อยล้าทั้งหมดเหมือนถูกลบล้างไปในพริบตา พลเขาเงยหน้ามองเข้ม ก่อนที่จะพูดออกมา
“ขอบคุณนะครับที่ให้กำลังใจผมแบบนี้” เข้มยิ้มมุมปาก ก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ผมพลเบาๆ
“ขอบคุณอะไรกัน พี่พูดความจริงต่างหาก หึหึ”