และแล้วเมิ่งเหยียนซินก็กลับกลายเป็นว่ามีระบบช่วยนำทางราวกับติดจีพีเอส ไม่รู้นับเป็นเรื่องโชคดีหรือไม่ที่ยามนี้เมิ่งเหยียนซินดันต้องมาทำภารกิจหนีตายให้กับคุณหนูรองเมิ่งเหยียนซิน แต่โลกใบนี้ก็เหมือนจริงเกินไปกระมัง
ขณะที่เมิ่งเหยียนซินเดินบ้างกระโดดบ้างก็ลัดเลาะชายป่าเข้ามาจนถึงในตลาด ระบบพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
[หากต้องการหลบหลีกการกลับสกุลเมิ่ง ต้องระวังสิบสามนาฬิกา ขอให้ท่านปลอดภัย]
"สิบสามนาฬิกา หา เอ๋...ฝั่งไหนล่ะ" เมิ่งเหยียนซินเหลือบซ้ายแลขวา นางเห็นบุรุษสองสามนายกำลังมุ่งหน้าใกล้เข้ามา ก็เร่งกระเด้งกายหลบเข้าหลังกองขยะฉับพลัน
"นี่ พวกเจ้า เคยเห็นคุณหนูคนนี้หรือไม่"
ภาพเสมือนของเมิ่งเหยียนซินถูกกางออกเพื่อสอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ขายบริเวณนั้น ทุกคนต่างส่ายศีรษะไม่รู้เห็น เมิ่งเหยียนซินพยายามเขม้นมองภาพ ดูแล้วหน้าตาสตรีที่เขาวาดลงไปอุบาทว์พิกล จากที่นางอาบน้ำผลัดผ้า คุณหนูรองเมิ่งก็งดงามใช้ได้ทีเดียว เหตุใดจึงใช้ภาพเช่นนั้นมาตามหาคน หาให้ตายก็คงไม่พบ
นี่คิดว่าเราขี้เหร่ขนาดนี้เลยหรือไง จะบ้า...
จวบจนบุรุษในเครื่องแบบเดินจากไปไกลลิบ เมิ่งเหยียนซินจึงกระโดดเด้งออกมาพร้อมปัดฝุ่นบนเสื้อผ้าและฝ่ามือ ดูเหมือนเมิ่งเหยียนซินเลือกพื้นที่ซ่อนตัวไม่ถูกต้องเอาเสียเลย กลิ่นเหม็นหึ่งจึงติดอยู่บนเสื้อผ้าเต็มไปหมด
"ระบบ... ระบบ... เสี่ยวทู่จื่อ!"
[สวัสดีค่ะคุณหนูรอง ไม่ทราบว่าท่านติดปัญหาใด]
"คือ... พวกคนเมื่อกี๊เป็นใครงั้นหรือ"
[เรื่องนี้เสี่ยวทู่จื่อไม่อาจก้าวก่ายเนื่องจากอยู่ในภารกิจของท่าน รบกวนคุณหนูใช้ความสามารถเพื่อฝ่าฟันมันด้วยตนเอง]
"แค่นี้ก็ไม่ได้รึไง หวงจริงเชียว"
[นับจากนี้เสี่ยวทู่จื่อจะออกมาอัตโนมัติยามจำเป็นเท่านั้น ขอให้คุณหนูรองข้ามผ่านภารกิจแรกโดยไว]
"เดี๋ยว เดี๋ยว..."
ไม่ทันเสียแล้ว หนนี้ไม่ว่าเมิ่งเหยียนซินพยายามเรียกหาเสี่ยวทู่จื่อเพียงใด เจ้าระบบดังกล่าวก็ไม่ยอมโผล่ออกมาสักกระผีกริ้น ทำราวกับว่าได้ชัตดาวน์ตนเองไปแล้วจริง ๆ
"ระบบนี่แฮงค์ไปแล้วหรือยังไง กะจะถามสักหน่อยจบภารกิจได้เงินหรือเปล่า ชิ"
เป๊ง เป๊ง เป๊ง
"เร่เข้ามา จ๊ะเร่เข้ามา จับยามสามตา หมอเทวดาเชิญทางนี้"
เมิ่งเหยียนซินบังเกิดความสนใจขึ้น นางจึงทำตัวลีบเล็กให้กลมกลืนกับบรรดาชาวบ้านเพื่อต้องการพาตนเองเข้าไปมุงดูเรื่องน่าสนุกเบื้องหน้า ทว่ายามที่เมิ่งเหยียนซินเผลอกระทบไหล่ใคร นางกลับเห็นภาพสะท้อนบางอย่างเกิดขึ้นในโซนสมองเสียอย่างนั้น เมิ่งเหยียนซินตัวแข็งค้างชั่วขณะ
เมื่อครู่มันเกิดขึ้นได้ยังไง อนาคตงั้นเหรอ
เมิ่งเหยียนซินจึงลองสาวเท้าเข้าใกล้หญิงสาวผู้หนึ่งเพื่อความแน่ใจ ภาพการตบตีราวเหตุการณ์สามีภรรยาทะเลาะกันก็ผุดขึ้น หญิงสาวชาวบ้านคนนั้นผินหน้ามองเมิ่งเหยียนซินด้วยอารมณ์หงุดหงิด
เหวี่ยงจริง ๆ มิน่าสามีเลยไปมีกิ๊ก นี่ก็กระชากสามีตบกลิ้งเลยเชียว
เมิ่งเหยียนซินยิ้มแหยให้อีกฝ่าย เมื่อแน่ใจว่าตนไม่ได้เพ้อเจ้อไปเอง ก็ถอยร่นออกห่างอีกฝ่ายเดี๋ยวนั้น กระทั่งชายผู้หนึ่งวิ่งเข้ามากระทบไหล่นางจนเซ
"แม่นางขอโทษด้วย เจ้าเป็นอะไรหรือไม่"
เพราะภาพเมื่อครู่เป็นเหตุให้เมิ่งเหยียนซินติดในภวังค์ ครั้นเห็นอีกฝ่ายถามซ้ำอีกครั้ง เมิ่งเหยียนซินก็ส่ายศีรษะ
"ไม่เจ้าค่ะ"
หรือเป็นความสามารถพิเศษของระบบงั้นเหรอ
[ทักษะพิเศษ หยั่งรู้อนาคต]
เมิ่งเหยียนซินมองจอโปร่งแสงที่ปรากฏขึ้น จากนั้นก็หายไปโดยไม่อธิบายอะไรอีก
"หยั่งรู้อนาคต"
เมิ่งเหยียนซินจึงย้ายสายตาไปยังจุดสนใจของผู้คน ยามนี้เมิ่งเหยียนซินสัมผัสได้ว่ากลุ่มชายผู้นั้นเป็นพวกนักต้มตุ๋น เขากำลังทำนายดวงชะตาส่งเดชเพื่อหลอกเอาเงินจากผู้คน เดิมทีเมิ่งเหยียนซินเบื่อหน่ายเต็มทนหวังจะปลีกตัวออกจากฝูงชนแสนแออัด ทว่าดวงตากลับเหลือบเห็นชายที่วิ่งมาชนตนเมื่อครู่กำลังตกเป็นเหยื่อ เมิ่งเหยียนซินไม่อาจละเลยเรื่องไร้มโนธรรมเช่นนี้ได้ จึงตัดสินใจหันหลังกลับ
เขากำลังถูกทำนายทายทักว่าชะตาบัดซบ ต้องแก้เคล็ดด้วยการจ่ายเงินถึงสองตำลึงเงินจึงจะสามารถแก้ไขกฎแห่งสวรรค์ ก่อนชายผู้นั้นจะควักเงินจ่ายด้วยสีหน้าซีดขาว เสียงใสก็โพล่งขึ้นเสียก่อน
"เดี๋ยว! เขาบอกว่าท่านดวงชะตาบัดซบ มันก็จะบัดซบงั้นหรือ"
เช้าวันรุ่งขึ้นเมิ่งเหยียนซินยังคงแต่งกายเฉิ่มเฉยตามแบบฉบับคุณหนูรองปกติ ส่วนเมิ่งลี่น่าประโคมฉาบใบหน้าจนแทบมองไม่เห็นผิวพรรณแท้จริง"จืดชืดจริงเชียว ต่อให้หายบ้าแล้วก็ยังขี้ริ้วขี้เหร่เช่นเดิม" พัดในมือถูกยกขึ้นป้องปากพร้อมเสียงยิ้มเยาะเมิ่งเหยียนซินลอบขบขัน กล้าหยามผู้อื่นโดยไม่มองตนสักนิด "พี่หญิงท่านงามมากเลยเจ้าค่ะ" เมิ่งเหยียนซินแสร้งเยินยอเมิ่งลี่น่าได้ใจก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้าง "แน่นอน ข้างามกว่าเจ้ามาแต่ไหนแต่ไร"เมิ่งเหยียนซินอยากอาเจียนลม ต่อให้คุณหนูรองเมิ่งไม่ได้งามประหนึ่งยอดหญิง แต่เรือนร่างระหงและใบหน้าเกลี้ยงเกลา ก็นับเป็นโฉมสะคราญผู้หนึ่งได้เช่นกัน เพียงแต่คุณหนูรองในเมื่อก่อนนั้นเฉิ่มเฉยจืดชืดเฉกเช่นที่เมิ่งลี่น่ากล่าวมาจริงนั่นล่ะ เดี๋ยวเมิ่งเหยียนซินผู้นี้จะปฏิวัติใหม่เอง"ท่านงามมากเจ้าค่ะ งามดั่งนางเอกละครงิ้วเลย"ริมฝีปากแดงฉ่ำวาวระยับหุบฉับลงเดี๋ยวนั้น "นี่! นังเด็กบ้า เจ้าว่าใครเป็นงิ้วหรือ"เมิ่งลี่น่ากระทืบเท้าเร้า ๆ กระทั่งฮูหยินใหญ่และเมิ่งเว่ยเข้ามา"อะไรกันอีก พวกเจ้าสองคน" เริ่นอี้หร่านถอนหายใจ
แสงจากเชิงเทียนวูบไหว สะท้อนเงาร่างระหงซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการเย็บปักถักร้อย"โอ๊ย! เจ็บ ๆ"เมิ่งเหยียนซินยกนิ้วที่มีเลือดซิบขึ้นแตะริมฝีปากพลางดูดดึงเล็กน้อยเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด"คุณหนู ให้บ่าวทำเถิดเจ้าค่ะ" เลี่ยงหรงเห็นคุณหนูของตนถูกเข็มทิ่มตำเฉกเช่นเม่นน้อยก็นึกเวทนา"ได้อย่างไร ข้าอยากทำเอง เรื่องแค่นี้เล็กน้อยนา""เหตุใดคุณหนูจึงไม่ไปเลือกซื้อเอาสักชุดเช่นคุณหนูใหญ่เล่าเจ้าคะ มานั่งทำเองเช่นนี้เหนื่อยเปล่า"เมิ่งเหยียนซินยู่หน้า "ข้าจะบอกให้นะอาหรง ข้ากำลังจะทำอาภรณ์รุ่นลิมิเต็ด""หะ...หา มิ อะไรนะเจ้าคะ""ฮ่า ฮ่า ดูเจ้าทำหน้าสิ น่าเอ็นดูจริง ๆ" เมิ่งเหยียนซินใช้มือยืดแก้มทั้งสองด้านของสาวใช้คนสนิทด้วยความมันเขี้ยว"ข้าจะทำอาภรณ์ที่คนเห็นแล้วต้องตะลึงค้าง หากไปเลือกซื้อหรือสั่งตัดง่าย ๆ อาภรณ์พวกนี้ก็คล้ายสตรีทั่วไป ในเมื่อผู้คนต่างโจษจันว่าคุณหนูรองเป็นบ้า ท่านพ่อก็จ้องจะจับข้าแต่งงาน ข้าก็จะทำให้บุรุษเหล่านั้นหนีเตลิดจนเก็บเอาชื่อตนกลับจวนไม่ทันเลยล่ะ" 
วันนี้เมิ่งเหยียนซินรู้สึกอารมณ์สุนทรีย์ยิ่ง หวังเพียงว่าภารกิจที่เสี่ยวทู่จื่อมอบให้จะยังไม่ปรากฏในเร็ววัน ขอให้นางได้นั่งกินนอนกินจนอิ่มหนำสักวันสองวันเถิด จวนสกุลเมิ่งนี่อย่างไรมีเรื่องมีราวไม่เว้นแต่ละวัน เดี๋ยวพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกอยู่เรื่อยทว่าการไม่ทำอะไรเลยเมิ่งเหยียนซินก็พานรู้สึกเบื่อหน่าย เดี๋ยวจะกลายเป็นหมูเข้าจริง ร่างระหงดีดกายผึง นั่งตัวตรงแน่วอยู่บนตั่งไม้ ปากยังคงคาบขนมดอกสาลี่เอาไว้ยามนี้เมิ่งเหยียนซินมีสาวใช้รู้ใจนางหนึ่ง นามว่าเลี่ยงหรง นางคือผู้ช่วยจับโจรจากเหตุการณ์ที่ผ่านมานั่นเอง เมิ่งเหยียนซินเป็นคนไปไถ่ตัวเลี่ยงหรงออกจากจวนหลังหนึ่ง เนื่องจากตอนที่คุณหนูรองเมิ่งเกิดสติไม่ดีเลี่ยงหรงก็ถูกสองแม่ลูกขายทอดตลาดอย่างไม่ไยดี"อาหรง""เจ้าคะ""เก็บของ ข้าอยากไปหาแม่นม เอ่อ...ไม่สิ แม่ชีผู่""แต่นายท่านบอกว่าให้คุณหนูพักผ่อนอยู่เรือนนะเจ้าคะ อาการของคุณหนูยังไม่หายขาด"เมิ่งเหยียนซินยกมือคลึงขมับ "ข้าหายแล้ว หายดีเชียวล่ะ"คุณหนูรองจะไม่หายบ้าได้อย่างไร ในเมื่อจิตวิญ
ชายร่างท้วมที่ว่าก็คือเถ้าแก่หอจำนำเล่อฟาง และแน่นอนหลายวันมานี้เมิ่งเหยียนซินหรือจะนิ่งนอนใจ ภารกิจมากมายที่ระบบยัดเยียดมาให้นางก็ต้องทำ ครั้นรู้ว่าสองสาวใช้มักฉกฉวยสิ่งมีค่าของคุณหนูรองเมิ่งทีละชิ้นสองชิ้นแทบทุกวันเมิ่งเหยียนซินจึงลอบออกจากจวนและเที่ยวเสาะหาหอจำนำเล่อฟางจนพบ หอเล่อฟางมีชื่อระบุเอาไว้ในนิยายเรื่องนี้ส่วนเสี่ยวทู่จื่อยังคงทำตัวเป็นจีพีเอสติดปีกได้อย่างคล่องแคล่ว ก็นับว่าระบบไม่ได้ใจดำกับเมิ่งเหยียนซินจนเกินไป"ซินเอ๋อร์ คนผู้นี้ใครกันหรือ ไยจึงมาอยู่ที่เรือนเล็กได้"เมิ่งเหยียนซินยิ้มกว้าง "ท่านพ่อ นี่เป็นเถ้าแก่จากหอจำนำเล่อฟางเจ้าค่ะ""หา...แล้วเจ้าไปรู้จักกับเขาได้อย่างไร""ก็ไม่นานเจ้าค่ะ เราก็เพียงอาศัย น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ใช่หรือไม่เจ้าคะเถ้าแก่"ชายร่างท้วมเหงื่อตก ตอบกลับด้วยอาการประหวั่น "...ขอรับ"หลิวซือเหว่ยเห็นอาการประหม่าในแววตาและท่าทางของเถ้าแก่หอจำนำ คุณหนูรองคงมิได้ขู่บังคับเขามากระมัง นางเป็นเพียงสตรีตัวเล็ก ๆ จะสามารถทำเรื่องพรรค์นี้ได้จริงน่ะหรือ น่าเหลื
แต่ก็นับว่าดีมิใช่หรือที่ยามนี้นางรอดพ้นจากเขาแล้ว เป็นอิสระอย่างแท้จริง เพราะหากสกุลเมิ่งตกแต่งเข้าไปก็จะต้องกลายเป็นกบฏ ร่วมกันกับเขา เช่นนั้นเมิ่งเหยียนซินเองก็คงไม่รอด ในเมื่อเรื่องหมั้นหมายเป็นโมฆะ ภารกิจหนีตายของคุณหนูรองคงสำเร็จแล้วกระมัง[ภารกิจหนีตายของคุณหนูรองเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ท่านกั๋วกงคืออีกหนึ่งภารกิจของท่านเจ้าค่ะ]"หา...อะไรกัน ทำไมยังต้องข้องเกี่ยวกันอีก"[อย่างที่เสี่ยวทู่จื่อบอก ท่านกั๋วกงคือหนึ่งในภารกิจของคุณหนูรองเจ้าค่ะ]"หัวจะปวด เสี่ยวทู่จื่อ นี่เจ้าเอาแต่ใจมากไปแล้วนะ"[เสี่ยวทู่จื่อก็คือจิตสำนึกของท่าน คุณหนูรอง ท่านต้องปฏิบัติภารกิจตามเงื่อนไขเท่านั้น]พรึบ!และหน้าจอโปร่งแสงก็ดับไป เมิ่งเหยียนซินทำได้เพียงสบถในใจ ระบบบ้านี่จะเป็นจิตสำนึกของนางได้อย่างไร ถึงจะบอกว่าอยากเปลี่ยนชะตาคุณหนูรองเมิ่งก็ใช่ต้องขุดคนตายขึ้นมาเสียหน่อย แบบนี้เส้นทางของนิยายก็สะเปะสะปะไปเสียหมด อุตส่าห์อ่านจนจบแต่การเข้ามาก็ประหนึ่งตาบอดคลำทาง"เอาล่ะ ๆ ที่มาวันนี้มิใช่เรื่องที่ซินเอ๋อร์ เอ่อ...""เรื่อ
"เดิมทีข้าเองก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยว แต่ในเมื่อหลายคนต้องการให้ข้าอยู่เป็นพยาน เช่นนั้นข้าจะเมตตาดูสักครั้ง"เมิ่งเหยียนซินเบ้ปาก "เช่นนั้นเริ่มเลยดีหรือไม่เจ้าคะ อยากสอบสวนอย่างไรดีเล่า""ท่านกั๋วกง... เช่นนั้นเชิญนั่งก่อนเจ้าค่ะ" เริ่นอี้หร่านผายมือเชื้อเชิญส่วนเมิ่งเว่ยทำได้เพียงถอนหายใจอย่างนึกปลดปลง คาดไม่ถึงว่ายามนี้ ต้องพึ่งพากั๋วกงมาอยู่พิพากษาร่วมด้วย ช่างขายหน้าจริง ๆสาวใช้สองนางนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น จากนั้นชี้นิ้วไปยังถังไม้ซึ่งใช้บรรจุน้ำที่นอนแอ้งแม้งโดยมิได้รับการเหลือบแลหรือแตะต้องให้เสียรูปคดีแต่อย่างใด"นั่นหลักฐานเจ้าค่ะ นายท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับบ่าวนะเจ้าคะ"เมิ่งเหยียนซินยืนกอดอกแค่นยิ้มในใจส่วนเมิ่งเว่ยเหลียวมองบุตรสาวคนรองที่ดูไม่เป็นทุกข์ร้อนใด "ซินเอ๋อร์ เจ้าทำอย่างนั้นจริงหรือไม่""จริงเจ้าค่ะ"หลิวซือเหว่ยเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบของเมิ่งเหยียนซิน มุมปากของเขายกโค้งจาง ๆ นางช่างไม่รู้จักแก้ตัวหรือใช้คำพูดให้สวยหรูกว่านี้เอาเสียเลยองครักษ์โจวฉ