จีอู๋เหิงลุกขึ้นอย่างไม่เชื่อหู ถามทันทีว่า “เจ้าว่ากระไรนะ?”
จีอู๋เหยียนตอบ “ท่านแม่กลัวว่าท่านจะไม่เห็นด้วย ไม่อนุญาตให้ข้าบอกเรื่องนี้กับท่าน แต่ข้ารู้สึกว่าทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเดิมทีแล้ว ที่คุณหนูสกุลหรงแตกหักกับสกุลฉีเช่นนั้นก็เพราะไม่ยินยอมเป็นอนุ”
“หากเสด็จป้าบังคับให้นางเป็นอนุของท่านจริงๆ นั่นจะต่างอะไรกับการบีบให้นางตาย?”
แม้ว่าท่านพ่อท่านแม่จะหยิ่งทะนง มักจะดูแคลนคนนั้นคนนี้ไปทั่ว แต่สองพี่น้องสกุลจีก็ไม่ได้เห็นด้วยกับพวกเขา ทว่าอย่างไรเสีย พวกท่านก็เป็นผู้อาวุโส
ถึงแม้จะไม่เห็นด้วย พวกเขาก็ไม่กล้ากล่าววาจาอกตัญญู
แต่เรื่องในวันนี้…
จีอู๋เหยียนรู้สึกว่าหากตัวเองไม่พูด เขาคงรู้สึกละอายใจแก่ตัวเอง
จีอู๋เหิงถามอย่างเร่งร้อน “บัดนี้ท่านแม่อยู่ที่ใด?”
จีอู๋เหยียน “กำลังเปลี่ยนชุดพิธีการสำหรับเข้าวัง คิดว่าน่าจะใกล้ออกจากจวนแล้ว”
จีอู๋เหิงสั่งบ่าวรับใช้โดยพลัน “ประคองข้า”
จีอู๋เหยียนเข้าไปช่วยประคองพี่ชายด้วยตัวเอง
จีอู๋เหิงกลัวว่าจะไปไม่ทันผู้เป็นมารดา ไม่แม้แต่จะสวมเสื้อคลุมตัวนอกก็จะออกไปแล้ว บ่าวรับใช้ที่ละเอียดรอบคอบต้องรีบสวมผ้าคลุมสีหิมะให้กับเขา
“คุณชายใหญ