Share

ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม
ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม
Author: เย่ชิงขวง

บทที่ 1

Author: เย่ชิงขวง
เจ็บ เจ็บที่หัว ตัวก็เจ็บ โดยเฉพาะความรู้สึกประหลาดที่ตีขึ้นจากท้องน้อยเป็นระลอกนั้น กำลังโจมดีกู้ชูหน่วนไม่หยุดหย่อน

เธอหนาวสั่นสะท้าน สายลับระดับท็อปและหมอยอดฝีมือระดับโลกแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอย่างเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง

ยังไม่ทันได้สติ ข้างหูก็มีเสียงพึมพำอย่างลำพองใจดังขึ้น

"ท่านพี่ อย่าได้โทษน้องเลยนะเจ้าคะ หากจะโทษคงต้อโทษที่ท่านพี่ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม แถมยังหน้าตาอัปลักษณ์ เพียงเพราะเป็นคุณหนูสามจากฮูหยินใหญ่ ท่านพี่ถึงได้ถูกหมั้นหมายให้เป็นเจ๋ออ๋องเฟยตั้งแต่เด็ก คนที่สง่างามหล่อเหลาเช่นนั้น ไม่ใช่คนที่ท่านพี่จะคู่ควร"

"อี๋เหนียงได้พาคนจากจวนอัครเสนาบดีมาแล้ว ประเดี๋ยวผู้ชายพวกนั้นคงมาถึงเหมือนกัน ท่านพี่วางใจเถิด พิษเมามายพันกาลที่ท่านโดน ต้องทำให้ท่านสุขสมปางตายแน่"

ความทรงจำที่แปลกใหม่ทว่าคุ้นเคยทะลักเข้ามาในหัว กู้ชูหน่วนเดือดดาล เดือดดาลจนลุกเป็นไฟ

กระจอกงอกง่อย กล้าดีอย่างไรถึงได้วางแผนทำร้ายเธอ

"หลังจากวันนี้ผ่านไป ชาตินี้ท่านพี่ก็อย่าได้คิดจะอาจเอื้อมเจ๋ออ๋องอีก..."

ซี๊ด...

ม่านตาของกู้ชูหลันที่กำลังลำพองใจพลันหดลง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ก้าวเท้าถอยหลังอย่างห้ามไม่ได้

กู้ชูหน่วนที่ควรหมดสติเพราะฤทธิ์ของเมามายพันกาลกลับยืนขึ้นต่อหน้านางเสียงอย่างนั้น แถมยังส่งรอยยิ้มมีเลศนัยให้นาง ราวกับรอยยิ้มของอสุราจากนรกนั้น ชวนให้คนตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

เสียง "กรอบ" ดังขึ้น ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำได้อย่างไร นิ้วทั้งห้าจิกเกร็งเป็นกรงเล็บ กอบกุมลำคอของนางไว้ พละกำลังนั้นเหมือนดั่งทองแดงเหล็กกล้า จนนางไร้หนทางหนีรอด

"เจ๋ออ๋องน่ารังเกียจจะเอื้อมถึงข้าหรือไม่นั้น ก็ยังไม่แน่ แต่เจ้าน่ะหรือ ไม่มีโอกาสได้ตะเกียกตะกายหาเขาหรอก"

ท่าทางของกู้ชูหน่วนน่าเกรงขาม แววตามีแต่ความบ้าคลั่ง กู้ชูหลันสะพรึงกลัว

นางแพศยานี่สู้คนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?

ไม่นาน นางก็ต้องตื่นตระหนก เพราะกู้ชูหน่วนคว้าเมามายพันกาลอีกขวดหนึ่งออกมาจากตัวนาง แล้วกรอกมันลงคอของนางจนหมดเกลี้ย แสยะยิ้มและทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง

"ของดีอย่างเมามายพันกาล จะให้ข้าเก็บเอาไว้ดื่มด่ำผู้เดียวได้อย่างไร"

"เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ..."

"เจ้าคิดจะทำอะไร ข้าก็คิดจะทำเช่นนั้นแล"

นิ้วขาวเรียวยาวกดจุดชาของกู้ชูหลัน ปลดผ้าคลุมหน้าของนางอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะนำมาสวมคลุมทับใบหน้าของตัวเองแทน สายตาเหยียดหยามกวาดมองกู้ชูหลันที่ตื่นตระหนก ร่างทั้งร่างหายวับไปอยู่หลังเสาราวกับปลิวลม แววตาเย็นชามองบรรดาชายฉกรรจ์ที่ถูฝ่ามือไปมาอยู่ด้านนอก กำลังพากันเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางวิตถาร

"ไม่ใช่ว่านางเป็นหญิงอัปลักษณ์หรอกรึ? เหตุใดถึงได้งามเช่นนี้?"

"สนใจทำไมเล่า ในเมื่อได้ทั้งเงินได้ทั้งคนงาม เหตุใดจะไม่ทำเล่า"

"หยุดนะ นางแพศยาที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่ พวกเจ้ารีบตามนางไป ข้าเป็นคนจ้างพวกเจ้าเอง อ๊ะ... หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้าจะให้อี๋เหนียงของข้าฆ่าพวกเจ้าให้หมด... "

ยามราตรีลมพัดโบก ณ วัดร้างแห่งหนึ่ง เงาตะคุ่มของคนสองสามคนโยกไหวพร้อมกับส่งเสียงครวญคราง กำลังแสดงฉากที่ไม่น่ามองนัก

ไม่นาน คนกลุ่มใหญ่ก็แห่กันมาที่หน้าวัดร้าง เห็นได้ชัดว่าผู้นำหน้าสุดคืออัครเสนาบดีกู้

"ท่านอัครเสนาบดี บางที่คุณหนูสามอาจจะแค่คิดไม่ตก ถึงได้หนีออกจากจวนไปกับบ่าวรับใช้ หากนางคิดได้แล้วคงกลับมาเองขอรับ"

"ใช่ขอรับ ถึงคุณหนูสามจะ... แต่นางไม่ใช่คนไม่รู้ความ ไม่มีทางจะมี...กับบ่าวรับใช้ได้หรอกขอรับ... เอ่อ..."

ประตูใหญ่ถูกถีบจนเปิดออก ทุกคนต่างตื่นตะลึง สีหน้าของอัครเสนาบดีกู้เปลี่ยนสลับไปมาราวกับทาด้วยสี

"สารเลว..."

เสียงตวาดดังลั่น ทุกคนคุกเข่าลงในทันใด

โดยเฉพาะอี๋เหนียง อนุภรรยา แม่นางจางที่ตาเบิกโพลง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

"นายท่านโปรดใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ หลันเอ๋อร์ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้"

เพลิงราคะในตัวโหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนไม่มีกะใจจะดูต่อไป

คนหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างอัครเสนาบดีกู้ แต่ลูกสาวของตัวเองถูกกระทำชำรำปานนี้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นพวกอัธพาลชั้นต่ำ มีหรือเขาจะไว้ชีวิต

ฉวยจังหวะยามชุลมุน กู้ชูหน่วนเดินโซซัดโซเซจากไป พยายามข่มความรู้สึกประหลาดในร่างกายอย่างสุดกำลัง

แม้จะคิดหาวิธีถอนพิษนับร้อยก็ไม่ได้ผล เมามายพันกาลนี้ฤทธิ์ร้ายนัก หากไม่อยากตายก็ต้องถอนพิษ แต่วิธีถอนพิษนั้นมีเพียงทางเดียวคือเสพสม

ระหว่างตายกับเสียความบริสุทธิ์นั้น เธอเลือกอย่างหลังโดยไม่ลังเล

เขาร้างป่าไพร ไร้ซึ่งผู้คน ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังจะถึงขีดจำกัด ตรงหน้าก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้น

คนในชุดดำสามคน นอนล้มเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น จากประสบการณ์การทำงานหลายปีของเธอ พวกเขาโดนยาพิษ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ถึงได้ล้มลงบนพื้นไม่ขยับไหว

กู้ชูหน่วนพลันดีใจ รีบจ้ำเข้าไป ยกมุมปากพึมพำประโยคหนึ่ง "ตัวผู้ทั้งหมดเลย สวรรค์ยังเมตตาฉัน"

คนที่นอนอยู่บนพื้นมุมปากกระตุก?

ตัวผู้ทั้งหมดเลย?

นับพวกเขาเป็นสัตว์อย่างนั้นหรือ?

มือเรียวของกู้ชูหน่วนเชยคางชายชุดดำพินิจมองทีละคน ก่อนจะส่ายหน้าอย่างรังเกียจ "หุ่นใช้ได้ หน้าตาใช้ไม่ได้"

"ผอมไป ลูบแล้วไม่ได้อารมณ์"

"…"

สีหน้าของชายชุดดำสองคนแรกแทบดูไม่ได้

นี่มันลูกสาวตระกูลไหน?

สมบัติผู้ดีอยู่ที่ใด?

เย่จิ่งหานที่ได้ชื่อว่าเย็นชามาแต่ไหนแต่ไรนั้นมุมปากยกขึ้น ดวงตาล้ำลึกราวกับไร้ที่สิ้นสุดนั้นฉาบไปด้วยรอยยิ้ม แฝงไปด้วยความรู้สึกสนใจ

ไม่นาน คางของเขาก็ถูกเชยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาเปล่งประกายดุจดาวเหนือของหญิงตรงหน้าสะท้อนสู่ดวงตาของเขา

ดวงตาสองคู่สองประสาน คนหนึ่งสวมผ้าคลุมหน้า คนหนึ่งสวมหน้ากากปีศาจ ต่างฝ่างต่างมองไม่เห็นใบหน้าของอีกคน ทว่าในแววตาของทั้งสองต่างแฝงไปด้วยความอย่างรู้อย่างเห็น

กู้ชูหน่วนถอดหน้ากากปีศาจของเขาออก ความตกใจฉายแวบในแววตา

นี่มันชายหนุ่มรูปงามแห่งยุคหรืออย่างไร เรียวคิ้วเชิดสูง ดวงตาสุกใสดั่งดวงดาวยามฤดูหนาว เครื่องหน้าเด่นชัดประหนึ่งรูปปั้นแกะสลัก หาที่ติไม่พบแม้แต่นิด ราวกับปฏิมากรรมชั้นยอดจากสวรรค์

ไม่รู้ว่าเพราะบาดเจ็บสาหัสหรืออย่างไร ใบหน้าของเขาถึงได้ขาวซีด แต่ถึงกระนั้นรอบกายยังคงแผ่ซ่านไปด้วยรังสีน่าเกรงขามและความสง่างามอันไร้ที่ติ

กู้ชูหน่วนหัวใจเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม ชายหนุ่มหน้าตาแบบนี้ ปีศาจชัดๆ

เย่จิ่งหานเห็นความตกตะลึงในแววตาของนาง ก็รู้สึกลำพองใจขึ้นมา ทว่าจู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็จ้องมองไปยังสองขาพิการของเขา ก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งที่ทำให้เขาชะงักไป จากนั้นความโกรธก็ท่วมทะลักเข้ามา อยากจะบีบนางให้ตายให้มันรู้แล้วรู้รอด

"นึกว่าของชั้นดี คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นทองแดงมีตำหนิ เสียดายที่หน้าตาดี ช่างเถอะ ใครใช้ให้ฉันเป็นพวกบ้าคนหล่อล่ะ ก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้"

"เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร?" เย่จิ่งหานเค้นประโยคนั้นออกมาจากไรฟัน ฟังดูวางอำนาจเหลือเกิน

ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนจงใจเพิกเฉยคำเตือนของเขาหรืออย่างไร สองตาถึงได้ยกยิ้มเป็นจันทร์เสี้ยว "รู้สิ เครื่องมือถอนพิษของข้าอย่างไรเล่า วางใจเถิด ข้าจะถนอมเจ้าอย่างดี"

เฮือก...

ชายชุดดำอีกสองคนหัวใจร่วงตกไปอยู่ตาตุ่ม ก่อนจะมองใบหน้าแดงก่ำของนางอีกครั้ง ในใจสัมผัสได้ถึงลางร้ายบางอย่าง

หญิงนางนี้คงไม่ได้โดนยาพิษแล้วคิดจะใช้เจ้านายของพวกเขาเป็นยาถอนหรอกใช่ไหม?

หญิงนางนี้ไปเอาความกล้าบ้าบิ่นนี้มาจากไหนกัน นางไม่รู้หรือว่าเจ้านายของเขาคือเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ ผู้กุมอำนาจสูงสุด เพียงพลิกฝ่ามือก็เรียกฟ้าเรียกฝนได้ เพียงประโยคเดียวของเขา นางก็สามารถหายไปไม่เหลือแม้แต่ศพให้ฝัง

แล้วนางรู้อีกหรือไม่ว่า เจ้านายของเขาเกลียดคนที่รังเกียจสองขาพิการของเขาเป็นที่สุด

ดูแม่สาวคนนี้สิ ตัวเล็กกระจิ๋วหลิว พยายามลากเจ้านายของพวกเขาไปถึงทุ่งหญ้า ท่าทางอดรนทนไม่ไหว จากนั้นพวกเขาก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง

นี่นางกล้า...จริงๆ หรือ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 566

    ลูกธนูทั้งสิบดอก ล้วนแต่พุ่งเข้ากลางเป้า ทุกคนต่างก็ตะลึงตาค้าง โดยเฉพาะองค์หญิงตังตังและฮ่องเต้เย่ที่สติหลุด ทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่ เอาแต่มองกู้ชูหน่วนสะบัดมือตนเองแล้วพึมพำอะไรบางอย่างคนเดียว "ธนูนี่จะหนักเกินไปหรือเปล่า ทำเอาข้าปวดแขนไปหมด องค์หญิงตังตัง ธนูสิบดอก ดูเหมือนจะเข้าเป้าทุกดอกเลย ด่านแรกข้าชนะแล้วสินะ" องค์หญิงตังตังพลันได้สติทันที "จะได้ใจไปใย ยังเหลือการแข่งอีกสองด่าน" "เช่นนั้นเจ้าก็ตั้งโจทย์มาเลย รีบๆ แข่งให้จบ ข้าจะได้เลือกเครื่องประดับมาไว้ติดตัว" "ข้อที่สอง ยังคงเป็นธนูสิบลูก เพียงแค่เจ้ายิงให้เข้ากลางเป้าอีกครั้ง เจ้าก็จะชนะ แต่ว่า ครั้งนี้บนกระดานจะมีเหรึยญกษาปณ์ทองแดงแขวนเอาไว้ อีกทั้งเหรียญทั้งสิบจะส่ายไปมา หัวลูกศรของเจ้าต้องทะลุเหรียญกษาปณ์ทองแดง สุดท้ายพุ่งเข้ากลางเป้าพอดี" ซี้ดดด... ทั้งงานเดือดระอุ นี่จะยากเกินไปหรือเปล่า องค์หญิงตังตังหาเรื่องกลั่นแกล้งผู้อื่นแบบโจ่งแจ้งชัดเจน และเกินว่าเหตุไปหน่อยกระมัง แม้แต่ไทเฮาและฮ่องเต้เย่ก็ทนดูไม่ได้จนต้องเอ่ยเตือน "องค์หญิง เอาแต่พอดีเถอะ" "นางบอกเองว่าจะแข่งกับข้า ข้าไม่ได้ขอร้อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 565

    กู้ชูหน่วนเอ่ย "เช่นนั้นหากข้าชนะล่ะ องค์หญิงจะทำเช่นไร" "เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าทำอย่างไร" "องค์หญิงเอ่ยเช่นนี้ อย่างไรข้าก็เป็นอาสะใภ้ของเจ้า หรือหากข้าชนะเจ้าแล้ว ต้องให้เจ้าคลานเข่าร้องเสียงเช่นสุนัขเหมือนกันหรือ" ประโยคนี้ กำลังแอบแดกดันว่าองค์หญิงตังตังคิดเล็กคิดน้อย และใจแคบ องค์หญิงตังตังอาจจะไม่รู้ถึงนัยยะแฝงของประโยคที่นางพูด แต่ไทเฮาเข้าใจทุกอย่าง นิ้วที่เห็นข้อต่อชัดเจนกำแน่นจนเสียงดังแกรบโดยไม่รู้ตัว "เอาเช่นนี้แล้วกัน หากเจ้าแพ้ ข้าจะขอของหนึ่งชิ้นจากในตำหนักองค์หญิงของเจ้า ถือเป็นรางวัลชนะเดิมพัน" "เจ้าต้องการสิ่งใดจากข้า" "องค์หญิงตื่นตระหนกขนาดนี้ คงไม่ได้คิดว่าข้าจะเอาชีวิตองค์หญิงกระมัง ข้าไม่ได้ไร้สาระขนาดนั้นหรอก ของที่ข้าต้องการง่ายนิดเดียว เจ้าให้ได้เป็นแน่" องค์หญิงตังตังตั้งใจฟัง นางหลงกลกู้ชูหน่วนมาหลายหนแล้ว หากไม่ระบุของชนะเดิมพันมาให้ชัดเจน นางไม่มีทางรับปากส่งๆ เด็ดขาด ทว่ากลับเห็นกู้ชูหน่วนมองที่ข้อมือและสร้อยคอที่ว่างเปล่าของตนเอง พลางเอ่ยด้วยความหมองหม่น "พวกท่านแต่ละคนล้วนแต่สวมใส่สร้อยแหวนเงินทอง บนตัวข้ากลับว่างเปล่า ไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 564

    กู้ชูหน่วนคว้ามือที่ฟาดลงมาของนางเอาไว้ เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม "องค์หญิงตังตัง ลงมือทำร้ายผู้ใหญ่ จะถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เอาได้นะ" "บังอาจ เจ้ากล้าแช่งให้ข้าถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ หรือ" "หากเจ้าไม่ทำร้ายผู้ใหญ่ จะถูกฟ้าผ่าได้อย่างไร สวรรค์คงจะอวยพรเจ้าเสียด้วยซ้ำ" "ตังตัง" ไทเฮาตะโกนเสียงขรึม ฝีปากของกู้ชูหน่วน นางได้เห็นมากับตาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้คนทุกคนที่นี่รวมกัน ก็ไม่อาจสู้ฝีปากนั่นของนางได้ "ทำความเคารพเสด็จอาของเจ้าเสีย" "เสด็จแม่..." องค์หญิงตังตังอารมณ์พลันหมองหม่นลงไปในพริบตา หากไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนใช้กลอุบาย นางไม่มีทางเสียเงินมากมายขนาดนั้นประมูลคัมภีร์ซือจิงไร้ประโยชน์มาจากลานประมูลเฟิงเซียงหรอก ที่น่าเจ็บใจที่สุดคือ นางไม่มีเงิน องค์หญิงผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกลานประมูลเฟิงเซียงจับตัว ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าคือ หลังจากเกิดเรื่อง นางจะไปหาเรื่องลานประมูลเฟิงเซียง แต่เสด็จแม่และเสด็จพี่ต่างก็บอกให้นางอดนทน บอกว่าลานประมูลเฟิงเซียงมีอิทธิพลนัก ไม่จำเป็นอย่าไปมีเรื่องด้วย "รีบทำความเคารพสิ" ใบหน้าขององค์หญิงตังตังราวกับถูกย้อมด้วย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 563

    "กู้ชูหน่วน เจ้าบังอาจนัก" "ใครใช้ให้ข้าเป็นอาสะใภ้ของท่านล่ะ ใครใช้ให้ข้าเป็นชายาของเทพสงครามล่ะ ข้าถึงได้มีสิทธิ์ที่จะอวดี สามหาวอย่างไรเล่า หากท่านไม่พอใจ ก็ไปหาเย่จิ่งหานได้เลย" หากไม่ใช่เพราะฐานะของนาง ฮ่องเต้เย่อยากจะมอบผ้าขาว ให้นางปลิดชีพตนเองเสียงตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด ทันใดนั้น เขาก็พลันนึกขึ้นมาได้ "เหมือนข้าจะคิดออกแล้ว เป็นองค์หญิงตังตัง ตอนเด็ก ที่สวมอยู่บนคอขององค์หญิงตังตังก็คือดวงตารูปหัวใจ สีแดงราวกับเลือด ใครหลายคนต่างก็หัวเราะเยาะนาง ต่อมาองค์หญิงตังตังกริ้วหนัก จึงไม่สวมสร้อยเส้นนั้นอีกเลย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยได้เห็นอีก" "เช่นนั้น ความหมายของท่านคือ ดวงตารูปหัวใจอยู่ที่องค์หญิงตังตังหรือ" "โดยทั่วไปควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ด้วยนิสัยขององค์หญิงตังตัง หากนางไม่ชอบสิ่งใด ก็จะโยนทิ้งไปทันที สร้อยเส้นนั้นไม่รู้ว่าถูกนางทิ้งไปหรือยัง" "วันนี้เป็นพิธีปฏิญาณตนเป็นผู้ใหญ่ขององค์หญิงตังตังใช่หรือไม่" "ใช่...ใช่น่ะสิ" "ไป พวกเราไปดูกัน" "เมื่อกี้เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือ ขอเพียงแค่ช่วยเจ้าตามหาดวงตารูปหัวใจให้พบ เจ้าจะช่วยขับไล่กองทัพออกไปน่ะ" "ใช่น่ะสิ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 562

    "หรือเย่จิ่งหานต้องการจะเห็นข้าสิ้นแผ่นดินเช่นนั้นรึ เขาเองก็เป็นเสด็จอาแห่งแคว้นเย่" "นั่นสิ เพราะเขาคือเสด็จอาของแคว้นเย่ ฉะนั้นหลังจากที่แคว้นเย่สิ้นแผ่นดินแล้ว เขาก็จะปลุกระดมกองทัพอีกครั้ง ตีแคว้นหวาจนพ่ายแพ้ออกไป ถึงเวลานั้น หากเขาคิดจะนั่งบังลังก์ฮ่องเต้ ก็เป็นเรื่องที่ถูกหลักธรรมนองคลองธรรม ผู้ใดก็ไม่กล้าฝ่าฝืน ส่วนท่าน ก็จะกลายเป็นเด็กถูกทิ้งคนนั้นไป" ฮ่องเต้เย่มีคำพูดมากมายอยากจะตอกนางกลับไป ทว่ากลับคิดเหตุผลที่จะหยุดนางได้ไม่ออก กู้ชูหน่วนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "ฉะนั้น ไม่สู้ท่านเลือกที่จะเชื่อข้า ข้ารับประกันว่าจะต้องทำให้เย่จิ่งหานออกมาจัดการแคว้นหวาได้ ทำให้แคว้นเย่ของพวกเรามั่นคงปลอดภัย" "เย่จิ่งหานจะฟังเจ้าหรือ" "แน่นอน เชื่อว่าฝ่าบาทคงเคยได้ยินว่าท่านอ๋องโปรดปรานข้าเพียงใด" "แต่เหตุใดเจ้าต้องช่วยข้าด้วย" เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่คิดไปคิดมา ก็คิดไม่ออกว่าเป็นเรื่องใดกันแน่ "ข้ากำลังตั้งท้องของเทพสงครามอยู่ไม่ใช่หรือ หลายวันก่อนข้าฝัน ฝันเห็นว่าเจ้าแม่กวนอิมมาดลบันดาล บอกว่าเทพสงครามฆ่าคนมามากนัก พลังชั่วร้ายหนักหนาเกินไป ลูกจะ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 561

    กู้ชูหน่วนแคะหู พลางบ่นพึมพำอย่างเหลืออด "หนวกหู" "สามหาว ข้าคือฮ่องเต้แห่งแคว้นเย่ ประมุขผู้มีอำนาจสูงสุด เจ้าบังอาจกล้าไม่เคารพข้าเช่นนี้ ใครก็ได้ เข้ามา อ้ะ..." กู้ชูหน่วนสองมือกอดอก ท่าทางสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อน "ฮ่องเต้ ข้าขอเตือนท่านว่า ก่อนจะตะโกนเรียกใคร คิดดูให้ดีๆ เสียก่อน ต่อให้ท่านเรียกเหล่าองครักษ์มาทั้งหมด ในฐานะที่ข้าเป็นชายาเอกของเทพสงคราม พวกเขาจะกล้าจัดการข้าหรือ" "เจ้า......" ฮ่องเต้หงุดหงิด นางผู้นี้ จงใจขู่เขาชัดๆ เพราะการตะโกนเสียงดังของเขา ทำให้เหล่าองครักษ์ตื่นตกใจ พากันเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า "กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปีหมื่นหมื่นปี ไม่ทราบว่าฝ่าบาททรงตะโกนเรียกกระหม่อมเพราะ..." องครักษ์ผู้เป็นหัวหน้าแอบเหลือบมองกู้ชูหน่วนปราดหนึ่ง มือพลอยกำด้ามดาบโดยไม่รู้ตัว "ข้าเรียกพวกเจ้าเสียเมื่อไหร่ เป็นถึงองครักษ์แห่งราชสำนัก หูพวกเจ้าแต่ละคนเป็นเช่นนี้ แล้วข้าจะวางใจให้พวกเจ้าคุ้มกันความปลอดภัยข้าได้อย่างไร" "พะยะค่ะๆๆ......" "ยังไม่รีบออกไปอีก" "พะยะค่ะ....." กลุ่มองครักษ์หลายคนเข้ามา แล้วออกไป เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status