“แก้วมังกร...” อี้เฉินเฟยหน้าเปลี่ยนสี อยากจะเข้าไปชิงมา ทว่าร่างกายกลับอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ไม่เป็นไปตามที่เขาควบคุมเลยแม้แต่น้อย นายท่านหลันจะอยากชิงแก้วมังกร ทว่ามือขวาที่ยื่นออกไปกลับถูกเข็มขัดของกู้ชูหน่วนรัดเอาไว้โดยไม่ทันได้ตั้งตัว สายตาเยี่ยเฟิงเย็นเยียบ ต้องการสู้สุดแรงเกิด ยกมีดขึ้นมาแล้วสับแขนขวาของนายท่านหลันอย่างแรงจนขาดเป็นท่อน "อ้ากกก..." นายท่านหลันร้องโหยหวน แขนกระเด็นออกไปกลางอากาศพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาเป็นสายฝน เจ็บเหลือเกิน...... เจ็บจนนายท่านหลันสีหน้าเหยเก มือขวาของเขาถูกเยี่ยเฟิงตัดขาดทั้งเป็นเช่นนี้เสียได้ กู้ชูหน่วนไม่มีเวลาไปสนใจนายท่านหลัน วิ่งไปทางหน้าผาตามสัญชาตญาณ "อาหน่วน..." อี้เฉินเฟยโมโหสุดขีด ตกตะลึงจนใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เยี่ยเฟิงที่เดิมตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะสังหารนายท่านหลัน เห็นกู้ชูหน่วนที่รู้ทั้งรู้ว่าทะเลโลหิตอยู่ตรงหน้า กลับยังวิ่งไปโดยไม่สนใจอะไรอีก จึงจำต้องปล่อยนายท่านหลันไปก่อน แล้ววิ่งตามไปด้วย แก้วมังกรกลิ้งตกหน้าผา กู้ชูหน่วนวิ่งตามไปพลางใช้ผ้าผูกเอวของตัวเองห่อแก้วมังกรเอาไว้ "ฟึบ......" ผ
สายลมริมผาพัดผ่านไป ทำให้ผ้าของเขาเสียดสีกันเกิดเสียงดัง ผมขาวของเขาปลิวไสว ราวกับจะกลายเป็นปีกบินไปได้ทุกเมื่อ นายท่านหลันรู้สึกโกรธเกรี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ "อี้เฉินเฟย ในเมื่อเจ้าอยากตายถึงเพียงนั้น ข้าจะส่งเจ้าไปลงนรกเอง" "ตู้ม......" นายท่านหลันหมุนตัว จากนั้นพลังโจมตีซัดเข้าไปเป็นระลอก เดิมทีเป็นเพียงแค่ลูกไฟลูกเล็กๆ ทว่ากลับพองโตขึ้นทันตาเห็น ส่องแสงสีแดงสว่างจ้าแสบตาไปทั่วฟ้าแล้วพุ่งเข้าใส่อี้เฉินเฟย เสียงขลุ่ยของอี้เฉินเฟยเร็วขึ้น แม้จะยังคงยืนอยู่ริมหน้าผา แต่เลือดสีแดงสดหยดลงมาจากมุมปากของเขา พื้นดินบริเวณที่ยืนอยู่แตกร้าวเป็นระแหง เห็นได้ชัดเลยว่าแรงดันที่เขาทนรับอยู่รุนแรงเพียงใด กู้ชูหน่วนพยายามฝืนให้ตัวเองใจเย็น กลิ้งแก้วมังกรมาอยู่ตรงกลางของผ้าผูกเอว สถานการณ์ตรงหน้า สามารถเด้งแก้วมังกรกลับขึ้นมาได้แล้ว ทว่าอี้เฉินเฟยกลับต้านไว้ไม่ไหวอีกต่อไป เสียงขลุ่ยหายไป มีหมอกเลือดระเบิดออกมาจากร่างครั้งแล้วครั้งเล่า อี้เฉินเฟยดวงตาแดงก่ำ มองไปทางกู้ชูหน่วน มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มหดหู่ "ตึง..." ขลุ่ยหยกตกลงบนพื้น กลิ้งอยู่หลายตลบก่อนจะค่อยๆ หยุดนิ่ง ร่
ประโยคเดียวทำให้ความเห็นอกเห็นใจที่เห็นได้ไม่ง่ายนักของนายท่านหลันสลายไปอีกครั้ง เขาพูดอย่างเกรี้ยวกราด "คนชั่วไม่รู้จักเชื่อฟัง เช่นนั้นเจ้าก็ไปตายเสียเถอะ" เขากระแทกพลังฝ่ามือออกไป เยี่ยเฟิงแค่นหัวเราะเย็นชา ก่อนที่พลังโจมตีนั้นจะมาถึง เขากรีดผ้าพันเอวจนขาด ปล่อยให้ร่างร่วงลงสู่ทะเลโลหิตที่อยู่ลึกลงไปหลายเมตร ท่ามกลางหุบเขา เสียงใสเย็นของเขาดังชัดเจน "คนอย่างข้า เยี่ยเฟิง ต่อให้ต้องตาย ก็ไม่มีทางตายด้วยน้ำมือเจ้า หากชาติหน้ามีจริง แม้ว่าทั่วทั้งใต้หล้ากลายเป็นนรกภูมิไปแล้ว ข้าก็จะแก้แค้นให้ถึงที่สุด หากชาติหน้าไม่มีอีกแล้ว ข้าจะกลายเป็นวิญญาณ ตามหลอกหลอนเจ้า สาปแช่งเจ้าทุกชาติทุกภพ" ทุกครั้งที่เยี่ยเฟิงพูดออกมา สีหน้าของนายท่านหลันก็ดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ ภายในใจของเขาว่างเปล่าโหวงเหวง เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ดี ดวงตาเบิกโพลงคู่นั้นมีเพียงแต่ความเกลียดชังของเยี่ยเฟิง "เยี่ยเฟิง..." กู้ชูหน่วนตะโกนร้องเสียงดังราวกับจะขาดใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางทำใจได้ที่คนดีๆ คนหนึ่งจะต้องตายอย่างน่าเวทนาต่อหน้านางเช่นนี้ ระหว่างนั้น นางได้ยินเสียงพึมพำของเยี่ยเฟิง "ได้รู้
กู้ชูหน่วนเองก็ไม่รู้ว่าตนไปเอาพลังมาจากไหน รุนแรงและแข็งแกร่งขึ้นในแต่ละทุกกระบวนท่า โจมตีจนนายท่านหลันกระอักเลือด ลุกไม่ขึ้น นี่ใช่วิทยายุทธขั้นหนึ่งชั้นกลางเสียที่ไหนกัน อย่างน้อยก็ต้องถึงขั้นหกแล้วกระมัง "ปึง......" นายท่านหลันถูกโจมตีอีกครั้ง พลังฝ่ามือมหาศาลโจมตีเขาจากทั่วทุกทิศ กระดูกในร่างแทบจะแตกซ่านโดยสิ้นเชิง นายท่านหลันเดือดดาล เขาไม่เคยถูกใครทุบตีอย่างรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ความอัปยศทำให้เขาระเบิดพลังที่แท้จริงออกมา มือซ้ายของเขาปลุกพลังวิชามาร ลูกไฟมหาศาลพุ่งไปทางกู้ชูหน่วน ทุกบริเวณที่ลูกไฟผ่านไป ดอกไม้ใบหญ้าโรยรา ต้นไม้แห้งเหี่ยว แม้แต่อากาศก็มีกลิ่นของความเป็นกรด คนทั่วไปหากสัมผัสโดน เป็นต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กู้ชูหน่วนเพียงแค่สะบัดแขนเสื้อ ลูกไฟทั้งหมดก็แตกกระจาย ส่งเสียงตูมตามดังสนั่น หากไม่ใช่เพราะแรงสะเทือนเหล่านั้นทำให้พื้นเป็นหลุมลึกหลายลุม พวกเขาไม่มีทางเชื่อเลยว่า การที่กู้ชูหน่วนเพียงแค่ปัดลูกไฟออกอย่างไม่ใส่ใจ จะมีพลังรุนแรงขนาดนี้ กู้ชูหน่วนโบกแขนเบาๆ อีกครั้งพลังที่เหลือจากลูกไฟบนพื้นดินก็ถูกกวาดเข้าใส่นายท่านหลันทันที ลูกไฟมีพ
แค่กู้ชูหน่วนคนเดียว เขายังสู้ไม่ได้ นับประสาอะไรกับเย่จิ่งหานและนายน้อยชาวเขาตานหุย ยิ่งไปกว่านั้น... ขาทั้งสองข้างของเย่จิ่งหานหายเป็นปกติตั้งแต่เมื่อใด ตอนที่เขาพิการ เขาก็ยังสู้ไม่ไหว ยามนี้... นายท่านหลันรู้สึกถึงความสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม ทอดมองไปยังกู้ชูหน่วนที่ใกล้เข้ามาทีละฝีก้าว แล้วหลับตาลง เฝ้ารอความตาย เย่จิ่งหานและน่าหลันหลิงรั่วเองก็คิดว่าเพียงแค่กู้ชูหน่วนปล่อยกระบวนท่านี้ออกไป นายท่านหลันต้องตายเป็นแน่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องผิดคาด ร่างของกู้ชูหน่วนชะงักกะทันหัน สีหน้าพลันซีดเผือดเหมือนกระดาษ ก่อนที่เลือดจะทะลักออกจากปาก และพุ่งออกมาเป็นวงทั่วทั้งร่างกาย รูม่านตาของเย่จิ่งหานหดตัวอย่างแรง ร่างหายวับ รีบเข้าไปโอบกู้ชูหน่วนด้วยความไว "อาหน่วน..." "ยัยขี้เหร่..." ลมหายใจของนางค่อยๆ อ่อนแรง ร่างก็ค่อยๆ เย็นชืด ใบหู จมูก มุมปากและร่างกายมีเลือดสีแดงทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก เย่จิ่งหานเริ่มลนลาน ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจห้ามได้ เขาอุดรอยแผลที่เลือดไหลไม่หยุดของกู้ชูหน่วน พลางเอ่ยด้วยความร้อนรน "อาหน่วน เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจกลัว
เจ็บ เจ็บที่หัว ตัวก็เจ็บ โดยเฉพาะความรู้สึกประหลาดที่ตีขึ้นจากท้องน้อยเป็นระลอกนั้น กำลังโจมดีกู้ชูหน่วนไม่หยุดหย่อนเธอหนาวสั่นสะท้าน สายลับระดับท็อปและหมอยอดฝีมือระดับโลกแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอย่างเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเองยังไม่ทันได้สติ ข้างหูก็มีเสียงพึมพำอย่างลำพองใจดังขึ้น"ท่านพี่ อย่าได้โทษน้องเลยนะเจ้าคะ หากจะโทษคงต้อโทษที่ท่านพี่ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม แถมยังหน้าตาอัปลักษณ์ เพียงเพราะเป็นคุณหนูสามจากฮูหยินใหญ่ ท่านพี่ถึงได้ถูกหมั้นหมายให้เป็นเจ๋ออ๋องเฟยตั้งแต่เด็ก คนที่สง่างามหล่อเหลาเช่นนั้น ไม่ใช่คนที่ท่านพี่จะคู่ควร""อี๋เหนียงได้พาคนจากจวนอัครเสนาบดีมาแล้ว ประเดี๋ยวผู้ชายพวกนั้นคงมาถึงเหมือนกัน ท่านพี่วางใจเถิด พิษเมามายพันกาลที่ท่านโดน ต้องทำให้ท่านสุขสมปางตายแน่"ความทรงจำที่แปลกใหม่ทว่าคุ้นเคยทะลักเข้ามาในหัว กู้ชูหน่วนเดือดดาล เดือดดาลจนลุกเป็นไฟกระจอกงอกง่อย กล้าดีอย่างไรถึงได้วางแผนทำร้ายเธอ"หลังจากวันนี้ผ่านไป ชาตินี้ท่านพี่ก็อย่าได้คิดจะอาจเอื้อมเจ๋ออ๋องอีก..."ซี๊ด...ม่านตาของกู้ชูหลันที่กำลังลำพองใจพลันหดลง สีหน้าเปล
หากไม่ใช่เพราะเจ้านายของพวกเขาโดนยาพิษ แถมยังติดกับดักที่คนอื่นวางไว้ คงไม่มีทางยอมให้นางยำยีเช่นนี้พวกเขาอยากจะช่วยเจ้านาย แต่จนปัญญาเพราะโดนยาพิษเช่นกัน ใจอยากช่วยแต่ไร้กำลังอีกฟากหนึ่งของทุ่งหญ้า ร่างทั้งร่างของเย่จิ่งหานไร้เรี่ยวแรง ไม่อาจขยับเขยื้อน ทำได้เพียงถลึงตาจ้องกู้ชูหน่วน"เจ้าลองแตะต้องข้าแม้แต่ปลายก้อยสิ""แตะแค่ปลายก้อยจะพอได้อย่างไร อย่างน้อยก็ต้องแตะทั้งตัว"บางทีอาจเป็นเพราะดวงตาคู่นั้นของเขาเดือดพล่านมากเกินไป กู้ชูหน่วนถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมา จึงรีบกดจุดเขาเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน"แค่ยืมร่างกายหรอกน่า เจ้าเองก็ไม่สึกหรอเสียหน่อย"นางพูดอย่างไม่กระดากอาย แต่กลับทำเอาเย่จิ่งหานโมโหจนแทบลมจับค่ำคืนต้องอันงดงามเย่จิ่งหานโกรธจนเส้นเอ็นปูดโปนโธ่เว้ย เทพสงครามผู้ใหญ่อย่างเขา กลับถูกหญิงที่ไหนก็ไม่รู้ข่มเหงเสียได้แต่ที่แค้นที่สุดก็คือ ตัวนางเองเสร็จสมแล้ว แต่ "น้องชาย" ของเขาไม่พอใจเป็นที่สุด ไฟราคะถูกนางโหมกระพือจนกระสับกระส่ายไปทั้งตัว แต่หญิงผู้นี้กลับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อยกู้ชูหน่วนเหนื่อยอ่อนจนสั่นเครือไปทั้งร่างนางฉีกเสื้อตัวหนึ่งแล้วคลุมท่อนบนของเ
นางเอ่ยเป็นจริงเป็นจัง แววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ทว่ากลับทำเอากู้ชูหลันและอี๋เหนียงห้าโกรธจนสั่นไปทั้งตัว"กู้ชูหน่วน เจ้าโกหก ตอนที่เจ้าบังคับให้ข้าดื่มเมามายพันกาล มิได้ท่าทางเช่นนี้เลย""น้องสาว ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดเรื่องอันใด ข้ารู้ว่าข้าผิด ไม่ควรจะไปสาย น้องสาวอย่าโกรธเลยได้หรือไม่"กู้ชูหลันเสียสติ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของนางถูกอีกฝ่ายทำลาย แต่อีกฝ่ายกลับทำเป็นใสซื่อเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย ความโกรธเอาชนะกู้ชูหลัน นางตะกายตัวขึ้นมาหมายจะบีบลอคำของอีกฝ่าย ราวกับอยากจะบีบคอกู้ชูหน่วนให้ตายทั้งเป็น"สามหาว"เสียง "ปึง" ดังขึ้น อัครเสนาบดีกู้ตบโต๊ะ โมโหเลือดขึ้นหน้าเว้นเสียแต่กู้ชูหน่วน ทุกคนต่างตื่นตกใจส่วนอี๋เหนียงห้าก็กระชากกู้ชูหลันให้คุกเข่าลงเสียงดังโครม "นายท่านใจเย็นเจ้าค่ะ หลันเอ๋อร์ก็แค่คิดน้อยไปจึงได้ออกไปกับคุณหนูสาม เมามายพันกาลนั่น ต้องมีคนจงใจวางยาแน่"ฮูหยินใหญ่และอี๋เหนียงสามรวมถึงคนอื่นๆ พากันแค่นหัวเราะมีคนจงใจวางยางั้นรึ? หมายถึงพวกนางอย่างนั้นหรือ?อี๋เหนียงห้าเป็นที่โปรดปรานของอัครเสนาบดี ยามปกติแล้วมักจะอวดเบ่งวางอำนาจกับพวกนางอยู่บ่อยๆ ยามนี้กู้ชูหลัน
แค่กู้ชูหน่วนคนเดียว เขายังสู้ไม่ได้ นับประสาอะไรกับเย่จิ่งหานและนายน้อยชาวเขาตานหุย ยิ่งไปกว่านั้น... ขาทั้งสองข้างของเย่จิ่งหานหายเป็นปกติตั้งแต่เมื่อใด ตอนที่เขาพิการ เขาก็ยังสู้ไม่ไหว ยามนี้... นายท่านหลันรู้สึกถึงความสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม ทอดมองไปยังกู้ชูหน่วนที่ใกล้เข้ามาทีละฝีก้าว แล้วหลับตาลง เฝ้ารอความตาย เย่จิ่งหานและน่าหลันหลิงรั่วเองก็คิดว่าเพียงแค่กู้ชูหน่วนปล่อยกระบวนท่านี้ออกไป นายท่านหลันต้องตายเป็นแน่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องผิดคาด ร่างของกู้ชูหน่วนชะงักกะทันหัน สีหน้าพลันซีดเผือดเหมือนกระดาษ ก่อนที่เลือดจะทะลักออกจากปาก และพุ่งออกมาเป็นวงทั่วทั้งร่างกาย รูม่านตาของเย่จิ่งหานหดตัวอย่างแรง ร่างหายวับ รีบเข้าไปโอบกู้ชูหน่วนด้วยความไว "อาหน่วน..." "ยัยขี้เหร่..." ลมหายใจของนางค่อยๆ อ่อนแรง ร่างก็ค่อยๆ เย็นชืด ใบหู จมูก มุมปากและร่างกายมีเลือดสีแดงทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก เย่จิ่งหานเริ่มลนลาน ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจห้ามได้ เขาอุดรอยแผลที่เลือดไหลไม่หยุดของกู้ชูหน่วน พลางเอ่ยด้วยความร้อนรน "อาหน่วน เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจกลัว
กู้ชูหน่วนเองก็ไม่รู้ว่าตนไปเอาพลังมาจากไหน รุนแรงและแข็งแกร่งขึ้นในแต่ละทุกกระบวนท่า โจมตีจนนายท่านหลันกระอักเลือด ลุกไม่ขึ้น นี่ใช่วิทยายุทธขั้นหนึ่งชั้นกลางเสียที่ไหนกัน อย่างน้อยก็ต้องถึงขั้นหกแล้วกระมัง "ปึง......" นายท่านหลันถูกโจมตีอีกครั้ง พลังฝ่ามือมหาศาลโจมตีเขาจากทั่วทุกทิศ กระดูกในร่างแทบจะแตกซ่านโดยสิ้นเชิง นายท่านหลันเดือดดาล เขาไม่เคยถูกใครทุบตีอย่างรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ความอัปยศทำให้เขาระเบิดพลังที่แท้จริงออกมา มือซ้ายของเขาปลุกพลังวิชามาร ลูกไฟมหาศาลพุ่งไปทางกู้ชูหน่วน ทุกบริเวณที่ลูกไฟผ่านไป ดอกไม้ใบหญ้าโรยรา ต้นไม้แห้งเหี่ยว แม้แต่อากาศก็มีกลิ่นของความเป็นกรด คนทั่วไปหากสัมผัสโดน เป็นต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กู้ชูหน่วนเพียงแค่สะบัดแขนเสื้อ ลูกไฟทั้งหมดก็แตกกระจาย ส่งเสียงตูมตามดังสนั่น หากไม่ใช่เพราะแรงสะเทือนเหล่านั้นทำให้พื้นเป็นหลุมลึกหลายลุม พวกเขาไม่มีทางเชื่อเลยว่า การที่กู้ชูหน่วนเพียงแค่ปัดลูกไฟออกอย่างไม่ใส่ใจ จะมีพลังรุนแรงขนาดนี้ กู้ชูหน่วนโบกแขนเบาๆ อีกครั้งพลังที่เหลือจากลูกไฟบนพื้นดินก็ถูกกวาดเข้าใส่นายท่านหลันทันที ลูกไฟมีพ
ประโยคเดียวทำให้ความเห็นอกเห็นใจที่เห็นได้ไม่ง่ายนักของนายท่านหลันสลายไปอีกครั้ง เขาพูดอย่างเกรี้ยวกราด "คนชั่วไม่รู้จักเชื่อฟัง เช่นนั้นเจ้าก็ไปตายเสียเถอะ" เขากระแทกพลังฝ่ามือออกไป เยี่ยเฟิงแค่นหัวเราะเย็นชา ก่อนที่พลังโจมตีนั้นจะมาถึง เขากรีดผ้าพันเอวจนขาด ปล่อยให้ร่างร่วงลงสู่ทะเลโลหิตที่อยู่ลึกลงไปหลายเมตร ท่ามกลางหุบเขา เสียงใสเย็นของเขาดังชัดเจน "คนอย่างข้า เยี่ยเฟิง ต่อให้ต้องตาย ก็ไม่มีทางตายด้วยน้ำมือเจ้า หากชาติหน้ามีจริง แม้ว่าทั่วทั้งใต้หล้ากลายเป็นนรกภูมิไปแล้ว ข้าก็จะแก้แค้นให้ถึงที่สุด หากชาติหน้าไม่มีอีกแล้ว ข้าจะกลายเป็นวิญญาณ ตามหลอกหลอนเจ้า สาปแช่งเจ้าทุกชาติทุกภพ" ทุกครั้งที่เยี่ยเฟิงพูดออกมา สีหน้าของนายท่านหลันก็ดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ ภายในใจของเขาว่างเปล่าโหวงเหวง เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ดี ดวงตาเบิกโพลงคู่นั้นมีเพียงแต่ความเกลียดชังของเยี่ยเฟิง "เยี่ยเฟิง..." กู้ชูหน่วนตะโกนร้องเสียงดังราวกับจะขาดใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางทำใจได้ที่คนดีๆ คนหนึ่งจะต้องตายอย่างน่าเวทนาต่อหน้านางเช่นนี้ ระหว่างนั้น นางได้ยินเสียงพึมพำของเยี่ยเฟิง "ได้รู้
สายลมริมผาพัดผ่านไป ทำให้ผ้าของเขาเสียดสีกันเกิดเสียงดัง ผมขาวของเขาปลิวไสว ราวกับจะกลายเป็นปีกบินไปได้ทุกเมื่อ นายท่านหลันรู้สึกโกรธเกรี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ "อี้เฉินเฟย ในเมื่อเจ้าอยากตายถึงเพียงนั้น ข้าจะส่งเจ้าไปลงนรกเอง" "ตู้ม......" นายท่านหลันหมุนตัว จากนั้นพลังโจมตีซัดเข้าไปเป็นระลอก เดิมทีเป็นเพียงแค่ลูกไฟลูกเล็กๆ ทว่ากลับพองโตขึ้นทันตาเห็น ส่องแสงสีแดงสว่างจ้าแสบตาไปทั่วฟ้าแล้วพุ่งเข้าใส่อี้เฉินเฟย เสียงขลุ่ยของอี้เฉินเฟยเร็วขึ้น แม้จะยังคงยืนอยู่ริมหน้าผา แต่เลือดสีแดงสดหยดลงมาจากมุมปากของเขา พื้นดินบริเวณที่ยืนอยู่แตกร้าวเป็นระแหง เห็นได้ชัดเลยว่าแรงดันที่เขาทนรับอยู่รุนแรงเพียงใด กู้ชูหน่วนพยายามฝืนให้ตัวเองใจเย็น กลิ้งแก้วมังกรมาอยู่ตรงกลางของผ้าผูกเอว สถานการณ์ตรงหน้า สามารถเด้งแก้วมังกรกลับขึ้นมาได้แล้ว ทว่าอี้เฉินเฟยกลับต้านไว้ไม่ไหวอีกต่อไป เสียงขลุ่ยหายไป มีหมอกเลือดระเบิดออกมาจากร่างครั้งแล้วครั้งเล่า อี้เฉินเฟยดวงตาแดงก่ำ มองไปทางกู้ชูหน่วน มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มหดหู่ "ตึง..." ขลุ่ยหยกตกลงบนพื้น กลิ้งอยู่หลายตลบก่อนจะค่อยๆ หยุดนิ่ง ร่
“แก้วมังกร...” อี้เฉินเฟยหน้าเปลี่ยนสี อยากจะเข้าไปชิงมา ทว่าร่างกายกลับอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ไม่เป็นไปตามที่เขาควบคุมเลยแม้แต่น้อย นายท่านหลันจะอยากชิงแก้วมังกร ทว่ามือขวาที่ยื่นออกไปกลับถูกเข็มขัดของกู้ชูหน่วนรัดเอาไว้โดยไม่ทันได้ตั้งตัว สายตาเยี่ยเฟิงเย็นเยียบ ต้องการสู้สุดแรงเกิด ยกมีดขึ้นมาแล้วสับแขนขวาของนายท่านหลันอย่างแรงจนขาดเป็นท่อน "อ้ากกก..." นายท่านหลันร้องโหยหวน แขนกระเด็นออกไปกลางอากาศพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาเป็นสายฝน เจ็บเหลือเกิน...... เจ็บจนนายท่านหลันสีหน้าเหยเก มือขวาของเขาถูกเยี่ยเฟิงตัดขาดทั้งเป็นเช่นนี้เสียได้ กู้ชูหน่วนไม่มีเวลาไปสนใจนายท่านหลัน วิ่งไปทางหน้าผาตามสัญชาตญาณ "อาหน่วน..." อี้เฉินเฟยโมโหสุดขีด ตกตะลึงจนใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เยี่ยเฟิงที่เดิมตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะสังหารนายท่านหลัน เห็นกู้ชูหน่วนที่รู้ทั้งรู้ว่าทะเลโลหิตอยู่ตรงหน้า กลับยังวิ่งไปโดยไม่สนใจอะไรอีก จึงจำต้องปล่อยนายท่านหลันไปก่อน แล้ววิ่งตามไปด้วย แก้วมังกรกลิ้งตกหน้าผา กู้ชูหน่วนวิ่งตามไปพลางใช้ผ้าผูกเอวของตัวเองห่อแก้วมังกรเอาไว้ "ฟึบ......" ผ
“ในเมื่อเจ้าอยากให้ข้าตายถึงเพียงนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ตายไปด้วยกันเลยเถอะ” นายท่านหลันพูดพลางปล่อยมืออย่างกะทันหัน ปล่อยให้ดาบทิ่มแทงเข้าไปในร่างของเขา ทันทีที่พลิกมือขวาของตัวเองมีดสั้นพลันปรากฏขึ้นในมือ มุมปากของเขายกยิ้มเจ้าเล่ห์และชั่วร้าย ทันใดนั้นก็เสียบมีดเข้าไปบนหน้าอกของเยี่ยเฟิงที่กำลังเอนตัวเข้ามาใกล้เขา ขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนปลดผ้าพันเอวแล้วรวบรวมกำลังภายในไว้บนนั้น ทำให้ผ้าพันเอวราวกับลูกงูที่มีมันสมองพุ่งเข้าไปรัดเอวของเยี่ยเฟิงเอาไว้ ก่อนจะออกแรงดึงเยี่ยเฟิงเข้ามาอยู่ข้างกายตนเอง หลบจากคมมีดของนายท่านหลันได้อย่างหวุดหวิด นายท่านหลันโจมตีครั้งแรกไม่สำเร็จ จึงโจมตีอีกครั้ง เขารวบรวมกำลังเป็นลูกไฟ ลูกไฟแดงเพลิงล้วนแต่แฝงไว้ด้วยพลังเผาไหม้และทำลายล้าง หากสัมผัสโดนลูกไฟ ก็จะลุกไหม้กลายเป็นกองเพลิงและมอดดับไปในที่สุด หรือเน่าสลายกลายเป็นศพ เยี่ยเฟิงหยิบขลุ่ยหยกของอี้เฉินเฟยมาจากบนพื้น วางบนริมฝีปากของตนแล้วเริ่มบรรเลงช้าๆ วิทยายุทธของเขาธรรมดา แต่การโจมตีด้วยเสียงกลับรุนแรงยิ่ง เสียงขลุ่ยกลายเป็นเกราะคุ้มกัน ทำให้ลูกไฟเหล่านั้นถูกกันอยู่ด้านนอก ไม่ว่าอย่าง
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา