ภาสกรมองเพื่อนทั้งสองก่อนจะกระแอมเมื่อประตูห้องฉุกเฉินเปิดแล้วแต่คนทั้งคู่ยังคงมองตากันอยู่อย่างหวานซึ้ง ชายหนุ่มใจสายมองค้อนคนทั้งคู่ก่อนจะรีบเดินไปสอบถามอาการของคนเจ็บทันทีที่คุณหมอก้าวออกมา
“คุณหมอครับ น้องของพวกผมปลอดภัยแล้วใช่มั้ยครับ”
“ปลอดภัยดีแล้วค่ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
“ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อยครับ ผมเห็นหมอเข้าไปตั้งสองคน ก็เลยกังวลแทบแย่” ภาสกรพูดแล้วก็เป่าปากโล่งใจ ศศิรินทร์เองก็พลอยยิ้มไปด้วย ทว่าพอคนเป็นหมอพูดต่อรอยยิ้มโล่งใจก็ต้องหุบฉับเปลี่ยนเป็นความตกใจในทันที
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีคนไข้ตั้งครรภ์อยู่ เราก็เลยเรียกหมอสูติฯมาตรวจด้วยน่ะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ทั้งคุณแม่และคุณลูกปลอดภัยทั้งคู่ค่ะ”
“อะ อะไรนะคะ ตะตั้งครรภ์”
“ค่ะ คนไข้กำลังตั้งครรภ
ตาคู่คมจดจ้องมองเสื้อตัวแล้วตัวเล่าที่ถูกนำมาทาบตัวก่อนจะถอนใจเบา ๆ หลังจากนั่งเล่นจนเกือบค่ำศศิรินทร์ก็ลากเขามาที่ร้านเสื้อผ้าผู้ชายโดยไม่ฟังคำปฏิเสธใด ๆ แล้วยังสนุกกับการหาเสื้อมาให้เขาตัวแล้วตัวเล่า“ตัวนี้ก็ไม่ถูกใจเธอเหรอ”“เปล่า ถูกใจมากต่างหากล่ะ” หญิงสาวตอบก่อนจะแสดงสีหน้าหนักใจให้ได้เห็นก่อนจะพูดต่อ “แต่ถูกใจทั้งหมดเลย เลือกไม่ถูกเลยเนี่ย”“งั้นก็เอาตัวนี้”“เดี๋ยว... เอานี่ด้วย นี่ก็ด้วย” ไม่เพียงแค่พูดหญิงสาวยังหยิบชุดที่เลือก ๆ ไว้ขึ้นมาอีกหลายตัวยื่นให้พนักงานของร้าน“เยอะเกินไป”“ไม่เยอะ เราซื้อไหว”“แต่เราจะซื้อเท่าที่เราซื้อไหว” ชายหนุ่มโต้แย้งพร้อมกับหยิบขึ้นมาเพียงสองตัว “
กว่าพายุอารมณ์จะมอดดับลงก็เที่ยงซะแล้ว ศศิรินทร์นั่งหน้ามุ่ยหันหลังให้คนที่สัญญาดิบดีว่าจะไม่สายแต่ก็เข้าอีหรอบเดียวกับตอนเจอกันครั้งแรก ธุระในช่วงสิบโมงเช้าถูกพับเก็บไปอย่างช่วยไม่ได้“งอนอะไรขนาดนั้น แค่ไปดูหนังเองไม่ใช่เหรอ” เขาถามพร้อมกับยื่นแขนมาโอบกอดคนงอน “ไว้เราค่อยไปกันครั้งหน้าก็ได้”“ฮึ”“เอางี้มั้ย เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันแล้วก็ไปเดินเล่นกัน ยังมีเวลาช่วงบ่ายจนถึงค่ำเลยนะ เธออยากไปไหนเราจะไปกับเธอทุกที่เลย”“แน่ใจนะ” คนงอนถามเพื่อความมั่นใจ ยังไม่ได้หายโกรธที่เขาทำให้พลาดธุระสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะขุ่นเคืองมากมายอะไร ก็แค่ภาสกรซื้อตั๋วหนังเอาไว้ให้เมื่อคืนวานนี้เพื่ออยากให้วันนี้เธอกับเขาได้ออกไปเดตกันทดแทนที่ไม่ได้ไปหาครอบครัวจริง ๆ แล้วแค่อยู่ด้วยกัน ที่ไหนก็ถือว่าเป็นก
รังสิมันตุ์เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างแตกต่างหากเทียบกับผู้ชายหลาย ๆ คนที่อยู่รอบตัวของศศิรินทร์ เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์และอบอุ่น และในบางมุมก็เหมือนเป็นผู้ชายร้อนแรงในดวงตาคู่นั้นมีประกายความอยากครอบครอง แต่เขากลับไม่ใช่ผู้ชายที่เอาแต่ใจยัดเยียดความต้องการโดยไม่สนใจความรู้สึก นอกจากเรื่องในคืนนั้นหญิงสาวพูดได้เต็มปากเลยว่ารังสิมันตุ์ไม่เคยมีท่าทีคุกคามเลยแม้แต่นิดแม้แต่การชักนำให้เธอเผลอไผลเขาก็ยังไม่ทำ ราวกับว่าเขาอยากให้เธอได้มีเวลาทำความคุ้นชินกับการมีเขาอยู่มากกว่านี้อีกนิดอย่างไรอย่างนั้นตาคู่หวานจ้องมองใบหน้าของคนที่วันนี้ตื่นสายกว่าพร้อมกับอมยิ้ม รังสิมันตุ์เป็นผู้ชายหล่อ หล่อจนเธอเผลอคิดว่าเขาไปศัลยกรรมมาหรือยังไงแต่อีกเสียงในใจก็ค้านหัวชนฝาว่าหน้าตาแบบนี้คือธรรมชาติ ไม่มีส่วนไหนปลอมเลยสักนิดคิดขึ้นมาเรื่องปลอมไม่ปลอมมือไม้ของหญิงสาวก็เริ่มอยู่นิ่งไม่ได้ นิ้วเรียวสวยเอื้อมไปสัมผัสกับปลายจมูกโด่งก่อนจะรีบยกขึ้นร
ไฟภายในห้องชุดสุดหรูสว่างขึ้นพร้อม ๆ กับที่ประตูห้องถูกเปิดออก รังสิมันตุ์กวาดตามองไปทั่วบริเวณก่อนจะก้าวเข้ามาภายในห้องด้วยใบหน้าคิดหนัก อยู่ ๆ ศศิรินทร์ก็บอกว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศแล้วพาเขามาที่นี่ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมหรูที่มีชื่อคล้ายกับคอนโดมิเนียมที่หญิงสาวอาศัยอยู่ ไม่บอกเล่าอะไรสักคำทำเพียงชักชวนเขาเข้ามาในห้องไม่ต้องคาดเดาชายหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่าห้องนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นทรัพย์สินของเธอเขาเคยคิดว่าจะไม่ปล่อยให้ความต่างเรื่องฐานะมาเป็นปัญหา แต่เขาชักจะเครียดขึ้นมาแล้วสิ…เธอรวยเกินกว่าเขาจะเอื้อมถึงหรือเปล่านะ“คิดอะไรอยู่”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยสอบถามพร้อมกับวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ “เธอเป็นอะไร หรือว่าไม่สบาย”“เปล่าหรอก” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ พยายามเก็บสิ่งที่คิดเอาไว้พร้อมกับหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม ศศิรินทร์จ้องมอง
เพราะลางานเอาไว้รังสิมันตุ์เลยกลายเป็นสารถีของสาว ๆ ในเช้าวันใหม่ที่ศศิรินทร์คะยั้นคะยอให้กฤติกาไปฝากครรภ์ และเพราะศศิรินทร์และภาสกรเห่อหลานเช้านี้เขาจึงแทบไม่ได้พูดคุยกับศศิรินทร์เลยเพราะสาว ๆ เอาแต่พูดคุยกันเรื่องของเจ้าตัวเล็กในท้องของกฤติกาที่คุณหมอบอกว่าเป็นฝาแฝด หนึ่งคนก็เห่อสุด ๆ แล้ว นี่มีถึงสอง กฤติยาจึงแทบจะถูกสองรุ่นพี่ประคมประหงมจนหายใจยังลำบาก“กลับเลย...”“ซัน รู้จักหมู่บ้าน...มั้ย” ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะถามจบศศิรินทร์ก็ถามขัดขึ้นมาซะก่อนพร้อมกับบอกชื่อหมู่บ้านซึ่งเป็นสถานที่ที่เธออยากจะรู้ว่าเขารู้จักหรือไม่“ไม่รู้จัก ทำไมเหรอ”“เราจะไปที่นั่นน่ะ มีธุระที่นั่น ถ้าเธอรู้จักจะได้ไปเลย แต่เธอไม่รู้จักเดี๋ยวเราบอกทางเอง”“พี่โซ่จะไปทำธุระอะไรคะ” คำตอบของศศิรินทร์ทำให้ทุกค
ภาสกรและกฤติกาแยกย้ายกลับไปแล้วภายในห้องก็เหลือเพียงเจ้าของห้องกับแขกที่ไม่เหมือนแขกเท่านั้น สายตาคู่หวานจ้องมองนายตำรวจหนุ่มหุ่นล่ำที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาล้างจานอยู่พร้อมกับอมยิ้ม สมองก็เผลอจินตนาการพล็อตนิยายที่มีฉากสำคัญเป็นฉากตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินผู้ชายที่อาสาล้างจานโดยไม่มีท่าทีฮึดฮัดหรือคิดว่าไอ้งานประเภทนี้ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชายนับได้ว่าหายาก ถ้าเป็นในนิยายเขาจะต้องเป็นพระเอกในฝันของนักอ่านแน่ ๆแต่น่าเสียใจที่...เขาเป็นพระเอกตัวจริงของนักเขียนอย่างเธอเท่านั้นเธอจะไม่เอารังสิมันตุ์ไปเป็นพระเอกในนิยายให้นักอ่านได้หลงรักแน่ไม่มีวันซะหรอก!!!“แฮ่ม” เขากระแอมพร้อมกับส่งสายตายียวน ก่อนจะพูดต่ออย่าง ขบขัน “ยืนคิดอะไรมิดีมิร้ายกับเราอยู่หรือเปล่าเนี่ย อย่านะ อย่า...ลูกเขามีพ่อมีแม่นะ”