หน้าหลัก / LGBTQ+ / เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง / บทที่ 9 ความสงสัยที่ก่อขึ้นภายในใจ🌾

แชร์

บทที่ 9 ความสงสัยที่ก่อขึ้นภายในใจ🌾

ผู้เขียน: นนท์ NONN
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-24 12:11:28

ตุ๊บ...!

เสียงแก้วกระแทกกับโต๊ะไม้สักดังสนั่นในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ นายหัวสิงหาในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใบหน้าคมของเขาตึงเครียด ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังบอดี้การ์ดที่ยืนนับสิบที่กำลังก้มหน้าด้วยความกดดัน

“ไอ้พวกไม่มีฝีมือ!" เสียงของนายหัวสิงหาดังลั่นขึ้น พร้อมกับสายตาเข็งที่จับจ้องไปยังกลุ่มบอดี้การ์ด แต่ละคนก็ต่างขนลุกไปตามๆ กัน

"แค่ให้ตามดูเด็กคนเดียว ยังทำไม่ได้อีก! แล้วแบบนี้จะปกป้องฉันจากคนที่คิดไม่ดีกับฉันได้ยังไง!” เสียงเข้มของนายหัวสิงหากดทุ้มต่ำลง พร้อมกับมองกวาดสายตาที่บอดี้การ์ดทุกคนที่ยื่นก้มหน้าแบกรับความกดดัน ก่อนที่ตัวแทนบอดี้การ์ดคนหนึ่งจะก้าวขาออกมาพร้อมกับพูดขึ้นโดยที่ไม่สบสายตา

“ขออภัยครับท่าน แต่คุณพลหายตัวไปเร็วมาก พวกเราไม่ทันได้ตั้งตัว...เลยตามไม่ทันครับ" บอดี้การ์ดพูดพร้อมโค้งศีรษะลง

“ข้ออ้างทั้งนั้น!" เจ้าสัวตวาดเสียงดังลั่น พร้อมกับบอดี้การ์ดที่สะดุ้งเฮือกไปตามๆ กัน

“ไอ้ลูกไม่รักดีนั่นมันหนีไปไหนไม่ได้ไกลหรอก! พวกมึงแม่งไร้ประโยชน์! ไร้น้ำยา!” เมื่อสิ้นสุดเสียงของนายหัวสิงหา บรรยากาศในห้องโถงเงียบงัน ทุกคนต่างกลั้นหายใจ ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว ผู้เป็นนายยืนหันหลังให้พวกเขา มือหนากำหมัดแน่น พยายามระงับอารมณ์ที่ปะทุอยู่ในอก

เสียงรองเท้าส้นสูงของคุณหญิงฐาภรรยาของนายหัวสิงหา ดังขึ้นเบาๆ เธอสวมชุดผ้าไหมเรียบหรู สีหน้าสงบนิ่ง แววตาอ่อนโยนที่มองมายังสามีเต็มไปด้วยความเข้าใจ

"คุณคะ ใจเย็นก่อนเถอะค่ะ พลยังเด็ก เขาแค่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง คุณอย่าไปกดดันเขามากนะคะ" ฐากล่าวขึ้นเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยนแต่กลับหนักแน่น พร้อมกับมือที่ยืนไปแตะที่ไหลของสามีเบาๆ

“เด็กอะไร!? มันหนีออกจากบ้านแบบนี้ ยังจะเรียกว่าพิสูจน์ตัวเองอีกเหรอ!?” เจ้าสัวหันมามองภรรยาอย่างหัวเสีย

“เพราะเขายังเด็กน่ะสิคะ เขาถึงเลือกทางเดินแบบนี้" ฐาตอบกลับสามีอย่างใจเย็น จนสิงหาเงียบไปเธอจึ้งได้พูดขึ้นอีกครั้ง

“บางทีเราอาจต้องให้โอกาสเขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเองนะคะ คุณเองก็เคยผ่านช่วงเวลาที่ดื้อดึงมาก่อนนี่คะ"

เจ้าสัวเงียบไปชั่วครู่ ใบหน้าของเขายังคงเคร่งเครียด แต่ดวงตาฉายแววครุ่นคิด ลมหายใจยาวถูกถอนออกมา ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่

"ปล่อยมันไป ถ้ามันแน่จริง ไม่นานมันก็คงกลับมา" เจ้าสัวพูดออกมาในที่สุด น้ำเสียงลดความดุดันลง ฐายิ้มบางๆ ก่อนจะเดินเข้ามาวางมือลงบนไหล่ของสามี

"คุณทำถูกแล้วค่ะ บางครั้งเราต้องปล่อยมือ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้จากโลกภายนอก พลรักคุณนะคะ ถึงจะไม่ได้แสดงออก แต่ฉันมั่นใจว่าเขาจะกลับมา"

เจ้าสัวเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ แม้จะยังไม่พอใจกับสถานการณ์ แต่คำพูดของภรรยาก็ช่วยให้เขาใจเย็นลง บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ด้วยความโล่งอก ทั้งหมดก็โค้งตัวให้นายหัวก่อนจะถอยออกไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้สองสามีภรรยาได้อยู่ด้วยกัน

บรรยากาศในห้องโถงกลับมาสงบอีกครั้ง แสงแดดอ่อนๆ ยามสายส่องลอดผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เผยให้เห็นภาพเงาของเจ้าสัวที่นั่งเงียบอยู่กลางห้อง ราวกับกำลังครุ่นคิดถึงคำพูดของภรรยา และเฝ้ารอวันที่ลูกชายคนเดียวของเขาจะกลับมา

ณ โคกสะแบง

ยามเช้าใต้ถุนบ้านไม้ยกสูงของพ่อผู้ใหญ่บ้านเต็มไปชาวบ้าน เสียงนกเอี้ยงเกาะกิ่งมะม่วงร้องเพลงคลอไปกับเสียงหัวเราะ และบทสนทนาของชาวบ้านที่ทยอยมารวมตัวกันที่บ้านของพ่อผู้ใหญ่บ้าน และผู้ใหญ่บ้านที่ทุกคนเคารพนับถืออย่างพ่อใหญ่มี พ่อผู้ใหญ่พูดคุยกับชาวบ้านด้วยท่าทางเป็นกันเอง เขาสวมเสื้อม่อฮ่อมสีเข้ม หมวกฟางใบใหญ่ถูกวางอยู่ข้างตัว ก่อนที่จะเริ่มเอ่ยขึ้น

"ปีนี้งานบุญบ้านประจำปีของหมู่เฮา สิยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเก่า!" (ปีนี้งานบุญบ้านประจำปีของเรา จะยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเก่า) ผู้ใหญ่มีกล่าวขึ้นเสียงดังฟังชัด ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มกว้าง เสียงฮือฮาดังขึ้นจากชาวบ้านที่นั่งอยู่ ชาวบ้านทุกคนก็ตื่นเต้นกับการจัดงานบุญที่กำลังจะมาถึง

"ปีนี้ เฮาจะมีทั้งการแสดงพื้นบ้าน สอยดาว การแห่กองบุญ เผือให้คนในหมู่บ้านของเฮามีส่วนร่วมกันทุกคน” (ปีนี้ เราจะมีการแสดงพื้นบ้าน สอยดาว การแห่กองบุญ เผื่อให้คนในหมู่บ้านของเรามีส่วนรวมกันทุกคน)

พลที่นั่งเงียบฟังอยู่ตรงมุมหนึ่งของวงชาวบ้านก็พลอยเงยหน้าขึ้น ดวงตาเป็นประกายด้วยความคิด เขายกมือขึ้นอย่างมั่นใจเต็มร้อย เพราะด้วยสัญชาติตยานของการเป็นCEOบริษัทของพ่อในอนาคต

"เอ่อ...พ่อผู้ใหญ่ครับ ผมมีความเห็นครับ"

ทุกสายตาหันมาที่พล ผู้ใหญ่มีก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะเดินหลีกไปข้างๆ พร้อมกับพลที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้าชาวบ้านนับสิบ พลลังเลนิดหน่อยก่อนที่จะหันไปมองพ่อผู้ใหญ่

"วามาเลยพล มีหยังอยากเสนอ” (ว่ามาเลยพล มีอะไรอยากเสนอ)

"คือ...ผมอยากให้เพิ่มตลาดชุมชนด้วยนะครับ เพราะผมคิดว่า...เราน่าจะให้ชาวบ้านนำของมาขายในงานบุญด้วยครับ อย่างเช่นพวกอาหารพื้นบ้าน หรือพวกหัตถกรรมที่ชาวบ้านทำเก่งๆ เช่น กระติ๊บข้าว หรือผ้าทอมือครับ

มันจะช่วยให้คนในหมู่บ้านมีรายได้เพิ่ม และดึงดูดคนจากหมู่บ้านอื่นมางานบุญของเรามากขึ้น เพราะผมเล็งเห็นว่าบางบ้านก็มีที่ท่อเสื่อ มีการจัดสาน และการท่อผ้าขาวม้า ผมจึงอยากเสนอให้นำมาจำหน่ายด้วยครับ ในโปรเจกต์ตลาดชุมชน"

ชาวบ้านพยักหน้าเห็นด้วย บ้างเริ่มพูดคุยกันอย่างสนใจ ก่อนที่ชาวบ้านทุกคนจะนั่งตั้งใจฟังพลที่เริ่มอธิบายอย่างละเอียดถีถ้วน ก่อนที่ชาวบ้านคนหนึ่งจะถามแทรกขึ้น

"หมู่เฮาจะเพิ่มตลาดขายของในงานปีนี้ แล้วคุณพลล่ะคิดจะเฮ็ดอีหยังขายในงานบ่? หมู่เฮาอยาให้คุณพลเป็นแม่งานในการเฮ็ดตลาดชุมชน” (พวกเราจะเพิ่มตลาดขาดของในงานปีนี้ แล้วคุณพลล่ะคิดจะทำอะไรมาขายในงานไหม พวกเราอยากให้คุณพลเป็นแม่งานในการทำตลาดชุมชน)

พลไม่ค่อยเข้าใจในภาษาของชาวบ้านนัก แต่เขาก็พอฟังออกอยู่บ้างคำ พอที่จะจับใจความได้ พลยิ้มให้ชาวบ้านด้วยรอยยิ้มที่จริงใจส่งให้กับชาวบ้านทุกคนที่มาร่วมประชุมในวันนี้ ก่อนพลเขาพูดเขาจะพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจและหนักแน่น

"ส่วนตัวผมอยากทำขนมไทยครับ เช่น ขนมต้ม หรือข้าวต้มมัด ผมจะลองฝึกทำแล้วนำมาขายในงานครับ แต่ในที่นี้ผมก็ต้องจำเป็นที่จะต้องพึ่งชาวบ้านทุกคนครับ เรื่องแม่งานเดี๋ยวผมจะเป็นเป็นคนคิดวางแผนออกแบบเองครับ"

เมื่อพลพูดจบลงเสียงปรบมือก็ดังขึ้นจากชาวบ้าน พร้อมกับสาตานับสิบจ้องมองคนกรุงด้วยความเอ็นดู ขิมที่นั่งอยู่ไม่ไกลกระซิบแซวพี่ชายของตนเองที่ยืนพิงเสาอยู่ข้างๆ

"อ้ายเข้ม เบิ่งๆ อ้ายพลคือทรงตั้งใจคัก งานบุญนี้ต้องดีคักแน่ๆ เลย! เบิ่งดู่ปานพ่อหนุ่มCEO" (พี่เข้ม ดูๆ พี่พลคือตั้งใจมาก งานบุญนี้ต้องดีมากแน่ๆ เลย! ดูสิเหมือนกับพ่อหนุ่มCEO)

เข้มหัวเราะในลำคอเบาๆ เขาพลอยสังเกตคนตรงหน้ามาสักพักแล้ว โดยดูจากการแต่งตัววันนี้ และมือถือของพลที่เป็นรุ่นใหม่ ตามที่เขาเห็นในป้ายที่อยู่ในตัวอำเภอ เขาพึ่งนึกขึ้นได้ว่าในหมู่บ้านนี้มีเพียงพ่อของเขาที่มีโทรศัพท์ ถึงแม้จะเป็นรุ่นเก่าก็ตาม

"หรือว่านี่จะเป็นคุณหนูที่หนีมาแน่ๆ ปานนี้พ่อแม่บ่ตามหาบ้อ” (หรือว่านี่จะเป็นคุณหนูที่หนีมาแน่ๆ ป่านนี้พ่อแม่ไม่ตามหาเหรอ) เข้มเขาสงสัยอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อยเพราะไม่น่าจะใช่ ถ้าพลเขาหนีเจ้าหนี้มาจริงๆ ทำไมตอนนี้เสื้อผ้าและโทรศัพท์มือถือราคาหลายหมื่นทำไมเขาถึงมีล่ะ “ทำไมละ” คำคำนี้มันวนเวียนอยู่ในหัวของเข้มขณะที่สายตายังคงจับจ้องใบหน้าของพล เขารู้ว่ามีบางอย่างที่ไม่ตรงกับภาพลักษณ์ของชายหนุ่มตรงหน้า และคำบอกเล่ามาว่าเขาได้หนีจากเจ้าหนี้มา

แต่สิ่งที่ทำให้เข้มยิ่งประหลาดใจ คือความกล้าของพลที่จะรับปากเป็นแม่งานในการจัดทำตลาดชุมชน งานที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะต้องออกแบบผังร้านค้า จัดสรรพื้นที่ และดูแลการจัดการต่างๆ ทั้งหมด นี่มันงานที่คนทั่วไปคงส่ายหน้าเป็นแน่ แต่พลกลับยินดีที่จะทำ

"ถ้าเป็นแบบนี้ คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่..." ความคิดของเข้มเริ่มเปลี่ยนไป เขาอยากรู้มากขึ้นว่าความลับเบื้องหลังชายหนุ่มคนนี้คืออะไร เพราะเขากลัวว่าจะเกิดปัญหาตามขึ้นมาในภายหลัง

“จังสั่น เฮาเริ่มเตรียมโตกันตั้งแต่มื่อนี้ดีบ่” (อย่างนั้น เราเริ่มเตรียมตัวกันตั้งแต่วันนี้เลยดีไหม) ผู้ใหญ่มีกล่าวขึ้นก่อนที่ชาวบ้านบางส่วนจะถยอยกลับเพราะการประชุมได้จบลงไปแล้ว

หลังจากนั้น พลก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางของการพูดคุยเรื่องขนมพื้นบ้าน เขาได้รับคำแนะนำจากแม่บ้านหลายคนเรื่องการทำขนมพื้นบ้าน พลเองเขาก็หยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้น พลอยจดบันทึกอย่างตั้งใจ

พลเองเขาก็ทุ่มเทในการฝึกทำขนมอยู่ทุกๆ วัน พลเขาพับแขนเสื้อขึ้นสูง เผยให้เห็นผิวขาวสะอาด ขณะเตรียมแป้งและส่วนผสมด้วยสีหน้าจริงจัง ใบหน้าของเขาเปื้อนด้วยแป้งเล็กน้อย จนทำให้เข้มที่ยืนมองเงียบๆ อยู่มุมหนึ่งใต้ถุนบ้านก็ต้องหลุดยิ้มออกมา

“แม้ๆ ลูกแม่ขยันคักปานนี้ งานออกมาดีแน่นอน แม่คอนเฟิร์ม” (แม้ๆ ลูกแม่ขยันขนาดนี้ งานออกมาดีแน่นอน แม่คอนเฟิร์ม)

“ครับผมจะตั้งใจทำให้สุดฝีมือเลยครับ อีกอย่างผมอยากพิสูจน์ให้ชาวบ้านทุกคนเห็นว่าผมก็ทำอะไรเป็นเหมือนกัน"

พลตอบแม่ของเข้มด้วยเสียงเบาๆ สายตาที่อ่อนโยนก็หันไปพับใบตองอ่อนที่อยู่ในมือ พร้อมกับเริ่มห่อขนมตามที่แม่ของเข้มสอนทุกขั้นตอน ก่อนที่ความเงียบจะปกคลุมสักพัก ปลาเธอจึงพูดขึ้นมาให้คนกรุงสบายใจ เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูนิ่งไป

“ไม่ต้องพิสูจน์อีหยังดอก พลเก่งขนาดนี้ คันบ่ถือ แม่สิเอามาเป็นลูกใภ้อยู่เด้ะ” (ไม่ต้องพิสูจน์อะไรเลย พลเก่งขนาดนี้ ถ้าไม่ถือ แม่จะเอามาเป็นลูกสะใภ้นะ)

แม่ของเข้มพูดขึ้นพร้อมแตะไหล่พลเบาๆ ขิมเองเธอก็นั่งอยู่ข้างๆ ของแม่ของเธอก่อนที่จะเอ่ยแซวขึ้นอย่างเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

“แต่งเลยบ่จ้า ขันหมากพร้อมเดะ” (แต่งเลยไหมคะ ขันหมากพร้อมนะ)

“หา?” พลถึงกับอุทานพร้อมกับตาโตอย่างกับใข่ห่าน

“โอ๊ยแม่....! ขิมเจ็บเด้จ้า” (โอ๊ยแม่ ขิมเจ็บนะ)

“พลลูก อย่าไปหัวซามันเด้อ มันเว้าสั่นล่ะ” (พลลูก อย่าไปสนใจมันนะ มันพูดไปงั้นแหละ)

“ครับ” ผมตอบพร้อมกับเผยรอยยิ้มกว้าง ในใจเขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธอะไร เพราะเขาก็หมายหัวคนนี้มาตั้งแต่แรกพบแล้ว ภาพเก่าๆ ก็พลางดันเข้ามาในหัว ใบหน้าคมเข้มนั้นตราตรึงอยู่ในใจพลไม่เคยเลือน ทั้งลอนซิกแพคที่แน่นเป็นลอนชัด ทั้งเป้าที่เด่นจนไม่อาจละสายตาได้ ภาพวันล้างตัวที่โอ่งหลังบ้านหวนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง ทุกครั้งที่นึกถึง มันทำให้เขาร้อนวูบวาบไปทั่วร่างกาย ยิ่งเขาได้สัมผัสมันมันในวันนั้น เขายิ่งหลงใหล เขาถึงกลับปฏิญาณตนว่าเขาจะไม่กลับไปที่กรุงเทพ ถ้าเขาไม่ได้ลูกชายของพ่อผู้ใหญ่มาครอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 27 กินดองคำหมั่นสัญญา/บทส่งทาย

    “โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ อิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววว”ยามเช้าของโคกสะแบงพร้อมกับเสียงโห่ของผู้ใหญ่มีดังขึ้น ปนกับเสียงกลองยาวดังสะท้อนไปทั่วหมู่บ้าน เป็นสัญญานบอกเล่าถึงงานมงคลที่ทุกคนต่างรอคอย บ้านของพ่อใหญ่มีและแม่ปลาถูกตกแต่งด้วยผ้าสีสดใสและดอกไม้พื้นบ้าน และยังมีกลิ่นหอมของอาหารพื้นเมืองลอยมาแตะจมูกเพิ่มบรรยากาศแห่งความสุข และเหลาแม่ครัวที่ทำอาหารกันอย่างขยันขันแข็งเพราะวันนี้มีแขกเยอะไม่ว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านอื่น หรือพนักงานบริษัทของพลก็ต่างมาร่วมพิธีมงคลนี้ พร้อมกับนักข่าวที่ตีข่าวกันอย่างทั่วหน้า“โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ อิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววว”เสียงของผู้ใหญ่มีดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางขบวนแห่ พลอยู่ในชุดพื้นบ้านสีขาวทอง พร้อมกับผ้าขาวม้าคาดเอวเสริมความงามแบบชาวอีสาน พลเขานั่งอยู่บนหลังลอล่าควายเผือกตัวงาม ที่ถูกตกแต่งด้วยพวงมาลัยดอกดาวเรืองรอบคอและผ้าคลุมลายไทยดูวิจิตรตระการตาด้านหลังลอล่า เผยให้เห็นเข้มในชุดพื้นบ้านสีเข้ม คาดผ้าขาวม้าแบบเดียวกับพล นั่งซ้อนท้ายพลด้วยรอยยิ้มกว้าง มือหนาก็พลอยจับเชือกบังคับลอล่าไว้อย่างมั่นคง พร้อมกับใบหน้าหวานของพลหันมายิ้มให้คนรักเป็นระยะ และไม่ลืมท

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 26 สินสอด

    ทุกเช้านั้น ทุกอย่างเหมือนปกติที่โคกสะแบงพร้อมกับเสียงไก่ขันที่ปลุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี เข้มกับพลยังคงนอนหนุนตักกันอยู่บนแคร่ไม้หน้าเถียงนา พร้อมกับสัมผัสอุ่นที่กระทบเขาใบหน้าพลที่ลืมตาตื่นขึ้น ในขณะที่ใบหน้าหล่อก็หอมแก้ม หอมหน้าฝาก และปากของคนร่างเล็กไปมาด้วยความหลงใหล“เช้าแล้วตื่นเร็วครับ”เข้มพูดขึ้นพร้อมกับริมฝีปากที่พลอยเข้ามากดจูบเบาๆ พลที่ค่อยลุกขึ้นนั่งก็พลอยจ้องที่ใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายพร้อมกับซุกหน้าลงอกแกร่งด้วยความที่ไม่สดใสสักเท่าไร“นี่ขี้เซานะเรา” เข้มพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปปากหน่อยๆ ฝามือหนาก็พลอยลูบที่ศรีษะไปพลางๆ“ผมง่วงมากรู้สึกเพรียจังเลยครับพี่เข้ม” พลพูดขึ้นเสียงอู้อี้พร้อมกับเข้มที่ยิ้มกว้างขึ้นด้วยความชอบใจ“มาตื่นๆ จะพากลับบ้าน”เข้มเขย่าตัวพลเบาๆ แต่ทว่าคนร่างเล็กที่ซุกอกก็เปลี่ยนมาเอาคางฝังลงที่ไหล่กว้าง เข้มเองก็ส่ายหัวไปมาพร้อมกับอุ้มพลขึ้นพร้อมกับพาขึ้นรถมอไซค์คันเก่าขณะที่พลก็ยังตื่นไม่ดี“นี่พลตื่นก่อนสิเดี๋ยวตกรถ”“อือออ....”พลตอบแบบครางในลำคอจนทำให้เข้มเองก็ถึงกลับคิดหนัก ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวขึ้นรถแบบเก้ๆ กังๆ พร้อมกับมือที่ยื่นแขนเล็กให้เข้ามาโอบกอ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทพิเศษ🌾

    “ขออมนะครับ” “อืม” เมื่อได้รับคำอนุญาตพลเองก็ไม่รีบร้อน ปากเล็กคอยใช้ปลายลิ้นเรียวเลียสัมผัสไปยังยอดสีน้ำตามที่แข็งเป็นไตของคนตรงหน้า จนเข้มเองก็พลอยครางงึมงำออกจากลำคอ ใบขณะที่ริมฝีปากเรียวก็เคลื่อนขึ้นมายังลูกกระเดือกใหญ่ที่แงเป็นก้อน ปากหล็กก่อนที่จะพูดมันเบาๆ พร้อมกับดูเม้มไปตามคอแกร่งที่มีเส้นเลือดปูดขึ้นมาเล็กน้อย ในขณะที่มือยังลูบคลึงไปมาที่เป้ากางเกงในตัวเล็ก ที่ในตอนนี้เขาได้ปลุกมังกรใหญ่ขึ้น พลพลอยลูบขึ้นลงจนตอนหัวมังกรใหญ่ก็เริ่มโพล่พ้นจากหัวกางเกง รวมถึงของเขาเองที่แข็งขึ้นไม่ต่างกัน พลผลักร่างสูงให้นอนลงราบลง พร้อมกับก้นเรียวงอนพลอยขยับขึ้นลงที่มังกรใหญ่ที่ในตอนนี้หัวโพล่พ้นสีแดงแตกพรานจากหัวกางเกง มือเล็กก็อดไม่ได้ที่จะสัมผัสมันอีกครั้ง “ซี๊ดดด เมียค้าบบ” “ค้าบบบ เสียวเหรอครับ” “อืม” พลพูดพร้อมกับใช้มือที่ค่อยๆ ถกกางเกงชั้นในตัวแน่นลงพร้อมกับเผยมังกรใหญ่ที่ตอนนี้ มีเส้นเลือดที่ปูดโปนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับปลายนิ้วเรียวที่สัมผัสที่น้ำใสที่พึ่งไหลออกจากปลายส่วนหัว พร้อมกับริมฝีปากของพลที่ริ้มเลียต่ำลงมาเรื่อยๆ ปลายนิ้วเรียวเล็กก็เลียไปตามร่องลึกของลอนซิกแพ็กที

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 24 ใส่เบ็ดพลขี่หลังลอล่า🌾

    เช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา พลเองก็พลางลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความรู้สึกสดชื่น ก่อนที่เข้มเจ้าเก่าเจ้าเดิมจตะเดินตรงมาพร้อมกับกดจูบที่ริมฝีปากเรียวเล็กนั้นเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นชวนอีกฝ่ายเพราะเขาจะไปใส่เบ็ดพร้อมกับพาลอล่าไปเดินออกกำลังกาย "คุณเมียครับ พี่จะไปใส่เบ็ดจะไปด้วยไหมถ้าไม่ไปรอพี่บ้านนะ" เข้มพูดพลางยิ้มให้กวนๆ พร้อมกับมือที่เสยผมที่ปกใบหน้าใสของพลออก พลเองที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ตัวเขาเองก็พลอยหน้าแดงเถือกขึ้น แต่ทว่าก็ยังทำเป็นกลบเกลื่อนความเขินตัวเองไปพลางๆ “ไปๆ ไปครับ” พลที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวใจที่เต้นโครมคราม พลเองรีบไปอาบน้ำแต่งตัวตามเข้มไปทันที โดยที่วันนี้พลใส่เสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นพอดีตัว ส่วนเข้มเองก็มาในลุคสุดคูล โดยสวมเพียงแค่ผ้าขาวม้ามัดเอวห้อยถุงผ้าย่ามเก่าๆ พร้อมถอดเสื้อโชว์แผงอกแน่นล่ำจนพลอดไม่ได้ที่จะหันมองบ่อยๆ "มองอะไรขนาดนั้น เดี๋ยวก็คิดเงินซะเลย" เข้มเขาพูดเอ่ยแซวพลด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่เท้าแกร่งจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์พร้อมกับพลที่ขึ้นซ้อนท้าย ก่อนที่จะออกตัวไป เมื่อขับออกมายังทุ่งนากว่างสายลมยามเช้าก็พลอ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 23 ก้อยไข่มดแดง🌾

    ยามเช้า แสงอ่อนจากดวงตะวันส่องผ่านผ้าม่านสีซีดบนบ้านไม้สองชั้น พร้อมกับเสียงหมาหอนและเสียงไก่งขันดังขึ้นพลอยทำให้ดวงตาเล็กปลืตาตื่นขึ้น พลขยับตัวเล็กน้อยพร้อมมกับความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังแตะอยู่ที่แก้มเบาๆ พร้อมกับสิ่งที่คอยรบกวนอยู่บนใบหน้า ก่อนที่เสียงทุ้มๆ คุ้นเคยจะดังขึ้นกระซิบข้างหู "ตื่นได้แล้วครับ คนขี้เซา เดี๋ยวจะสายเอา" "อื้อ..." พลครางงึมงำ พร้อมกับแขนเล็กที่กอดหมอนข้างแน่นไม่ยอมปล่อย จนเข้มเองที่เห็นอย่างนั้นตนก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ มือหนาก็พลอยยื่นมือไปขยี้เส้นผมยุ่งเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนที่หน้าหน้าหล่อจะโน้มลงไปกระซิบอีกครั้ง "ถ้าลุกช้า เดี๋ยวพี่จับซั่มเลยดีไหม" คำขู่ที่ไม่จริงจังอะไรมากก็พลอยทำให้พลเด้งตัวลุกขึ้นมาทันที พร้อมกับแก้มแดงเรื่อ จนเข้มเองก็อดที่จะยิ้มกว้างออกมาไม่ได้กับท่าทางรีบร้อนของพล "อ้ายเข้มนี่! ขู่ตลอดเลย!" "ไม่ขู่ก็ไม่ยอมตื่นนี่ครับ ไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว พ่อกับแม่รออยู่" ไม่นานพลก็พลอยเดินตามแบบคนไม่ค่อยสดใสนัก เดินตามเข้มลงมาที่ชั้นล่าง พร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงที่เสื่อผืนใหญ่ข้างๆ กันกับเข้ม และขิมเองเธอก็นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ พ่อ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 22 ขอลูบได้ไหม🌾

    พลเดินถือผ้าขนหนูสะอาดและสบู่หอมนกแก้วสีเขียวก้อนเล็กก้อนโปรด พร้อมกับเท้าเล็กเดินไปที่ห้องน้ำหลังบ้านพร้อมกับเข้มที่เดินถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆ ให้พลดูเล่นเป็นอาหารตา บรรยากาศรอบข้างก็เต็มไปด้วยเสียงจิ้งหรีดร้องเบาๆ ประสานกับสายลมเย็นที่พัดผ่าน ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย "น้ำที่นี่เย็นนะ จะไหวไหม? ถ้าไม่ไหวพี่จะไปต้มน้ำให้จะได้อาบแบบอุ่นๆ" เข้มถามพลพลางยิ้ม พร้อมกับจ้องที่ใบหน้าหวาน ที่ในตอนนี้ก็พลางส่งยิ้มหวานให้กับตน ก่อนที่เสียเจื้อแจ้วของอีกฝ่ายจะพูดขึ้น "ไหวสิ ผมอยู่ที่นี่ก็ต้องชินบ้างล่ะครับ" พลตอบพร้อมหัวเราะ ก่อนที่มือเล็กจะยื่นไปสัมผัสที่กรอบหน้าคมขึ้นรูปของเข้ม พร้อมกับสายตาคมของคนตัวสูงมองมาทางพลอย่างมีเล่ห์นัย ก่อนที่เมือเล็กจะจับมือของเข้มพร้อมกับจูงมือเดินตามตนไปที่ห้องน้ำ เมื่อพลและเข้มเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมกับเผยให้เห็นห้องน้ำที่ประกอบไปด้วยโอ่งมังกรที่น้ำครึ่งโอ่ง ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปเปิดน้ำจากโอ่งพร้อมกับตักน้ำขึ้นลูบตัว พร้อมกับความรู้สึกเย็นที่ซึมผ่านผิวหนัง แต่แทนที่จะทำให้พลหนาว แต่ทว่ามันกลับสดชื่นอย่างประหลาด เพราะแผงอกและซิกแพ็กที่ชัดเจนของเข้มบวกกันหยดน้ำที

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status