คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร

คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร

last updateLast Updated : 2025-04-27
By:  เทียนสื่อUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
20Chapters
339views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เมื่อชีวิตในโลกใบเดิมสิ้นสุด ทว่าชะตาดันเล่นตลกให้ต้องกลายมาอยู่ในร่างของเจ้าสาวบรรณาการแด่จอมมาร ใครก็ว่าราชามารผู้นี้ช่างโหดร้าย สตรีที่เคยถูกส่งเข้าไปล้วนถูกเขาปลิดชีพตายทั้งหมด

View More

Chapter 1

บทที่ 1 ลมหายใจสุดท้าย

เพราะบุตรสาวของอนุผู้นี้ช่างใจกล้าเหนือสตรี ซ้ำยังชอบแต่งกายผิดจารีตประเพณีไม่เคารพกฎเกณฑ์ นางจึงถูกส่งไปสำนึกตนยังชานเมืองทุรกันดาร เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อบ้านเดิมที่หญิงสาวถูกส่งตัวไปเป็นเผ่าบูชาจอมมารวิหคทอง ทุก ๆ สิบปีจะต้องมีการส่งตัวเจ้าสาวบรรณาการให้แก่จอมมารในดินแดนลึกลับ คาดไม่ถึงว่าชะตาเกิดของนางจะขึ้นตรงกับเนตรหายนะของปีที่สิบนี้เข้าอย่างพอดี ทั้งหมู่บ้านล้วนร่ำลือว่า บุตรีเสนาบดีใหญ่และอนุที่สิ้นใจไปแล้วล้วนเป็นที่ชิงชัง แม้นางหายตัวไปคงไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญ 

ในคืนที่เกิดพายุลมฝนกรรโชกอย่างหนัก ร่างบอบบางกลับนอนขดกายอยู่บนแคร่ไม้เก่าในห้องเก็บฟืน นางเป็นคุณหนูรองลูกของเสนาบดีก็จริงอยู่ ทว่าเมื่อถูกส่งเข้ามาเพื่อสำนึกตนยังสถานที่แห่งนี้ กลับไม่มีผู้ใดสนใจไยดี ซ้ำยังถูกกลั่นแกล้งจากบ่าวไพร่สารพัด ผู้คนเหล่านี้หาได้เกรงกลัวคุณหนูรองเช่นนาง ซ้ำยังประณามว่านางคือ บุตรีนอกคอกผู้ที่บิดาแสนเกลียดชัง การที่ถูกส่งมายังสถานที่เช่นนั้นหมายถึงว่านางได้โดนตัดหางปล่อยวัดแล้ว 

ปัง! 

เสียงบานประตูถูกกระแทกจนเปิดออก นัยน์ตาคู่งามเปิดกว้างมองผ่านความมืดสลัว นางชินและชากับเหตุการณ์เช่นนี้เสียแล้ว ริมฝีปากสีกุหลาบแสยะยิ้ม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง 

"นำตัวนางไป" หญิงชราผู้หนึ่งกล่าวแทรกเสียงฝนพรำ 

บรรดาชายฉกรรจ์ต่างดาหน้าเข้ามาฉุดกระชากลากถูร่างสตรีผอมบางลงจากแคร่ไม้ ชายร่างกำยำผู้หนึ่งยกนางขึ้นพาดบ่า หญิงสาวไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด ภาพที่นางเห็นล้วนกลับด้านไปเสียหมด บรรดาชาวบ้านต่างรายล้อมสตรีตัวเล็ก ๆ ผู้หนึ่งเอาไว้ท่ามกลางสายฝนที่หลั่งริน ดั่งสวรรค์กำลังย้ำเตือนความสิ้นหวังภายในใจของหญิงสาว นัยน์ตากลมหลับลงเชื่องช้า เธอหวังว่านี่จะเป็นความเจ็บปวดและความสิ้นหวังสุดท้าย อีกไม่นานนางคงต้องถูกลอยแพกลางสายน้ำเย็นเยียบเพื่อส่งมอบให้กับราชามารผู้ชั่วร้าย หญิงสาวแค่นยิ้มหนึ่งหน จากนั้นสติของนางพลันดับวูบลงในที่สุด 

เฮือก!

"เหยาเหยาเป็นอะไร เราปลุกอยู่ตั้งนานเธอก็ไม่ยอมตื่น" เสี่ยวผิงตื่นตระหนกเมื่อเธอพยายามปลุกลี่เหยาเหยาอยู่นานสองนาน แต่ทว่าเพื่อนของเธอก็เอาแต่ส่ายศีรษะและขมวดคิ้วไปมาบนโต๊ะหนังสือ นับว่าโชคยังดีที่อาจารย์ไม่ว่างเข้าสอน เพื่อนร่วมห้องต่างทยอยเดินออกไปจนดูบางตาลงแล้ว เวลานี้ภายในห้องจึงเหลือพวกเธอเพียงสองคนเท่านั้น 

ลี่เหยาเหยาพยายามปรับลมหายใจของตนให้เป็นปกติ หยาดเหงื่อเม็ดละเอียดผุดขึ้นบนกรอบหน้างาม "ขอโทษทีเสี่ยวผิง เราแค่ฝันนิดหน่อย" 

"ฝันเหรอ ฝันเรื่องอะไร ดูเครียดขนาดนั้น ไม่สบายหรือเปล่า" 

"เอ่อ...เราคงเครียดเรื่องบทบาทที่ได้รับเกินไปจนเก็บไปฝันน่ะ ไม่เป็นไร" ลี่เหยาเหยาคลี่ยิ้มบาง 

"เหยาเหยา ไม่ต้องคิดมาก ละครก็คือละคร เธอแค่แสดงออกมาตามหน้าที่ สิ้นสุดลงแล้วก็ไม่มีอะไร อีกไม่กี่วันจะถึงงานแสดงของมหาลัยแล้ว ทำใจให้สบาย" เสี่ยวผิงกล่าวปลอบใจ 

เสี่ยวผิงรู้ดีว่าบทบาทที่ลี่เหยาเหยาได้รับน่ากังวลเพียงใด นับได้ว่าต้องเข้าใจตัวละครอย่างมากที่สุด คาดไม่ถึงว่าเพื่อนของเธอจะนำกลับไปฝันเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนี้ ซ้ำจากหญิงสาวร่าเริงกลับต้องคอยเคร่งเครียดกดดัน การแสดงละครเวทีหนนี้เป็นเส้นตัดสินโปรเจกต์จบการศึกษาของพวกเธอ ลี่เหยาเหยาลุกขึ้น พลันยื่นมือให้กับเสี่ยวผิง เสี่ยวผิงจึงเอื้อมมือตอบ พลางลุกขึ้นตามแรงดึงของอีกฝ่าย 

"มีเรื่องใดบ้างที่คุณหนูเหยาเหยาผู้นี้จัดการไม่ได้ แค่จัดการกับความรู้สึกนิดเดียวสบายน่า" 

ลี่เหยาเหยาเอื้อมมือโอบไหล่ของเสี่ยวผิง ปลายนิ้วตบบ่าเพื่อนรักเปาะแปะ พลางก้าวเดินไปพร้อมกัน 

"จ๊ะ! ยัยคุณหนูขี้เซา ขอให้มันจริงเถอะ แต่ถ้าวันไหนไม่สบายใจหรือรู้สึกป่วยตรงไหนต้องรีบบอกเรานะ" เสี่ยวผิงกล่าวพลางเขี่ยปลายจมูกเพื่อนรักเล่นอย่างนึกมันเขี้ยว  

"จ้า ๆ รู้แล้วน่า นี่เพื่อนหรือแม่กันคะเนี่ย" 

ลี่เหยาเหยาและเสี่ยวผิงเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่อนุบาล พวกเธอทั้งสองตัวติดกันราวกับตังเม ไปไหนไปกันอยู่เสมอ ลี่เหยาเหยาเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาโดดเด่นทรงเสน่ห์ ซ้ำนิสัยน่ารักน่าเอ็นดูและกล้าแสดงออกตั้งแต่เด็ก ๆ โตมาเธอจึงเลือกเรียนในคณะนิเทศศาสตร์เพื่อต่อยอดความสามารถของตน แม้ตอนนี้อาจยังไม่ใช่นักแสดงเด่นดังเช่นรุ่นใหญ่ แต่ก็มีงานโฆษณาเข้ามาอยู่ไม่ขาด ส่วนเสี่ยวผิงก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับลี่เหยาเหยา พวกเธอเรียนคณะเดียวกัน อาศัยอยู่หอด้วยกัน เนื่องจากที่บ้านของทั้งสองล้วนห่างไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก 

ณ หอพัก 

ลี่เหยาเหยานั่งมองหน้าของตนผ่านกระจกพลางกะพริบดวงตาปริบ ๆ เธอสำรวจมองใบหน้าตัวเองซ้ายขวา แล้วจึงเหลียวหลังมองไปยังเพื่อนของตนซึ่งกำลังง่วนอยู่กับแท็บเล็ตบนมือหน้าเคร่งเครียด 

"เสี่ยวผิง เธอว่าเป็นไปได้ไหมที่ตัวละครบางตัวอาจเคยมีชีวิตจริง ๆ" 

เสี่ยวผิงละสายตาจากสิ่งที่กำลังทำ นัยน์ตากลมหรี่ลงเล็กน้อย "อืม...แบบนั้นมันก็มีนะเหยาเหยา เช่นละครที่อิงประวัติศาสตร์ไง" 

"ไม่ใช่ เราหมายถึง ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่อิงอะไรเลย แต่สร้างขึ้นจากจินตนาการผู้เขียนล้วน ๆ" 

"เหยาเหยาเธอกำลังคิดมากกับบทชายาจอมมารที่ได้รับเหรอ เธอกังวลว่านางจะมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ คิดมากน่า" เสี่ยวผิงยิ้มอ่อนพลางส่ายหน้าไปหนึ่งหน 

"อืม...ดูเหมือนเราจะคิดมากเกินไปจริง ๆ นั่นแหละ ละครก็ได้รับมาตั้งเยอะแยะ มาคิดมากอะไรกับโปรเจกต์ละครเวทีเรื่องเดียวกัน" 

"นั่นสิ ๆ รีบมาสก์หน้า แล้วก็มานอนได้แล้วค่ะ คุณนักแสดงสาวสวย" เสี่ยวผิงกล่าวหยอกล้อเชิงไม่จริงจังนัก 

"โอเคค่า คุณผู้จัดการคนสวย รีบแล้ว ๆ" 

งานละครเวทีของมหาวิทยาลัยได้เดินทางมาถึง ลี่เหยาเหยาอยู่ในเครื่องแต่งกายคล้ายชุดฮั่นฝูสีแดงสด เรียกอีกอย่างคงเป็นชุดวิวาห์ซะมากกว่า 

"อู้หู ชายาจอมมารผู้นี้สวยจังแฮะ มีแต่ตาทึ่มนั่นแหละที่ฆ่าเมียตัวเองตาย" เสี่ยวผิงกล่าวพลางหมุนกายของเพื่อนรักซ้ายขวา หัวเราะคิกคัก 

"เสี่ยวผิง" ลี่เหยาเหยายกปลายนิ้วชี้เชิงบอกให้สหายของตนเงียบ ๆ เหตุเพราะเพื่อนร่วมกลุ่มที่คิดบทละครนี้ขึ้นมาก็อยู่ด้านในเช่นกัน

อยู่ ๆ สาวแว่นหนาเตอะยอดนักเขียนก็เดินเข้ามาใกล้พวกเธอ พลางสำรวจมองเสี่ยวผิงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และเหลียวมองลี่เหยาเหยาเช่นเดียวกัน เธอขยับแว่นสี่เหลี่ยมบนดวงตาเล็กน้อย 

"รู้จักหรือเปล่า แบดเอนอะ แฮปปี้เอนมันน่าเบื่อแล้ว ถ้าอยากให้ผัวรักผัวหลงก็ลองไปเปลี่ยนชะตาเอาเองเลยซิ" เด็กแว่นตัวสูงระดับไหล่แหงนใบหน้ามองลี่เหยาเหยาสลับกับเสี่ยวผิง พลันยกสองนิ้วขึ้นชี้ดวงตาของตัวเองและกลับด้านไปมาระหว่างพวกเธอทั้งสอง ราวต้องการบ่งบอกว่า ฉันจับตาดูพวกเธออยู่นะ  

"เหยาเหยา เธอแสดงให้ดีล่ะ ฉันตั้งใจเขียนมันมาก" 

ลี่เหยาเหยาไม่เอ่ยสิ่งใด เธอยืนตัวแข็งทื่อพยักหน้าตอบรับ เพียงแวบหนึ่งราวกับเห็นรอยยิ้มประหลาดผุดขึ้นบนใบหน้าใสซื่อนั่น ก่อนจากไปเจียลี่ตบฝ่ามือลงบนไหล่ของลี่เหยาเหยาสองสามแปะ เอ่ยกระซิบ "อยากลองช่วยชายาจอมมารหรือเปล่าล่ะ" 

เจียลี่ทิ้งท้ายประโยคไว้เพียงเท่านั้นจึงสาวเท้าเดินห่างออกไป ลี่เหยาเหยามองตามเด็กแว่นร่างท้วมจนลับสายตา หัวใจของเธอกลับเต้นกระหน่ำโดยไม่ทราบสาเหตุ 

"ยัยแว่นเด็กประหลาด แค่พูดถึงบทที่เขียนนิดเดียวไม่ได้หรือไง ชิ!" เสี่ยวผิงเอ่ยไล่หลัง 

"เอาน่า ช่างเถอะเสี่ยวผิง นี่ก็ถึงเวลาแล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปแสตนบายหลังเวทีก่อนนะ" 

"อือ...สู้ ๆ นะ" เสี่ยวผิงยิ้มให้กำลังใจ 

ลี่เหยาเหยายิ้มตอบ พลางชูแขนพร้อมกำปั้น "สู้ สู้" 

ละครเวทีดำเนินมาจนถึงกลางเรื่องแล้ว เสี่ยวผิงลุ้นกับบทบาทของเหยาเหยามาโดยตลอด ด้านข้างของเธอกลับมีนักเขียนตัวดีมายืนขนาบกายตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ "เจียลี่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตกอกตกใจหมด" เสี่ยวผิงสะดุ้งโหยง 

"ขวัญอ่อน" เจียลี่กล่าวหน้าตาย พลางดันกรอบแว่นให้เข้าที่เข้าทาง 

เสี่ยวผิงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอีกเธอจึงเหลียวหน้ามองไปยังเวทีด้านหน้า เจียลี่ก็เช่นเดียวกัน เสี่ยวผิงเริ่มสังเกตเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของลี่เหยาเหยา คิ้วของเธอจึงเริ่มเคลื่อนเข้าหากัน 

"เหยาเหยา" เสี่ยวผิงกล่าวน้ำเสียงเบาหวิว ภายในใจเริ่มเต้นโครมคราม เสี่ยวผิงรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลนัก 

อยู่ ๆ นักแสดงนำเช่นลี่เหยาเหยาพลันทรุดฮวบลง นัยน์ตาของเธอมองตรงมายังเสี่ยวผิงและเจียลี่ ลี่เหยาเหยาเริ่มรู้สึกว่าตนหายใจไม่ออก ผู้คนทั้งฮอลล์ต่างแตกตื่นโกลาหล บ้างรีบมาดูอาการ บ้างโทรเรียกรถพยาบาลจ้าละหวั่น เสี่ยวผิงเห็นเช่นนั้นจึงวิ่งรุดขึ้นไปบนเวทีอย่างเร่งร้อน พร่ำเรียกเพื่อนสนิทของตนด้วยอาการตื่นตระหนก 

"เหยาเหยา! เหยาเหยา!"

ภาพสุดท้ายที่ลี่เหยาเหยามองเห็นคือรอยยิ้มเย็นยะเยือกของเจียลี่ ทันใดนั้นสติสัมปชัญญะของเธอก็หายไปพร้อมกับลมหายใจที่ขาดสะบั้นลง 

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
20 Chapters
บทที่ 1 ลมหายใจสุดท้าย
เพราะบุตรสาวของอนุผู้นี้ช่างใจกล้าเหนือสตรี ซ้ำยังชอบแต่งกายผิดจารีตประเพณีไม่เคารพกฎเกณฑ์ นางจึงถูกส่งไปสำนึกตนยังชานเมืองทุรกันดาร เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อบ้านเดิมที่หญิงสาวถูกส่งตัวไปเป็นเผ่าบูชาจอมมารวิหคทอง ทุก ๆ สิบปีจะต้องมีการส่งตัวเจ้าสาวบรรณาการให้แก่จอมมารในดินแดนลึกลับ คาดไม่ถึงว่าชะตาเกิดของนางจะขึ้นตรงกับเนตรหายนะของปีที่สิบนี้เข้าอย่างพอดี ทั้งหมู่บ้านล้วนร่ำลือว่า บุตรีเสนาบดีใหญ่และอนุที่สิ้นใจไปแล้วล้วนเป็นที่ชิงชัง แม้นางหายตัวไปคงไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญ ในคืนที่เกิดพายุลมฝนกรรโชกอย่างหนัก ร่างบอบบางกลับนอนขดกายอยู่บนแคร่ไม้เก่าในห้องเก็บฟืน นางเป็นคุณหนูรองลูกของเสนาบดีก็จริงอยู่ ทว่าเมื่อถูกส่งเข้ามาเพื่อสำนึกตนยังสถานที่แห่งนี้ กลับไม่มีผู้ใดสนใจไยดี ซ้ำยังถูกกลั่นแกล้งจากบ่าวไพร่สารพัด ผู้คนเหล่านี้หาได้เกรงกลัวคุณหนูรองเช่นนาง ซ้ำยังประณามว่านางคือ บุตรีนอกคอกผู้ที่บิดาแสนเกลียดชัง การที่ถูกส่งมายังสถานที่เช่นนั้นหมายถึงว่านางได้โดนตัดหางปล่อยวัดแล้ว ปัง! เสียงบานประตูถูกกระแทกจนเปิดออก นัยน์ตาคู่งามเปิดกว้างมองผ่านความมืดสลัว นางชินและชากับเหตุการณ์เช่นนี้เสีย
last updateLast Updated : 2025-04-10
Read more
บทที่ 2 เจ้าสาวบรรณาการ
"เอ๋…นี่มันที่ไหนนะ" ลี่เหยาเหยาลืมตาขึ้นท่ามกลางความสลัว ใบหูของเธอคล้ายได้ยินเสียงคลื่นกำลังซัดสาด ร่างกายแข็งทื่อเสียจนไม่อาจขยับ"เราตายแล้วอย่างนั้นเหรอ หรือว่านี่คือโรงพยาบาล" ดวงตากลมโตกะพริบถี่ ทว่ากลับยังคงมองไม่เห็นสิ่งใด เพียงรู้สึกคล้ายใบหน้าของตนมีบางสิ่งมาบดบังเสียจนน่าอึดอัด "อะไรเนี่ย? เสี่ยวผิง""…""เสี่ยวผิง""…"มีเพียงเสียงเงียบสงัดตอบรับกลับมา ลี่เหยาเหยาจึงถอดใจ พลางพ่นลมหายใจออกเชื่องช้า หลับดวงตาลงอีกหน"สงสัยเรากำลังฝันแหง ปวดหัวจัง นอนต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวตื่นขึ้นอีกทีก็เช้าแล้ว ช่างเถอะ" ด้วยความเหนื่อยล้าและรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ลี่เหยาเหยาจึงผล็อยหลับลงในที่สุด เรือลำเล็กเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความอนธการโดยรอบ ร่างหญิงสาวนอนทอดกายอยู่ด้านใน ลมหายใจของนางเข้าออกสม่ำเสมอ ห่างออกไปไม่กี่ลี้[1] มีสายตาสองคู่กำลังกวาดมองมายังตัวเรือที่ลอยแล่นอยู่บนผิวน้ำด้วยความสนอกสนใจ "เถียนชีเจ้าเห็นแล้วหรือไม่" เสียงทุ้มเอ่ยพลางเพ่งสายตามองไปยังเบื้องหน้าท้องน้ำอันไกลโพ้น "ข้าเห็นแล้ว สายตาของเจ้าช่างไม่ได้เรื่องยิ่งนัก เราไปรับพระชายา
last updateLast Updated : 2025-04-10
Read more
บทที่ 3 อายุสั้นนัก
ลี่เหยาเหยาสะดุ้งโหยง พยายามกล่อมใจตัวเองต้องไม่มีอะไรเป็นแน่ อาจเป็นกองถ่ายละครแห่งใดแห่งหนึ่ง ทว่าภายในใจของนางกลับร้องตะโกนเสียงดังระงม ลี่เหยาเหยาเธอตายไปนานแล้ว ที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่ลี่เหยาเหยาพยายามสลัดความคิดสับสนมึนงงนั้นทิ้งไป พลางแหงนหน้ามองคนร่างสูงที่ยืนขึงดวงตาสีแดงฉานมองมาที่ตน น้ำเสียงที่พยายามเอ่ยออกมาจึงดูกระท่อนกระแท่นอยู่ไม่น้อย "ฉันอยากอาบน้ำ ที่นี่มีห้องน้ำหรือเปล่า" "หืม…" "อะ…เอ่อ คือว่าตอนนี้ฉันตัวเหม็นจริง ๆ นั่นแหละ ดูเหมือนจะหมดสตินอนไม่รู้สึกตัวหลายวัน แค่ขออาบน้ำแป๊บเดียว หลังจากนั้นนายจะสอบสวน หรือจะฆ่าจะแกงก็ตามใจ" ลี่เหยาเหยาพยายามอธิบาย และกดข่มความขลาดกลัวพลางกล่าววาจาละมุนละม่อมแท้จริงแล้วลี่เหยาเหยาอยากรู้ยิ่งนักว่าที่แห่งนี้คือที่ใด อย่างน้อย ๆ หากได้ออกไปสำรวจด้านนอกอาจจะพอหาหนทางหลบหนีออกไปได้คงไม่ใช่พวกขบวนการค้ามนุษย์หรอกนะ"มากความเสียจริง แค่นำโลหิตเจ้ามาแล้วไสหัวออกจากเมืองของข้าก็พอ" ลี่เหยาเหยาพ่นลมหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย "แล้วจะกลับยังไง ยังไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน"นัยน์ตาคมกริบกวาดมองคนบนเตียงด้วยสีหน้าเคร่งขร
last updateLast Updated : 2025-04-10
Read more
บทที่ 4 มีวิธีอื่นหรือไม่
สตรีใบหน้าหวานสวมเครื่องแต่งกายของเจ้าสาว แดนมาร กลิ่นกายหอมกรุ่นล่องลอยเข้ามาแตะโพรงจมูกผู้ที่นั่งเคร่งขรึมอยู่มุมห้อง เขาจึงแหงนเงยใบหน้าของตนขึ้นเชื่องช้า เพียงแวบเดียวที่ความรู้สึกภายในใจราวเต้นกระหน่ำ ทว่าครู่ถัดมาอาการเช่นนั้นพลันมลายหายไป ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาเบื้องหน้าเชื่องช้า ดวงตาดุดันเพ่งมองหญิงสาวด้วยความเกรี้ยวกราด "แต่งกายเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าคงไม่คิดว่า ข้าจะรับเป็นชายาจริง ๆ ใช่หรือไม่" เสียงทุ้มกล่าวลอดไรฟัน ฝ่ามือกว้างคว้าหมับไปยังลำคอระหง ลี่เหยาเหยากระอักไอออกมาเสียจนใบหน้าแดงก่ำ ร่างบอบบางถูกอีกฝ่ายยกขึ้นเหนือพื้น หญิงสาวพยายามดีดแข้งดีดขาของตนเพื่อเอาตัวรอด สีหน้าของนางตอนนี้เริ่มไม่สู้ดีนัก ฝ่ามือน้อย ๆ ยกขึ้นตบตี ตะปบแกะให้อีกฝ่ายผ่อนปรนแรงลงราว ลูกแมวขาดอากาศหายใจ"ปะ...ปล่อยนะ" ประมุขแดนมารเห็นว่าลี่เหยาเหยาเริ่มไม่ไหว เขาจึงเหวี่ยงกายคนตัวเล็กในชุดเจ้าสาวลงบนเตียงนอน อย่างไม่สนใจไยดี พลางจ้องอีกฝ่ายเขม็ง "เจ้ากล้าดีอย่างไร จึงหยิบชุดนี้ขึ้นมาใส่" "ฉัน.
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่ 5 พันธผูกจิต
"เป็นเช่นไรเล่าเถียนชี นางอยู่ที่นี่นานกว่าสองชั่วยาม เจ้าแพ้แล้ว" เถียนหยาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเดิมพันกับเถียนชีแล้วเป็นฝ่ายชนะ คาดไม่ถึงว่าสตรีนางนี้สามารถอยู่กับจอมมารฮวาเทียนจิ้งนานกว่าสตรีนางอื่น เดิมทีหากเจ้าสาวบรรณาการใดถูกส่งเข้ามา แทบไม่ถึงหนึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ พวกนางก็ถูกส่งตัวกลับ เถียนหยาเกรงว่าคุณหนูลี่เหยาเหยาผู้นี้คงมีสิ่งน่าสนใจไม่มากก็น้อยเป็นแน่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นว่าผู้เป็นนายเก็บสตรีนางใดไว้ข้างกายสักราย "แพ้ก็แพ้สิ เอาไปผลึกแก้วห้วงเวลาสามชิ้น" เถียนหยาเอื้อมมือเข้ารับของวิเศษจากสหายด้วยท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง "ขอบใจ" เถียนชี "นายท่านให้เจ้าเป็นฝ่ายส่งนาง อีกเดี๋ยวข้าจะตามนายท่านไปยังหอฝึกปราณ นางฟื้นแล้วก็เร่งพานางออกไปเล่า" เถียนหยา "ข้ารู้แล้วนา เดี๋ยวนี้เจ้าช่างขี้บ่นอย่างกับมารดาของข้า" "ชิ เจ้ามารปากดี" เถียนชีจึงหมุนกายพลันหายวับออกจากหอนอนชั่วพริบตา  "อื้อ...ปวดหัวจัง" เสียงเล็กเอ่ยกระท่อนกระแท่นดังเบาหวิว&n
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more
บทที่ 6 ลงเรือลำเดียวกัน
"อ้าว เถียนชีนี่เจ้าจะไปที่ใดเล่า" เถียนหยาเพิ่งกลับมาถึงเห็นว่าเถียนชีเร่งร้อนเดินดุ่ม ๆ ออกจากหอฝึกปราณจึงเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง "มาก็ดี เจ้าเอาคุณหนูลี่เหยาเหยาคนนั้นไปส่งไว้ที่ใดกันเล่า""ข้าก็ส่งนางไว้ที่เดิมนั่นแหละ เจ้าจะโวยวายเพื่อสิ่งใด" "นายท่านเผลอไปทำพันธผูกจิตกับนางตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ยามนี้นางคงได้รับบาดเจ็บ รีบออกไปตามหานางเร็วเข้า!" "ห้ะ!! มิน่าเล่า ปกติข้าไม่เคยเห็นนายท่านสัมผัสร่างกายผู้ใดเลย แต่เมื่อสักครู่ข้าเห็น เอ่อ..." เถียนหยากล่าวกระอักกระอ่วน "เห็นอะไรเล่า ไยมัวอมพะนำ" เถียนชีเอ่ยด้วยความหงุดหงิด "ก็รอยที่คอของนาง..." "อย่างนี้นี่เอง แต่โดยปกติหากไม่มีอาคมร่วมด้วย หากเพียงแค่สัมผัสต้นคอเท่านั้นไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน คุณหนูผู้นี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันเล่า" บุรุษทั้งสองสนทนากันอย่างพะว้าพะวัง พลันหายวับออกจากคฤหาสน์วิหคทองด้วยความเร่งร้อน   ลี่เหยาเหยาถูกแบกขึ้นบ่า ภาพเบื้องหน้าของนางกลับด้านเสียจนน่าเวียนศีรษะ จาก
last updateLast Updated : 2025-04-13
Read more
บทที่ 7 มารยาร้อยเล่มเกวียน
นัยน์ตาคู่งามเปิดปรือขึ้นท่ามกลางความสลัว ลี่เหยาเหยารู้สึกว่ากายของตนปวดหนึบไปเสียหมด ที่ไหนนะ เราตายอีกรอบแล้วหรือเปล่า"ฟื้นแล้วอย่างนั้นหรือ" ลี่เหยาเหยาพยายามกวาดสายตามองไปยังต้นเสียงที่เอ่ยขึ้น นางกะพริบดวงตาถี่ เอ๋...หมอนี่อีกแล้วเหรอ "ฟื้นแล้วก็ลุกขึ้นมา อย่ามัวนอนกินบ้านกินเมือง" "นะ...น้ำ" เสียงเล็กพยายามร้องขอ ลี่เหยาเหยารู้สึกว่าตอนนี้ลำคอช่างแห้งผากเหลือเกิน ฮวาเทียนจิ้งจึงลุกขึ้น และหยิบป้านชาลายวิจิตรพลางรินน้ำชาอุ่น ๆ ลงไปอย่างไม่เร่งร้อน "ข้าจะถามเจ้าเพียงหนึ่งคำถาม" เอาอีกแล้ว เจอหน้าทีไรเป็นต้องมีเรื่องโน่นนี่ ลี่เหยาเหยาเอื้อมมือเพื่อรับจอกน้ำชาด้วยอาการสั่นเทา เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่านางไร้เรี่ยวแรงเช่นนั้น จึงยอบกายลงเชื่องช้า และพยุงร่างของสตรีด้วยความจำใจ ถึงอย่างไรนางก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของเขา แม้จะแตะเนื้อต้องตัวกัน หรืออยู่ในห้องเพียงลำพังคงไม่เกิดความเสียหายใดแก่นางมากไปกว่านี้หรอกกระมัง 
last updateLast Updated : 2025-04-14
Read more
บทที่ 8 ความรู้สึกราวมดกัด
ลี่เหยาเหยาถูกนำตัวมาพบฮวาเทียนจิ้งยังหอฝึกปราณ นัยน์ตาคมกวาดมองร่างสตรีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า อาภรณ์ที่นางสวมใส่ช่างดูเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ซ้ำปลายนิ้วมือทั้งสิบกลับเต็มไปด้วยบาดแผล ท่อนแขนซึ่งโผล่พ้นใยผ้าล้วนปรากฏร่องรอยฟกช้ำเป็นจ้ำเต็มไปหมด มิน่าเล่าหลายวันมานี้ฮวาเทียนจิ้งรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวยิ่งนัก แท้จริงนางถูกข่มเหงถึงเพียงนี้ ทว่ากลับไม่ยอมปริปากหรือโต้กลับคนเหล่านั้นแม้แต่น้อย ลี่เหยาเหยาไม่ได้กริ่งเกรงสายตาดุดันเบื้องหน้าเพียงรู้สึกวางท่าไม่ถูกก็เท่านั้น นางยืนตัวตรงแน่วพลางจ้องไปยังบัลลังก์ยกสูงท่วมหัวของตน บรรยากาศด้านในเริ่มแดดันอึดอัด"เถียนชี เถียนหยา พวกเจ้าออกไปก่อน" "ขอรับ" องครักษ์ทั้งสองจึงหายวับจากไปในพริบตา พวกเขาดูจะประหลาดใจไม่น้อย คราก่อนเหตุสุดวิสัยจากที่นางได้รับบาดเจ็บยังพอเข้าใจได้ ทว่ามาหนนี้จอมมารต้องการพบหญิงสาวผู้หนึ่ง กลับให้นางเข้าพบในหอฝึกปราณ ซึ่งไม่เคยมีสตรีนางใดได้รับอนุญาตให้เข้าด้านในมาก่อน แม้กระทั่งคุณหนูอวี่หนาน ผู้เป็นน้องสาวบุญธรรมของฮวาเทียนจิ้งเองก็ตาม 
last updateLast Updated : 2025-04-15
Read more
บทที่ 9 กำไลสยบสัมพันธ์
ลี่เหยาเหยาไม่ได้กลับไปยังหอซักล้างแล้ว ฮวาเทียนจิ้งให้นางอาศัยอยู่ที่ห้องของตน และให้เถียนหยาคอยจับตาดูนางอยู่ไม่ห่าง จอมมารไม่ได้กลับห้องเลยตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาขลุกตัวอยู่ภายในหอตำราและหอฝึกปราณเท่านั้น ส่วนห้องนอนถูกยกให้ลี่เหยาเหยาไปโดยปริยายฮวาเทียนจิ้งพยายามค้นหาตำราที่สามารถถอนพันธผูกจิต แต่ดูเหมือนเขาค้นหาจนแทบหมดทุกเล่มกลับไม่พบวิธีแก้ไขแต่อย่างใด ผู้ใดมันช่างกล้าเล่นตุกติกกับเขาเช่นนี้กัน "นายท่านขอรับ เจอแล้วขอรับ" เถียนชีกล่าวสีหน้าตื่นเต้น "ขอข้าดูหน่อย" เถียนชีจึงยื่นตำราไปเบื้องหน้านายของตน พลางกล่าวว่า "ทว่าดูเหมือนสามารถสยบความเจ็บปวดจากอีกฝ่ายแต่ไม่อาจสยบความตายได้ หากวิธีตัดขาดเลยยังหาไม่พบขอรับ" "อืม...ชั่วคราวก็ยังดี" ฮวาเทียนจิ้งกวาดสายตามองตัวอักษรทีละตัว "กำไลสยบสัมพันธ์อย่างนั้นหรือ" เถียนชีพยักหน้าหงึกหงัก "เช่นนั้นจะเริ่มเมื่อใดหรือขอรับ" "เริ่มตอนนี้เลย"   "ฮือ…เถียนหยานายจะทำอะไร" ลี่เหยาเหยาวิ่งให้วุ่นไปทั่วท
last updateLast Updated : 2025-04-16
Read more
บทที่ 10 หว่านเสน่ห์
กำไลหยกถูกสร้างขึ้นจนเรียบร้อยแล้ว ฮวาเทียนจิ้งจึงให้เถียนหยานำไปมอบแด่ลี่เหยาเหยา "คุณหนูขอรับ นายท่านฝากสิ่งนี้มาให้ขอรับ" ลี่เหยาเหยาแหงนมองกำไลข้อมือลายวิจิตรที่อีกฝ่ายยื่นให้ด้วยประกายตาลุกวาว ทว่ากลับแสร้งชักสีหน้ากลับเพื่อสงวนท่าที "เหตุใดเขาจึงให้ข้ากันเล่า นี่นายของท่านตบหัวแล้วลูบหลังเช่นนั้นหรือ" "เอ่อ..." เถียนหยารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ไม่น้อย เขาได้รับคำสั่งห้ามบอกเรื่องนี้ให้นางรับทราบ เถียนหยาจึงเล่นไปตามน้ำ หากฮวาเทียนจิ้งรู้สิ่งที่เขากำลังจะกล่าว มีหวังได้ถูกลงโทษอย่างหนักเป็นแน่ "เอ่อ...อะไรเล่า หากเหตุผลไม่เพียงพอ ข้าไม่รับ เอากลับไปคืนนายของท่านเสีย" "นายท่านอยากขอโทษคุณหนูก็เพียงเท่านั้น หาได้คิดเป็นอื่น รบกวนคุณหนูรับไว้อย่าได้ทำให้ข้าต้องลำบากใจเลยขอรับ" เถียนหยากล่าวด้วยสีหน้าซีดเผือด เถียนหยา หากนายท่านทราบแกตายแน่"จริงหรือ" ลี่เหยาเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจเถียนหยาพยักหน้าหงึกหงักสตรีได้ของสวยงามดีใจเพียงนี้เชียวหรือ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายปวดห
last updateLast Updated : 2025-04-17
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status