พื้นที่ของชั้นหนึ่งและสองถูกตกแต่งให้เป็นห้องจัดเลี้ยงอย่างหรูหรา เครื่องดื่มมากมายได้จัดเตรียมไว้ให้แขกคนสำคัญของทีคลับอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าผู้ใดต้องการ เครื่องดื่มประเภทไหน บาร์เทนเดอร์ล้วนจัดให้ทั้งสิ้น โดยไม่ทำให้มาผู้เป็นเจ้านายเสียหน้าแม้แต่นิดเดียวเวลาล่วงเลยมาเกือบสองชั่วโมงนับจากธาดาเปิดพิธีอย่างเป็นทางการ บนชั้นสองได้กลายเป็นมุมของพ้องเพื่อนฝ่ามือใหญ่โอบกอดเขมจิราเอาไว้ตลอดการกระทำเหล่านี้กลายเป็นจุดสนใจจากบุคคลภายในงานเป็นอย่างมากเพราะมาเฟียหนุ่มไม่เคยแนบชิดติดใครอย่างวันนี้มาก่อนยกเว้นเพื่อนในกลุ่มที่พอจะมองออกซึ่งหนึ่งในนั้นเขมจิราจำไม่เคยลืม ไม่ใช่เพราะหวาดกลัวทว่าภาพในคืนนั้นยังคงติดอยู่ในหัวจนกระทั่งเพื่อนสาวมาถึงเขมจิราจึงหันมากระซิบกับเจ้าของงาน“ธาม แพรวมาแล้วฉันออกไปนั่งกับเพื่อนนะ”สายตาเรียวคมมองไปยังทางเข้าซึ่งมีสาวสวยยืนอยู่ข้างบอดี้การ์ดคนสนิท ธาดาดึงสายตากลับมายังคนของตน“ไปทำไม ให้เธอมานั่งร่วมกับเราก็ได้” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามาใกล้ จากนั้นเขาจึงได้เห็นว่าสายตาของเขมจิรากำลังมองใคร ธาดาหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทและตีหน้าเคร่งขรึมใส่“ไม่ต้องกลัวผมอยู
ครั้นได้แกล้งคนด้านหลังดวงหน้าหวานเต็มไปด้วยรอยยิ้มเบิกบานก็พาตัวเองออกมาจากห้อง แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นพื้นที่ของตนออกมาได้ไกลสีหน้าแช่มชื่นก็พลันคลายลงเหลือเพียงยิ้มละมุน“จะมาทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะ” สุ้มเสียงเป็นกันเอง เอ่ยถามคนตัวสูงเบื้องหน้า“ผมนึกว่าพี่จะไม่มีแขกนี่น่า”คำว่า ‘แขก’ ที่เอ่ยออกมาจากปากของเตชิน แตกต่างไปจากเกวรินอย่างสิ้นเชิงณภัทรก้าวขึ้นมายืนเคียงข้างแพรวพรรณเมื่อผู้ชายคนนี้ยังตามติดอดีตแฟนสาวไม่เลิกทำเขารู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อย“สวัสดีครับคุณณภัทร” ถึงวาจาจะกล่าวออกมาอย่างสุภาพทว่าน้ำเสียงกลับมีความแข็งข้ออยู่“สวัสดีครับ” ผู้มีอายุมากกว่าก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันพอทักทายกันพอเป็นพิธีจบเตชินจึงดึงสายตากลับมาทางแพรวพรรณอีกครั้ง“ผมว่าจะมาชวนพี่ไปกินข้าว”“วันอื่นได้ไหม วันนี้ฉันมีนัดแล้ว”“ผมมาช้าไปสินะ”จบคำพูดของเตชิน แพรวพรรณก็ส่ายสายตามองคนยืนอยู่ข้างกันและก็เป็นอย่างคาดการณ์ไว้ไม่ผิดเพี้ยน ณภัทรเริ่มตีสีหน้าเคร่งขรึม แต่ก็ไม่ได้แสดงกิริยาใดออกมา“หรือนายอยากไปกินด้วยกันล่ะ”“!!!”เตชินยกยิ้มอย่างมาดร้าย เมื่อเห็นสีหน้าเปลี่ยนไปของณภัทร คงไม่คาดคิดว่าเธอจะเอ่ยชว
ทิวกำลังใช้สายตาอันเฉียบคมของตนเอง พินิจพิเคราะห์เพื่อนซี้ว่าเวลานี้ณภัทรกำลังคิดอะไรอยู่“ไม่ไปหาน้องแพรวของมึงเหรอวันนี้”“จะเอาไงกับกูกันแน่ ไม่อยู่ก็บ่นว่าไม่ทำงาน พออยู่ก็มาถามว่าไม่ไปเหรอ เป็นอะไรมากไหม?”“ถามแค่นี้ ทำเป็นมีอารมณ์ ตอบ ๆ มาก็จบแล้วป่ะวะ”“กลัวมึงยึดตำแหน่งก็เลยไม่ไป”“เอาดี ๆ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”“ไม่มี! ก็บอกว่ากลัวมึงยึดตำแหน่งไง”“ยึดเลขามึงด้วย ไอ้นี่! กวนอวัยวะเบื้องล่างฉิบหาย” เมื่ออีกฝ่ายยังปากแข็งทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่าคำพูดขัดกับน้ำเสียง“หึ กล้า ๆ หน่อย เลขากูเสน่ห์แรงนะ เอาแต่ทำตัวเป็นหมาหยอกไก่ ถ้ามีคนมาคว้าเธอไปก่อนจะสมน้ำหน้าให้”“ใครกล้าก็ลองดู จะเหยียบให้จม...” มุมปากของทิวกระตุกขึ้น ให้เพื่อนได้รู้ว่าหากใครกล้าเขาไม่มีทางปล่อยเอาไว้แน่บ่ายวันเดียวกัน ณ.บริษัทเจนเนริ่งแพรวพรรณเดินตามพนักงานสาวสวยด้านหน้า ไปยังห้องทำงานของเขมจิรา เมื่อมาถึงหน้าห้องที่คุ้นเคย เจ้าของใบหน้าหวานจึงก้มหน้าขอบคุณอีกคนที่เป็นธุระให้ และได้รอยยิ้มกลับมาเช่นเดียวกัน“เข้าไปนะเขม” เสียงหวานเอ่ยนำไปก่อนที่จะเปิดเข้าไป“มาแล้วเหรอนั่งก่อน เอาน้ำอะไรดี”“อะไรก็ได้ ทำอะไรอยู่เ
ย่างเข้าสู่กลางดึกของวันมานานแล้ว ทว่าคนหลับด้วยความอ่อนเพลียพึ่งจะเริ่มขยับตัวภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ พอลืมตาขึ้นก็เห็นเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งนั่งอยู่ข้างกันเป็นสิ่งแรก“คุณยังไม่นอนอีกเหรอ” น้ำเสียงแหบแห้งถามธาดาพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง สองมือกำผ้าปูขึ้นมาปิดบังความอวบอิ่มไว้“ยัง ผมพึ่งดูงานเสร็จ” ธาดาขยับตัวเข้าใกล้เขมจิรามากขึ้นนิ้วเรียวปัดป่ายปอยผมออกจากกรอบหน้าสวยอย่างนุ่มนวลต่างกับบุคลิกของตนเองลิบลับ“หิวหรือเปล่า คุณยังไม่ได้กินอะไรเลย”ดวงตาประกายเลื่อนไปยังกองเอกสารวางอยู่บนโต๊ะขนาดย่อมข้างเตียงก่อนจะดึงสายตากลับมายังธาดา“ค่ะ แล้วคุณทานหรือยัง”“รอกินพร้อมคุณ แต่กินเวลานี้ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”น้ำเสียงของมาเฟียหนุ่มติดจะขำขันอยู่ไม่น้อย เมื่อชวนกันกินข้าวดึกดื่นอย่างนี้ ทว่าในขณะที่ธาดากำลังจะลุกเดินออกไปก็ได้ยินเสียงอุทานเบา ๆ จากทางด้านหลังจึงรีบหันกลับมาดูทันที สองเต้าอวบอิ่มโชว์หราอยู่เบื้องหน้านั่นคือสาเหตุ“คือ...ฉันลืมไปว่า...”“คุณนั่งทานบนนี้เลยแล้วกัน เดี๋ยวผมยกมาให้”ต่อมาเขมจิรามองธาดาเดินกลับมาพร้อมกับถาดใส่อาหารส่งกลิ่นหอมฉุยเตะจมูก อาจจะเป็นเพราะใช้พล
ขณะนี้ภายในบ้านหลังใหญ่ของมาเฟียหนุ่ม ผู้ทรงอำนาจของทีคลับอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด เหล่าบอดี้การ์ดรวมไปถึงแม่บ้านต่างอยู่กันอย่างเสียวสันหลังเมื่อผู้เป็นนายออกอาการโกรธขึ้งจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด แม้กระทั่งชัชเองก็ยังหน้าเปลี่ยนสีไปหลายรอบเหตุเกิดมาจากเขมจิราเงียบหายไปติดต่อไม่ได้“ป่านนี้ทำไมคุณถึงยังไม่กลับ!”เสียงอันทรงพลังดังก้องอยู่ในหัวทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มถึงกับขนลุกขนพอง ทุกครั้งทั้งสองมักจะคุยกันเองไม่เคยได้ผ่านพวกเขา ทำไมวันนี้ถึงหันมาถามเขาได้?“ชัช!”ชัชสะดุ้งเมื่อธาดาเรียกเสียงเข้มอีกครั้ง มือกำลังกดโทรศัพท์เกือบทำเครื่องมือสื่อสารของตัวเองร่วงหล่น“ชาบอกคุณยังทำงานไม่เสร็จครับ” หลังจากถามไถ่เพื่อนรักอย่างละเอียดจึงได้เงยหน้าขึ้นมาตอบเจ้านาย“สองทุ่มเนี่ยนะ?” เสียงสูงถามกลับ ใบหน้าหล่อร้ายบัดนี้ยิ่งแลดูน่ากลัวมากขึ้นธาดากลอกตามองสูง ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างข่มกลั้นความคุกรุ่นอย่างเต็มที่“!!!”“ฉันให้เวลานายกับเพื่อนของนายทำยังไงก็ได้ ให้คุณกลับถึงบ้านไม่เกินสามทุ่ม!”“สะ สามทุ่ม”“ใช่ สามทุ่ม ให้ชาบอกเจ้านายมันด้วยว่ามือถือมีก็ให้รู้จักใช้ หรือสองเครื่องมันยังไม่พอ ฉันจะซื
เอ็นเจดับบิลณภัทรมองเพื่อนรักทั้งสอง ซึ่งไม่รู้ว่านึกอะไรถึงได้นัดกันมาหาถึงที่ทำงานพร้อมกัน“หน้าดูไม่จืดเลยนะมึง” ธาดานั่งขาไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ถามเจ้าของห้องด้วยเสียงราบเรียบ“จะไม่จืดได้ไง ไปหาน้องมาแต่เธอก็ไม่ยอมคุยด้วย โดนไล่กลับมานั่งเป็นหมาหงอยอยู่นี่ไง” ทิวหันไปตอบธาดาเสียเอง“มึงสิหมาหงอย” ณภัทรสวนกลับอย่างรวดเร็วเมื่อถูกเปรียบเทียบอย่างกับเขาสิ้นหวังขนาดนั้น“ฮ่าฮ่าฮ่า จริงกูว่า คนที่ควรเป็นหมาหงอยนะมึงมากกว่าไอ้ทิว อยู่ใกล้กับเลขาไอ้ภัทรยังได้แค่ตามเธอต้อย ๆ ไม่ได้คบกันสักที” เจตเสริมคำพูดของณภัทรเมื่อรู้สึกอย่างที่เจ้าของห้องพูดจริง“ไอ้เวรนี่” ทิวตีหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อถูกโดนรุมเสียเอง“พอ ๆ พวกมึงเจอหน้ากันเป็นไม่ได้ ตอนอยู่คลับทำไมเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยวะ ไม่ดีขึ้นเลยเหรอ?” หลังจากห้ามทัพเพื่อนทั้งสองคนแล้ว ธาดาก็หันมาถามณภัทรต่อ“ไม่เลย แพรวใจแข็งกว่าที่กูคิดไว้เสียอีก”“อย่าว่าแต่แพรวเลย ก่อนวันจะกลับกูจะไปคุยกับอาของเธอสักหน่อย พอกันเลย! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมแพรวถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้”“ผิดจากที่กูว่าไหมล่ะ”“มันจะหมดหวังขนาดนั้นเลยเหรอวะ ไหนมึงบอกว่าจะไม่ย