Share

บทที่ 4 ทำอาหาร

last update Dernière mise à jour: 2025-06-27 10:59:33

หลังจากที่ไต้ฝูหรงอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว นางก็ตรงมาที่โรงครัวทันที ก่อนหน้านี้นางได้สอบถามจากท่านเฉิงซุนแล้วว่าโรงครัวอยู่ที่ใด ไต้ฝูหรงรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยที่ท่านเฉิงซุนสามารถสื่อสารภาษามือของคนใบ้กับนางได้ 

เฉิงซุนไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่อันใด เมื่อหลายสิบปีก่อนเขามีน้องสาวคนหนึ่งนางเป็นใบ้แต่กำเนิด เขาจึงต้องสนทนาภาษามือกับนาง น่าเสียดายที่นางอายุไม่ยืน เจ็บป่วยได้ไข้อยู่ไม่กี่ปีก็ตายจากไปด้วยวัยเพียงสิบหกปี เมื่อเขาได้เห็นไต้ฝูหรงที่เป็นใบ้เหมือนกับน้องสาวของตนที่ตายจากไป จึงเกิดรู้สึกเอ็นดูนางขึ้นมาหลายส่วน อีกทั้งนางเองก็ดูเป็นคนไม่มีพิษมีภัยอันใดด้วย

ไต้ฝูหรงและเฉิงซุนเดินมาที่โรงครัวพร้อมกัน เพราะยามนี้ไต้ฝูหรงสวมชุดของสตรี ทำให้นางดูงดงามเป็นอย่างมาก เหล่าหทารต่างจ้องมองนางด้วยแววตาเป็นประกาย

แต่ไหนแต่ไรพวกเขาก็ไม่ได้เข้าใกล้สาวงามมากนักเพราะอยู่แต่ในค่ายทหาร เมื่อเห็นว่ามีสตรีปะปนเข้ามาอยู่ในค่ายจึงทำให้กลายเป็นจุดสนใจของพวกเขา

ไต้ฝูหรงค่อนข้างประหม่าไม่น้อย นางเพียงพยักหน้าให้พวกเขาเล็กน้อย 

"มัวยืนมองอันใดกัน ใครมีสิ่งใดต้องทำก็รีบไปทำเสีย อย่ามายุ่งกับแม่นางไต้ นางเป็นคนของท่านอ๋อง หากไม่อยากถูกบั่นคอตายก็อย่าคิดเพ้อเจ้อ!"

ไต้ฝูหรงเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้เอ่ยถามอันใด เมื่อเหล่าทหารจากไปหมดแล้ว เฉิงซุนก็หันมาเอ่ยกับนาง

"แม่นางไต้ วัตถุดิบที่ได้มามีไม่มากนัก จะมีก็เพียงหน่อไม้ เต้าหู้ เนื้อสัตว์เล็กๆน้อยๆ ยามนี้เกิดสงครามพวกเนื้อสัตว์อาจหากินได้ลำบากอยู่สักหน่อย อย่างไรหากเจ้าต้องการเพิ่มก็สามารถสั่งพวกทหารไปล่าจากบนเขามาได้ ข้าจะให้คนมาช่วยเจ้า ทำให้ดีเล่า ท่านอ๋องน่ะใจกว้าง หากทำถูกพระทัยย่อมตกรางวัล"

ไต้ฝูหรงเมื่อได้ฟังกลับทำไม้ทำมือบอกท่านเฉิงซุนว่านางไม่ต้องการเงิน ขอเพียงอาหารอิ่มท้องสักมื้อก็พอ ท่านเฉิงซุนเมื่อเห็นว่าสตรีน้อยนางนี้ไม่มีนิสัยโลภโมโทสันก็รู้สึกดีกับนางขึ้นมาอีกหลายส่วน

เขาให้ทหารชั้นผู้น้อยมาเป็นลูกมือนางสองสามคน ไต้ฝูหรงพูดไม่ได้ ทำให้ท่านเฉิงซุนต้องคอยช่วยสื่อสารกับเหล่าทหารให้เข้าใจ

หลังจากให้พวกเขาก่อไฟและช่วยเตรียมวัตถุดิบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอันใดอีก ไต้ฝูหรงรีบลงมือทำอาหารทันที วันนี้นางทำน้ำแกงไก่หน่อไม้อ่อน เต้าหู้นิ่มปรุงรส และข้าวห่อผัก อย่างไรทหารเหล่านี้ก็ไม่ได้ต้องการกินอาหารทีประณีตละเมียดละไมอันใดเทือกนั้นอยู่แล้ว ขอเพียงแค่อิ่มท้องก็พอ 

หลังจากทำอาหารเสร็จแล้ว นางก็ตักอาหารแบ่งใส่ถ้วยเพื่อนำไปมอบให้กงเหล่ยที่อยู่ในกระโจม หญิงสาวยังทำเห็ดหนูขาวตุ๋นเพิ่มอีกหนึ่งอย่างด้วย 

เหล่าทหารที่ได้กินอาหารเลิศรสเช่นนี้ก็รู้สึกมีความสุขมาก ที่ผ่านมาเพราะมีแต่เหล่าบุรุษฝีมือทำอาหารย่อมย่ำแย่ถึงขีดสุดพวกเขาจำต้องฝืนใจกินเพื่อให้มีแรง เมื่อมีสตรีน้อยหน้าตางดงามอีกทั้งยังมีฝีมือทำครัวเป็นเลิศพวกเขาย่อมต้องอารมณ์ดีเป็นธรรมดา

กงเหล่ยที่กำลังนั่งสนทนากับเซียวเย่อยู่เมื่อได้ยินทหารมารายงานว่ามีคนนำอาหารมาให้จึงอนุญาตให้เข้ามาทันที ไต้ฝูหรงเดินเข้ามาพร้อมท่านเฉิงซุน ก่อนจะนำอาหารไปจัดวางบนโต๊ะอาหารให้เขา เฉิงซุนที่เห็นว่าท่านอ๋องก็ไม่ได้เอ่ยปรามอันใด อีกทั้งนางเองก็ไม่ได้ทำตัวสอดรู้สอดเห็นไม่เข้าเรื่อง เขาจึงไม่ได้เอ่ยตักเตือนอันใด

เซียวเย่ที่เห็นว่ามีสตรีน้อยมาปรากฏตัวอยู่ในค่ายทหารดวงตาก็ทอประกายเจิดจ้าคราหนึ่ง เขาเป็นหนุ่มน้อยอายุเพียงสิบแปดปีย่อมชอบความสำราญและสาวงามเป็นอย่างยิ่ง อีกอย่างสตรีนางนี้ก็ดูเหมือนจะอายุสิบหกถึงสิบเจ็ดปี อยู่ในวัยสาวสะพรั่งชวนมองยิ่งนัก

 อยู่ๆเขาก็ครุ่นคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ชายหนุ่มจึงหรี่ตามองไต้ฝูหรงสลับกับกงเหล่ย ก่อนจะเอ่ย

"ศิษย์พี่ใหญ่กง นี่ท่านเอาสตรีงามมาซ่อนไว้ในค่ายทหารตั้งแต่เมื่อใดกัน หรือจะเป็นว่าที่พี่สะใภ้ของข้า?"

ไต้ฝูหรงเกิือบทำถ้วยน้ำแกงหก โชคดีที่นางตั้งสติได้เสียก่อน ใบหน้างามแดงระเรื่อขึ้นมา นางรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วจึงเดินไปหากงเหล่ยพร้อมกับวางกระดาษแผ่นน้อยลงตรงหน้าเขา และขอตัวออกจากกระโจมไปอย่างรวดเร็ว 

เฉิงซุนเพียงยกยิ้มมุมปาก กงเหล่ยยังไม่ทันได้อ่านจดหมาย เซียวเย่ก็คว้าไปอ่านเสียก่อน

"ท่านอ๋องต้องกินอาหารให้มาก นอนหลับให้เพียงพอ จะได้มีสุขภาพแขงแรง ข้าน้อยทำเห็ดหูหนูขาวตุ๋นให้้ท่านด้วย ของสิ่งนี้สามารถบำรุงร่างกายทำให้อายุยืนยาว บำรุงกำลังวังชา..."

"เอามานี่!"

กงเหล่ยยื่นมือมาคว้ากระดาษแผ่นนั้นจากมือของเซียวเย่และกวาดตาอ่านมันอย่างรีบร้อนคราหนึ่ง เซียวเย่หรี่ตามองกงเหล่ยอย่างไม่ลดละ จนคนถูกมองเริ่มโมโห

"มองอันใดนักหนา อยากโดนโบยหรือ!"

"ในสถาณการณ์เช่นนี้ท่านไม่กล้าโบยข้าหรอก ว่าอย่างไร ใช่พี่สะใภ้หรือไม่ งดงามใช้ได้เลย อีกทั้งยังทำอาหารเป็นด้วย"

"หุบปาก นางเป็นสาวใช้ของข้า ไม่ใช่พี่สะใภ้บัดซบอันใดของเจ้า!"

เซียวเย่บิดเบ้มุมปากตน สาวใช้หรือ? หากว่าเป็นเพียงสาวใช้เหตุใดศิษย์พี่ใหญ่กงจะต้องลนลานด้วยเล่า อีกทั้งแววตาที่มองแม่นางผู้นั้นก็เหมือนจะแปลกแปร่งอีกด้วย

ตอนที่ไม่มีสงครามเขาได้ชื่อว่านักรักแห่งแคว้นเซี่ย เรื่องพวกนี้เขาประสบพบเจอมาไม่น้อย เหตุใดจะมองไม่ออกเล่า

กงเหล่ยทำเป็นมองไม่เห็นสายตาคาดคั้นของเซียวเย่ เขาสั่งให้คนออกไป เซียวเย่เองก็ไม่คิดจะรั้งอยู่ต่อเช่นเดียวกัน เพราะยังมีเรื่องให้ต้องไปสะสาง เฉิงซุนเองก็มีงานต้องทำจึงขอตัวจากไปเช่นเดียวกัน

เมื่อคนออกไปแล้ว กงเหล่ยก็เดินไปที่โต๊ะอาหาร พบว่าอาหารที่นางทำมีกลิ่นหอมเป็นอย่างมาก เมื่อเขาได้ลองชิมคำหนึ่งก็พบว่าฝีมือทำครัวของนางไม่ด้อยเลยจริงๆ ทำให้มื้อนี้เขากินข้าวหมดไปถึงสามถ้วย

หลังจากที่กินอิ่มแล้ว เขาก็เรียกทหารที่เฝ้าอยู่หน้ากระโจมให้เข้ามาพบก่อนจะเอ่ยสั่งการออกไป

"ไปตามท่านหมอจ้าวมาพบข้าหน่อย แล้วไปตามแม่นางไต้ที่โรงครัวมาด้วย

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 20 ตอนจบ

    ด้านไต้ฝูหรงนั้นตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยและมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา นางเดินวนไปวนมาอยู่ในเรือนเพื่อรอฟังข่าวของกงเหล่ยเกาฮ่องเต้หนีหัวซุกหัวซุนด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่่ว่าจะหนีไปทางไหนก็มีแต่เหล่าทหารไล่ล่าเขา เกาฮ่องเต้ถึงกับก้าวขาไม่ออก ไม่คาดคิดว่าตนเองจะมีวันนี้เดิมทีเขาสะกดวิญญาณของกงอวี้ไปแล้ว และไม่เชื่อว่ากงเหล่ยจะสามารถสังหารตนได้แต่ยามนี้เขารู้แล้วว่าตนเองคิดผิดเกาฮ่องเต้เริ่มลนลานด้วยความหวาดกลัว เขาไม่สนใจคำเตือนของทหาร วิ่งหนีออกมาจากวงล้อมป้องกัน สุดท้ายเมื่อได้เห็นคนตรงหน้าที่กำลังยื่นดาบพาดบนลำคอของเขา เกาฮ่องเต้ก็ถึงกับก้าวขาไม่ออก"เจ้า!""ไม่ได้พบกันานเลยนะ ท่านลุงเกา!"เกาฮ่องเต้มือไม้สั่นเทิ้มไปหมด เมื่อนึกถึงศีรษะของเกาข่ายบุตรชายอันเป็นที่รักซึ่งถูกกงเหล่ยสังหาร เขาก็กัดฟันกรอด"ข้าจะฆ่าเจ้า เอาหัวเจ้ามาเซ่นสังเวยให้กับวิญญาณของบุตรชายข้า!"กงเหล่ยเมื่อได้ฟังกลับส่งเสียงหัวเราะออกมา เกาฮ่องเต้ที่เห็นอย่างนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลซึมออกมาเต็มแผ่นหลัง กงเหล่ยยกมือขึ้นส่งสัญญาณ หลัวเยี่ยก็พุ่งเข้าจัดการสังหารทหารและแม่ทัพใหญ่ของเกาฮ่องเต้ตกตายไปจนหมด เกาฮ่องเต้ร้องคำรา

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 19 ล้มตระกูลเกา

    สงครามจบสิ้นลง ทหารของเกาข่ายล้วนถูกสังหารจนหมดสิ้นไม่เหลือซาก ครั้งนี้กงเหล่ยไม่ได้ใจดีเฉกเช่นครั้งก่อน ที่จะเก็บทหารจงรักภักดีกลับใจเอาไว้ใช้งาน อย่างไรทหารพวกนั้นก็ถูกเกาฮ่องเต้ฝึกฝนมานานหลายสิบปี ไม่เหมือนกับชาวบ้านที่มีใจภักดี เขาจึงไม่คิดจะเก็บเอาไว้แม้เพียงคนเดียวแคว้นเซี่ยตอนนี้กลับสู่ความสงบเฉิงซานและหลัวเยี่ยนั้นได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก แต่ทว่าเซียวเย่กลับได้รับบาดเจ็บที่แขนเป็นแผลใหญ่ กว่าจะห้ามเลือดได้ต้องใช้เวลาอยู่นาน โชคดีที่เขาไม่ได้เสียแขนไป ไต้ฝูหรงและท่านหมอจ้าวสลับกันช่วยดูแลเขา เซียวเย่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดเล็กน้อย เขาเอ่ยขอบคุณท่านหมอจ้าว ก่อนจะหันมาเอ่ยกับไต้ฝูหรง"ศิษย์น้องเล็ก ข้าปลอดภัยดีแล้ว เจ้าไปดูศิษย์ใหญ่กงเถอะ หากเจ้ายังไม่ไปอีก พี่ใหญ่กงคงได้ตามมากระทืบข้าซ้ำแน่ ข้ายังไม่อยากถูกเขากระทืบจนตายหรอกนะ สตรีในหอนางโลมยังรอข้าอยู่"ไต้ฝูหรงหัวเราะออกมาเล็กน้อย แม้นางจะแต่งงานกับกงเหล่ยแล้ว แต่เซียวเย่ยังคงยืนยันที่จะเรียกนางว่าศิษย์น้องเล็ก นางเองก็ไม่ถือสาอันใด อย่างไรสำหรับนางแล้ว เขานับว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีสำหรับนางเมื่อทุกคนปลอดภัยไร้กัง

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 18 ชัยชนะที่วาดหวัง

    ไต้ฝูหรงตกใจจนแทบสิ้นสติ นางหันมองซ้ายขวาตอนนี้มีแต่ห่าธนูที่พุ่งเข้ามาหมายจะสังหารพวกนาง แต่ยามนี้ไม่อาจปล่อยให้ท่านเฉิงซุนอยู่ที่นี่ต่อได้ โลหิตของเขาไหลออกมามากเกินไป ต้องหาทางผ่าเอาลูกธนูออกและห้ามเลือดโดยเร็วที่สุด!ไต้ฝูหรงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะตัดสินใจประคองท่านเฉิงซุนขึ้นมาและพาเขาเดินฝ่าลูกธนูออกไปโดยมีเหล่าทหารที่ยังรอดชีวิตคอยคุ้มกัน ท่านเฉิงซุนยังไม่ได้หมดสติ เขาจ้องมองสตรีข้างกายที่ประคองตนเดินฝ่าลูกธนูอย่างไม่เกรงกลัวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย"นะ นายหญิง ปล่อยข้าเอาไว้บนนี้เถอะขอรับ! "ไต้ฝูหรงเม้มริมฝีปากแน่น นางพาเฉิงซุนลงมาด้านล่างได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เขาจะหมดสติไป พลันได้ยินเสียงของนางเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ข้าไม่มีวันทิ้งท่าน พวกเราถ้าอยู่ก็อยู่ด้วยกัน ถ้าตายก็ต้องตายด้วยกัน กงเหล่ยยังอยู่ข้างนอก เขาเคารพท่านดั่งบิดา ข้าเองก็เช่นกัน เฉิงซานหลานของท่านและแม่ทัพทุกคนก็ยังรอให้ท่านต้อนรับพวกเขากลับเข้าเมืองหลังจากพวกเรารบชนะ หากท่านตาย ข้าคงไม่อาจมองหน้าพวกเขาได้ ท่านจะต้องอดทนไว้นะเจ้าคะ ข้าจะไม่มีทางยอมให้ท่านตายเด็ดขาด!"ท่านเฉิงซุนยิ้มอย่างอ่อ

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 17 ศึกครั้งใหญ่

    เสียงต่อสู้ดงกึกก้องไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ยามนี้กองทัพแคว้นเซี่ยกำลังสู้รบกับกองทัพของเกาข่ายอย่างไม่กลัวตาย พวกเขาใช้สมุนไพรพิษที่ไต้ฝูหรงมอบให้นำไปอาบย้อมบนอาวุธ ก่อนจะเข้าห่ำหั่นกับศัตรู กงเหล่ยควบม้าห้อตะบึงอยู่ท่ามกลางซากศพของเหล่าทหารทั้งสองฝ่าย ใบหน้าหล่อเหลามีโลหิตสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง ขับเน้นให้ใบหน้าเย็นชาของเขาดูดุดันขึ้นไปอีกหลายเท่าวิธีของไต้ฝูหรงนั้นใช้ได้ผล ทหารของฝ่ายตรงข้ามเพียงถูกพิษนั้นเข้าสู่โลหิตไม่นานก็ค่อยๆอ่อนแรงและล้มตายลงไปในที่สุด เพียงไม่นานกำลังทหารของเกาข่ายก็ลดลงไปมากกว่าครึ่งเกาข่ายมองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาตื่นตระหนก เห็นๆอยู่ว่าแรกเริ่มนั้นเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่แท้ๆ แต่แล้วเหตุใดสถาณการณ์จึงพลิกผันเช่นนี้เล่าชายหนุ่มกัดฟันกรอด พลางมองไปเบื้องหน้า "ห้ามถอย ต้องตัดหัวกงเหล่ยและสังหารทหารแคว้นเซี่ยให้จงได้!"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ พลางกำมือแน่น ชายหนุ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ไม่รู้ว่าผิดปกติตรงที่ใด เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดวันนี้ทหารแคว้นเซี่ยจึงใช้ผ้าปิดบังใบหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นเพียงดวงตา หรือว่าพวกมันกลัวตาย หากว่าเจ้าน

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 16 สมุนไพรพิษ

    ไต้ฝูหรงมุ่งหน้ามายังภูเขาลูกหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับวัดบนเขา ห่างจากเมืองหลวงของแคว้นเซี่ยมาไม่ไกลมากนัก ฮูหยินผู้เฒ่าให้เหล่าทหารติดตามมาพร้อมสาวใช้อีกหลายคน ไม่นานรถม้าก็หยุดลง ไต้ฝูหรงจึงรีบลงจากรถม้าพร้อมกับเอ่ยกำชับสาวใช้และทหาร"พวกเจ้าคงจำลักษณะของสมุนไพรที่ข้าบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้แล้ว รีบเก็บมาให้มากหน่อย ยิ่งมากยิ่งดี เข้าใจหรือไม่"เหล่าสาวใช้และเหล่าทหารต่างพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบแยกย้ายกันไปเก็บสมุนไพรตามที่เจ้านายของตนสั่ง ไต้ฝูหรงเองก็เดินขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรหลายอย่างมาเพิ่มเช่นเดียวกัน นางสะพายกระบุงไว้บนหลังตน และเก็บสมุนไพรอย่างรวดเร็ว เหล่าสาวใช้และทหารต่างมองนางด้วยสายตาที่ตกตะลึง นายหญิงของพวกเขายามปกติดูบอบบางและน่าทะนุถนอมยิ่ง แต่ในยามนี้กลับดูแข็งแรงและว่องไวมาก แรกเริ่มพวกเขาต้องขึ้นลงเขาเพื่อหาสมุนไพรจึงรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน แต่เมื่อได้เห็นว่านายหญิงยังไม่บ่นสักคำ อีกทั้งยังไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย พวกเขาจึงมีแรงใจมากยิ่งขึ้นใช้เวลาไม่นานก็สามารถเก็บสุมนไพรที่ต้องการได้สำเร็จ ไต้ฝูหรงยิ้มด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบเดินทางกลับจวน จากนั้นจึงจัดการล้างทำความส

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 15 ออกรบ

    กงเหล่ยรีบเปลี่ยนมาสวมชุดเกราะ ก่อนจะมุ่งหน้ามายังค่ายทหารในช่วงกลางดึก เมื่อมาถึงก็พบว่าตอนนี้เหล่าทหารต่างเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว สีหน้าทุกคนมีความมุ่งมั่นปรากฏชัดบนใบหน้า ไม่มีความเกรงกลัวใดใดให้เห็นเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความฮึกเหริมและพร้อมออกรบเพื่อปกป้องแว่นแคว้น กงเหล่ยยืนอยู่เบื้องหน้าเหล่าทหาร ในมือถือดาบเอาไว้ แววตาฉายแววมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งเกาฮ่องเต้ไม่มีทางปล่อยแคว้นเซี่ยไป อีกทั้งยังไม่มีทางยอมให้คนตระกูลกงเหลือหนทางรอด ศึกครานี้หนักหนาไม่น้อย อีกทั้งอาจจะต้องสูญเสียกำลังพลไปไม่น้อยเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาย่อมไม่อาจถอย หลายปีที่หลบซ่อนตัวเขาได้ซ่องสุมกำลังทหารลับเอาไว้ร่วมหลายแสนนาย ยามนี้ถึงเวลาที่จะต้องเรียกออกมาใช้งานแล้ว"ศึกครานี้ใหญ่หลวงนัก แต่ข้าเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะผ่านมันไปได้ ขอให้พวกเจ้าเชื่อมั่นในตัวข้า เชื่อมั่นในตัวเอง ช่วยกันปกป้องแว่นแคว้นและขจัดคนชั่วไปให้หมดจากแผ่นดินนี้เสีย!"ทันทีที่กงเหล่ยเอ่ยจบเหล่าทหารต่างชูดาบขึ้นสูง พลางตะโกนกู่ร้องก้องแผ่นดินแคว้นเป่ยและแคว้นฉีบุกประชิดชายแดน อีกทั้งยังยึดเมืองด่านหน้าสำคัญต่างๆของแคว้นเซี่ยไปได้หลายเมือง และ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status