Share

บทที่ 1165

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งท้องได้หกเดือนแล้ว ทุกวันยังต้องจัดการราชกิจอีก

เซียวอวี้คอยอยู่ข้างกายนางและลูก อาหารที่นางกิน เขาล้วนทำให้นางด้วยตนเอง นางกินอาหารฝีมือเขาจนเคยชิน

นายหญิงเฟิ่งเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตา จึงพูดกับเฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นการส่วนตัว

“สงครามจบลงแล้ว เหตุใดยังไม่กลับแคว้นหนานฉีไปกับฝ่าบาทอีก?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดอย่างรวบรัด

“เรื่องยังไม่จบ”

ต่อให้จะจากไป นางก็ยังต้องเลือกผู้มีความสามารถให้แคว้นซีหนี่ว์ แล้วยกตำแหน่งประมุขแคว้นให้คนนั้น

ทว่าเป็นเวลาที่จะส่งท่านแม่กลับแคว้นหนานฉีแล้ว

นายหญิงเฟิ่งอยากกลับแคว้นหนานฉีมาตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าแคว้นซีหนี่ว์จะดี ทว่านางก็ไม่คุ้นเคยอยู่ดี

ทว่ายามนี้จิ่วเหยียนกำลังตั้งครรภ์ นางกังวลว่าข้าหลวงในวังจะไม่คล่องแคล่ว ดูแลจิ่วเหยียนได้ไม่ดี

เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงบอกนาง “ชายแดนมีความขัดแย้งกันมากมาย ถือโอกาสที่ตอนนี้สถานการณ์สงบชั่วคราว จากไปตอนนี้ เหมาะสมที่สุดแล้ว”

ด้วยเหตุนี้ นายหญิงเฟิ่งจึงได้แต่รับปาก

ทว่าก่อนที่จะไป นายหญิงเฟิ่งยังมีบางอย่างอยากบอกนาง

“ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ไม่อาจเทียบกับเด็กในท้องของเจ้าได้

“แล้วก็ฝ่าบ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1478

    กลุ่มหมอเทวดารวมตัวกันอยู่จุดหนึ่ง และถกเถียงกันอย่างดุเดือด ยังเกือบจะลงไม้ลงมือกันพวกเขาพูดว่าอย่างไร เซียวอวี้อยู่ด้านนี้ได้ยินไม่ชัดเจน และฟังไม่ค่อยเข้าใจเช่นกันเขาถามเสียวอู่“สมุดเล่มนั้นคืออะไรกันแน่?”เสียวอู่ตอบ: “ท่านผู้เฒ่าบอกว่า ในนั้นอาจจะบันทึกต้นตอของพิษมนุษย์โอสถ”“อะไรนะ!!!” เซียวอวี้แสดงสีหน้าตกใจตอนนี้ แม้แต่เซี่ยหวั่นเฉินก็ตกใจจนลุกขึ้นยืน และรีบเดินไปทางกลุ่มหมอเทวดาที่อยู่ด้านนั้น“ท่านทั้งหลาย สมุดเล่มนี้อาจช่วยให้พวกท่านปรุงยาถอนพิษได้เร็วขึ้นหรือไม่?”ทว่า เหล่าหมอเทวดาพากันง่วนอยู่กับการหารือ จนไม่มีเวลามาสนใจเซี่ยหวั่นเฉินพวกเขาเบียดเสียดกัน จนผลักเซี่ยหวั่นเฉินออกไปอยู่ด้านนอกเขาพูดว่าอย่างไร เหล่าหมอเทวดาย่อมไม่ได้ยินเป็นธรรมดาเซี่ยหวั่นเฉิน: ?อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงรัชทายาท?เหตุใดพวกเขาแต่ละคนถึงได้เมินเฉยต่อเขา?เสียวอู่ยิ้มกับเซียวอวี้ด้วยความภาคภูมิใจในผลงาน“ศิษย์พี่ คราวนี้ข้าช่วยเหลือได้อย่างมาก ใช่หรือไม่?”เซียวอวี้พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจมากนัก“อืม ก็จริง รอจนกลับไปหนานฉี จะพิจารณาให้รางวัลตามผลงาน”เสียวอู่ใช้นิ้วชี้สองนิ้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1477

    กลุ่มองครักษ์วิ่งเข้าไปในห้อง ล้อมผู้เฒ่าหยวนไว้ ผู้นำกลุ่มยกมือคารวะท่านผู้เฒ่า “ท่านผู้เฒ่า เราปฏิบัติตามพระราชโองการ ขออภัยที่ล่วงเกิน!” ท่านผู้เฒ่ามีท่าทางสงบเยือกเย็น “จับข้า ไม่ต้องทำใหญ่โตขนาดนี้” “ท่านผู้เฒ่า!” บ่าวคนสนิทมีเรื่องที่อยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูด ท่านผู้เฒ่าส่งสายตาออกไปให้เขาทันที บ่าวเข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ย——นี่เป็นการสั่งให้เขาดูแลเรื่องในจวนให้ดี โดยเฉพาะคุณชายเสียวอู่ หลังจากนั้น กลุ่มองครักษ์ก็พาผู้เฒ่าหยวนออกไป เขาให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่ขัดขืน ไม่ถามมากความ ที่นอกลานบ้าน มีพวกบุตรหลานของเขายืนอยู่ หยวนสุยมีสีหน้าเคร่งขรึม “ท่านพ่อ! ท่านทำผิดอะไร?” ท่านพ่อตรากตรำทำงานมีแต่ความดีความชอบ ฝ่าบาทจะไม่จับกุมท่านพ่อโดยไร้สาเหตุ ถึงแม้ฮูหยินนั่วจะไม่พอใจกับการปฏิบัติอย่างเย็นชาของบิดา ก็ยังมาด้วย นางซักถามองครักษ์เหล่านั้น “พวกเจ้าจับท่านพ่อข้าด้วยเหตุใด!” หัวหน้ากลุ่มองครักษ์กล่าวเสียงเข้ม “เราเพียงปฏิบัติตามพระราชโองการ” นี่เป็นคำพูดที่ไม่เปิดเผยอะไรเลย ผู้เฒ่าหยวนยังคงเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1476

    เซี่ยหวั่นเฉินถอนหายใจอย่างสุดซึ้ง “ถานไถเหยี่ยนเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ ข้าชื่นชมเขานัก “เดิมคิดว่า เขาสามารถได้รับแต่งตั้งเป็นราชครูแคว้นตงซานได้ คาดไม่ถึงว่าหลังจากสงครามครั้งใหญ่ เขาจะละทิ้งแคว้นตงซาน และหันไปพึ่งพิงหนานฉีของพวกท่าน “ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ข้าก็ยังนับถือเขาเป็นสหายรู้ใจ” เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าทีสงบนิ่ง ผิดกับเซียวอวี้ที่เพิ่งดื่มยาบำรุงเลือดเสร็จ มองเซี่ยหวั่นเฉินอย่างขุ่นมัว พลางเอ่ย “สหายรู้ใจ? “กล่าวอีกนัยคือ เจ้าก็เป็นเหมือนถานไถเหยี่ยน ที่คิดจะรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งอยู่ตลอดเวลากระมัง?” หนึ่งคนคือกษัตริย์แห่งแคว้นหนานฉี อีกหนึ่งคนคือรัชทายาทแห่งแคว้นตงซาน หากพวกเขาอภิปรายเรื่องการรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งจริง ๆ เกรงจะต้องโต้เถียงกันอย่างดุเดือดเป็นแน่ เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับเซียวเหิงมาก ทำอย่างไรฮ่องเต้จึงจะได้สติ?” ราวกับเซี่ยหวั่นเฉินไม่ได้ยินคำพูดของนาง ยังเอ่ยต่อ “แม้เป็นสหายรู้ใจ แต่ใช่ว่าจะเห็นพ้องต้องกันไปเสียทุกเรื่อง” เซียวอวี้จดจ้องเซี่ยหวั่นเฉิน ตั้งแต่แ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1475

    ครั้นผู้เฒ่าหยวนมาถึงเรือนตะวันตก เซียวเหิงโค้งคำนับเขาอย่างเคารพ “ท่านพ่อ” ท่านผู้เฒ่าปราดมองเซียวเหิง “เรียกข้ามาที่นี่เพราะเหตุใด?” เซียวเหิงมีสีหน้าเศร้าหมองและจนปัญญา “ท่านพ่อโปรดช่วยเกลี้ยกล่อมฮูหยินด้วยเถิด ลูกชายของพวกเราจากไปแล้ว พิธีฝังศพจะจัดขึ้นในวันนี้ แต่ฮูหยินปกป้องศพไว้อย่างสุดชีวิต ไม่ให้ใครแตะต้องเลย” ผู้เฒ่าหยวนสีหน้าเงียบขรึม “นางดื้อรั้นขนาดนั้นเชียวหรือ” เอ่ยจบก็เดินเข้าไปในห้องทันที ภายในห้อง ฮูหยินนั่วยืนอยู่หน้าโลงศพ ถือกระบี่ยาว ชี้ไปทางกลุ่มคนรับใช้ “อย่าเข้ามานะ! อย่าเข้ามา! พวกเจ้าอย่าคิดที่จะแตะต้องลูกชายของข้า! เขายังมีชีวิตอยู่ เขายังไม่ตาย——” ฮูหยินนั่วเสียสติเช่นนี้ ถึงแม้จะได้พบบิดาแท้ ๆ ก็ยังไม่สงบลงเลย นางดูเหมือนไม่รู้จักเขา ทั้งยังตะโกนใส่เขา “ท่านก็มาแย่งลูกชายของข้าด้วยหรือ! “ออกไป! ออกไปให้พ้น!” ผู้เฒ่าหยวนมองโลงศพที่อยู่ข้างหลังนาง ศพของหยวนตั๋วอยู่ข้างใน และนั่นก็เป็นหลานชายแท้ ๆ ของเขาด้วย เขาเดินหน้าต่อไปอย่างไม่กลัวตาย ฮูหยินนั่วเห็นเช่นนี้ ก็ฟันกระบี่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1474

    “น้องสาม เจ้าเอ่ยเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร!” ฮูหยินนั่วมีสีหน้าเย็นชา เซียวเหิงก็มองไปที่หยวนสุยเช่นกัน หยวนสุยยื่นมือใหญ่ออกไป ดึงภรรยาและลูกชายมาปกป้องไว้ข้างหลังของตน เขาสบประสานสายตาคลุ้มคลั่งของฮูหยินนั่ว ชี้ไปที่เซียวเหิง “ในช่วงเวลาที่เดินทางแสวงหาความรู้นั้น หยวนตั๋วไปทำอะไรมาบ้าง พี่หญิงรองยังไม่รู้ชัดอีกหรือ? “ผู้ที่ฆ่าหยวนตั๋วจริง ๆ หาใช่หยวนจั้นลูกชายของข้าไม่ เกรงว่า คงเป็นคนข้างหมอนของท่านต่างหาก!” สีหน้าของฮูหยินนั่วเปลี่ยนไปอย่างมาก เพียะ! นางตบหน้าหยวนสุยอย่างเดือดดาล “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร!” “ท่านไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริง ๆ !” หานซื่อรู้ว่าฮูหยินนั่วเพิ่งจะสูญเสียลูกชายที่รักไป จึงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาท นางจึงดึงแขนหยวนสุยผู้เป็นสามี และชักชวนให้เขาออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม หยวนสุยเก็บงำเรื่องนี้มานานหลายปี มีบางอย่างที่เขาจะต้องพูดออกไป โดยเฉพาะเมื่อเห็นสายตาที่ฮูหยินนั่วพี่หญิงรองใช้มองบุตรชายของเขาเมื่อครู่ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า เขาไม่สามารถปล่อยให้ลูกชายเข้าม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1473

    เซี่ยหวั่นเฉินตกอยู่ในวังวนการแย่งชิงอำนาจจักรพรรดิตั้งแต่เยาว์วัย ไม่ใช่คนจิตใจเรียบง่ายอย่างแน่นอน เขาสังเกตเห็นแล้วว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องการส่งเขาไปพ้น ๆ เพียงคาดไม่ถึงว่า ครั้งนี้นางและเซียวอวี้จะแสดงท่าทีชัดเจนขนาดนี้ เขาไม่อาจแสร้งสับสนได้อีก เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเซียวอวี้ เซียวอวี้ก็มองนางเช่นกัน คำถามของเซี่ยหวั่นเฉินนั้น พวกเขาหาได้ตอบทันทีไม่ เซี่ยหวั่นเฉินใช้มือหนึ่งแตะที่หน้าผาก “ตอนนี้พวกท่านไม่ปิดบังแล้วหรือ?” กลับส่งสายตาให้กันต่อหน้าเขาเช่นนี้เลย เซียวอวี้เอ่ยอย่างสงบนิ่ง “จะบอกเจ้าก็ได้” ระหว่างทาง เขายังตระหนักได้ว่า เซี่ยหวั่นเฉินมิใช่คนไร้คุณธรรมที่พอข้ามแม่น้ำเสร็จก็รื้อสะพานทิ้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนยังระมัดระวังเล็กน้อย ทว่า ความจริงไม่อาจซ่อนเร้นได้ เซียวอวี้ตัดสินใจจะบอกเซี่ยหวั่นเฉิน นางไม่ได้คัดค้าน “สรุปแล้วคืออะไรกันแน่?” เซี่ยหวั่นเฉินดูร้อนใจไม่น้อย เซียวอวี้เอ่ย “หมอเทวดาพวกนั้นกล่าวว่า หากใช้เลือดของเราทดลองยา อาจจะสามารถหลอมยาถอนพิษมนุษย์โอสถได้” เมื่อได้ยินเช่นน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status