นับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพบัดนี้ก็เป็นเวลาถึง 1 เดือนแล้ว โดยตลอด 1 เดือนนี้น้ำชากับเอกภพพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ได้หลับนอนด้วยกันตลอดทุกวัน
"นี่มันก็ 1 เดือนแล้วเขายังไม่เบื่อฉันอีกหรอ" น้ำชาได้เอ่ยขึ้นพร้อมอาบน้ำ และเมื่อเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ได้เดินลงมายังด้านล่างเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเช่นปกติ "นายท่านแย่แล้วครับ คุณผู้หญิง...คุณผู้หญิงมาครับ" เข้มได้วิ่งเข้ามารายงานผู้เป็นนายถึงการปรากฏตัวของแม่ของเอกภพ ในเมื่อเอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วทันที "น้ำชาเธอขึ้นไปอยู่บนห้องก่อนถ้าฉันไม่ได้เรียกก็ห้ามลงมาเด็ดขาด "เอกภพเขาได้หันมาเอ่ยกับน้ำชาด้วยน้ำเสียงที่เข้มนั่นก็ทำให้น้ำชารีบขึ้นไปยังห้องของตัวเองทันที ส่วนป้าแก้วเธอก็รู้ว่าต้องทำอย่างไรเธอก็รีบไปเก็บข้าวของทุกอย่างที่เกี่ยวกับน้ำชาซ่อนเอาไว้ทั้งหมด "เอกภพวันนี้แม่มีเรื่องสำคัญจะพูดกับแก" เมื่อคุณหญิงมุกดาผู้เป็นมารดาของเอกภพเข้ามายังห้องรับแขกเธอก็ได้เอ่ยขึ้นมาทันที "แม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผม ก็รีบพูดมาเถอะผมไม่มีเวลาว่างทั้งวัน" เมื่อเอกภพคอยได้ฟังดังนั้นเขาก็ได้เอ่ยขึ้นอย่างเบื่อหน่าย "หึ นี่นะหรือสิ่งที่ลูกที่ดีพูดกับแม่" เมื่อคุณหญิงมุกดาเธอได้ฟังน้ำเสียงของลูกชายเธอก็ได้เอ่ยประชดประชันออกมา "คุณหญิงมุกดาคุณมีอะไรคุณก็พูดมาเถอะอย่าอ้อมค้อม" เมื่อเอกภพเขาได้ฟังในสิ่งที่ผู้เป็นมารดาเอ่ยเขาก็ได้เอ่ยอย่างเป็นทางการนั่นก็ทำให้ผู้เป็นมารดารู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก "วันนี้ฉันพาน้องมินตรามากินข้าวบ้านแก แกไม่ต้องมาปฏิเสธเลยนะเอกภพ แกกับน้องเขาหมั้นกันมาตั้งเป็นปีแล้ว แกไม่เคยพาน้องเขาไปเที่ยว ไม่เคยพาน้องไปกินข้าวเลยสักครั้ง แล้วอย่างนี้ฉันจะตอบคำถามกับพ่อแม่เขายังไง "คุณหญิงมุกดาเธอได้เอ่ยขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดเพราะเธอได้รับสายต่อว่าจากพ่อแม่ของคู่หมั้นลูกชายว่าลูกชายของเธอนั้นไม่ทำหน้าที่ของคู่หมั้นเลย "ปัญหานั้นมันก็เรื่องของคุณ คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ชอบเธอคุณก็ยังบังคับให้ผมหมั้น ผมก็หมั้นให้คุณแล้ว แล้วคุณจะมาเอาอะไรกับผมอีก" เมื่อเอกภพเขาได้ยินดังนั้นเขาก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างหงุดหงิด "ฉันไม่สนว่าแกจะรักน้องเขาไหมแต่แกต้องพาน้องเขาไปกินข้าววันนี้ " "ผมไม่ไป " "แกต้องไป!!! ถ้าแกไม่ไปแกก็เตรียมตัวจัดงานศพให้กับเด็กๆในสต๊อกของแกได้เลยเอกภพ" คุณหญิงมุกดาเธอได้เอ่ยขึ้นมาอย่างอำมหิตพร้อมจ้องไปที่เอกภพพี่แววตามาดร้าย และเมื่อเอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็นั่งนิ่งใช้ความคิดทันทีเพราะว่าต่อให้เสียคนอื่นๆไปเขาก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าหากเขาเสียน้ำชาไปเขาคงพูดได้เลยว่าตัวของเขาคงไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น แล้วยิ่งเขาได้เห็นสายตาของผู้เป็นมารดาเขาก็มั่นใจได้เลยว่าคนตรงหน้านี้ทำอย่างที่พูดแน่นอน "แกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวพาน้องมินตราไปกินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงน้องเขาก็คงจะมาถึงแล้ว "คุณหญิงมุกดาเธอได้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าผู้เป็นลูกชายนั่งนิ่งไม่ขยับ และเมื่อเอกภพคอยได้ฟังดังนั้นเขาก็เดินขึ้นไปยังชั้น 3 เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความไม่เต็มใจ ตัดกลับไปทางด้านน้ำชาตั้งแต่ที่เขาขึ้นมาบนห้องนี้เขาก็ไม่รู้จะทำอะไรทำได้เพียงแต่นอนเล่นโทรศัพท์มือถือ และเมื่อเขาเล่นมาได้สักพักเขาก็นึกขึ้นได้ว่าคนที่เขามาอยู่ด้วยนี้ตัวของน้ำชาไม่รู้จักอะไรอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจึงได้ค้นหาชื่อของเอกภพในอินเตอร์เน็ต และเพียงแค่น้ำชาพิมพ์ชื่อและนามสกุลของเอกภพไปข้อมูลต่างๆของเอกภพก็เด้งขึ้นมายาว และเมื่อน้ำชาเขาได้อ่านประวัติมาเรื่อยๆเขาก็ต้องมาหัวใจหล่นวูบเมื่อได้พบว่าคนคนนี้มีคู่หมั้นอยู่แล้ว โดยคู่หมั้นของเอกภพมีชื่อว่า มินตรา จุติพรหมมาศ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูล โดยตัวของเธอนั้นได้จบหลักสูตรปริญญาโทในสาขาการบริหารและการจัดการที่ประเทศฝรั่งเศส มีความรู้มีหน้ามีตาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยหลังจากเธอเรียนจบเธอก็มาช่วยงานที่บริษัทของผู้เป็นบิดาจนทำให้บริษัทของผู้เป็นบิดานั้นเติบโตจากบริษัทขนาดกลางเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่ปี อีกทั้งเธอยังมีเพื่อนเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ในหลายๆประเทศและตระกูลอันดับต้นๆของโลกอีกมากมาย นั่นจึงทำให้ตระกูลนี้มีอำนาจและชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ไม่ต่างอะไรกับตระกูลบรมภักดีของเอกภพเลยแม้แต่น้อย เมื่อน้ำชาได้อ่านมาถึงตรงนี้น้ำตาของเขาก็ค่อยๆไหลอาบแก้มด้วยความรู้สึกที่เสียใจ ก่อนที่เขาจะรีบเช็ดน้ำตาเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู "เปิดเข้ามาเลยครับไม่ได้ล็อค "เมื่อสิ้นประโยคนั้นออกน้ำชาก็ถูกเปิดออกโดยป้าแก้ว "คุณเอกภพเขาให้ป้ามาอยู่เป็นเพื่อนกับคุณน้ำชาค่ะ "เมื่อป้าแก้วเข้ามาเขาได้วางถาดที่ใส่ขนมและน้ำชาไปที่หัวเตียงก่อนจะเอ่ยบอก "ไม่เป็นไรครับป้าผมอยู่คนเดียวได้ " "ไม่เป็นไรค่ะนายท่านสั่งมาว่าต้องปฏิบัติตาม" เมื่อน้ำชาได้ฟังดังนั้นเขาก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดตอบกลับทำเพียงแค่นั่งเล่นมือถืออยู่บนเตียงไปเงียบๆ "คุณน้ำชาค่ะป้ามีเรื่องจะถามได้หรือเปล่า " "ได้สิครับป้า ป้าอยากถามอะไรก็ถามมาได้เลยครับ" "เพราะอะไรคุณน้ำชาถึงมาอยู่กับคุณเอกภพได้ค่ะ ป้าสังเกตว่าคุณน้ำชาไม่เต็มใจที่จะมาอยู่กับคุณเอกเลย เพราะอะไรคุณถึงมาอยู่ค่ะ " ป้าแก้วได้เอ่ยถามด้วยความใคร่รู้และความไม่เขาใจ "ผมแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเลยหรอครับ" "ป้าก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะทราบหรือเปล่า แต่เท่าที่ป้าสังเกตมาป้ารู้ได้เลยว่าตัวของคุณอยู่ที่นี่เหมือนกับรูปปั้นที่ไร้ซึ่งจิตใจ " เมื่อน้ำชาได้ฟังดังนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมาด้วยความสมเพชตัวเอง "ป้าอยากรู้ใช่ไหมครับเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง เรื่องมันมีอยู่ว่า.......... "''เด็กๆพี่กลับก่อนนะ" หลังจากที่น้ำชาเขาได้ตื่นขึ้นแล้วทำกิจกรรมในยามเช้ากับเด็กๆจนครบหมดแล้วเขาก็ได้เอ่ยลา "พี่น้ำชาจะไปแล้วหรอคะ อยู่เล่นกับพวกหนูต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอคะ" เด็กสาวคนหนึ่งเธอได้วิ่งมากอดขาของน้ำชาแล้วเอ่ยถามอย่างออดอ้อน "ฟ้า อย่าไปทำแบบนั้นสิ แค่เมื่อคืนที่น้ำชามานอนกับพวกเราได้ก็ดีมากแล้ว" แนนเธอได้เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งไปอุ้มเด็กน้อยออกจากขาของน้ำชา "พี่ไปก่อนนะแนนหลังจากนี้เธอก็ดูแลน้องๆให้ดีๆนะเดี๋ยวพี่จะคอยส่งเงินมาให้ " "ค่ะ พี่น้ำชาพี่ไม่ต้องห่วงหนูจะดูแลน้องๆอย่างดี" แนนเธอได้เอ่ยขึ้นอย่างไม่รู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เจอกับน้ำชา เมื่อได้ฟังดังนั้นน้ำชาเขาก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดต่อทำเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยพร้อมทั้งพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วเดินออกไปขึ้นรถเพื่อกลับไปยังขุมนรกที่ไม่รู้ว่าตัวของเขาจะได้เจอกับอะไร หลังจากที่เขานั่งรถไปได้สักพักคนขับรถก็ยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้น้ำชา "คุณผู้หญิงต้องการคุยด้วยครับ" "ฮัลโหลสวัสดีครับคุณหญิงมุกดา" "ฉันหวังว่าเธอจะจำคำที่เธอสัญญากับฉันได้" "แน่นอนอยู่แล้วครับในวันที่คุณเอกภพแต่งงานนั่นจะเป็นวันสุดท้ายที่เขาไ
"คุณหญิงมุกดาครับผมขอไปเจอเด็กๆก่อนได้ไหมครับ "เมื่อน้ำชาทำข้อตกลงกับคุณหญิงมุกดาเสร็จเรียบร้อยเขาก็ได้เอ่ยขึ้น "ได้สิ ตามฉันมาเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปพบเด็กๆเหล่านั้น" เมื่อกล่าวจบคุณหญิงมุกดาเธอก็ยืนขึ้นแล้วเดินไปที่รถ นั่นก็ทำให้น้ำชาเดินตามคุณหญิงไปโดยมีสายตาของป้าแก้วมองตามด้วยความเป็นห่วง "เธอมานั่งเบาะหลังกับฉัน "เมื่อคุณหญิงมุกดาเห็นว่าน้ำชากำลังจะเปิดไปนั่งที่ประตูด้านหน้าเธอก็ได้เอ่ยขึ้น นั่นก็ทำให้น้ำชาเดินกลับมานั่งอย่างเบาะหลังข้างๆกับคุณหญิงมุกดา "เธอคิดยังไงกับเอกภพ "เมื่อรถขับออกมาได้สักพักคุณหญิงมุกดาก็ได้เอ่ยขึ้น "ผมไม่ได้คิดอะไรกับเขาทั้งนั้น ผมว่าคุณผู้หญิงก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเพราะอะไรผมถึงมาอยู่ที่นี่" "ใช่ฉันรู้หมดแล้วแต่ฉันก็ยังอยากจะฟังจากปากเธอ จิตใจคนเรามันไม่แน่นอนเมื่อเธออยู่กลางกองเงินกองทองจิตใจเธออาจจะไขว้เขวมันหลงไหลตรงนี้ก็ได้ " "หึ ตัวของผมไม่มีทางหลงใหลสิ่งเหล่านี้แน่นอนครับ ความปรารถนาของผมคืออิสระได้โบยบินเหมือนกับนก ไม่ใช่เป็นนกที่อยู่ในกรงของบ้านเศรษฐีแบบนี้ครับ ต่อให้บ้านจะหลังใหญ่คนดูแลจะเยอะหรือต่อให้เขารับเด็กเด็กๆมาอยู่ด้วยผมก็ไม่ปรารถน
"คุณน้ำชาคะ คุณน้ำชาได้ยินเสียงป้าไหมคะ" เช้าวันรุ่งขึ้นป้าแก้วเธอได้มาปลุกน้ำชาที่สภาพยับเยินไปทั่วทั้งร่างด้วยความเป็นห่วง แต่ต่อให้เธอปลุกยังไงคนตรงหน้าเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย เธอจึงถือวิสาสะยื่นมือมาแตะที่หน้าผากเธอก็พบว่าเด็กคนนี้ตัวร้อนเหมือนไฟไม่มีผิด "แย่แล้วแบบนี้อันตราย ต้องรีบตามหมอ" เมื่อกล่าวจบป้าแก้วเธอก็ได้โทรไปหาหมอประจำตระกูลทันที หลังจากที่เธอติดต่อไปหาหมอได้ไม่นานหมอก็มาถึง "ป้าแก้วครับใครเป็นอะไร "เมื่อหมอมาถึงเขาก็ได้เอ่ยถามผู้ที่โทรตามตนทันที "ไม่มีเวลาอธิบายแล้วค่ะรีบไปเถอะป้ากลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป" เมื่อกล่าวจบป้าแก้วก็ได้จูงมือหมอขึ้นไปยังห้องของน้ำชาทันที เมื่อหมอมาเห็นเขาก็ได้ตรวจสอบร่างกายของน้ำชาอย่างละเอียด และเขาก็พบว่าทั่วทั้งร่างของชามันเต็มไปด้วยรอยกัดช้ำไปทั่วทั้งตัว "ป้าแก้วอย่าบอกนะว่า...." "ใช่ค่ะนี่คือสิ่งที่คุณเอกภพเขาทำ " "มันเป็นบ้าอะไร!! ถึงได้ทำรุนแรงขนาดนี้" เมื่อหมอได้รู้ว่านี่คือสิ่งที่เพื่อนทำเขาก็สถบออกมาด้วยความโมโห ก่อนจะลงมือทายาตามตัวของน้ำชาอย่างเบามือ "เขาหมดสติอย่างนี้คงต้องให้ยาผ่านน้ำเกลือ" "รับทราบค่ะเดี๋ย
"คุณเอกภพจะทำอะไรครับ!!! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะครับ!!!" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมพยายามผลักเอกภพออก เพียะ!!!! "มึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามกู!!!! "เอกภพตบน้ำชาเสียงดังพร้อมทั้งฉีกกระชากเสื้อผ้าที่เหลืออยู่ออกอย่างรุนแรง "ในเมื่อมึงคิดจะหนีกู มึงก็ต้องเตรียมตัวรับผลกรรมที่มึงสร้างได้เลยน้ำชา!!!! "เอกภพในยามนี้เขาเหมือนกับปีศาจร้ายทั้งฉีกกระชากเสื้อผ้าของน้ำชาออกเป็นชิ้นๆทั้งกัดทั้งดูดตัวของน้ำชาอย่างโหดเหี้ยมทารุณ "โอ้ย!!! ผมเจ็บนะครับ" เมื่อเอกภพกัดและขยี้ฟันที่ยอดปทุมถันน้ำชาเขาก็ได้ร้องออกมาอย่างเจ็บแสบ "เจ็บสิดี!!! มึงก็ได้รู้ว่าตอนที่มึงคิดจะไปกูรู้สึกยังไง!!!" เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นและทำการพลิกตัวของน้ำชาให้นอนคว่ำหน้าลงแล้วเขาก็ได้เริ่มไล่กัดทั่วทั้งแผ่นหลังของน้ำชา เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เมื่อเอกภพเขาได้ไล่ลงมาจนถึงก้อนซาลาเปาทั้ง 2 ลูกของน้ำชา เอกภพเขาก็ได้ตบอย่างรุนแรงพร้อมทั้งขยำขยี้จนมันแดงไปทั่ว น้ำชาในยามนี้เขาได้ร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหล ตัวของเขานั้นสะอื้นจนเสียงแทบไม่มีจะพูดแต่นั่นก็ไม่ทำให้เอกภพใจอ่อนขึ้นมาเลย "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ร้อง!!! มึงร้องออกมาเยอ
"ฉันรู้เรื่องที่แกพาเด็กเข้าบ้านแล้ว "เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็ยังทำฉีดผ้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "คุณพูดเรื่องอะไรผมไม่เข้าใจ" เอกภพด้วยเอ่ยขึ้นแล้วพยายามจะเดินหนี "แกไม่ต้องทำมาเป็นไขสือ เด็กที่ชื่อน้ำชานั้นฉันรู้แล้ว " "คุณพูดเรื่องอะไรคุณ " "เด็กคนนี้เป็นใครเอกภพแกไม่ต้องมาปฏิเสธฉัน ฉันไปสืบประวัติเด็กคนนั้นมาหมดแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากแก " "เด็กคนนี้เป็นเด็กบำเรอของผมเองแม่มีอะไรหรือเปล่าครับ" เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็ได้เอ่ยขึ้นอย่างจนใจด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก และเมื่อสิ้นเสียงนั้นของเอกภพป้าแก้วก็ได้พาตัวน้ำชาลงมา "หึ เดี๋ยวนี้รู้จักพัฒนานะกล้าพาเด็กขายมาบ้าน" เมื่อผู้เป็นมารดาได้ฟังดังนั้นเขาก็หันมามองที่น้ำชาด้วยความเหยียดหยาม เมื่อเอกภพได้เห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกไม่พอใจผู้เป็นมารดาเป็นอย่างมาก "แล้วแม่มาหาผมมีเรื่องอะไรถ้าจะมาก็เพราะเรื่องแค่นี้กลับไปอยู่วิมานสวรรค์ของคุณเถอะ คุณต้องการให้ผมพาคนของแม่ไปกินข้าวผมก็พาไปแล้วไงจะมายุ่งอะไรกับผมอีก " เอกภพเขาได้เอ่ยบอกผู้เป็นมารดาด้วยความไม่พอใจ " ถ้าวันนี้ฉันไม่มาที่บ้านแก แล้วมีคนมารายงานฉันเรื่องของเด็
เมื่อป้าแก้วได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นกับน้ำชาเธอก็รู้สึกสงสารเด็กตรงหน้านี้เป็นอย่างมาก "ป้าขอโทษคะที่ถามอะไรไม่เป็นเรื่องแบบนี้" "ไม่เป็นไรหรอกครับป้า ขอแค่ชีวิตเด็กๆปลอดภัยผมจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะครับ" และเมื่อหญิงชราได้ฟังดังนั้นนับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพนับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพบัดนี้ก็เป็นเวลาถึง 1 เดือนแล้ว โดยตลอด 1 เดือนนี้น้ำชากับเอกภพพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ได้หลับนอนด้วยกันตลอดทุกวัน "นี่มันก็ 1 เดือนแล้วเขายังไม่เบื่อฉันอีกหรอ" น้ำชาได้เอ่ยขึ้นพร้อมอาบน้ำ และเมื่อเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ได้เดินลงมายังด้านล่างเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเช่นปกติ "นายท่านแย่แล้วครับ คุณผู้หญิง...คุณผู้หญิงมาครับ" เข้มได้วิ่งเข้ามารายงานผู้เป็นนายถึงการปรากฏตัวของแม่ของเอกภพ ในเมื่อเอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วทันที "น้ำชาเธอขึ้นไปอยู่บนห้องก่อนถ้าฉันไม่ได้เรียกก็ห้ามลงมาเด็ดขาด "เอกภพเขาได้หันมาเอ่ยกับน้ำชาด้วยน้ำเสียงที่เข้มนั่นก็ทำให้น้ำชารีบขึ้นไปยังห้องของตัวเองทันที ส่วนป้าแก้วเธอก็รู้ว่าต้อ