เซียนอวี่พาหมิงหานนั่งซ้อนจักรยานที่ตัวเองปั่นกลับบ้าน ตลอดทั้งเส้นทางหมิงหานนั่งตัวเกร็งจนแทบจะเป็นตะคริว เขาก็ไม่ใช่ตัวเล็ก ๆ เซียนอวี่ก็ไม่ใช่คนตัวใหญ่อะไร น่ากลัวว่าเราสองคนจะเกิดอุบัติเหตุก่อนกลับถึงบ้านเสียจริงแต่เซียนอวี่ก็สามารถพาเอาสามีตัวใหญ่กลับมาถึงบ้านได้ในที่สุด เธอปั่นจักรยานจนเหนื่อย พอถึงบ้านก็ไม่สนแล้วว่าจักรยานจะได้ใส่แม่กุญแจหรือเปล่า เธอเดินเข้าบ้านไปนอนแผ่กลางบ้านอย่างไม่คิดเหนียมอายส่วนทางหมิงหานที่ถูกภรรยาทิ้งไว้หน้าประตูบ้านก็เอาแต่ยืนนิ่ง เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลย ว่าบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านของเขา บ้านที่เซียนอวี่ใช้เงินของตัวเองสร้างขึ้นมาทั้งหมด มันดูดีมาก ดูดีกว่าบ้านหลังไหน ๆ ในหมู่บ้านเลยด้วยซ้ำ แถมเธอยังถึงกับซื้อจักรยานคันใหม่เพื่อพาเขาไปกลับระหว่างหมู่บ้านกับโรงพยาบาลอีกต่างหากในตอนที่เขากำลังจะเข้าไปในตัวบ้าน เสียงคุ้นหูกลับเรียกเขาเอาไว้ก่อน มองไปหน้ารั้วบ้านก็เห็นว่าเป็นใครที่มาเรียกเขาเอาไว้ หมิงหานถอนหายใจ ก่อนจะใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองให้ไปหน้ารั้วบ้าน“มีเรื่องอะไร” เขาไม่คิดจะเปิดประตูให้คนคนนี้เข้ามาในบ้าน อย่างไรบ้านหลังนี้ก็เป็นของเซีย
ใช้เวลาอยู่เกือบเดือน หมิงหานถึงรักษาตัวได้หายดี อันที่จริงหมออนุญาตให้เขากลับบ้านได้นานแล้ว แต่เป็นเซียนอวี่ที่ยืนยันว่าให้รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลต่อ หนึ่งเลยคือบ้านยังสร้างไม่เสร็จ สองคือการอยู่ในโรงพยาบาลต่อทำให้หมิงหานได้พักฟื้นร่างกายเต็มสิบส่วน เพราะเธอไม่เชื่อ ว่าคนอย่างเขาจะยอมไปนอนพักอยู่บ้านเฉย ๆ แน่นอน“รักษาตัวให้เต็มที่เถอะ ถ้ารีบออกไปก็ไม่ใช่ว่าจะหายดีเสียหน่อย ไม่สู้รักษาตัวให้หายดีจริง ๆ แล้วค่อยไปหาทางต่อ” อีกอย่าง เธอไม่อยากให้คนอื่นมายุ่งวุ่นวายกับเธอและเขามากถ้าคนบ้านเหยารู้ว่าหมิงหานไม่ได้บาดเจ็บหนักอย่างที่พวกเขาคิด คงจะเป็นเรื่องยุ่งยากที่ต้องตามเช็ดตามแก้อีกแน่นอน ขนาดทุกวันนี้ยังเริ่มเข้ามายุ่งวุ่นวายที่บ้านใหม่หลายรอบแล้ว เธอต้องไปขอร้องหัวหน้าหมู่บ้านว่าให้ไปตักเตือนฝั่งนั้นว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายที่บ้านของตน คนพวกนั้นถึงได้หยุดเสนอหน้ามาแต่หยุดมาก็ไม่ได้แปลว่าไม่มายุ่งแล้ว บ้านเหยายังคงมาชะเง้อคอมองเวลาที่เธอไม่อยู่ตลอด เรื่องนี้ช่างที่มาทำบ้านให้เอามาบอกเธอทุกวันที่ไปตรวจงาน เธอเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนพวกนั้นไม่ได้ก้าวเข้ามาในเขตบ้านของเธอแม้ครึ่งก้าวไม่น
“ไม่ใช่อย่างที่ว่าแล้วมันยังไง” อย่าคิดว่าหมิงหานจะขี้โมโหคนเดียว เธอก็เป็นคนอารมณ์ร้อนขี้โมโหคนหนึ่งเหมือนกัน ที่เห็นใจเย็นอยู่ทุกวันนี้คือควบคุมตัวเองตลอดเวลา ถ้าหลุดใช้อารมณ์มากเกินไป กลัวว่าอดีตมันจะซ้ำรอย“ฉันกลัวจะดึงรั้งเธอ เธอเป็นคนที่มีอนาคต ไม่เหมือนฉัน ฉันเรียนไม่จบด้วยซ้ำ แค่พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น งานที่ถนัดก็เป็นงานใช้แรงงาน เธอจะให้ฉันกล้ารั้งเธอได้ยังไงล่ะ”“พูดเรื่องอะไรไร้สาระ ฉันรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไร ส่วนเรื่องอนาคต ก็แค่มีนายอยู่ข้าง ๆ ในอนาคตด้วย ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร หรือว่านายมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เอ้ะ คนรักล่ะ มีหรือเปล่า”หมิงหานได้แต่ส่ายหน้า เขาไม่ได้มีใคร แม้ว่าจะมีผู้หญิงมาชอบเขาหลายคน คงเพราะทำงานเก่ง หาเงินเข้าบ้านได้เยอะ แต่ก็ไม่มีใครที่เขาอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตสักคน ส่วนเซียนอวี่ ถ้าพูดตามตรง...เขาไม่เคยคิดเรื่องนั้นกับเธอมาก่อนการต้องอยู่กับใครสักคนไปจนแก่เฒ่า มันไม่ใช่ว่าจะเลือกใครสุ่มสี่สุ่มห้า แต่พอลองคิดว่าตัวเองจะต้องอยู่กับเซียนอวี่ไปจนแก่ เขาก็ไม่ได้รู้สึกปฏิเสธแต่อย่างใด“เห้อ แล้วสรุปจะตกลงหรือเปล่า ละ ลองเป็นคนรักกันก่อนก็ได้ แต่ว่า!
เซียนอวี่ใช้เวลาเฝ้าหมิงหานอยู่หนึ่งวันเต็ม ๆ กว่าเขาจะตื่นขึ้นมา โชคดีที่เธอปฐมพยาบาลให้เขาก่อน พอมาถึงมือหมอเลยสามารถรักษาเขาได้ทันท่วงที แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะหายเป็นปกติเลย อาจจะต้องพักฟื้นอีกหลายเดือน ไหนจะต้องมาติดตามอาการกับหมอที่โรงพยาบาลบ่อย ๆ พูดตามตรงว่าถ้าไม่มีเงินจริง ๆ คงไม่มีใครคิดจะมาตามรักษาต่ออย่างแน่นอน“เจ็บแผลอยู่มั้ย” หมิงหานมองเด็กสาวที่ตนเองเคยช่วยชีวิตไว้ด้วยความมึนงง เขาจำได้ว่าตัวเองบาดเจ็บหนัก จากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย เหมือนทุกอย่างมันเป็นความฝันไปหมด“...เจ็บ แต่ไม่มากหรอก แล้วนี่” สายตาของเขากวาดไปทั่วห้อง ที่นี่น่าจะใช้เงินพอสมควรเลย ลำพังตัวเขาคงไม่มีปัญญามารักษาที่นี่ด้วยตัวเอง กับที่บ้านก็คงจะไม่ส่งเขามา คงเป็นคนข้าง ๆ ที่พาเขามาอย่างแน่นอน“ไม่เจ็บก็ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปตามหมอมาดูอาการอีกสักหน่อย ให้นายนอนพักอีกสักวันสองวัน รออยู่นี่นะ” ว่าจบเซียนอวี่ก็ลุกไปเลยทันที ไม่ทันที่หมิงหานจะได้รั้งหรือห้ามแม้แต่คำเดียวพอหมอมาดูอาการ หมิงหานก็หลับไปอีกหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆ เซียนอวี่จึงได้ถือโอกาสกลับหมู่บ้าน เธอต้องรีบไปจัดการเรื่องที่ทำค้างไว้ให้เสร
ยายเฒ่าเหยาเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย เธอพอจะรู้ว่าเป็นเยาวชน เพราะหน้าตาและผิวพรรณไม่เหมือนเด็กสาวในหมู่บ้าน ออกจะดีกว่าทุกคนในกลุ่มเยาวชนหลายเท่าด้วยเซียนอวี่ไม่สนใจยายแก่เหยา เธอตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยเหลือหมิงหาน อย่างไรเขาก็เป็นผู้มีพระคุณของเธอหลายครั้ง ทั้งช่วยชีวิต ทั้งช่วยหาที่ทำกินให้ ช่วยเธอหลายครั้งแบบไม่ร้องขออะไรตอบแทนเลยด้วย ถ้าเธอไม่ตอบแทน ก็คงจะเนรคุณเกิดไปแล้วจริง ๆ“เอาล่ะ ๆ ตอนนี้หมิงหานกับบ้านเหยาตัดขาดกันแล้ว แล้วจะให้เขาไปอยู่ที่ไหน อย่างไรบ้านเหยาก็ควรจะแบ่งที่ทางให้หมิงหานบ้าง อย่าลืมว่าที่พวกแกมีกินมีใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเด็กคนนี้ทำงานหนักหาเลี้ยงทุกคน หมามันยังรู้จักสำนึกบุญคุณ ว่าอย่างไรเหล่าเหยา” เขาล่ะรังเกียจคนบ้านนี้จริง ๆ ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร จะทิ้งก็ไม่ว่าหรอก แต่นี่ไม่แม้แต่จะรักษา“เอาที่ตรงติดริมน้ำตกไปนู้น ที่ตรงนั้นไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรอยู่แล้ว แถมยังมีบ้านหลังเล็ก ๆ ให้ซุกหัวนอนด้วย ฉันให้ได้เท่านี้แหละ อ่อ แล้วก็ให้ไปแต่ตัวเปล่าล่ะ ของในบ้านตระกูลเหยา ห้ามหยิบไปแม้แต่ชิ้นเดียว”ยิ่งได้ฟังเซียนอวี่ก็ยิ่งโมโห เธออยากจะควักหัวใจของยายเฒ่านี่ออ
เซียนอวี่มองตามร่างของหมิงหานที่โชกไปด้วยเลือดกำลังถูกแบกเข้ามาในโถงบ้าน เหล่าเยาวชนต่างถดถอยหนีด้วยความหวาดกลัว พวกเขากอดกันกลมด้วยความหวาดกลัว มีแต่เซียนอวี่ที่ยืนมองด้วยสีหน้าตกใจสุดขีดเหยาหมิงหานในสายตาของเธอคือคนที่แข็งแรง เขาจัดการหมูป่าตัวใหญ่ ๆ ได้อย่างสบายมือ งูมีพิษก็จับได้เหมือนปอกกล้วย แล้วทำไม...ทำไมตอนนี้เขาถึงนอนนิ่งโดยที่ทั้งตัวเปื้อนไปด้วยเลือดล่ะ“เด็ก ๆ ถอยออกไปก่อน เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมหมิงหานเป็นแบบนี้ ไปตามหมอมา” หัวหน้าหมู่บ้านหันไปสั่งกลุ่มเยาวชน ก่อนจะบอกให้เขาเอาร่างของหมิงหานวางลงบนพื้น ปิดท้ายด้วยการสั่งให้คนไปตามหมอที่น่าแปลกก็คือ หมอที่ว่าเป็นคนแซ่เหยาเหมือนกัน เป็นย่าของหมิงหาน หญิงชราเป็นหมอเท้าเปล่าที่คนในหมู่บ้านไปรักษาตัวด้วยเวลาป่วยและไม่มีเงิน ทำไมยายเฒ่าเหยาถึงไม่รักษาหลานตัวเอง“หัวหน้าหมู่บ้าน พวกฉันไปหาหมอเหยามาแล้ว หมอเหยาบอกว่ารักษาไม่ไหว ให้พาไปโรงพยาบาลในเมืองแทน พวกฉันเลยรีบพามาที่นี่นี่แหละ” การจะพาหมิงหยุนเข้าเมืองในเวลาแบบนี้มันไม่ง่าย อย่างไรก็ต้องเข้าเมืองด้วยรถเท่านั้น แถมถ้าปล่อยเอาไว้จนพรุ่งนี้ บางทีอาการของหมิงหานอาจจะหนักกว่า