หน้าเทอเรซกว้างมีเก้าอี้ไม้ตัวยาวหันหน้าออกมองเห็นวิวทะเล ชานนท์สวมเสื้อยืดสีขาวคอโปโลทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายทะเลกางเกงขาสั้นเหนือเข่าดูแปลกตาจนเอรินมองเพลิน “ตกลงตามนี้ เอาเป็นว่าแล้วแต่เธอนำไปก็แล้วกัน แต่ถ้าถึงเกาะเต่าแล้วฉันอยากได้เรือยอร์ชส่วนตัวสักลำ เอาแบบเช่ารายวัน เท่าไหร่ก็ได้ไม่เกี่ยง ฉันไม่ชอบไปกับคนเยอะ แล้วห้องพักพูลวิลล่าบนเนินเขาวิวทะเล แบบสองห้องนอนดีแล้วเธอจะได้สบายใจกินอิ่มนอนหลับ ที่สำคัญต้องเป็นหลังมีรั้วรอบขอบชิด ไม่วุ่นวายกับใครและฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่าม” ชานนท์บอกความต้องการ แต่เอรินยังคงนิ่งไม่มีทีท่าตอบรับหรือจดรายละเอียด จนเขาต้องสะกิดเตือน“เอริน... เอริน ลอยไปถึงไหนแล้ว” ชานนท์เอาไหล่สะกิดไหล่ หล่อนถึงกับสะดุ้ง “อะ... อะไรคะ”“ใจไง... เรียกตั้งนานลอยไปถึงไหน” ชานนท์ยิ้มล้อเลียนดวงตาแพรวพราว “หรือว่าลอยมาทางนี้” เอรินทำหน้างงตามไม่ทันความคิด “เปล่าค่ะคุณลุง... ฉันก็แค่คิดว่าจะหาได้ไหม พูลวิลล่าเป็นหลังๆ” พอนึกได้ถึงกับหน้าเสียเมื่อชายหนุ่มชักสีหน้าไม่พอใจหลังจากได้ยินคำแสลงหู “อีกแล้วนะ อะไรก็คุณล
เอรินโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงลงมาบ้านสวนโฮมสเตย์ จนใครต่อใครต่างเข้าหน้าไม่ติด พ่อกับแม่ได้แต่มองลูกสาวที่หน้าตาถมึงทึงเป็นคนละคนกับเมื่อตอนแรกที่ขึ้นไปบ้านต้นไม้“ไปขัดใจอะไรมา”พัชระถอนสายตาจากงานตรงหน้าถามไถ่ อติมามองตามด้วยความเป็นห่วง เอรินชะงักเปลี่ยนจากจะเข้าห้องนอนมานั่งกอดแม่แทนจะบอกได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านต้นไม้... “ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ แค่แขกเอาแต่ใจ หนูว่าจะไม่ทำแล้วจะโทรให้ยักษ์หาไกด์เก่งๆ แก่ๆ มาเปลี่ยนก็ไม่เอาอีกเรื่องมากจริงๆ” เอรินเน้นคำว่าแก่เป็นพิเศษพัชระลุกมานั่งข้างขยี้หน้าม้าลูกสาวอย่างเอ็นดู“เรานี่นะ ตอนจะไปเหมือนไก่จะบิน คงโดนเขาว่ามาละสิ ว่าเด็กไม่ประสา หรือว่าเขาปฏิเสธมา”“ถ้าปฏิเสธก็ดีสิคะ หนูไม่อยากทำเลย” เอรินหน้ามุ่ยคอตกสองสามีภรรยามองหน้ากันด้วยความสงสัยจะเอ่ยถาม แต่ลูกสาวตัวดีลุกหนีซะก่อน“หนูไม่คุยกับพ่อแล้ว ถึงยังไงก็รับปากไปแล้ว ไกด์มืออาชีพซะอย่าง ต้องแสดงให้เขารู้ว่าหนูไม่ใช่ไก่อ่อนสอนขัน เจอกันตอนเช้านะคะ หนูไปคิดแผนทัวร์ก่อน”“เดี๋ยว! กินอะไรรึยังลูก”อติมาถามไล่หลังแต่เอรินเดินหนีเข้าห้องไปก่อน จึงหันหน้ามาปรึกษาสามี“ลูกพู
ชานนท์เสียงขุ่นแต่เอรินยังคงก้มหน้าก้มตา สายตาจดจ้องแต่กระดาษที่เตรียมมาโดยไม่มองหน้าคนถูกถามที่เริ่มออกอาการทนไมได้เมื่อเห็นท่าทีไม่สนใจไยดี“จอยกรุ๊ป หรือ เหมาลำ” หล่อนก้มหน้าก้มตาถามต่อ “แต่อย่างคุณนี่ท่าทางจะเหมาสินะ คนรวยใช้เงินมือเติบอยู่แล้วนี่”“เอริน ฉันบอกให้พอไง”“ฉันกำลังขอข้อมูลพื้นฐานจากคุณอยู่ จะได้จัดหาไกด์เก่งๆ ให้คุณได้ตามใจต้องการ ไหนๆ ก็จ้างแพง”“ก็ได้ ฉันต้องการทริปดำน้ำตื้น แต่ต้องเป็นเรือยอร์ชเท่านั้น ไม่ร่วมจอยทริปกับใคร ที่พักขอเป็นรีสอร์ตบนเขาเงียบๆ ต้องเป็นวิลล่า พร้อมสระว่ายน้ำ จากุชชี่ ราคาไม่เกี่ยง ต้องไม่มีคนรบกวนรอบบริเวณ อาหารไทย อิตาเลี่ยน ซีฟู๊ด แล้วแต่จะจัด แต่ฉันต้องการดินเนอร์ส่วนตัวที่ห้องเท่านั้น” ชานนท์ได้แต่มอง ดวงตาคมหรี่มองอย่างหงุดหงิด เมื่อเอรินเอาแต่เขียนรายการตามที่เขาสั่ง“คนรวยก็งี้ละนะ ต่อเลยค่ะ ต้องการอะไรอีกคะ”“วิลล่าขอแบบสองห้องนอน เธอจะได้สบายใจว่าไปกับฉันแล้วจะปลอดภัย” เขาตอบและรอดูท่าที เอรินชะงักไปครู่ก่อนจะพึมพำ“ปลอดภัยตรงไหนกัน คอยแต่จะเอาเปรียบ” หญิงสาวเบะปาก “ต่อเลยค่ะ”“เธอ...” คราวนี้ได้ผล เอรินเงยหน้าขึ้นสบตา เจอรอยย
เอรินกระโดดโลดเต้นทันทีที่ฟังข่าวดีจากแม่ว่าจะได้ทำหน้าที่ไกด์ให้แขกเป็นครั้งแรกด้วยค่าตอบแทนสูงลิบลิ่ว หญิงสาวผู้รักทะเลยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดจูบบัตรมัคคุเทศก์ทั้งสองใบที่ไปเคลือบมาใหม่เอี่ยมแรงๆ ใบละทีสองที ก่อนจะชูให้พ่อกับแม่ดูอย่างตื่นเต้น “แม่จ๋าในที่สุดหนูก็จะได้เป็นไกด์ครั้งแรกกับเค้าซะที แม่ว่าแขกวีไอพีของหนูนี่รวยจนเพี้ยนรึเปล่าถึงได้จ้างซะแพงเชียว” “ว่าแขกเพี้ยนได้ยังไง พูดไม่เพราะสอนไม่จำ เลิกพูดคำวิบัติพวกนี้แม่ไม่ชอบ เป็นลูกผู้หญิงต้องรู้จักว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด” อติมาค้อนลูกสาวขวับใหญ่ เอรินถึงกับหน้ามุ่ย“ขอโทษค่ะ แต่คำก็ออกจะธรรมดาใครเขาก็พูดกัน ของแบบนี้มันต้องดูที่บริบทสิคะ หนูไม่ได้หมายความจริงๆ แบบนั้นซะหน่อย““แน่ใจนะว่าเราทำได้ แขกรายนี้เป็นผู้ชายอายุมากกว่าลูกเยอะ อย่าทำตัววุ่นวาย แล้วก็รักษาระยะห่างอย่าไปสนิทสนมมาก เราไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง” พัชระย้ำลูกสาวด้วยเรื่องที่ห่วง “แล้วที่พักก็จัดหาดูให้ดีที่ปลอดภัย รู้รักษาตัวรอดนะลูก”“แน่นอนค่ะ เอรินซะอย่างเอาตัวรอดได้สบายค่ะ งั้นหนูขอไปแอบดูแขกก่อนว่าเป็นยังไง”หญิงสาววิ่งวุ่นไปทั่วหากระดาษปากกาเตร
สองสามีภรรยาสบตากันสีหน้าหนักใจ ก่อนที่อติมาจะเสนอทางเลือกให้“ถ้าหากคุณไม่ว่าอะไร ลูกสาวฉันเพิ่งสอบผ่านมัคคุเทศก์ทางทะเลมาหมาดๆ แกจะมีเวลาว่างอยู่สักประมาณเดือนสองเดือนค่ะ พอดีว่าบริษัทที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนยังไม่ลงตัวดี ให้แกเป็นไกด์ให้คุณได้ไหมคะ ถ้าหากไม่ถือว่าเป็นผู้หญิงยังเด็กและประสบการณ์น้อย”“จะดีหรือแม่” พัชระขัด “พ่อว่าค่อยหาคนอื่นเถอะ เดี๋ยวพ่อถามเพื่อนให้” “โอกาสดีๆ แบบนี้หายาก แขกดูใจดีออกจะตาย” อติมาส่งสายตาปรามและแย้งขึ้นทันทีไม่ให้สามีพูดต่อ “ถ้ายังไงป้าจะลองถามลูกดูอีกทีนะคะ” คำตอบแบ่งรับแบ่งสู้จากอแม่ของเอริน ทำให้ชานนท์ถึงกับลอบยิ้มออกมาอย่างสมใจ “ตกลงครับ ขอเวลาแค่ห้าวันเพราะผมมีงานต่อที่กรุงเทพ มีค่าตอบแทนให้ห้าหมื่นบาทตลอดการเดินทาง ส่วนเรื่องสวัสดิภาพของเธอผมรับรองด้วยเกียรติครับ” ชานนท์พูดเสียงหนักแน่น “ดีเหมือนกันเพราะผมก็อยากได้มุมมองในส่วนของผู้หญิงบ้างว่าเป็นยังไง” “งั้นก็ดีเลยค่ะ แกอาจจะยังไม่เก่ง แต่ขยันมาก รับรองว่าคุณจะไม่เสียเงินเปล่าแน่นอนค่ะ” อติมาสีหน้าแช่มชื่นขึ้นทันตา แขกกระเป๋าหนักดูภูมิฐานเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่พ
ชานนท์กระชับอ้อมกอดที่มีเจ้าตัวกลมเนื้อหนั่นแน่นไว้เต็มสองแขน ก่อนจะพากันลงไปด้านล่าง อาร์มหัวเราะคิกคักตลอดทางทั้งกอดทั้งหอมเอาใจ กว่าจะพากันลงมาถึงชั้นล่างก็พบสองสามีภรรยาหน้าตาตื่นยืนรออยู่ก่อนแล้ว สิมิลันคว้าตัวลูกมาอุ้มและรีบถามไถ่เอาความจากพี่ชายตัวดีในทันที หลังจากเอรินผลุนผลันกลับไปไม่ได้ร่ำลา “พี่นนท์ไปพูดอะไรกับเอรินคะ ทำไมเธอเหมือนร้องไห้” ชานนท์มองหาเอรินไปทั่วบริเวณบ้านแต่ก็ไม่พบจึงหันมาถามหา“ทำไมละ แล้วตอนนี้เอรินอยู่ไหน” “จะอยู่ไหนคะ เธอก็กลับไปแล้วนะสิ อยู่ดีๆ ก็ผลุนผลันออกไปเลย ดูเหมือนร้องไห้ด้วยนะพี่นนท์ไปทำอะไรหรือว่าอะไรเธอรึเปล่าคะ” “ก็แค่จะจูบน่ะ มันอดใจไม่ไหว” ชานนท์อ้อมแอ้มตอบหน้าตาแดงก่ำ “ห๊า!” สองสามีภรรยาอุทานพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย อธิปกถึงกับหลุดขำออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ “เฮ๊ย... พี่ทำไมปากไวงี้ ใครเค้าทำแบบพี่กันบ้าง ไม่เจอกันตั้งปี แทนที่จะคุยกันดีๆ กลับจะจูบเธอเฉยเลย” เอ่ยติงพี่ชายไม่ทันไร สิมิลันก็ถองเข้าที่สีข้างสามีเบาๆก็ได้ยินเสียงปรามจากภรรยากลับมา ก่อนจะบอก