“กูไม่ได้จะเอาเพราะชอบ แต่เป็นเพราะเธอคือลูกสาวของผู้ชายคนนั้นต่างหาก!” ความผิดเดียวที่เธอมีก็คือเกิดมาเป็นลูกสาวสุดที่รักของคนที่ทำให้พ่อเขาต้องตาย!
View Moreกลางดึกในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ ภายใน TClub สถานบันเทิงชื่อดังแหล่งรวบรวมอบายมุขทุกอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ ของมึนเมาหรือแม้แต่สิ่งต้องห้ามต่าง ๆ รวมไปถึงการพนันล้วนมีครบจบอยู่ในสถานที่แห่งนี้
ถึงอย่างนั้นก็มีไม่กี่คนรู้ว่า ‘สิ่งต้องห้าม’ เหล่านั้นอยู่ชั้นไหนบ้าง
ชั้นหนึ่งและสองเสียงบีทจังหวะสนุกสนาน ทำให้นักท่องราตรีต่างโยกย้ายส่ายสะโพกตามอย่างเมามัน ในค่ำคืนนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มนักดื่มขาประจำยังมีขาจรอย่าง แพรวพรรณและเขมจิรา ซึ่งหนึ่งในนั้นพึ่งกลับมาจากฝึกงานที่ฝรั่งเศส
สาวสวยทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่โดยรอบ พวกเขาต่างก็อยากเข้ามาทำความรู้จัก เห็นได้ชัดจากสายตามองกันเป็นมัน
พวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอเขมจิรากลับมาจึงได้นัดฉลองตำแหน่ง ‘ผู้ช่วยดีไซเนอร์ฝึกหัด’ นี่ถือเป็นก้าวแรกของการเดินตามความฝัน ที่จะได้ก้าวขึ้นไปเป็น ‘ดีไซเนอร์หลัก’ ในบริษัทออกแบบชั้นนำของเมืองไทย
แก้วสีอำพันในมือแพรวพรรณได้ยื่นออกมาข้างหน้า
“แด่ความสำเร็จ”
“ขอบคุณสำหรับมื้อนี้”
ของเหลวรสชาติขมปร่าค่อย ๆ ไหลลงสู่ลำคอสวยทั้งสอง แก้วว่างเปล่าก็ชูสูงขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นถึงมิตรภาพยังคงอยู่
“เข้าไปทำงานวันไหน”
“คงต้องรอพี่เดย์แจ้งอีกที ตอนนี้ก็ถือซะว่าได้พัก จากที่หัวหมุนมาหลายเดือน” เขมจิราพูดยิ้ม ๆ
“ก็ดีสิฉันจะได้มีเพื่อนเที่ยวช่วงนี้เหงาจะแย่” พออีกคนว่าอย่างนั้น แพรวพรรณก็ยิ้มแล้วบอกด้วยความดีใจ
“เหงาอะไรไหนว่าไปสอนที่มหาลัยคุณเจตไม่ใช่เหรอ”
“แต่ก็ไม่ได้ประจำไง อาทิตย์หนึ่งก็ไปแค่ไม่กี่วันเอง”
“แล้วไม่ดีหรอสอนแค่นั้นน่ะ” เขมจิรายกคิ้วขึ้นไม่เข้าใจ มีอะไรเพื่อนต้องเบื่อก็ในเมื่อเป็นคนเลือกเอง
“ก็ดีแหละ แต่เวลาอยู่เฉย ๆ ก็เบื่อบ้างไม่ได้หรือไง”
“แล้วไม่เข้าไปทำกับคุณพ่อล่ะ”
“ไปแล้วจะช่วยอะไรได้ ฉันไม่ได้เรียนบริหารมานะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็ลืมไป”
ทั้งคู่คุยอย่างออกรสออกชาติแข่งกับเสียงเพลง สลับกับลุกขึ้นโยกเบา ๆ ตามจังหวะ
ชั้นสองโซน VVIP
“มีอะไรดีตรงนั้นวะ เห็นมองนานล่ะ” เจ้าของใบหน้าทะเล้นถามคนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“.....”
ทิวส่ายหน้าเมื่อเพื่อนไม่ยอมปริปาก อากัปกิริยาไร้การตอบรับแบบนี้อยากจะแจกบาทาให้สักครั้งเหลือเกิน แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิด ใครจะกล้าทำอะไรมันได้ขืนอีกคนสวนกลับมาไม่ตายก่อนเหรอ เขาจึงหันไปสนใจกับอาหารตาชั้นล่างต่อ
“สนใจใคร?” แต่คนอีกฝั่งไม่ปล่อยให้จบ ธาดาถามเสียงเข้ม เมื่อณภัทรยังคงเพ่งสายตาอยู่ที่เดิม
“....”
“มัวแต่มองโดนคนอื่นคาบไปแดกก่อน อย่ามาด่ากูทีหลังนะ”
“แล้วถ้ากูสนใจบ้าง มึงจะเสนอให้เหมือนไอ้ภัทรไหม” ทิวถามเพื่อนกวน ๆ
“อย่างมึงเคยผ่านมือกูด้วยเหรอ เห็นหิ้วกลับไปเองตลอด” ธาดาปรายหางตามาทางคนถามแล้วพูดตามความจริง
“รอมึงเสียเวลา สู้จัดการเองดีกว่าจะได้ขึ้นห้องไปเลย”
“แล้วถามกูเพื่ออะไร”
ทิวยักไหล่เมื่อธาดาว่าอย่างนั้น ก็ไม่ชอบอะไรที่มันมากพิธีนี่หว่า
การต่อปากต่อคำกันระหว่างเพื่อนทั้งสอง ณภัทรไม่ได้ฟังเพราะให้ความสนใจกับ ‘หญิงสาวคนนั้น’ การดื่มของหล่อนตกอยู่ในสายตาลึกล้ำมาสักระยะแล้ว
มุมปากหยักหนายกขึ้นอย่างมาดร้าย
ใบหน้าสวยส่ายไปมามองผู้ชายโดยรอบคงกำลังหาเหยื่อสักคนอยู่สินะ ความคิดไม่อาจมองลูกสาวของศัตรูในแง่ดีได้ ความโกรธแค้นสะสมมานานทำให้ณภัทรคิดแผนร้ายขึ้นมา
“ธามช่วยอะไรกูอย่าง”
“หื้ม!” ทิวเปล่งเสียงต่ำด้วยความสงสัยในคำพูดของณภัทร
“ว่ามาสิ” เขาเป็นถึงเจ้าของสถานที่มีหรือจะปฏิเสธคำร้องขอของเพื่อนรักได้
“ทำให้ผู้หญิงคนนั้นค้างกับกูที่นี่คืนหนึ่ง” สายตามาดร้ายยังไม่ละไปจากตำแหน่งเดิม แก้วเหล้าในมือณภัทรยกขึ้นดื่มหมดในครั้งเดียว
หลังจากปิดกั้นปลายสายแพรวพรรณก็เก็บเครื่องมือสื่อสารไว้ตามเดิม ไม่คิดว่าผ่านมาตั้งหลายเดือนเขายังคงตามราวีเธอไม่เลิก!ทุกการกระทำของครูสาวตกอยู่ในสายตาของลูกศิษย์ตลอดเวลา“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”“ไม่เป็นไร อิ่มแล้วใช่ไหมครูจะได้กลับเลย”“ที่ผมถามก็เพราะเป็นห่วงนะครับ” เตชินเสียงอ่อนลงในขณะที่ถาม“ครูก็บอกว่าไม่เป็นอะไรไง” ต่อให้เขาบอกว่าเป็นห่วง ก็ไม่มีเหตุผลจะต้องพูดว่าเธอกำลังเจอกับปัญหาอะไรอยู่ดี“ไม่เป็นไรครับ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก”“เตชิน!”ถ้อยคำรวมไปถึงสีหน้าของชายหนุ่ม ได้ทลายขีดจำกัดความอดทนของหญิงสาวหมดลง แพรวพรรณเรียกอีกคนเสียงแข็ง“ครับ” ทว่าเตชินกลับตอบรับด้วยน้ำเสียงปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีแววว่าจะกลัวอีกฝ่ายแต่อย่างใด“การที่ครูยอมมาด้วยง่าย ๆ ก็ใช่ว่านายจะมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของครูได้นะ!” ในเมื่ออีกฝ่ายแสดงเจตนาออกว่าไม่ได้เกรงกลัวเธอจริงก็ไม่จำเป็นต้องถนอมความรู้สึกกันไว้อีก‘แบบนี้สิค่อยคุยกันง่ายหน่อย’เตชินผ่อนกายลงเอนตัวไปด้านหลังพิงกับพนักใบหน้าหล่อเหลาเอียงเล็กน้อยในท่าทางไม่ยี่หระขณะสบตาขุ่นเคืองตรงหน้า“ผมก็แค่ถามเพราะเป็นห่วงเท่านั้น ไม่ได้คิดจ
“นายหิวก็ไปกินสิ ครูยังไม่หิวนี่” แพรวพรรณยังใจเย็นตอบปฏิเสธไป“แต่ผมอยากให้อาจารย์ไปด้วย ถือว่าเป็นการขอบคุณเรื่องสอนผมในห้องเมื่อกี้ก็ได้” เมื่อใช้ความหิวไม่ได้ผลจึงหันมาว่านล้อมเรื่องในห้องเรียนแทน“ไม่เป็นไร หน้าที่ของครูอยู่แล้ว นายไม่ต้องมาเลี้ยงขอบคุณอะไรหรอก”“ใจร้ายจัง! ไหนใคร ๆ บอกว่าอาจารย์เป็นคนใจดี ผมแค่ขอให้ไปกินข้าวด้วยเฉย ๆ หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้วก็ไม่เห็นว่าอาจารย์จะเห็นใจเลยสักนิด หรือเป็นเพราะผมพึ่งมาเรียนใช่ไหมครับ ถึงได้ไม่สนใจกันแบบนี้”ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลสิ! เตชินตีหน้าเศร้าหมอง ทำทีเป็นเสียใจเมื่อถูกเมินความรู้สึกอย่างไม่ไยดีจากครูสาวดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ ได้เห็นละครฉากใหญ่ หากไม่ใช่เพราะเขาพึ่งเข้าเรียนวันนี้วันแรก เธอคิดว่าเตชินคงเอกการแสดงแน่จากคิดว่าเรื่องจะจบง่าย ๆ กลับไม่ใช่ซะแล้วส่วนเตชินก็รอลุ้นว่าครั้งนี้จะได้ผลไหม แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีเรียนต่ออยู่แล้วมีเวลาตื๊อเธอได้อีกนานเชียวล่ะต่างคนก็ต่างประเมินสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ถ้าหากยังปฏิเสธเขาอยู่คงไม่ได้กลับบ้านแน่!“ก็ได้แต่ไปร้านที่ครูเลือกนะ”‘เยส! ในที่สุดก็ทำได้’“ตกลงครับอาจารย์เลือก
ห้องการแสดงเวลา 10:24 นาฬิกา ลีลาการวาดลวดลายอันพลิ้วไหวเข้ากับท่วงทำนองสไตล์ละติน แพรวพรรณโย้กย้ายร่างกายออกมาได้อย่างสวยงาม ในระหว่างนั้นดวงหน้าหวานก็ยังมีรอยยิ้มแต่งแต้ม ทว่าใครเลยจะล่วงรู้แท้จริงแล้วภายในใจความกรุ่นโกรธกำลังก่อตัวขึ้นมาช้า ๆ นับตั้งแต่เปิดคลาสสอนมา วันนี้ครูสาวปวดหัวมากที่สุดเนื่องจากมีลูกศิษย์คนใหม่ทำให้ปวด เขาคอยตามติดไม่ห่าง ถามนู่นถามนี่จนคนอื่นมองด้วยความฉงนสนเท่ห์ไปตาม ๆ กัน ซึ่งเธอไม่เข้าใจเหตุใดเจตถึงรับเตชินเข้ามาในช่วงกลางเทอมแบบนี้ ลูกศิษย์คนใหม่ไม่มีพื้นฐานเลยข้อนี้ก็พอจะเข้าใจ แต่! สำหรับผู้ชายคนนี้เธอคิดว่าเขามีทักษะเกี่ยวกับด้านนี้อยู่ไม่น้อย เพียงแต่หาข้ออ้างแล้วปฏิเสธว่าไม่เป็นก็เท่านั้น... “เอาละทุกคน วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน อย่าลืมกลับไปซ้อมด้วย ครั้งหน้าครูจะทดสอบทีละคน” ครูสาวร่ายยาวหลังจากหมดชั่วโมงสอนแล้ว “เริ่มเลยเหรอครับ” ชายหนุ่มอยู่หน้าสุดยกมือขึ้นถาม “ใช่เริ่มเลย” “เก็บคะแนนด้วยไหมคะอาจารย์” นักศึกษาสาวสวย นั่งอยู่ไม่ไกลลุ้นว่าจะเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้หรือเปล่า “มีแน่นอน แต่ถึงจะเป็นแค่การเก็บคะแนน ครูก็อยากให้พวกเธอทุกคนตั้งใจทำมั
เอ็นเจดับบิลกานแก้วกำลังคีย์ข้อมูลรายงานการผลิตและส่งสินค้าต้องส่งไปในรอบที่จะถึงนี้อย่างตั้งอกตั้งใจ ทว่าก็ต้องละจากหน้าจอเสียงเคาะโต๊ะทำงานดังต่อเนื่องอยู่ด้านข้าง“เจ้านายของคุณอยู่หรือเปล่าคุณกาน” ชายหนุ่มผู้มาใหม่เอ่ยถาม เลขาหน้าห้องทำงานของเพื่อนด้วยรอยยิ้มกวน ๆ“อยู่ค่ะ” แม้จะตอบอย่างสุภาพ แต่ภายในใจกลับบ่นให้เขาไปหลายคำ ชายหนุ่มผู้นี้เป็นเพื่อนของเจ้านายของเธอ แล้วยังพ่วงตำแหน่งหุ้นส่วนอีกคน เขาได้เข้ามาทำงานพร้อมกับณภัทร หลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด แต่อยู่คนละชั้นกันหุ้นส่วนคนนี้มักจะขึ้นมาคุยงานกับเจ้านายอยู่เป็นประจำ การคุยแต่ละครั้งของพวกเขาล้วนใช้เวลานานมากกว่าหนึ่งชั่วโมงเธอจะไม่ว่าเลย หากจะมาแบบปกติทั่วไป ไม่ใช่เคาะโต๊ะแล้วก็พิงขอบโต๊ะทำงานเธอแบบนี้“งั้น...ผมเข้าไปนะ”“เดี๋ยวค่ะ! ตอนนี้คงไม่สะดวก” กานแก้วร้องห้ามอีกฝ่ายไว้ก่อนฝีเท้ากำลังจะก้าวไปที่ประตูห้องทำงานของเพื่อนหยุดลง ทิวหันหน้ากลับมาหากานแก้ว‘ก็ไหนบอกว่าอยู่ หรือมีลูกค้าก็ไม่น่าจะใช่ วันนี้มันไม่ได้นัดลูกค้าไว้นี่น่า หรือมันนัดใครไว้โดยที่เขายังไม่รู้’คิ้วเข้มขมวดด้วยความงุนงงเขาถอยกลับมาแล้
มหาวิทยาลัยเจแพรวพรรณยืนอยู่หน้าห้องเรียน วันนี้เป็นชั่วโมงสอนบรรยายการแสดง บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความรื่นเริง ใบหน้าครูสาวแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม วาดลวดลายอันงดงามประกอบการสอน สะกดสายตาอีกหลายคู่ให้หยุดอยู่แค่เบื้องหน้า ด้วยความตั้งอกตั้งใจคลาสสอนยังเป็นที่สนใจเหมือนเช่นเคยแม้จะเป็นของภาคการแสดงก็ตามที ภายในห้องเรียนแห่งนี้ไม่ได้มีเฉพาะภาควิชาเฉพาะเท่านั้น ยังมีภาควิชาอื่นเข้าร่วมฟังด้วย ซึ่งครูสาวก็ไม่ได้ว่าอะไรขอเพียงไม่รบกวนคนอื่นก็เป็นพอและหนึ่งในนั้นก็คือนักศึกษาชั้นปีที่สี่คณะบริหาร พึ่งจะเข้ามานั่งฟังเป็นครั้งแรก เนื่องจากอดทนคำรบเร้าจากเพื่อนในคณะนี้ไม่ได้ อีกฝ่ายสาธยายเสียใหญ่โตถึงคุณสมบัติครูสาวท่านนี้ ว่าสอนสนุกยิ้มเก่ง แล้วก็สวยอย่างนั้น อย่างนี้ จนกระทั่งชายหนุ่มขี้เกียจจะฟังก็เลยต้องมาให้เห็นกับตาว่าแท้จริงแล้ว เธอจะเป็นอย่างที่เพื่อนกล่าวอ้างจริงหรือเปล่าคำตอบก็คือ... ตลอดสองชั่วโมงที่ผ่านมา เขาแทบจะเรียนไม่รู้เรื่องความสนใจทั้งหมดอยู่แค่ใบหน้าหวานเพียงอย่างเดียว“ไงล่ะ มองตาไม่กะพริบเลยดิ” คนนั่งอยู่ข้างกันทักขึ้น ครั้งแรกเตชินบอกไม่อยากมาเอาเข้าจริงนั่งอมยิ้มต
“แต่จะว่าไปหนูเขมไม่ได้มาบ้านเรานานแล้วนะ เพื่อนเป็นยังไงบ้างแพรว”สาวน้อยที่มักจะมาเที่ยวหาและเล่นกับลูกสาวอยู่บ่อย ๆ เมื่อครั้งยังเรียนที่เดียวกัน ทำให้แพรวพราวเอ็นดูราวกับว่าเขมจิราเป็นลูกสาวอีกคน เมื่อไม่ค่อยได้เจอหน้าก็อดเป็นห่วงไม่ได้“ช่วงนี้ยัยเขมกำลังออกแบบชุดใหม่อยู่ค่ะ ก็เลยไม่ค่อยว่างมาสักเท่าไหร่”“คุณยุทธนี่ก็เก่งนะ เลี้ยงหนูเขมมาคนเดียว ส่งเสียจนลูกสาวจบมามีงานทำดี ๆ ในบริษัทใหญ่โตแบบนี้”“ใช่ค่ะพ่อยุทธเก่งมาก ๆ เหมือนพ่อของแพรวนี่ไง” แพรวพรรณซบลงที่ไหล่อันแสนอบอุ่นของผู้เป็นพ่ออย่างเอาใจและชื่นชม“พ่อต้องเก่งอยู่แล้ว ก็มีกำลังใจที่ดีอย่างหนูกับแม่นี่ไง” วงแขนกว้างยกขึ้นโอบไหล่สาวสวยทั้งสองนั่งกันคนละฝั่ง“อาเกศด้วย” เธอไม่ลืมจะเอ่ยชมอีกหนึ่งคน ซึ่งได้ยกให้เป็นคนเก่งของตนเองตลอดมา“อือ ๆ อาเกศด้วย” ไพศาลตอบรับคำลูกสาวด้วยรอยยิ้มสุขใจ“เกศทำไมเหรอคะ?”หญิงสาวผู้มาใหม่เอ่ยถามมาแต่ไกล เดินเข้ามาในเขตตัวบ้านแล้วได้ยินประโยคช่วงท้ายแต่ไม่ชัดเจนนัก เธอส่งยิ้มให้กับทุกคนพอเข้ามายังห้องรับรองหลังจากคุยงานเสร็จเกวรินก็รีบตรงกลับบ้านทันที เพื่อจะคุยงานกับพี่ชาย แต่พอได้ยินเสียงส
Comments