สตรีนั้นแสนประหลาดชมชอบบุรุษร้ายกาจมากกว่าบุรุษแสนดี...แต่แล้วเหตุใดยอดบุรุษเช่นข้าผู้นี้ ถึงได้ชมชอบสตรี...ขี้เมา เมื่อหญิงสาวคอสุราจากโลกอนาคต มาเกิดใหม่ในร่างของบุตรสาวเถ้าแก่หอสุราที่กำลังจะปิดตัวลง นางจะทำอย่างไรล่ะทีนี้ ทั้งยังต้องปะทะกับเจ้าหนี้ขาโหด ผู้เป็นอันธพาลตัวตึงซะด้วย ชีวิตก็ว้าวุ่นเลยทีนี้
더 보기กรี๊ดดดดดดด...
เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งที่ดังออกมาจากด้านในห้อง ทำให้เด็กสาววัยสิบสี่สิบห้าสองนางที่หน้าตาเหมือนกันราวกับแกะมองสบตากันอย่างตื่นตระหนก เนื้อตัวของทั้งสองสั่นเทาขึ้นอย่างยากที่จะระงับ ได้แต่โอดครวญโดยไร้เสียง
คุณหนูคลุ้มคลั่งอีกแล้ว
เหตุที่พวกนางทั้งสองมีท่าทีหวาดกลัวเช่นนี้ นั่นก็เพราะเมื่อวานนี้คุณหนูของพวกนางอาละวาดขว้างปาข้าวของภายในเรือนจนเละเทะ ทั้งยังร้องไห้อย่างหนัก ก่อนจะลื่นเม็ดไข่มุกที่ตกอยู่เกลื่อนพื้นเพราะฝีมือของตัวเองจนล้มลงหัวกระแทกแล้วสลบไป จนพวกนางพากันตกอกตกใจโชคดีที่ท่านหมอบอกว่าผู้เป็นนายไม่ได้เป็นอันใดมาก แต่ไม่คิดว่าเมื่อฟื้นคืนสติคุณหนูยังคงไม่คลายความขุ่นเคืองใจ พวกนางไม่รู้ว่าจะต้องตั้งรับกับสถานการณ์เช่นนี้ไปอีกกี่วัน ถึงแม้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่พวกนางก็ไม่ชินเสียที
"ลี่ลี่ เจ้าเข้าไปดูคุณหนูหน่อยเถิด"
ลี่ลี่ เจ้าของนามนั้นเป็นแฝดผู้น้องตวัดตามองแฝดผู้พี่ของตน ก่อนจะเบนสายตามองไปยังห้องนอนของผู้เป็นนายอย่างช่างใจ แต่เมื่อลองชั่งน้ำหนักดูแล้วการที่นางเข้าไปในตอนนี้คงไม่แคล้วได้เจ็บตัวอีกเป็นแน่
"แล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่เข้าไปเองเล่าลู่ลู่"
ลู่ลู่ผู้เป็นแฝดพี่ตอนนี้ใบหน้าอวบอิ่มจิ้มลิ้มที่เหมือนกันกับนางทุกส่วนยกเว้นไฝเม็ดเล็กเหนือริมฝีปากของอีกฝ่ายที่บ่งบอกความแตกต่างของสองพี่น้องแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ แต่นั่นไม่อาจทำให้ผู้เป็นน้องสาวที่คลอดหลังนางแค่เพียงครึ่งเค่อรู้สึกสงสาร
"เจ้าเป็นน้องนะลี่ลี่ เหตุใดจึงไม่เชื่อฟังข้าผู้เป็นพี่สาว"
"ก็เจ้าเป็นพี่ของข้าอย่างไรเล่า เช่นนั้นเจ้าจึงต้องเป็นผู้นำให้ข้า มิถูกต้องหรอกหรือ"
สองพี่น้องต่างก็ไม่มีใครยินยอมที่จะเข้าไปด้านใน เพราะรู้ดีว่าเมื่อคุณหนูเป็นเช่นนี้ พวกนางมักจะเจ็บตัวเสียทุกครั้ง ที่คุณหนูอาละวาดไปเมื่อวานพวกนางก็ได้แผลมาคนละแผลสองแผลอีกทั้งยังไม่หายระบมเสียด้วยซ้ำ
แต่กระนั้นจะเมินเฉยเสียทีเดียวก็มิได้ หากผู้เป็นนายอาละวาดจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นเช่นดังเมื่อวานอีกเล่า แม้จะหวาดกลัวว่าจะเจ็บตัว แต่ความเป็นห่วงผู้เป็นนายของทั้งสองก็มีมิด้อยไปกว่ากัน
"เช่นนั้นเราก็เข้าไปพร้อมกันทั้งสองคน"
สองพี่น้องหันกลับมามองจ้องหน้ากัน ต่างก็หยั่งเชิงว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายก้าวเท้าออกไปก่อนกัน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครยอมขยับ
"เจ้าก็เดินเข้าไปก่อนสิลี่ลี่"
"เจ้านั่นแหละลู่ลู่เข้าไปก่อน เจ้าเป็นพี่สาวของข้านะ"
ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวว่ากำลังคลุ้มคลั่งนั้น ตอนนี้ก็กำลังคลุ้มคลั่งจริงๆ นั่นแหละ เพราะอยู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อีกทั้งยังมีความทรงจำของใครก็ไม่รู้อยู่ในหัว ปะปนไปกับความทรงจำของตัวเองจนแทบจะแยกไม่ออก นั่นจึงทำให้เธอ สติแตก
ใช่ สติแตก
ม่านไหม ได้รู้ซึ้งถึงคำคำนี้อย่างถ่องแท้ก็ในวันนี้นี่แหละ
หลังจากที่ได้กรีดร้องระบายความอัดอั้นและให้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป ดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกก็กวาดมองไปทั่วห้องกว้างที่ดูอย่างไรก็เป็นห้องในยุคจีนโบราณ ภายในห้องนี้ถูกประดับตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา เครื่องเรือนทุกอย่างดูด้วยตาก็รู้ว่าเป็นของดีมีราคา จนกระทั่งสายตาไปปะทะเข้ากับกระจกทองเหลืองที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งน่าจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเพราะบนนั้นมีเครื่องประทินโฉมของสตรีวางอยู่มากมาย
ร่างบอบบางลนลานคลานลงจากเตียงที่ตนตื่นขึ้นมาในคราแรก พุ่งตรงเข้าไปคว้ากระจกบานนั้นขึ้นมาถือเอาไว้ด้วยมืออันสั่นเทา และเพราะความลนลานบวกกับร่างกายที่สั่นไปหมด จึงทำให้ขวดกระเบื้องบนนั้นตกลงมาบนพื้นแตกกระจัดกระจาย แต่ม่านไหมหาได้ใส่ใจ ตอนนี้ที่ตนสนใจคือใบหน้าของสตรีที่ปรากฏอยู่ในกระจกมากกว่า
แม้ภาพในกระจกนั้นจะไม่ชัดแจ๋วเช่นดังกระจกในยุคปัจจุบัน แต่ก็สามารถมองเห็นใบหน้านั้นได้อย่างแจ่มชัด ไม่ต้องฉลาดมากมายก็บอกได้ว่าหญิงสาวที่กำลังมีสีหน้าตื่นตะลึงในกระจกตอนนี้ก็คือตัวเธอเองไม่ผิดแน่ แม้รูปร่างหน้าตาจะไม่ใช่ แต่จิตวิญญาณคือเธอล้านเปอร์เซ็นต์
เธอไม่ได้ฝันไปจริงๆ หรือนี่ มีเรื่องประหลาดน่าอัศจรรย์เช่นนี้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
แต่เหตุใดเรื่องน่าหวาดหวั่นเช่นนี้จึงมาตกใส่หัวของเธอ ผู้อื่นมีเป็นสิบเป็นร้อยล้านคน เหตุใดจึงไม่เลือก
สวรรค์วิปริตแปรปรวน หรือใต้พิภพเกิดมหันตภัย
แม่ง แต่ที่แน่ๆ อีม่านไหม ซวยฉิบหาย
สตรีนางนี้ที่ม่านไหมมาสิงสู่มีนามว่าเจียงม่าน
เหตุที่กล่าวว่าเธอมาสิงสู่อีกฝ่ายก็เพราะว่าเธอนั้นได้ตายไปแล้วอย่างไรเล่า
ความทรงจำสุดท้ายที่จำได้คือเธอ ดื่มแล้วขับ เป็นเหตุให้ขับรถตกสะพานที่ด้านล่างนั้นคือสายน้ำเชี่ยวกรากที่ลึกสุดหยั่ง
หากย้อนกลับไปได้เธอจะไม่มักง่าย ปฏิบัติตามกฎจราจร ดื่มไม่ขับ ถึงตอนนั้นจะแค่กรึ่มๆ หรือว่าเมาก็สุดจะรู้ แต่ก็ตระหนักได้ว่า แค่กรึ่มๆ ก็ถึงตาย ไม่ใช่ว่าเธอคออ่อน แต่เล่นซัดวอดก้าดีกรีสูงถึงเก้าสิบหกเปอร์เซ็นต์แบบเพียวๆ เล่นซะเหมือนโดนชกเข้าที่ท้องอย่างจังเลยทีเดียว
การตายของเธอเข้าตำราที่ว่า หมองูตายเพราะงูฉันใด คอสุราก็ตับแข็งตายฉันนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ตับแข็งตายก็เถอะ แต่ก็ตายเพราะสุราเป็นเหตุเหมือนกัน
ไม่ได้อยากจะโม้หรอกนะ เธอนี่คอสุราตัวยงเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นสุราของประเทศไหน จะไฮคลาสหรือโลคลาสล้วนผ่านคอเธอมาแล้วทั้งนั้น และการที่เธอดื่มวอดก้าเข้าไปแบบเพียวๆ นั่นก็เพราะ...ชีวิตมันเหี้ยอย่างไรล่ะ
เธอชื่อว่า ม่านไหม อินฟลูเอนเซอร์สายอาหารและการกิน(ดื่ม) สาวโสดสุดแซ่บ ลูกครึ่งไทยจีน อายุ 25 ปี ขาว สวย หมวย เผ็ด ซี้ด เจ้าของเพจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มที่อีกไม่นานก็คงจะดัง มีผู้ติดตามแตะหลักหมื่นได้ไม่กี่วันก่อนจะตาย
อาชีพที่ค่าตอบแทนดี ซึ่งก็คือดีจริงๆ แต่ก็ต้องอาศัยหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถผลิตคอนเทนต์ได้มากน้อยแค่ไหน ยอดผู้ติดตามเท่าไหร่ ซึ่งก็จะมีผลต่อเรทราคาในการรับงานนั่นเอง ซึ่งกว่าที่เธอจะมีผู้ติดตามหลักหมื่นต้องใช้ทั้งความสามารถและความน่าสนใจดึงดูดให้ผู้คนมาติดตาม
ผู้ติดตามหลักหมื่นของเธอเก้าพันคนนั้นคือบรรดาชายหนุ่มทั้งรุ่นเก๋าและรุ่นแก่ เพราะชุดแต่ละชุดของเธอนั้นล้วนวาบหวิว รัดรูป ควักเต้าออกมาครึ่งเต้าแทบจะทุกชุด ส่วนอีกหนึ่งพันคนนั้นก็บรรดาเมียๆ ของไอ้ผู้ชายเก้าพันคนเหล่านั้นอย่างไรเล่า ที่ตามมาคอมเมนต์ด่า จนเธอต้องปิดคอมเมนต์หนี
ก็คนมันสวยช่วยไม่ได้ อีกอย่างเธอก็ต้องทำมาหากิน ไม่ได้มีชีวิตที่สวยหรู นั่งกินนอนกิน เรียกได้ว่าเด็กกำพร้าแบบเธอต้องตะเกียกตะกายให้มีชีวิตรอดมาตั้งแต่ที่พ่อแม่จากไปเพราะอุบัติเหตุตั้งแต่อายุได้เพียงสิบสองขวบ
และอยู่ๆ ก็มีคนติดต่อมาจริงๆ โดยให้เธอทำคอนเทนต์ผับของเขาและเหล้าวอดก้าของต่างประเทศที่เขานำเข้ามา เหล้าวอดก้าที่ทำจากเอทิลแอลกอฮอล์พรีเมี่ยมที่มีต้นกำเนิดมาจากพืชทางการเกษตร ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ปลูกและแปรรูปเฉพาะในประเทศนั้นเท่านั้น สายดื่มอย่างเธอไหนเลยจะพลาด เพียงได้ลิ้มรสชาติของมันก็รู้สึกถึงกลิ่นและรสชาติที่อ่อนโยนมาก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นวอดก้าที่มีแอลกอฮอล์ถึงเก้าสิบหกเปอร์เซ็นต์ก็ตาม
แต่พอจบงานไอ้เจ้าของผับชีกอนั่นดันไม่ยอมจบ คิดจะเคี้ยวเธอแทนกับแกล้มเสียอย่างนั้น อีกทั้งยังยึกยักไม่ยอมจ่ายเงินและคิดจะลากเธอไปสวบท่าเดียว
เห็นอีม่านไหมแซ่บๆ ยั่วๆ บดๆ แบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ขายตัว เธอจึงเลือกที่จะเตะผ่าหมากลูกชายของมันเสียเลย พอไอ้สารเลวนั่นลงไปนอนชักดิ้นชักงอหน้าเขียวหน้าดำ เธอก็เดินหนีออกมาแบบสับๆ และไม่ลืมที่จะคว้าวอดก้ารสชาติดีเยี่ยมที่เหลืออยู่เกือบเต็มขวดออกมาด้วย
เพราะชีวิตมันเหี้ยแบบนี้ไง รับงานงานแรกเงินก็ไม่ได้ทั้งยังเปลืองตัวโดนไอ้บ้านั่นลูบๆ คลำๆ อีก วอดก้าขวดนั้นจึงถูกเธอยกซดเพียวๆ ในขณะขับรถ รู้ตัวอีกทีราวสะพานก็อยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
เฮ่อ จะว่าไปป่านนี้คงมีแต่คนสมน้ำหน้าเธอ ดีนะที่ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือลากใครมาตายด้วย ไม่งั้นคงรู้สึกผิดบาปมากแน่ๆ
ตระกูลเจียงในตอนนี้เป็นตระกูลอันดับหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องสุรา สุราของตระกูลเจียงกลายเป็นสุราสร้างชื่อของเมืองฉาง ทั้งยังโด่งดังไปทั่วทั้งแคว้นและแคว้นข้างเคียง เพียงเวลาไม่นานกิจการของหอสุราตระกูลเจียงก็ขยับขยายใหญ่โต และกำลังดำเนินการที่จะขยายกิจการไปยังเมืองต่างๆ รวมไปถึงเมืองหลวงของแคว้น และคาดว่าต่อไปในอนาคตก็จะไปเปิดกิจการยังต่างแคว้นอีกด้วย เรียกได้ว่าตระกูลเจียงเข้าสู่ยุคที่รุ่งโรจน์จนฉุดไม่อยู่ส่วนหอสุราตระกูลหม่านั้น ในตอนนี้ได้ปิดตัวลง หันมาเอาดีทางด้านการค้าข้าวสารและธัญพืช โดยมีหม่าลู่เฟิงที่ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลเป็นผู้ดูแลกิจการด้วยตัวเอง ดูเหมือนว่ากิจการนั้นจะไปได้ดีอยู่ไม่น้อยถึงแม้ว่าจะมีร้านค้าใหญ่อยู่หลายร้านก็ตาม ส่วนหม่าลี่เซียนข่าวว่านางกำลังตั้งครรภ์บุตรของเถ้าแก่เผย แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน เถ้าแก่เผยได้ประกาศวางมือจากกิจการทั้งหมดและยกทุกอย่างให้บุตรชายของเขา ส่วนตนนั้นใช้เวลาอยู่กับภรรยาและเหล่าอนุทั้งหลาย จากบุรุษผู้รักมั่นในตัวภรรยาผู้ล่วงลับ แต่ยามเมื่อได้สัมผัสอารมณ์ความใคร่อีกครั้งกลับกลายเป็นบุรุษผู้หมกมุ่นในกามา บัดนี้จึงมีอนุภรรยาอยู่เต็มจวนเมืองฉางในตอ
"คนเก่งของข้า ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาก่อนเถิด"เว่ยซีหยวนเอ่ยเรียกสตรีที่นอนสิ้นเรี่ยวสิ้นแรงอยู่บนเตียงน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ใบหน้าหล่อเหลาประดับไปด้วยรอยยิ้ม ประคองถาดใบเล็กที่มีข้าวต้มหอมกรุ่นและถ้วยยาที่ต้มเสร็จใหม่ๆ มาวางลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียง ก่อนจะโน้มกายลงจุมพิตแก้มนวลของสตรีที่ยังหลับตาพริ้มอย่างรักใคร่เมื่อคืนนี้นางช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก เขามีความสุขจนแทบจะล้นออกมานอกอก นางนั้นแสนซนและอยากรู้อยากลองไปเสียทุกอย่างแม้เขาคิดจะยั้งมือเมื่อรู้ว่าเป็นครั้งแรกของนาง แต่ถูกยั่วยวนเช่นนั้นก็หมดสิ้นความยับยั้งช่างใจ นางออดอ้อนน่าเอ็นดูถึงเพียงนั้น ใครจะไปอดใจได้ไหว จึงได้จัดหนักจัดเต็มจนเวลาล่วงเข้าวันใหม่ไปหลายชั่วยาม และนางเองก็ยังสู้ไม่ถอย สภาพจึงได้ออกมาเช่นตอนนี้หักโหมถึงเพียงนั้นเขาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าหลังจากนั้นนางจะต้องป่วยเป็นแน่ จึงได้ลุกขึ้นไปเคี่ยวยาเตรียมไว้ให้นางตั้งแต่รุ่งสางและนางก็ป่วยจริงๆใบหน้าเล็กที่ซีดเซียวในคราแรก ตอนนี้ซับสีเลือดจนแดงก่ำมาจนถึงลำคอ แพขนตางอนขยับยุกยิก นั่นทำให้ชายหนุ่มที่คลอเคลียนางอยู่ไม่ห่างยกยิ้มขึ้น ดวงตาคมเผยประกายเจ้าเล่ห์สอดฝ่ามืออุ่นร้
เจียงม่านหัวใจเต้นแรงเมื่อถูกชายหนุ่มยกตัวจนลอยขึ้นจากพื้น ทั้งที่ริมฝีปากของทั้งสองยังคงแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม สองแขนของนางกอดกระชับลำคอแข็งแกร่งเอาไว้ ยามเมื่ออีกฝ่ายก้าวเดินสองขาเรียวก็ยกขึ้นเกี่ยวรัดสะโพกสอบทรงพลังไว้แน่นจนเมื่อเขาวางนางลงบนเตียง ชายหนุ่มถึงได้ยอมปล่อยให้นางได้พักหายใจ แต่กระนั้นทั้งจมูกและริมฝีปากร้อนผ่าวก็หาได้ผละออกห่างจากใบหน้าของนางแม้แต่น้อย เขายังคงคลอเคลียพรมจูบไปทั่วใบหน้าของนางอย่างรักใคร่หลงใหล"ม่านม่าน เราแต่งงานกันเถอะนะ"เขาไม่อยากห่างจากนางอีกแล้ว ไม่อยากให้นางมองบุรุษอื่นอีก อยากให้ทั้งหัวใจและสายตาของนางมีเพียงแค่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้นเสียงกระซิบแหบพร่าร้องบอกหญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส ดวงตาคู่งามฉ่ำหวาน เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำ หญิงสาวไม่ได้ยินที่เขาเอ่ยถามแม้แต่น้อย ในแววตาของนางมีเพียงความสับสนมึนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงหยุดการกระทำทุกอย่างลงเจียงม่านไม่รู้เลยว่าการนิ่งเงียบไม่ตอบคำของนาง จะทำให้ชายหนุ่มที่เฝ้ารอคำตอบรู้สึกเช่นไร ความผิดหวังน้อยใจไหววูบในดวงตาของเขา หัวใจปวดหนึบวูบโหวง แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็แทนที่ด้วยคว
ผ่านมาสองวันเจียงม่านก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเว่ยซีหยวน อีกฝ่ายจงใจที่จะหลบหน้านางแน่แล้ว เพราะเขาหายหน้าหายตาไป ไม่มาหานางที่จวนเช่นดังปกติที่มักจะมาขลุกอยู่กับนางหรือมารับนางออกไปยังหอสุราด้วยกัน จนเรียกได้ว่าทั้งสองแทบจะตัวติดกันตลอดเวลาเขามักจะทำตัวติดกับนางเสมอ หรือหากแม้ว่ามีธุระก็จะส่งคนมาแจ้งพร้อมด้วยของฝาก แต่ครั้งนี้กลับหายหน้าหายตาไปเฉยๆ เสียอย่างนั้น และเมื่อนางเลือกที่จะเป็นฝ่ายไปหาเขาก่อน คนของอีกฝ่ายกลับแจ้งกับนางว่าเขาไม่ได้อยู่ในจวน เมื่อนางถามว่าอีกฝ่ายไปไหน กลับตอบกลับมาว่าไม่ทราบ ไม่รู้ว่าผู้เป็นนายไปไหนด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ทั้งยังไม่ยอมที่จะสบตานาง ท่าทางมีพิรุธเช่นนั้น พวกเขาคิดว่านางโง่หรืออย่างไร รอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมโผล่หัวมา จนย่างเข้าวันที่สาม ยอมรับว่าตอนนี้นางมีโทสะอยู่เต็มท้องคนบ้าผู้นั้นหลบหน้านางทำไมกัน นางไปทำอันใดให้อีกฝ่ายไม่พอใจ เหตุใดจึงไม่ยอมบอกกล่าว เล่นหายไปแบบนี้ใครมันจะไปรู้หรือจะเกี่ยวกับเรื่องในวันนั้น แต่มันก็ไม่มีสิ่งใดผิดพลาดมิใช่หรอกหรือ ตอนนี้ยังมีข่าวว่าเถ้าแก่เผยส่งแม่สื่อไปจวนตระกูลหม่าแล้ว อีกไม
"เจ้าจะยังรั้งรออันใด หรืออยากจะเป็นคนที่ขึ้นไปนอนบนเตียงนั่นเอง"เว่ยซีหยวนเมื่อตั้งสติได้ก็หันมาถลึงตาใส่กวนป๋อเหวินที่กำลังใช้สายตาต่อว่าเขากวนป๋อเหวินส่งค้อนวงโตให้ผู้เป็นสหายป่าเถื่อนของตน ก่อนจะลากร่างที่หนักอึ้งของเถ้าแก่เผยไปโยนลงบนเตียงด้วยแรงที่ไม่เบานัก ทั้งยังจับอีกฝ่ายเปลื้องผ้าจนเปลือยเปล่าหม่าลี่เซียนที่เห็นการกระทำของคนทั้งสองก็เบิกตาโพลง รับรู้ได้ว่าพวกเขาคิดจะทำสิ่งใด แต่ร่างกายที่กำลังสั่นสะท้านเพราะฤทธิ์กำยานปลุกกำหนัดทั้งยังความเจ็บปวดจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ทำให้นางไม่อาจกระทำสิ่งใดได้ดั่งใจ ตอนนี้ความร้อนรุ่มกำลังเล่นงานนางอย่างหนัก อยากจะปลดปล่อยความต้องการภายในร่างกาย แต่การจะต้องร่วมเตียงกับชายแก่อ้วนฉุเช่นเถ้าแก่เผยนั้นทำให้นางไม่อาจที่จะยอมรับได้ จึงกัดกระพุ้งแก้มของตนอย่างแรงเพื่อรั้งสติเอาไว้ จนรสเลือดคละคลุ้งไปทั่วทั้งปากดวงตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำจ้องมองบุรุษที่นางหลงใหลด้วยสายตาเจ็บปวดและเจ็บแค้น ก่อนที่เสียงหัวเราะขื่นขมจะเปล่งออกมาจากริมฝีปากสีซีดฮ่าฮ่าฮ่าหม่าลี่เซียนหัวเราะออกมาเสียงขื่น ในขณะที่น้ำตาของนางไหลพราก ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนั
งานเลี้ยงในวันนี้เริ่มขึ้นได้สักพักแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง เพราะผู้ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ล้วนเป็นเหล่าคหบดี พ่อค้าแม่ค้า และคนที่รู้จักมักคุ้นกันดีในเมืองฉางแห่งนี้เจียงม่านอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อเป็นตัวนางเองที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางแผนการร้ายของผู้อื่น ยามเมื่อคอยลุ้นในซีรี่ย์ที่เคยดูนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากแล้ว ยามนี้กลับยิ่งตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าแม้ว่าจะรู้ตัวล่วงหน้า แต่พวกนางยังไม่รู้แน่ชัดว่าอีกฝ่ายคิดจะวางยาเว่ยซีหยวนเช่นไร หันไปมองเจ้าตัวก็เห็นว่าเขาไม่ยอมแตะต้องเครื่องดื่มหรืออาหารบนโต๊ะแม้แต่น้อย นั่นทำให้นางรู้สึกเป็นกังวล หากเป็นเช่นนี้เรื่องราวจะเป็นไปตามแผนการของอีกฝ่ายได้อย่างไรกันใช่ว่านางจะไม่หวงแหนหรือเป็นห่วงเขาแต่นางลงทุนลงแรงไปถึงเพียงนี้จะให้สูญเปล่าได้อย่างไรกัน อย่างไรเสียวันนี้หม่าลี่เซียนก็จะต้องมีสามีที่ไม่ใช่บุรุษของนางนางยอมทุ่มเงินมากมายเพื่อว่าจ้างคนมีฝีมือที่เป็นวรยุทธ์คอยดูแลอยู่ห่างๆ อย่างไรก็มั่นใจว่าเขาจะต้องปลอดภัย ก่อนที่จะถูกหญิงนางนั้นกลืนลงท้อง อีกทั้งยังมีคนของคุณชายกวนที่กระจายตัวอยู่อีกอย่างใช่ว่าพ่ออันธพาลของนางจะร
댓글