แม้ครูฝึกจะไม่ได้พูดออกมา แต่หลังจากหรงฉือได้ยิน กลับคาดเดาความหมายของเขาได้อันที่จริง แม้ว่าครูฝึกของเฟิงจิ่งซินจะไม่ได้พูด เธอก็พอเดาได้ว่าเหตุผลที่เฟิงจิ่งซินเรียนฟันดาบเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากเฟิงถิงเซินหรือหลินอู๋แน่นอนด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่ได้คิดมากแม้จะบอกว่าตนสละสิทธิ์การเลี้ยงดูเฟิงจิ่งซินไปแล้ว อนาคตของเธอ ตนคงมีส่วนร่วมน้อยมาก แต่เฟิงจิ่งซินก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน แม้ในอนาคตพวกเธอแม่ลูกจะแยกจากกัน หรงฉือก็ยังหวังว่าเธอจะมีอนาคตที่ดีการเรียนฟันดาบเป็นประโยชน์ต่อเฟิงจิ่งซินก็พอแล้วส่วนเธอจะเรียนฟันดาบเพราะใคร ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญต่อเธอตอนที่เฟิงจิ่งซินฝึกซ้อม หรงฉือไม่อาจมองดูตลอดเวลาได้ตอนเช้า ระหว่างที่เฟิงจิ่งซินฝึกซ้อมใกล้เสร็จ หรงฉือก็หยิบโทรศัพท์กำลังจะตรวจสอบข้อมูล ทันใดนั้นก็มีคนมาอยู่ข้าง ๆหรงฉือชะงัก ตอนที่เงยหน้าก็สบตากับเฟิงถิงเซินอย่างที่คาดไว้หรงฉือเพียงแค่เหลือบมอง และเก็บสายตากลับมาเฟิงถิงเซิน "นี่คือข้อมูลของโมเดลไหน?"หรงฉือเก็บโทรศัพท์ ไม่ได้ตอบคำถามของเขาเฟิงถิงเซินยังคิดจะพูดต่อ ตอนนี้เองเฟิงจิ่งซินก็ฝึกเสร็จพอดี เธอถอดหน้ากากฟั
คุยกับเฟิงจิ่งซินจบก็วางสาย หลังจากนั้นสิบกว่านาที เฟิงถิงเซินก็ส่งเวลาเข้าร่วมการฝึกและสถานที่ฝึกพรุ่งนี้ของเฟิงจิ่งซินให้เธอแต่ก็มีแค่เวลาเข้าร่วมการฝึกและสถานที่ฝึกพรุ่งนี้ของเฟิงจิ่งซินเท่านั้นส่วนเรื่องอื่น กลับไม่ได้พูดถึงสักคำวันรุ่งขึ้น หลังจากหรงฉือมาถึงโรงฝึกฟันดาบสามสี่นาที เฟิงจิ่งซินก็มาถึงเช่นกันบนรถมีเพียงเฟิงจิ่งซินกับคนขับรถเฟิงถิงเซินไม่อยู่หลังลงจากรถ เฟิงจิ่งซินก็จูงมือหรงฉืออย่างมีความสุข พาเธอเข้าไปที่โรงฝึกฟันดาบทันทีที่เข้าไปในโรงฝึกฟันดาบ อวี้มั่วซวินก็โทรหาเธอหรงฉือพูดกับเฟิงจิ่งซิน "แม่ไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ"เฟิงจิ่งซิน "ค่ะ งั้นหนูเข้าไปหาครูฝึกก่อนนะคะ""อืม"อวี้มั่วซวินแค่ถามเธอเล็กน้อย หลังคุยกันไม่กี่ประโยคก็วางสายไปเฟิงจิ่งซินเดินไปไม่ไกลครูฝึกของเธอเห็นเธอ ก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม "ซินซินมาแล้วเหรอ?"พูดจบก็มองซ้ายมองขวา และถามอีกครั้ง "วันนี้คุณหลินกับคุณเฟิงไม่มากับหนูเหรอ?""ไม่ค่ะ วันนี้แม่มาเป็นเพื่อนหนู!"หรงฉือยืนฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่หน้าประตู เวลาผ่านไปไม่กี่วินาที นางจึงค่อยก้าวเข้าไปข้างในครูฝึกของเฟิงจิ่งซินเห็นเธอ ก้
หรงฉือกลับมาที่ห้องทำงาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นสายโทรเข้าของเฟิงจิ่งซินนึกถึงจุดประสงค์ที่เฟิงถิงเซินชวนเธอไปกินข้าวตอนอยู่ในห้องประชุมเมื่อครู่ มองสายเรียกเข้าจากเฟิงจิ่งซิน เธอไม่ได้รับสายเฟิงจิ่งซินโทรหาเธอติดกันสามสาย เห็นเธอไม่รับ หลังผ่านไปครู่หนึ่งก็ส่งข้อความหนึ่งมาหาเธอ[แม่คะ เดือนหน้าหนูจะเข้าร่วมการแข่งฟันดาบ ซ้อมฟันดาบพรุ่งนี้ แม่ไปเป็นเพื่อนหนูได้ไหมคะ?]หรงฉือเห็นข้อความนี้ มือที่ถือโทรศัพท์ก็ชะงักไปทันทีตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน หลังจากเฟิงถิงเซินพาเฟิงจิ่งซินไปที่ประเทศเอนาวา เรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเฟิงจิ่งซิน เธอก็ไม่ได้มีส่วนร่วมเลยตัวอย่างเช่นตลอดเวลากว่าสองปีที่ผ่านมา เฟิงถิงเซินจัดตารางเรียนอะไรให้เฟิงจิ่งซิน สมัครชั้นเรียนเสริมอะไรให้บ้าง เธอล้วนไม่รู้เลยก่อนที่เธอจะหย่ากับเฟิงถิงเซิน เธอเคยถามเรื่องพวกนี้กับเฟิงจิ่งซิน แต่เฟิงจิ่งซินไม่เต็มใจจะบอกเธอมากนักถึงขั้นที่หากตอนนี้เฟิงจิ่งซินไม่บอกให้เธอฟัง เธอก็ยังไม่รู้จริง ๆ ว่าที่แท้เฟิงจิ่งซินก็เรียนฟันดาบด้วยส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังจะเข้าร่วมการแข่งฟันดาบ เธอก็ยิ่งไม่รู้แม้แต่น้อยช่วงเวลาที่เฟิง
เฮ่อฉางปั่วหันกลับมา มองเธอพลางยิ้มและส่ายศีรษะ "ไม่มีอะไร"หลังจากคุยธุระกับเฮ่อฉางปั่วจบแล้ว ตอนบ่ายอวี้มั่วซวินก็โทรกลับมาอวี้มั่วซวินพูด "เมื่อกี้เพิ่งได้ข้อความจากทนาย หลินอู๋ยังไม่ยอมยกเลิกสัญญา เพราะแบบนี้ เธอเต็มใจจะชดเชยค่าทำให้เสียชื่อเสียงจำนวนมากแก่พวกเรา แต่ผมไม่ยอม ในเมื่อคุยกันไม่ลงตัว ผมเลยให้ทนายดำเนินเรื่องตามกระบวนการทางกฎหมายแล้ว"หรงฉือพูด "โอเค ฉันเข้าใจแล้ว"พูดจบแบบนี้ อวี้มั่วซวินก็พูดต่อ "พรุ่งนี้เฟิงถิงเซินจะมาคุยงานที่บริษัท เนื้อหาการเจรจาครึ่งแรกให้หลานเซียวไปคุยได้ แต่มีเอกสารส่วนหนึ่งที่ต้องได้รับการยืนยันจากคุณโดยตรง เพราะงั้น…"พูดอีกอย่างคือ พรุ่งนี้เธอต้องพบหน้าเฟิงถิงเซินหรงฉือเข้าใจความหมายของเขา และพูด "ได้ ฉันเข้าใจแล้ว"วันรุ่งขึ้น เฟิงถิงเซินกับเฉิงหยวนมาที่บริษัทตอนบ่ายเหมือนที่อวี้มั่วซวินพูด ตอนเริ่มหลานเซียวเป็นคนไปรับเฟิงถิงเซิน ระหว่างประชุม หลังจากหรงฉือได้รับข้อความจากหลานเซียว จึงเข้ามาในห้องประชุมอาจเป็นเพราะหลานเซียวอธิบายให้เฟิงถิงเซินฟังแล้วว่า เธอจะมาตรวจสอบเนื้อหาสัญญาและเซ็นสัญญาในนามของอวี้มั่วซวินเมื่อเห็นเธอผลั
ที่แท้ก็ออกไปดูงานขณะที่หลินอู๋กำลังใช้ความคิด กู้เหยียนพลันพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”หลินอู๋ส่ายหน้า แล้วเอ่ยถามว่า “นายมาทำงานที่ฉางโม่ได้ระยะหนึ่งแล้ว พอจะปรับตัวได้ไหม?”“ฉันสบายดี” กู้เหยียนพูดว่า “ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวขึ้นไปก่อนละกัน”กู้เหยียนพูดจบก็หมุนตัวเดินจากไปมองแผ่นหลังของเขาที่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเลยสักครั้งแล้ว หลินอู๋ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนหน้านี้กู้เหยียนโกรธเธอ ที่เอาเรื่องที่อยู่ของเขาไปบอกคนที่บ้านเขา ดังนั้น ช่วงนี้เวลาที่เธอโทรศัพท์ไปหาเขา เขาเลยไม่แม้แต่จะรับสายเลยสักครั้งวันนี้บังเอิญได้เจอกัน เธอเลยเรียกเขาไว้ ซึ่งในที่สุดเขาก็ยอมสนใจเธอ เธอเลยคิดว่าเขาหายโกรธแล้วทว่าท่าทีของเขาที่มีต่อเธอ มันเย็นชายิ่งกว่าเมื่อก่อนไม่น้อยเลยเธอยิ้มเล็กน้อย น่าจะยังไม่หายโกรธละมั้ง...เธอเพิ่งคิดถึงตรงนี้ ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาหาเธอ อีกฝ่ายบอกว่าเขาเป็นทนายของฉางโม่ ซึ่งได้รับการมอบหมายจากอวี้มั่วซวิน อยากจะมาคุยเรื่องการยกเลิกสัญญากับเธอสีหน้าของหลินอู๋มืดครึ้มทันทีอวี้มั่วซวินไม่รับสายโทรศัพท์ แต่กลับส่งทนายมาคุยเรื่องยก
ซุนลี่เหยาถึงกับสับสนมึนงงไปหมดเธอคิดไม่ถึงเลยว่าขนาดที่เฟิงถิงเซินออกหน้าให้แล้ว ยังหาวิธีแก้ไขไม่ได้“เธอรีบพูดขึ้นว่า “ฉันยังไม่เข้าใจ ทั้ง...ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยแท้ ๆ แต่พวกเขากลับไม่ยอมปล่อยวางเรื่องแค่นี้ คิดจะฟ้องยกเลิกสัญญาจริง ๆ เหรอ? เป็น...เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง?!”หลินอู๋ “ตอนแรกฉันเอาตัวสัญญาที่ซวิ่นตู้กับฉางโม่เซ็นสัญญาร่วมกันไปให้ทนายยืนยันแล้ว ในนั้นเขียนไว้ชัดเจนว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำลายชื่อเสียงของอีกฝ่าย ฝ่ายที่ถูกกระทำมีสิทธิ์ยื่นเรื่องขอยกเลิกสัญญาได้”“แต่...แต่ว่า ต่อให้เรื่องในครั้งนี้ไปทำลายชื่อเสียงของพวกเขา ผลกระทบก็ไม่น่าใหญ่โต...”หลินอู๋ว่า “ไม่ได้ใหญ่โตอะไรหรอก ปกติแล้วถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ พวกเราก็แค่กำจัดเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อฉางโม่ มอบของปลอบขวัญ กล่าวขอโทษ แล้วก็จ่ายเงินชดเชยที่ทำให้พวกเขาเสียหายก็พอแล้ว แต่ว่า...”หลินลี่ไห่พูดต่อ “ถ้าเสี่ยวอู๋ให้แกขอโทษตั้งแต่ทีแรกหลังรู้ว่าแกพูดอะไรออกไป แบนนั้นต่อให้ฉางโม่อยากจะยกเลิกสัญญาความร่วมมือ ก็หาข้ออ้างมายกเลิกไม่ได้”“แต่พอเสี่ยวอู๋รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ดันไม่ได้ปกป้องฉางโม่ตามข้อเท