LOGINในวันที่เธอสูญเสียคนรัก หัวใจของเขากลับเต้นในอกศัตรู... เมื่อความรัก ความแค้น และความลับ ถูกผูกไว้ด้วยหัวใจดวงเดียว! เธอจะเลือกเดินตามหัวใจ หรือปล่อยให้ความแค้นพรากทุกอย่างไปอีกครั้ง…
View Moreこの世がすべてひとつの舞台だとして、男も女もみな役者に過ぎぬとしても。
そう。わたくし、ベアトリーチェ・ファン・シャーデフロイの人生は、豪華絢爛かつ、研鑽と叡智に満ちたものでありましたとも。
社交界の華、才色兼備の煌めき。望むものはすべて手に入れ、退屈な殿方からの恋文は暖炉の焚き付けに。 まるで不満はなかったの、何ひとつ!そんな華々しい人生が、ガラガラと安っぽい音をたてて崩れたのは、十六歳の誕生日を間近に控えた、ある晴れた日の午後だったのですわ。
「あら、なんて良い香り。この紅茶、とても美味しいですわね、パパ」
「そうだろう? ようやく届いた特別な茶葉なんだ」わたくしの言葉に、父は得意げに笑う。本当に素敵。
でも、ちょっとだけ嫌な予感がしたのです。 父は良い話だと、なにかとフライングしがちな迂闊さがあるのだけれど、それともなんだか違うような、妙な気分。「それで、お話というのは何ですの? そんなに改まって」
そう、忘れもしない。
我がシャーデフロイ伯爵家が誇る薔薇の庭園。伝統ある深紅の品種『グラン・アムール』から、改良を重ね生み出された幻の青薔薇『レーヴ・ドゥ・ニュイまで。 多種多様な花々が競い合う。さながら芳香の舞踏会。 そんな白亜のガゼボからの眺めは、いつだってわたくしのお気に入り。 父であるウェルギリ伯爵が、極上のダージリンを勧めながら、爆弾を投下するまでは。まあ、本当に悪くないお茶会でしたのよ。「ビーチェ、王太子バージル殿下との婚約が、内々に決まった」
「――は?」ガチャン。ティーカップを、危うく割るところでしたわ。
王太子殿下との婚約。 この国における、女性にとっての最高の名誉。いずれ国母となる、栄光への階梯。心臓が、期待に、大きく跳ねる。 もちろん、わたくしにこそ相応しい立場ですとも!「まあ、お父様っ! わたくしが殿下と!?」
「いかにも。王たっての願いだ、光栄なことだよ」ええ、当然よね。だって、わたくしですもの。
でも、そんな喜びも束の間よ、すぐに冷静になったの。“麗しの”バージル殿下のお顔が浮かんだ途端にね。(えっ、でも|アレ《・・》と結婚するの!?)
まず、顔は良い。そこは認めますわ。
陽光を溶かし紡いだ金髪、|湖の青《レイクブルー》を閉じ込めた碧眼。肌は磨き上げられた象牙細工のよう。そうね、お顔だけは国宝級。 で・す・が! 冗談ひとつ通じない、あの性格! アカデミーでは「歩く氷点下」「笑わずの王子」「アイスマン」とまで呼ばれている、あの堅物中の堅物! 父と一緒になって、古代の詩集に涙する(強面の癖に、父は乙女チックな詩が大好きなの)、わたくしとは、水と油どころか雪とマグマのように相容れないわ!「つまり、あの仏頂面と毎日顔を合わせるということですの!? 絶対に、ずぇ~ったいに無理ですわ!」
「お、おいビーチェ。さすがに不敬が過ぎるぞ!」思わずほとばしった絶叫は、本心そのもの。
いえ、国母になるのは全然やぶさかではないのですけれど、無理なものは無理でしょう。「そうはいうが、民からの人気は絶大だぞ。公明正大、文武両道、立ち振る舞いも覇気があると評判だ」
「あのね、パパ! 国中の民にスマイルサービスできても、肝心のわたくしに、愛想一つも向けられないのが問題なのよ!」 「う、む。妻になれば……まあ、その、なんだ。態度も違うかもしれんではないか」百戦錬磨の策略家として名高い父が、どこか苦渋に満ちた顔を逸らす。
なにか胡散臭い態度。 ええ、でも、立場上、拒否権などないことくらいは、理解する分別はありましたのよ。この時は、まだ、ね。 *** 後日、婚約の発表を前に、我が家でセッティングされたお茶会。 甘い雰囲気を期待したわけではないけど、悪夢以外の何物でもなかったわ。お茶を淹れるのは、わたくしの専属執事――イヅル・キクチ。
音もなくシルバーポットから注ぐ、最高級の茶葉の香り。 パティシエが腕によりをかけた季節のフルーツタルトの、宝石のような煌めき。 こんなにも雅なもてなしなのに、主役である王子は、石像みたいに硬い表情。「ベアトリーチェ嬢、か」
値踏みするような第一声。
わたくしは、反射的に背筋を伸ばし。淑女の笑みを披露しましたわ。「はい、殿下。本日は御来訪いただきまして、心より感謝いたしますわ」
「かのシャーデフロイ家の娘と聞いて、どんな腹黒い女狐かと身構えていたが」 「は?」今、この方はなんとおっしゃった。女狐?
「どうやら、存外、普通の令嬢のようだな」
侮辱。
ええ、他に解釈もしようがないほどの侮辱。 浮かべた笑顔が、微動だにしなかったのは、長年の淑女教育の賜物よ。(普通ですって? 数多の令息たちから熱烈な恋文を受けた、この社交界の華、ベアトリーチェ・ファン・シャーデフロイを捕まえて、ふ、普通っ!?)
バージル殿下は、渦巻く憤りなど露知らず。紅茶を含むと、心底興味なさそうに続けた。
「まあ、いい。これは王家と伯爵家における、政治的決定だ。余計な期待はせぬようにな。よろしいか?」
それは恋も愛も、一欠けらも婚約に存在しないという宣告。
(せめてっ! 今日のために新調した、この水仙色のドレスを褒めなさいよ! あなたの瞳に合わせて選んだ、わたくしの気遣いがわからないの!? この馬鹿王子っ!)
許されるなら、すぐさま紅茶を、鑑賞用のお顔にぶっかけてやりたかったわ!
でも、扇で口元を隠しながら「はい、畏まりました」と頷くのが精一杯。そこに、専属執事イヅルが割って入る。銀縁眼鏡がきらりと光った。
「殿下。茶のお代わりは、いかがでございましょうか」
「……もらおうか、味は悪くない」 「ありがたき幸せにございます」空になったカップに紅茶をとくとく注ぐ、イヅル。レンズ奥、黒曜石の眼差しからは何の感情も読みとれない。
「聞いた記憶はある。シャーデフロイ家に、辺境島国から来た一族が仕えていると。……イヅル、と言ったか。確かに、我らとは違う毛色をしているな」
バージル殿下は矛先を、今度はイヅルに向けた。
「はい。殿下のお目に留まり、光栄の至りに存じます」
「まさか、祖国から追放された身の上か? 流刑された犯罪者の末裔ではあるまいな?」 「いえいえ、滅相もございません。およそ百年前のこと。我らは、お仕えする主君を求め、故郷の島国を旅立ったのでございます」 「ほう。そこで見つけたのが、翼を持つ毒牙と|ジェンシャン《リンドウ》を冠する、この『|業深き骸山の館《シャーデフロイ》』だと?」 「仰る通りでございます。我らにとっては、まさに僥倖だったのでしょう」イヅルは当たり障りのない答えで、さらりと侮辱を受け流す。
(この馬鹿王子。……わたくしの執事を犯罪者の末裔呼ばわりしたわね!?)
ああ、もうっ! まったく勝手なことばかり。
この婚約、どうしてこんなことになってしまったの!……けれど、なぜかしら。
イヅルの声に、ほんの微か。ショーを観劇している時のような、愉悦の響きが含まれているように、聞こえた気がしたの。“เหนื่อยไหมครับ?” เขาถามเมื่อพาเธอเข้ามานั่งบนโซฟา “ไม่ค่ะ…แค่ใจเต้นแรงอยู่เรื่อยเลย” เธอยิ้มบาง ๆ พูดออกมาอย่างเขิน ๆ ธีภพหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบใกล้ใบหูเธอ “ใจคุณเต้นแรง…แต่ใจผมแทบจะระเบิด” นาราหัวเราะคิก แล้วตีไหล่เขาเบา ๆ แต่มือของเขากลับยื่นมาจับมือนั้นไว้ และแนบมันไว้กับอกเขา ภายในห้องนอน แสงไฟสีอำพันคลี่คลุมห้องทั้งห้องไว้ด้วยความอบอุ่น กลิ่นหอมจาง ๆ จากดอกไม้ข้างเตียงแตะจมูกเบา ๆ เสียงหัวใจสองดวงที่กำลังใกล้กันทีละนิด…ดังกว่าเสียงใด ๆ ธีภพยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาเขามองเธอราวกับเธอเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปปลดเครื่องประดับผมของเธอออกช้า ๆ เส้นผมดำขลับสยายลงบนบ่าขาว เธอหลับตาลงช้า ๆ รับสัมผัสจากปลายนิ้วของเขา “คุณรู้ไหม” เขากระซิบ “ผมฝันถึงค่ำคืนนี้มานานมาก ฝัน…ถึงวันที่คุณจะอยู่ในอ้อมแขนผม ไม่ใช่แค่ชั่วคืน แต่ตลอดชีวิต” เธอไม่ตอบ เพียงยิ้ม และยื่นมือไปแตะแก้มเขาเบา ๆ “และฉันก็เลือกจะอยู่ตรงนี้…กับคุณ ทั้งในคืนนี้ และคืนไหน ๆ ที่ยังมีลมหายใจอยู่” ธีภพก้มลงจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา จากนั้นป
วันแต่งงานที่รอคอยมาถึง เช้าวันนั้น แสงแดดยามสายทอดอุ่นลงบนสนามหญ้าเขียวขจี สายลมพัดผ่านแผ่วเบา กลีบดอกไม้ที่ประดับอยู่ตามซุ้มขาวเคลื่อนไหวราวกับเต้นรำรับจังหวะหัวใจของใครบางคน บริเวณงานถูกจัดเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ผ้าคลุมบางเบา โทนสีขาวครีมผสมกลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ลอยในอากาศ ดนตรีจากเปียโนคลอเบา ๆ ท่ามกลางเสียงพูดคุยของแขกที่มาด้วยรอยยิ้ม ที่นี่...คือสถานที่ซึ่งหัวใจสองดวงจะเริ่มต้นบทใหม่ ไม่ใช่แค่พิธีการ แต่เป็น "คำสัญญา" ที่กลั่นมาจากทุกบททดสอบของชีวิตที่ผ่านมา ... ภายในห้องแต่งตัว เสียงหัวเราะนุ่ม ๆ ดังขึ้นเมื่อหญิงสาวในชุดเดรสลูกไม้สีพีชก้าวเข้ามา พราวฟ้า ดาราสาวเพื่อนสนิทของนารา วางกระเป๋าเบา ๆ แล้วโผเข้ากอดเพื่อนด้วยความคิดถึง “หายไปครึ่งปี! ฉันนึกว่าเธอหายสาบสูญไปแล้วนะ” นาราหัวเราะอย่างแผ่วเบา “เกือบแล้วจริง ๆ” พราวฟ้าหัวเราะตาม “กองถ่ายเรื่องล่าสุดให้เก็บตัวขึ้นเขา ไม่มีเน็ต ไม่มีสัญญาณเลยสักเส้น ฉันนับวันรอจะได้ลงมางานนี้เลยนะรู้ไหม” สองเพื่อนสาวสบตากันอย่างเข้าใจ แม้ไม่มีคำพูดมาก แต่แววตาก็สื่อได้ว่า…เธอไม่พลาดวัน
คำพูดนั้นเรียบ แต่หนักแน่นพอจะทำให้ห้องทั้งห้องเงียบงันชั่วครู่ คุณบงกชหันไปมองนารา ลูกสาวของเธอในวันนี้…ไม่ใช่ผู้หญิงที่ยังตกอยู่ใต้เงาอดีตอีกต่อไป แต่คือผู้หญิงที่ยืนอย่างมั่นคง ข้างคนที่เลือกจะปกป้องเธอจนสุดทาง การพูดคุยหลังจากนั้นดำเนินไปอย่างอบอุ่น กำหนดวันหมั้นและวันแต่งงานถูกพูดถึงทีละลำดับ เสียงหัวเราะดังขึ้นบ้างในจังหวะที่คุณบงกชและคุณสุวิมลคุยกัน พลางหันมาถามว่า “ตกลงต้องเตรียมห้องไว้สำหรับเวลาหลาน ๆ มาเที่ยวเล่นเลยไหมลูก?” ธีภพกับนาราสบตากันแล้วยิ้ม แบบที่ไม่ต้องมีคำตอบ เพราะคำตอบอยู่ในดวงตาคู่นั้น…ที่มองกันราวกับโลกทั้งใบมีแค่คนสองคน หลังจากบทสนทนาเรื่องวันสำคัญสิ้นสุดลง ในขณะที่ทุกคนยังนั่งพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มอบอุ่น นาราค่อย ๆ ลุกขึ้น เธอไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงสบตาธีภพอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหมุนกาย ก้าวขึ้นสู่ชั้นบนของบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำ บ้านสไตล์เรียบหรูที่แวดล้อมด้วยสีอุ่นและแสงเงานุ่มนวล เงียบพอให้ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองทุกครั้งที่ก้าวเท้า เธอหยุดหน้าห้องห้องหนึ่ง ประตูไม้สีอ่อนเรียบสะอาดบานนั้นไม่ได้ถูกเปิดมานานหลายปี เพราะมันคือห้
ไม่กี่วันถัดมา แสงแดดอุ่นยามสายสาดลงบนระเบียงหน้าบ้านสองชั้นสไตล์เรียบหรู เส้นสายของรั้วขาวตัดกับสวนสีเขียวขนาดย่อมอย่างลงตัว เงาของต้นปีบที่ปลูกใหม่เพิ่งเริ่มผลิใบสะท้อนบนกระจกหน้าต่างชั้นสอง ธีภพ ก้าวลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ มือเขายื่นออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยคำ เธอก็วางมือลงในมือเขาอย่างคุ้นเคย “บ้านหลังนี้…จะเป็นเรือนหอของเรานะ” เขาบอกเสียงนุ่ม นารามองตรงไปยังตัวบ้าน บ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่แต่ถูกออกแบบอย่างประณีต สีนวลอ่อนของผนังตัดกับโครงไม้สีอบอุ่น ประตูไม้จริงมีลวดลายเรียบง่ายแต่แฝงความมั่นคง “สวยมากเลยค่ะ” เสียงเธอเบา ดวงตาเปล่งประกาย “เหมือนบ้านที่อยู่ในฝันตอนเด็กของฉันเลย” เขายิ้ม มองเธอด้วยแววตาที่มีแสงสะท้อนบางอย่าง “ผมอยากให้มันเป็นมากกว่าฝัน…อยากให้คุณรู้ว่า ที่นี่...คุณจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว” ภายในบ้านอบอวลด้วยกลิ่นใหม่และแสงธรรมชาติจากช่องแสงบนเพดานสูง พวกเขาเดินไปด้วยกัน ดูทีละห้อง ห้องรับแขกโปร่งโล่งเชื่อมต่อกับครัวเปิด ห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ที่มีหน้าต่างบานใหญ่รับวิวสวนหลังบ้าน พอขึ้นมาชั้นสอง เธอก็หยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง “ห้องน






reviews