Share

บทที่ 5

last update Dernière mise à jour: 2025-04-21 01:02:40

องค์หญิงสิบสามกระโดดหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด โชคดีนักที่ไม่มีผู้ใดตามมา แต่แล้วนางก็ต้องวิ่งหน้าตั้งอีกครั้งเมื่อด้านนอกพบกับฝูงสุนัขจรจัดหลายตัววิ่งไล่กวดนางอย่างเอาเป็นเอาตาย จวบจนวิ่งออกมาจนสุดทางเดิน นางพบเงาของบุรุษผู้หนึ่งในชุดสีดำ เพราะมีดวงตาของกระต่ายทำให้นางมองเห็นได้แม้ในความมืด 

"พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ข้าอยู่นี่"

เสียงของนางที่เปล่งออกไปแน่นอนว่าอ๋องฉางอันย่อมไม่ได้ยิน แต่เพียงเขาเห็นกระต่ายที่ท่าทางแปลกประหลาดกำลังโดนสุนัขวิ่งไล่เขาก็รู้ได้ในทันใดว่ากระต่ายตนนี้คือใคร อ๋องฉางอันอ้าแขนรับร่างเล็กอวบท้วมไว้ในอ้อมแขน 

"สิบสามเป็นเจ้าใช่หรือไม่"

มีเพียงการซุกร่างสัตว์เข้าไปในอ้อมกอดของเขาเท่านั้นแทนคำตอบ อ๋องฉางอันแกว่งดาบในมือว่องไว ไม่นานสุนัขจรจัดเหล่านั้นก็สิ้นลมหายใจโดยที่กระต่ายน้อยในอ้อมกอดของเขาไม่รับรู้การสังหารโหดครั้งนี้

ภายในตำหนักธิดาเทพเงียบสงบดั่งเช่นเคย องค์หญิงสิบสามในร่างของกระต่ายขาวถูกวางลงบนแท่นศิลาอย่างทะนุถนอม ใบหน้าหล่อเหลางดงามของเขาดูนิ่งสงบ เขาเอ่ยเสียงเบาออกมาคล้ายกำลังข่มความหวาดกลัวบางอย่างที่อยู่ด้านใน

"ร่างกายของนางเป็นอย่างไรบ้าง"

"ทูลท่านอ๋อง ยังคงปกติโชคยังดีที่มีกระพรวนผู้พิทักษ์คอยคุ้มครองทำให้หินจันทราที่เคลื่อนย้ายแต่ละครั้งไม่ส่งผลร้ายแรงนักเพียงแต่ทุกครั้งที่หินเคลื่อนย้ายไม่อาจหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดได้"

"แล้วเรื่องตำราจันทราพวกท่านมีเบาะแสบ้างหรือไม่"

อ๋องฉางอันเอ่ยพลางลูบขนปุยของกระต่ายน้อยเล่น องค์หญิงสิบสามในร่างกระต่ายไม่สามารถควบคุมตนเองได้ดีเท่าใด จึงยังกระโดดไปมาไม่อยู่นิ่งอ๋องฉางอันจึงจับนางอุ้มไว้ในอ้อมแขนดังเดิม

"ตำราจันทรานั้นมีเบาะแสว่าอีกครึ่งอยู่ในจวนแม่ทัพหยาง ยากยิ่งที่จะนำกลับมา"

"จริงหรือ"

"เพคะท่านอ๋อง" ธิดาเทพพยักหน้ารับ

"เช่นนั้นก็ง่ายแล้วเพียงแต่ไปขอยืมมาช่วยองค์หญิงสิบสามแล้วนำไปคืน เราเฝ้าพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินหามาหลายสิบปีในที่สุดก็อยู่แค่ปลายจมูกเท่านั้นเอง" อ๋องฉางอันเอ่ยอย่างยินดี

"เรื่องคงไม่ง่ายดายเช่นที่เราคิด เพราะตำราเล่มนี้เป็นของวิเศษในตำหนักเทพหากผู้อื่นครอบครองย่อมต้องโทษประหาร คิดว่าทางจวนแม่ทัพไม่มีทางยอมมอบตำราอีกครึ่งมาง่ายๆ อีกทั้งเราจะให้ผู้ใดล่วงรู้ไม่ได้ว่าตำราได้หายออกจากตำหนักเทพไปครึ่งหนึ่ง หากฝ่าบาทรู้เข้าธิดาเทพทั้งหลายคงเอาชีวิตไว้ไม่ได้"

"จริงดั่งท่านว่า และเรื่องของน้องสิบสามฝ่าบาทก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกัน"

"นอกจากลอบเข้าจวนแม่ทัพคงไม่มีวิธีอื่นแล้ว" 

ธิดาเทพเอ่ยขึ้น นางรู้ดีว่าจวนแม่ทัพหยางเวรยามหนาแน่นยิ่งกว่าในวังหลวง การแฝงกายเข้าไปนั้นช่างเป็นเรื่องยากหรือเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

"ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องลองดู"

"เหตุใดตำรานั่นถึงไปอยู่ที่จวนแม่ทัพหยางได้"

"ฮูหยินเฒ่ากับแม่เฒ่าของข้ามีความผูกพันแน่นแฟ้นนักไม่แน่อาจมีสิ่งใดที่นางไม่ทันได้สั่งเสียจึงได้มอบตำราให้ตระกูลหยางไปรักษา

หรือไม่ตระกูลหยางก็แย่งชิงเอาเป็นของตนเพราะหากได้ครอบครองตำราเล่มนี้ก็สามารถล่วงรู้ฟ้าดินได้ เพียงแต่ตระกูลหยางกลับเก็บรักษาอย่างเงียบเชียบข้าคิดว่าต้องมีความลับอื่นใดซ่อนอยู่อีกเป็นแน่"

"อย่างไรเราต้องนำตำรากลับมาเพื่อช่วยสิบสามให้ได้โดยเร็ว"

"ท่านอ๋องใกล้ฟ้าสางแล้วองค์หญิงคงคืนร่างเดิม ท่านไม่ต้องห่วงแล้วทางนี้ปล่อยให้ตำหนักเทพจัดการเถิด"

"อืม รบกวนท่านแล้ว"

กระต่ายน้อยมองตามร่างสูงของอ๋องฉางอันจนลับสายตา เป็นจริงดั่งธิดาเทพที่มีศักดิ์เป็นน้าสาวของนางเอ่ย ไม่นานองค์หญิงสิบสามก็กลายร่างคืนดังเดิม

"องค์หญิงเจ้าต้องหัดฝึกสงบใจ เมื่อกลายร่างปีศาจจะได้ควบคุมตนเองได้" ธิดาเทพเอ่ยขึ้นในขณะที่ใช้ผ้าผืนใหญ่คลุมร่างเปลือยของนางเอาไว้จนมิด

"ข้าพยายามแล้วท่านน้า แต่ทำไม่ได้สักที"

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 280 ตอนจบ

    ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 279

    องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 278

    ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 277

    หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 276

    เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 275

    คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status