กลิ่นคาวของเลือดคือสิ่งที่ปลุกให้ฉันตื่น.. ฉันได้กลิ่นมันทุกครั้งพร้อมกับความทรงจำบางช่วงที่หายไป มีเพียงเสียงผู้หญิงอยู่ในหัวที่ฉันพอจะจำได้เป็นสิ่งสุดท้าย.. เสียงที่ เหมือนกับเสียงของฉัน พร่ำบอกว่าฉัน… ควรให้เธอออกมา
View Moreเคสรักเคสร้าย
แนวเรื่อง อีโรติกโรมานซ์ เขียน ฟองหอม #โลมารอน กลิ่นคาวของเลือดคือสิ่งที่ปลุกให้ฉันตื่น.. ฉันได้กลิ่นมันทุกครั้งพร้อมกับความทรงจำบางช่วงที่หายไป มีเพียงเสียงผู้หญิงอยู่ในหัวที่ฉันพอจะจำได้เป็นสิ่งสุดท้าย.. เสียงที่ เหมือนกับเสียงของฉัน พร่ำบอกว่าฉัน… ควรให้เธอออกมา ••••• “โลมาอยากได้น้ำ.. ค่ะ” “โลมาตัวนี้ จะจมน้ำเอานะ” “น้ำเยอะพอที่โลมาจะจมเลยเหรอ” “..ก็มากพอที่จะสำลักได้” หมอรอน จิตแพทย์หนุ่มที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนของพี่ชาย กำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเธออย่างเต็มตัว หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น.. โลมา /เอวา สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม มักจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นคาวของเลือด และความทรงจำช่วงนึงมักจะหายไป มีเพียงเสียงในหัวของเธอ ที่คอยพร่ำบอกว่าเธอ.. “ลุกขึ้นแล้วไปกับฉัน” “พี่จะไม่พาโลมาส่งตำรวจใช่ไหม โลมาไม่ได้ฆ่าพวกนั้นจริงๆนะ พี่ต้องเชื่อโลมานะ! พี่รอน!” 📌นิยายเรื่องนี้ จัดทำขึ้นเพื่อความบรรเทิง ไม่มีเจตนากล่าวหาหรือล่วงเกินบุคคลใดอาชีพใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เสพเพื่อความเพลิดเพลินและความสนุก และขอความกรุณา ไม่สาดคำพูดแย่ๆใส่กันเพียงเพราะนิยายเรื่องนี้ไม่ถูกจริตของคุณ.. 📌สงวนลิขสิทธิ์… ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าจะคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำก็ตาม หรือใช้ส่วนหนึ่งส่วนใด โดยเผยแพร่หรืออ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืน มีโทษสูงสุดตามกฎหมาย ______________ INTRO ฉันไม่ชอบที่แคบๆ ไม่ชอบการถูกรีดเค้นบางอย่างในสิ่งที่ฉันไม่รู้ ไม่มีคำตอบ ฉันก็ไม่รู้ว่าทุกคน..ต้องการอะไรจากฉัน.. จะอยากรู้ความเจ็บปวดที่ฉันเจอไปทำไมกัน.. เขาจะถามฉันไปอีกสักกี่ครั้ง ฉันบอกไปตั้งหลายครั้งว่าฉันจำอะไรไม่ได้สักนิดหลังจากที่วูบไป หญิงสาวนั่งกุมมือตัวเองแน่นขนัด เล็บคมจิกนิ้วมือจนเป็นรอยเต็มไปหมด ร่างสูงจับตาเฝ้ามองจากนอกห้องสอบตรวจ “..หมอคิดเหมือนกันไหมครับ” รอน ชายหนุ่มวัยสามสิบ ยืนมองบทสัมภาษณ์ของคนไข้ผ่านห้องกระจกใสตรงหน้า ก่อนจะถอดแว่นกรอบใสออก นวดคลึงที่สันจมูกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง มือประสานกันนิ่งพิงริมฝีปาก หญิงสาวที่ถูกรีดเค้นความเจ็บปวดอยู่ในระยะสายตาของเขาเสมอ “..ถามให้ลึกกว่านี้” “..แล้วถ้า” “ผมต้องการรู้ ตัวตนของเธอ” หมอรอนให้คำตอบกับแพทย์ผู้ช่วยออกไปเช่นนี้ ก่อนที่คำถามข้อต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้น แพทย์ผู้ช่วยอย่าง การณ์ ออกน้ำเสียงที่นุ่มราวกับประโลมจิตใจ สวนทางกับคำถามที่จะเอ่ยอย่างชัดเจน “..แล้วคุณ ทำร้ายผู้ชายคนนั้นจนปางตายทำไม” นัยต์ตาของหญิงสาวที่หวาดหวั่น สั่นระริกและสับสนนานหลายนาที ก่อนจะมีจังหวะที่ผิดไป ผันเปลี่ยนเป็นแววตาก้าวร้าวขึ้นมาทันควัน รอนสังเกตอาการได้ดี อาการแบบนี้ เธอกำลังปกป้องตัวเอง.. “..ก็มันอยากทำร้ายโลมาทำไม” “….” “พวกคุณก็เหมือนกัน ถ้าคิดจะทำร้ายโลมา.. ต่อให้เป็นหมอ ฉันก็จะฆ่าพวกคุณให้หมด!” ไมโครโฟนถูกเลื่อนจ่อริมฝีปากทรงสวยของรอน สายตาคมขลับ กำลังล้วงความลับนัยต์ตาลึกลับของหญิงสาว เธอตรงหน้าเเววตาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไร้ซึ่งความอ่อนหวานอย่างที่เขาเคยเห็น “..เธอคือใคร?” “ฉันชื่อเอวา” “….” “จัดการผู้ชายจนปางตายมาแล้วสี่คน เป็นพวกผู้ชายที่คิดจะทำร้ายโลมา ก็ช่วยไม่ได้.. โลมาอ่อนแอเกินไป ก็ต้องเป็นฉันที่ต้องออกมาจัดการให้ทุกที” “….” “ถามอีกสิ สิ่งที่อยากจะรู้” “….” “ฉันหนะ.. อยู่ตรงหน้าแล้วนะ” “Dissociative Identity Disorder” “..อ่า โรคหลายอัตลักษณ์” รอนพูด มันก็คือโรคสองบุคลิกที่เราสามารถเข้าใจกันตามประสาคนทั่วไปนี่แหละ เอาเข้าจริงก็สำหรับคนบางที่เป็นโรคนี้ อาจจะมีตัวตนมากกว่าสองตัวตนด้วยซ้ำ มันเป็นกระบวนการทางจิตใจ เมื่อพบเจอเรื่องที่รุนแรงและกระเทือนจิตใจหนักๆ กลไกของจิตจะสร้างตัวตนอีกตัวตนที่เข้มแข็งกว่าร่างต้น เพื่อปกป้องความอ่อนแอที่มี “ฉันมีกันแค่สองคน ไม่ต้องเสียเวลาหาตัวตนอื่นเพิ่ม” สาวน้อยอ่อนหวานในสายตาของรอน แปรเปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่ฉายแววตาร้ายกาจ เย็นชาและเต็มไปด้วย.. ความเจ็บปวดและอาฆาต เอวารับรู้การมีอยู่ของตัวเธอและโลมาที่เป็นร่างต้น แต่กับโลมา.. เธอไม่รู้อะไรเลย “ถ้าไม่อยากให้ฉันออกมา ก็ช่วยบอกให้ยัยโลมาเข้มแข็งให้ได้สักทีสิ” ลิ้นบางดันกระพุ้งแก้มตน เงยหน้าบางจังหวะราวกลับพยายามแสดงท่าทางที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง “…เคยคิดจะฆ่าคนพวกนั้นไหม ” รอนถามต่อ การประโลมอาจไม่มีความหมาย ประโยคที่ว่าทำให้สาวสวยแววร้ายแค่นยิ้มจนแสยะ ลิ้นที่ดันกระพุ้งแก้มลามเลยเป็นเลียริมฝีปาก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าหาคนเป็นหมออย่างรอน ติดเพียงแค่กระจกบางคั่นขวาง เธอยื่นหน้าเข้าใกล้กระจกกั้น หยักยิ้มมุมปาก เลียริมฝีปากอีกครั้ง “..ก็อยากนะ” “..การมีอยู่ของเธอ ..ชนวนมันคืออะไร” สายตาของรอนเข้มเขม็ง เขาจ้องไปยังนัตน์ตาที่เกรี้ยวกราดอย่างไม่ลดละสายตา ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนผันเป็นอ่อนโยน เขาจับจังหวะได้แล้ว “..ผู้ชาย คนนั้น” น้ำเสียงสั่นระริก “คนที่อยู่ในตัวฉัน บอกว่าเป็นผู้ชายคนนั้น อึ่ก” “..เคสนี้ ฉันดูเเลเอง” แฟ้มการสอบคำถามถูกวางลง รอนเดินเข้าไปในห้องที่รายล้อมไปด้วยกระจก ก่อนจะใช้มืออุ่นๆของเขาจับไหล่บางๆ หญิงสาวหลบสายตา สับสน และเต็มไปด้วยความกลัว “..ฉันทำเธอเหนื่อยสินะ” “….” “หลับได้แล้ว” เป๊าะ เสียงดีดนิ้วของรอนเหมือนมีมนต์สะกด ร่างบางสลึมสลือก่อนจะอ่อนยวบในบัดดล เขาช้อนร่างบางๆกลับไปนอนที่เตียงหยั่ง มัดมือ มัดเท้าของเธอ ภาพของหมอค่อยๆจางและดับไป โลมาหลับไปและตัวตนของเธออีกคน.. ก็ไม่ตื่นขึ้นมา3ปีผ่านไป.. เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันนี้ฉันมาทำบุญให้แม่ ให้เปียและ.. ให้พ่อ ฉันยุติความรู้สึกแย่ๆทุกอย่างหลังจากความฝันในวันนั้น แม้ฉันจะไม่เคยฝันถึงพ่อสักครั้งก็ตามตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา พี่รอนเองก็เห็นด้วยกับการที่ฉันเลือกทำแบบนี้“โลมาเอาน้ำไปกรวดนะ”“เดี๋ยวพี่กับลูกรอตรงนี้แล้วกัน”“อื้ม” ฉันเดินหาต้นไม้ใหญ่ตามความเชื่อ กรวดน้ำลงดินขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับ แม่ พ่อ และเปียแบบที่เคย เมื่อก่อนเคยทำยังไง ตอนนี้ฉันก็ยังคงทำแบบนั้น วันนี้เป็นวันเกิดของยิปโซ เจ้าตัวเล็กสุดแสบประจำบ้าน“แม่ขาาา~” เสียงหวานร้องเรียกหลังจากน้ำหยดสุดท้ายถูกหยาดลงพื้น โลมาลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันหลังไปหายิปโซแต่เพียงแวบเดียวเท่านั้นที่เธอหันกลับมา เด็กน้อยที่ใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม ชุดเจ้าหญิงสีชมพู ถักผมเปียสองข้าง ทำเอาโลมาสตั้น ทั้งที่เธอเป็นคนถักเปียให้กับมือแท้ๆ ทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกแบบนี้นะ.. โลมาเธอยืนแข็งทื่อทันทีที่เห็นยิปโซวิ่งเข้าปะทะร่างและสวมกอดเธอ แขนและขาของฉันเหมือนมีคนตรึงเอาไว้ ไม่มีแรงขยับ ฉันมั่นใจว่าฉันนิ่งไปเกือบนาทีที่ไม่ได้กอดยิปโซตอบ พอสติกลับคืนมา.. มือบางๆก็วางที่หัวเล็กๆของเจ้าตัวเ
หากย้อนกลับไป..เฮือก! โลมาสะดุ้งตื่นกลางดึก หัวใจเต้นรัวเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งกาย ฉันหันมองพี่รอนที่นอนอยู่ข้างๆ ฉันอยากจะสะกิดบอกว่าฉันฝันร้าย.. มันก็ไม่เชิงร้ายหรอก แต่ว่า..ฉันฝันถึงเปีย…โลมานั่งกลืนน้ำลาย เปียกำลังจะบอกอะไร..ย้อนไปในความฝัน..ทุ่งหญ้าที่เหมือนกับสนามเด็กเล่นที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำให้ฉันค่อยๆเดินสำรวจ เด็กสาวที่มองจากด้านหลังก็รู้ว่าถักเปียสองข้างกำลังนั่งเล่นดอกไม้นั่น.. ดอกไม้ดอกเล็กๆ.. กับชุดที่สวมอยู่ มันทำให้ฉันกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ ทั้งที่ผ่านมานานขนาดนี้.. แต่เธอยังไม่เปลี่ยนไปเลย.. “..เปีย เปียใช่ไหม?” เด็กสาวผมเปียหันกลับมาหาเธอ เธอยิ้มให้โลมาทันทีก่อนจะรีบลุกแล้วจูงมือเธอไปนั่งเล่นกับเธอ สีหน้าและรอยยิ้มมันมีแต่จะทำให้โลมาอยากจะร้องไห้ เปียในตอนนี้จะรู้ตัวไหม.. ว่าตายไปแล้ว“เปีย”“รู้น่า แต่จะเศร้าทำไมละ บางทีแบบนี้มันก็ไม่ได้แย่นะ” เปียพูดขึ้นมาทั้งที่ใบหน้าที่กำลังดูเหมือนมีความสุขด้วยซ้ำ แม้จะไม่ได้มองหน้าโลมา“ถ้าให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อสิ แบบนั้นน่าจะหนักเอาการณ์เลยละ”“..มันจบแล้วเปีย ไอ้ชั่วนั่นมันเข้าคุกแล้ว ศาลตัดสินไม่ให้ประกันตัวไปตลอดชีวิตเลย
ครึ่งชั่วโมง มันจะทำสำเร็จไหมวะ.. รอนถอนหายใจ เขากลัวว่าทุกอย่างมันจะล่มนะสิ โลมาที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ยืนเช็ดมือกับผ้าเงียบๆอยู่ที่มุมห้อง“ดูกังวลจังนะ รู้ไหมว่าโลมามันคิดอะไรอยู่?” ประโยคที่ว่าทำให้รอนหันกลับไปหาคนตัวน้อย สังเกตท่าทางและพฤติกรรม“สวัสดีนะหมอ ขอออกตัวก่อนว่า โลมาไม่ได้รู้สึกไม่ปลอดภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ฉันก็แค่อยากจะออกมาสูดอากาศข้างนอกก็แค่นั้น แล้วก็.. มีเรื่องอยากบอก”“เอวา? จะบอกอะไร?”“ก็..” เอวาโยนผ้าเช็ดมือลงถังผ้า เดินประคองท้องน้อยๆผ่านหน้ารอนไปนั่งที่ปลายเตียง “รู้ไหมว่าโลมามันคิดอะไร?” นิ้วเรียวชี้ที่ขมับสมอง รอยยิ้มแบบแข็งๆยิ้มให้กับคนเป็นหมอ“….”“เอาเป็นว่า สิ่งที่หมอต้องทำก็คือบอกฉันมาให้หมดว่าตอนนี้กำลังจะคิดทำอะไร?”“ถ้าฉันบอกเธอ โลมาก็รู้”“อ๋าา~ เซอร์ไพส์” เอวาพงกหัวเล็กน้อย ก่อนจะแค่นยิ้มที่มุมปาก “อะไรนะที่จะเซอร์ไพส์คนท้องได้แบบตรึงจิตตรึงใจ”“….”“ไอ้การลากทุกคนมาครบองค์แบบนี้.. เรื่องต้องใหญ่มากใช่ไหมละ” และเพราะรอนอ่านทางออก เอวาน่าจะรู้แล้วว่าเขากำลังอยากจะทำอะไร“ก็ถ้ารู้แล้วช่วยอยู่เงียบๆได้ไหม?”“ข้อแลกเปลี่ยน”“..จะเอาอะไร?”“อะไ
น่าแปลก.. ที่เลยเวลางานมานานขนาดนี้แล้วแท้ๆแต่พี่รอนก็ยังไม่กลับมาสักที ฉันไม่เคยใจร้อนขนาดนี้มาก่อน แค่เพียงพี่เขาผิดเวลา.. ฉันก็อยากจะพังบ้านให้เละไปทั้งหลัง“..ป้าชุคะ นี่ผ่านมากี่ชั่วโมงแล้วคะ”“..เอ่อ สี่ชั่วโมงแล้วค่ะ แต่ว่าปกติหมอไม่เคยกลับบ้านเลสขนาดนี้นะ อาจจะติดคนไข้อยู่ก็ได้ค่ะ”“รักษาอะไรกันตั้งสี่ชั่วโมง รักษาคนป่วยทั้งหมู่บ้านหรือไง” โลมาหงุดหงิด คำพูดคำจาแทบไม่ต้องใช้การพิจารณาก่อนจะปริปากพูดสักนิด แม่บ้านคนสำคัญนั่งมองโลมา ขาของเธอเริ่มอยู่ไม่ยิ่ง ชะเง้อชะโงกหน้าสลับกับมองเวลาที่นาฬิกาติดผนัง“ป้าชุคะ”“ขาาา”“หงุดหงิด”“ป้ารู้ค่ะ”“อารมณ์ไม่ดี”“อันนี้ป้าก็รู้ค่ะ”“โลมาอยากจะพังบ้าน!”“โอยยยย ใจเย็นๆนะหนูโลมาาาา หมอไปหัวทิ่มหัวตำอยู่ที่ไหนกันนะเนี่ยนานขนาดนี้”“ใช่ไหมละ!” ป้าชุก็แค่เออออตามอารมณ์คนท้องให้เธอพอใจเย็นลงมาบ้าง จะไปขัดเขาในเวลานี้เดี๋ยวก่อนที่บ้านจะพัง คนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องตรงนี้จะตายคาโซฟาซะก่อนโลมายังไม่ยอมหยุดอารมณ์ที่แสนหงุดหงิดจนเธอเดินไปยืนมองที่ประตู“สวนบ้านเราควรมีดอกไม้ดอกเล็กๆที่สุด!”“ใช่ค่าา ใช่ๆเลย บ้านจะได้ร่มเย็น” แม่บ้านรีบเออออก่อนจะ
“..ไอ้บัส”“รายนั้นจะทำแผนแตกไหมเนี่ย ปากยิ่งเปราะๆอยู่ด้วย”“..ฉันว่าไม่ มันยังไม่รู้”“ก็เพราะว่ายังไม่รู้นี่แหละถึงน่ากังวล โลมาไม่ใช่คนซื่อบื้อขนาดนั้น แถมไอ้คนพี่ก็.. นอนหลับอยู่ตรงนั้นด้วย” รอนถอนหายใจเมื่อยืนมองดูกล้องวงจรจากกลางบ้านติ๊งค์~ เสียงไลน์ดังขึ้นทำให้คนเป็นหมออ่านมัน ข้อความจากป้าชุทำให้เขานิ่งไป“..อะไรเหรอ?”“ป้าชุบอกว่าโลมาเอาแต่พูดถึงดอกไม้ดอกเล็กๆ”“….”“ดอกอะไรก็ได้ที่เป็นดอกเล็กๆ กินข้าวไป พูดถึงดอกไม้ไป” รอนอ่านข้อความในมือถือต่อไปจนจบแชทของป้าชุ“นางเริ่มแพ้ท้องละมั้งเนี่ย”“….”“คนรู้จักฉันนะ แพ้ท้องยังไงรู้ไหม? นางอยากกินดินเลยนะ นางบอกว่ากลิ่นมันหอม อย่างโลมานี่.. อาการแบบนี้ก็น่าจะใช่”“..แล้วฉันควรทำไง?”“ก็เอาใจเมียสิคะ เวลาแบบนี้นะ เมียอยากได้อะไรพี่ต้องให้เธอให้หมด”“….”“ต่อให้จะเป็นดาวเป็นเดือนก็ตาม”“..โลมาไม่น่าจะต้องการอะไรขนาดนั้น”“ก็ถ้านั่งกินข้าวแล้วเพ้อถึงดอกไม้ดอกเล็กเล้กกกได้ขนาดนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้กับคนท้องรู้ไว้เลย”“พูดอย่างกับคนเคยท้อง”“มันก็คง.. อารมณ์แปรปรวนเหมือนตอนเป็นเมนส์ละน่า” ออยยืนกอดอกในขณะที่รอนก็ยืนขมวดคิ้วแล้วกัดปาก“จ
#RON PARTโรงพยาบาล“แกๆ แกว่าช่วงหลังนี่หมอรอนดูยิ้มเยอะขึ้นม้ะ?”“อยู่แล้วแหละ ยิ้มทีจะพาใจฉันละลายยย นี่ก็แทบจะยอมตั้งท้องให้เลยนะเนี่ยยย~” พยาบาลฝึกหัด เกาะประตูห้องตรวจของรอน แอบสอดแอบส่องดูวิธีการรักษาบ้างแหละ ตักตวงใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาบางแหละ“แกว่า หมอรอนจะมีแฟนหรือยังนะ>““หมอรอนมีเมียแล้วจ่ะ แล้วเมียก็ท้องอยู่ด้วย”“อึ่ก!” คนที่เข้ามาแทนกกลางระหว่างบทสนทนาเห็นทีจะเป็นใครไม่ได้นอกจากออย เธอยืนยิ้มมองหน้าพยาบาลสาวฝึกหัดสามคน และหันองศาหน้ายิ้มรับทุกคนไปอีกในท่ายืนกอดแฟ้มเคส“งานพวกเธอเหรอ ที่ทำอยู่?”“เปล่า เปล่าค่ะ!”“งั้นเชิญ”“โวกเหวกอะไรกัน?” รอนที่เดินออกมาจากห้องตรวจพอดี ดูดกาแฟดำในแก้วแล้วมองหน้าออยที่หอบแฟ้มเอกสารอีกสองฉบับ เหล่าพยาบาลฝึกหัดรีบวิ่งไปก่อนที่เขาจะออกมา“ยังไม่หมด?”“สองเคสสุดท้ายแล้วละ ..พักหลังเนื้อหอมจัดเลยนะ เด็กพวกนั้นวันๆไม่ทำอะไร เอาแต่นั่งตั้งคำถามว่าหมอมีเมียมีแฟนแล้วหรือยัง”“..แล้วเธอตอบไปว่าไง?”“ก็บอกว่ามีเมียมีลูกแล้วสิ” ผมขำเบาๆ ก่อนจะอนุญาตให้ออยเข้าไปในห้องตรวจ เธอวางแฟ้มของเคสที่น่าจะ น่าจะเป็นสองเคสสุดท้ายของวันนี้ “สองเคสสุดท้ายขอ
Comments