สองเดือนผันผ่าน
“เถ้าแก่ กำไลนี่วางตรงไหนดีเจ้าคะ”
มือเรียวชี้ไปยังชั้นวางเครื่องประดับ ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม “ตรงนั้นก็แล้วกัน”
“เจ้าค่ะ”
ดรุณีน้อยรับคำจากนั้นเดินไปตำแหน่งดังกล่าว จูฟางหรงมองตามแผ่นหลังลูกจ้างคนสนิท นางมีนามว่า ลี่ซือ ทั้งรูปร่างและใบหน้าจิ้มลิ้มคล้ายกับเป่าชุนไม่มีผิด ยิ่งมองก็ยิ่งคะนึงถึงสาวใช้คนสนิทเมื่อครั้งอยู่ในตำแหน่งพระชายา
ทว่ายามนี้จูฟางหรงไม่อาจหวนกลับไปยังจุดเดิมได้อีกแล้ว แม้ภายในใจยังเกิดคำถามต่อวาจาของหลงโหย่วอี้ในคืนฝนพรำยามเกิดศึกชิงบัลลังก์ครานั้น แต่จูฟางหรงกลับเลือกเก็บมันเอาไว้เป็นเพียงปริศนาที่ไม่ต้องการคำตอบต่อไป
คำพูดกำกวมเช่นนั้น ไยต้องมารบกวนชีวิตข้าด้วย!
จูฟางหรงสลัดศีรษะเสียจนเส้นผมแตกกระเจิง
“หรงเอ๋อร์ ทำอะไรของเจ้า”
เสียงทุ้มดังมาจากทางหน้าร้าน เขาหาใช่ใครอื่น แต่คือถังซือหง จูฟางหรงและถังซือหงตัดขาดจากหอหงฮวาเป็นที่เรียบร้อย ทั้งสองจึงมุ่งเดินทางข้ามผ่านแม่น้ำฝูเหยามาใช้ชีวิตและตั้งรกรากใหม่ที่เมืองฝูเหยา
จูฟางหรงเปิดร้านเครื่องประ
จูฟางหรงดีดแข้งดีดขาอยู่นานก็ไม่อาจต้านทานไหว กระทั่งเข้ามาถึงด้านใน เขาจึงปล่อยนางให้เป็นอิสระ“ท่านอ๋อง ทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมนะเพคะ” จูฟางหรงวิ่งวนไปยังอีกด้านของเตียงนอน นางไม่รู้ว่าเขาจะบ้าดีเดือดใดขึ้นมาอีกหรือไม่ เพราะยามปกติจูฟางหรงอยู่ใกล้เขาคราใดนางก็ต้องเจ็บตัวครานั้น หนนี้นางจะไม่ยอมเป็นทาสรองมือรองเท้าเขาอีกแล้ว“หรงเอ๋อร์ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเจ้า แต่ที่บอกไม่เหมาะสมก็ไม่ถูกต้อง เราทั้งสองเป็นสามีภรรยากันไม่ใช่หรือ”จูฟางหรงแค่นยิ้ม “ที่หม่อมฉันยอมแต่งกับพระองค์เพราะภารกิจงี่เง่าของหอหงฮวาต่างหาก อีกอย่าง ขณะที่หม่อมฉันพยายามเข้าหา ท่านอ๋องก็เอาแต่ผลักไสหม่อมฉัน ซ้ำยังต่อว่าด่าทอสารพัด แล้วมายามนี้ท่านยังรังแกหม่อมฉันไม่สาแก่ใจอีกหรือเพคะ ไยจึงไม่คิดบ้างว่าจูฟางหรงคนเดิมนั้นตายไปแล้ว”“ยัยตัวยุ่ง ฟังพี่ชายคนนี้ก่อนไม่ได้หรือ เรื่องที่ผ่านมาข้าผิด เป็นข้าที่ทำผิดพลาดทั้งหมด”“ใครเป็นน้องของพระองค์ หม่อมฉันไม่เข้าใจว่าท่านอ๋องจะมาตามวุ่นวายหม่อมฉันไปทำไม”“เพราะเจ้าส
“อ้อ…ที่ตามหานางเพียงเพราะต้องการหย่างั้นหรือ เช่นนั้นท่านก็ไม่จำเป็นต้องถ่อมาเองก็ได้ ท่านเกรงว่าตนจะไม่สามารถมีชายาใหม่ได้งั้นหรือ” ถังซือหงจงใจทำลายความประดักประเดิดไม่นานสตรีร่างเล็กก็ตามออกมา“พี่หญิงเกิดเรื่องอะไรเจ้าคะ”จูฟางหรงส่ายศีรษะ “ไม่มีอะไร อาซือ เจ้าไปรอที่หลังร้านเถอะนะ”ดูจากสีหน้าของทุกคนคร่ำเคร่งเป็นอย่างมาก ลี่ซือจึงไม่อยากเซ้าซี้ต่อ นางเดินจากไปอย่างเชื่อฟัง “เจ้าค่ะ”จูฟางหรงจึงกลับมาสนใจบุรุษตรงหน้าต่อ นางแตะไหล่ถังซือหงเบา ๆ “ศิษย์พี่ เรื่องนี้ข้าจัดการเองเจ้าค่ะ”“แต่เขา…”จูฟางหรงส่ายหน้า “ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าเชื่อว่าเราจะเจรจากันอย่างสันติ” จูฟางหรงผินหน้าไปยังบุรุษตัวสูงฝั่งตรงข้าม “จริงหรือไม่เจ้าคะ ท่านอ๋อง”หลงโหย่วอี้พยักหน้า เขายังคงเขม้นมองถังซือหงอย่างไม่พอใจ นางยังเป็นชายาของเขา ไยจึงอาศัยอยู่กับบุรุษอื่นชายผู้นี้คงมิใช่สามีใหม่นางกระมัง หรงเอ๋อร์ เจ้าต้องหยามน้ำใจข้าเพียงนี้เชียวหรือ“ท่านอ๋อง พระองค์คงอยากมาคุยเรื่องหย่ากับหม่อมฉัน”หล
สองเดือนก่อนหน้าหลงโหย่วอี้หมดสติหลังจากยึดบัลลังก์มาได้เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ระหว่างที่บัลลังก์มังกรไม่อาจจัดสรรได้อย่างลงตัว ทุกคนจึงรอให้เขาคืนสติทว่าบ้านเมืองไม่อาจขาดผู้นำ เพราะไทเฮาไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำของฮ่องเต้องค์ก่อน เหล่าขุนนางจึงเห็นพ้องให้ไทเฮาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้พระองค์ใหม่ชั่วคราวไทเฮาจึงกัดฟันประคองบัลลังก์รอจนกว่าโอรสเพียงหนึ่งของตนจะฟื้น ช่วงเวลาที่หลงโหย่วอี้หมดสติ บรรดาโอรสของเหล่าสนมจึงร่วมมือกันหมายช่วงชิงบัลลังก์แต่ถึงแม้หลงโหย่วอี้กลายเป็นองค์ชายนิทรา เขาก็ยังมีองครักษ์ผู้ภักดีอย่างเฉินกงคอยคุ้มกันอีกอย่างตรากิเลนเพลิงก็สามารถควบคุมเหล่าทหารได้ทั้งกองทัพด้วยเหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินไทเฮา และจำใจต้องรอฮ่องเต้พระองค์ใหม่อย่างยอมจำนน“อี้เอ๋อร์ ฟื้นแล้วหรือลูก” ไทเฮาผู้งามสง่า บัดนี้ใบหน้าดูซูบตอบลงไปมาก พระนางเทียวไปเทียวมาตำหนักของหลงโหย่วอี้ทุกวัน เพราะต้องสูญเสียโอรสเนื่องจากศึกสายโลหิตไทเฮาก็ยิ่งตรอมใจ“เสด็จแม่” เสียงทุ้มแหบพร่าสั่นเครือไทเฮาเหลียวไปสั่งการ “เอาน้ำม
สองเดือนผันผ่าน“เถ้าแก่ กำไลนี่วางตรงไหนดีเจ้าคะ”มือเรียวชี้ไปยังชั้นวางเครื่องประดับ ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม “ตรงนั้นก็แล้วกัน”“เจ้าค่ะ”ดรุณีน้อยรับคำจากนั้นเดินไปตำแหน่งดังกล่าว จูฟางหรงมองตามแผ่นหลังลูกจ้างคนสนิท นางมีนามว่า ลี่ซือ ทั้งรูปร่างและใบหน้าจิ้มลิ้มคล้ายกับเป่าชุนไม่มีผิด ยิ่งมองก็ยิ่งคะนึงถึงสาวใช้คนสนิทเมื่อครั้งอยู่ในตำแหน่งพระชายาทว่ายามนี้จูฟางหรงไม่อาจหวนกลับไปยังจุดเดิมได้อีกแล้ว แม้ภายในใจยังเกิดคำถามต่อวาจาของหลงโหย่วอี้ในคืนฝนพรำยามเกิดศึกชิงบัลลังก์ครานั้น แต่จูฟางหรงกลับเลือกเก็บมันเอาไว้เป็นเพียงปริศนาที่ไม่ต้องการคำตอบต่อไปคำพูดกำกวมเช่นนั้น ไยต้องมารบกวนชีวิตข้าด้วย!จูฟางหรงสลัดศีรษะเสียจนเส้นผมแตกกระเจิง“หรงเอ๋อร์ ทำอะไรของเจ้า”เสียงทุ้มดังมาจากทางหน้าร้าน เขาหาใช่ใครอื่น แต่คือถังซือหง จูฟางหรงและถังซือหงตัดขาดจากหอหงฮวาเป็นที่เรียบร้อย ทั้งสองจึงมุ่งเดินทางข้ามผ่านแม่น้ำฝูเหยามาใช้ชีวิตและตั้งรกรากใหม่ที่เมืองฝูเหยาจูฟางหรงเปิดร้านเครื่องประ
บุรุษร่างสูงสง่าทั้งสองฝั่งย่างกรายไปบนพื้นธุลีอันเปียกชุ่ม หยาดพิรุณร่วงหล่นโดยไร้ท่าทีหยุดหย่อน เจ้าของใบหน้าวสันต์ซีดเซียวเพราะไอเย็นกำลังกัดลึกกร่อนกระดูก“หลงโหย่วอี้ เจ้ายอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ แล้วข้าจะละเว้นชีวิตเจ้า”ริมฝีปากได้รูปกดลึกเป็นรอยยิ้ม “ฝ่าบาท ท่านเร่งร้อนจริง ๆ ยี่สิบแปดปีที่ข้าเติบโตมา ต้องขอบคุณที่พระองค์เฝ้าถนอมอย่างดี แม้จะลอบส่งโอสถเร่งไอเย็นในกายข้าช้า ๆ แต่ข้าจะถือว่าเป็นน้ำใจจากพี่น้อง”“เจ้ารู้งั้นหรือ”“ข้ารู้ตั้งนานแล้วล่ะ”เคร้ง!กระบี่เพลงแรกได้เริ่มต้น หลงอี้เซียวขบฟันแน่นเสียจนสันกรามนูนเด่น จากท่าทีเดือดดาลก็เหยียดยิ้มเยาะหยัน“รู้แล้วอย่างไร ดูเจ้าสิสั่นเป็นเจ้าเข้า เรี่ยวแรงจับกระบี่ยังถดถอยไร้กำลังเพียงนี้ ยังคิดต่อกรกับข้าไม่เจียมกะลาหัว แม่ทัพไร้พ่ายอะไร เจ้ามันก็ลูกสุนัขตัวหนึ่ง!”จากบทเพลิงเนิบนาบก็แปรผันเป็นดุดัน เท้าแกร่งเดินฉึบฉับเข้าปะทะร่างสูง หลงโหย่วอี้ถอยร่นตั้งรับตามจังหวะการฟาดฟันของอีกฝ่ายเฉินกงหวั่นวิตก
“หรงเอ๋อร์ เป็นอะไรไป”จูฟางหรงส่ายศีรษะ พยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้ง “เปล่าเจ้าค่ะ ศิษย์พี่ ข้าว่าเราไม่ต้องยุ่งเรื่องของพวกเขาแล้วดีกว่า ถึงอย่างไรหากโหย่วอี้อ๋องทำสำเร็จก็ถือว่าข้าได้ล้างแค้นให้ครอบครัวโดยไม่ต้องเปลืองแรง ข้าคิดว่านับจากนี้ข้าจะออกไปใช้ชีวิตใหม่ เปิดร้านเครื่องประดับเล็ก ๆ หากินตามประสาหญิงชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง”ถังซือหงเองก็เล็งเห็นว่าการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไปล้วนไปก่อเกิดประโยชน์ใด ในเมื่ออาจารย์ที่เขาเคารพเพียงหนึ่งก็ถูกสังหารจนตายจากแล้ว หอหงฮวาถูกหลงโหย่วอี้กวาดล้างจนสิ้น เขาเองก็ตัดสินใจหนีออกมา เช่นนั้นถังซือหงก็เห็นควรต้องวางมือเสียที“ได้…เช่นนั้นเรากลับกันเถิด”จูฟางหรงและถังซือหงถอยหลังทีละก้าว แต่ละการเคลื่อนไหวเบาหวิวประหนึ่งเท้าแมว จูฟางหรงกวาดสายตาสำรวจสีหน้าคร่ำเคร่งของหลงโหย่วอี้ จู่ ๆ อกซ้ายของนางก็กระเพื่อมไหวอย่างน่าประหลาดข้ารู้สึกคุ้นตาเขาอะไรยามนี้นะ ตอนอยู่ด้วยกันทุกวันไม่เห็นรู้สึก ช่างเถิด จอมปีศาจเช่นเขาควรอยู่ห่างไว้ย่อมดีแล้วไม่ใช่หรือ ยามนี้เขากำลังคิดยึดบัลลังก์ อย่างน้อยก็ถือว่าเ