56“ก็เรื่องที่พระชายาสามเห้อเหนียว สั่งให้เจ้ามาสังหารพระชายารองฮุ้ยเตียวไงล่ะ” คำตอบของธิดาดอยเรียกความตกใจแก่ หยานหยูมาก เขาตาค้าง มองหน้าคนพูดนิ่ง “ไม่ ไม่ใช่ พระชายาสามไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าเป็นคนลงมือเอง” หยานหยูปฏิเสธเสียงแข็ง “ข้ารู้ว่า พระชายาสามเปรียบเสมือนน้องสาวของเจ้า ไม่แปลกที่เจ้าจะปกป้อง” ธิดาดอยพูดเสียงเนิบ ไม่หวั่นกับการไม่ยอมรับของหยานหยู “แต่เจ้าเป็นสามีและพ่อของลูกสองคน รวมทั้งเป็นลูกของหญิงชราที่เจ้าต้องดูแลใกล้ชิดเนื่องจากนางป่วย เจ้าคิดว่า เจ้าสมควรที่จะปกป้องใคร” หยานหยูมองหน้าผู้พูดนิ่ง ใจเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน สตรีตรงหน้าพูดราวกับว่ามีแผนการบางอย่างในใจ และเป็นแผนที่เกี่ยวโยงกับครอบครัวเขาด้วย “เจ้าพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง” หยานหยูรีบถาม “เจ้าจะทำอะไรครอบครัวของข้า” “ข้าไม่ทำ ถ้าเจ้าทำตามที่ข้าต้องการ แต่จะทำ ถ้าเจ้าไม่ให้ความร่วมมือ” ธิดาดอยตอบ “ข้าจะบอกเรื่องที่ข้าคิดไว้ ถ้าเจ้าไม่เป็นพยานเรื่องที่พระชายาสามสั่งให้เจ้าลอบสังหารพระชายารอง เจ้าก็จะไม่มีครอบครัวของเจ้า เจ้าจะมีแค่พระชายา
55 การเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษครั้งของพระชายาฮุ้ยเตียวเป็นแบบส่วนตัว ขบวนเสด็จจึงจัดแบบเรียบง่าย มีทหารอารักขาสี่นาย คนหามเกี้ยวสี่คน นางกำนัลคนสนิทอีกสองคน ทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังสุสานแห่งหนึ่งที่อยู่ชานเมือง ขณะเดินไปยังจุดหมาย ฮุ้ยเตียวไม่รู้เลยว่า กำลังมีภัยมาถึงตัว อีกไม่ถึงครึ่งลี้ฮุ้ยเตียวก็จะถึงสุสาน หยานหยูกับพวกหลบอยู่สองข้างทาง ใช้ต้นไม้ใหญ่เป็นที่กำบังตัว เฝ้ารอการมาของฮุ้ยเตียว เมื่อขบวนเสด็จใกล้มาถึง หยานหยูให้สัญญาณลูกน้อง ทั้งหมดออกจากที่ซ่อนกรุเข้ามาล้อมขบวนเกี้ยวของฮุ้ยเตียว “ว้าย!” เสียงกรีดร้องตกใจของหมี่ฮั้ว ทำให้ฮุ้ยเตียวสงสัย นางจึงเปิดผ้าม่านเยี่ยมหน้าออกมาดู แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชายชุดดำหลายคนยืนล้อมเกี้ยว แต่ละคนมีดาบยาวเป็นอาวุธ “คนพวกนี้เป็นใคร มาดักปล้นใช่ไหม” ฮุ้ยเตียวถามนางกำนัลคนสนิทเสียงสั่น ใบหน้าเกลื่อนไปด้วยความตกใจ “พวกเจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร” หัวหน้าทหารยามชักดาบออกมา ถามกลุ่มคนที่คล้ายกับโจร ก่อนหันไปสั่งทหารอารักขา คนแบกเกี้ยว “พวกเจ้าคุ้มกันพระชายารอง” “ใช่ พวกข้ามาปล้น” หยานหยูตอบ แล้วไม่
54 ธิดาดอยกระวนกระวายใจมากขึ้น หลายชั่วยามที่รอคอยองค์รัชทายาทที่ไม่มีวี่แววจะกลับมา เดินมากไปก็เวียนหัว ไม่เดินเลยใจก็ไม่รู้สึกดี ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตั้งใจไว้ว่าให้เวลาอีกครึ่งชั่วยาม หากองค์รัชทายาทยังไม่มา เธอจะไม่รอ จะเดินทางไปสมาคมนกเอง “นายหญิงขอรับ องค์...เอ๊ย! คุณชายมาแล้วครับ” เซียวเหยาเกือบหลุดพูดตำแหน่งอันสูงส่งของหมิงหยางเต๋อดีที่เปลี่ยนคำพูดได้ทัน มิเช่นนั้นคนอื่นอาจได้ยิน “จริงเหรอ แล้วเขาอยู่ไหนล่ะ” ธิดาดอยรีบถาม “กำลังเดินเข้ามาในบ้านขอ...” ได้ยินยังไม่ทันจบประโยค ธิดาดอยก็รีบเดินแกมวิ่งออกไปจากห้อง หลงลืมไปว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ เพราะเวลานี้เธอห่วงแต่ข่าวที่ในความรู้สึกกระตุ้นอย่างหนักว่า ต้องมีข่าวสำคัญจากเหล่านักสืบนก “ท่านมาแล้ว” องค์รัชทายาทตกใจเมื่อเห็นธิดาดอยเดินแกมวิ่งมาหาตน เขารีบถลาเข้าไปประคองร่างอรชรไว้กันเธอล้ม “ทำไมถึงต้องวิ่งออกมาด้วย เดี๋ยวได้หกล้มไปหรอก” องค์รัช-ทายาทตำหนิด้วยความเป็นห่วง ยังไม่ทันที่ธิดาดอยตอบ สายตาเธอมองเห็นนกหลายตัวที่บินมาทางตน ธิดาดอยยิ้มกว้าง ดันร่างองค์รัช-ทายาทให้ออ
53 ธิดาดอยร้อนใจหนักมากขึ้น เมื่อองค์รัชทายาทยังไม่กลับมาบ้านของหลิวกงกง ทั้งที่น่าจะมาได้ตั้งแต่หนึ่งชั่วยามก่อน เธอเองก็ไม่อยากรอต่อไป อยากไปสมาคมนกเสียตอนนี้ แต่ก็ไปไม่ได้เนื่องจากเซียวเหยาเฝ้าเธอแจ แทบจะกระดิกไปไหนไม่ได้ อีกทั้งยังแพ้หนัก อาเจียนแล้วอาเจียนอีก หน้ามือตาลาย ลุกเดินก็เวียนหัวต้องทรุดตัวลงนั่งตามเดิม ทั้งสังขารและโอกาสไม่เหมาะจะไปไหนทั้งสิ้น “ทำไมองค์รัชทายาทยังไม่มาอีกนะ อยากมีมือถือจังจะได้โทรตามได้”ธิดาดอยบ่นขณะหยิบของเปรี้ยวเข้าปาก หนิงเคอเงยหน้ามองเซียวเหยาที่ทำหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ติดใจกับคำพูดที่เขาเองก็ฟังไม่เข้าใจ คาดการณ์ในใจว่า อาจเป็นภาษาในยุคที่ธิดาดอยจากมา แต่คนที่สงสัยคือหนิงเคอ “มือถือ ถืออะไรเจ้าคะนายหญิง แล้วโทรตามคืออะไร ตามใครเจ้าคะ”หนิงเคอถาม ธิดาดอยชะงักมือที่กำลังหยิบของเปรี้ยว อยากเขกหัวตัวเองที่พลั้งปากพูดบางคำที่ยุคนี้ไม่มีทางเข้าใจ“ก็นี่ไง มือถือ ข้ากำลังถือของกินอยู่” ธิดาดอยหาข้อแก้ตัว “ส่วนโทรตาม ข้าก็พูดไปงั้นแหละ อย่าสนใจเลย”“เจ้าก็อย่าสนใจเลย นายหญิงก็พูดไปอย่างนั้นแหละ พูดไปเรื่อยน่ะ” เซียวเหยาช่วยธิด
52“แถวบ้านข้าน้อย ผู้หญิงคนไหนแพ้ท้องมากๆ ก็จะให้กินของเปรี้ยว หรือจะให้นายหญิงลองทานของเปรี้ยวดีไหมเจ้าคะ เผื่ออาการจะดีขึ้น” หนิงเคอเสนอแนะ“เออๆ เอามาเลย ข้าอยากกิน” ธิดาดอยพูดโพล่งออกมา ซึ่งเธอก็อยากกินขึ้นมาทันใด“เจ้าไปจัดหาของเปรี้ยวให้นายหญิงเร็วเข้า”“เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะรีบไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” หนิงเคอรีบออกไปหาของเปรี้ยวให้ธิดาดอยทาน“ข้ากินของเปรี้ยวเสร็จแล้ว ท่านช่วยพาข้าไปสมาคมนกหน่อยนะ ข้ามีนัดกับนกในสมาคมไว้ เผื่อนกตัวไหนมีข่าวอะไรจะได้รู้” แม้ว่าตัวเองจะแพ้ท้อง ทว่าธิดาดอยก็ยังห่วงงาน“รอองค์รัชทายาทก่อนดีไหมขอรับ ให้องค์รัชทายาทมาถึงก่อนดีกว่านะขอรับ” เรื่องนี้เขาไม่กล้าตัดสินใจ องค์รัชทายาทหวงและห่วงธิดาดอยมาก หากเธอเป็นอะไร มีหวังเขาหัวหลุดจากบ่า“แล้วเมื่อไหร่องค์รัชทายาทจะมา นี่ก็เลยเวลาที่ข้านัดหมายกับเหล่านกแล้วนะ เผื่อมีข่าวสำคัญจะพลาดเอาได้ อีกอย่างนกหลินไม่รู้ด้วยว่าข้ามาอยู่ที่นี่ ยังไงข้าก็ต้องไปที่สมาคมเพื่อส่งข่าวบอก”ธิดาดอยก็มีเหตุผล เซียวเหยาทำหน้าคิดหนักราวกับกำลังหาทางออก“ให้ข้าไปแทนได้ไหมนายหญิง”“ท่านพูดภาษานกเป็นเหรอ ข้ากลัวว่าท่านจะสื่อสารกับนกไม่ไ
51พระชายาสามเห้อเหนียวเสด็จออกมานอกวัง นางมายังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างจากวังหลวงพอสมควร เมื่อมาถึงจุดหมายนางก้าวลงจากเกี้ยวแล้วเดินเข้ามาในบ้านที่มีคนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว“ท่านพี่มานานแล้วหรือ”คนที่เห้อเหนียวถามคือ หยานหยูลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกับนางมากที่สุด“ไม่นาน เพิ่งมาก่อนเจ้าไม่เดี๋ยวเดียว” หยานหยูตอบ ความที่สนิทกันมาก หยานหยูจึงไม่ใช้ราชาศัพท์กับเห้อเหนียวเหมือนคนอื่น ซึ่งเห้อเหนียวก็ไม่เจ้ายศเจ้าอย่างกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้ด้วย “เจ้าบอกแผนมาได้เลย” หยานหยูรู้ว่าการนัดหมายเขามาที่นี่ด้วยเรื่องอะไร จดหมายที่ถูกส่งมาเมื่อวานนี้ได้ระบุไว้เป็นรหัสลับ ที่มีเพียงเขากับเห้อเหนียวที่รู้ความหมาย “พรุ่งนี้ฮุ้ยเตียวจะไปไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน นางไปทุกปีแม้ว่าปีนี้นางจะตั้งครรภ์ แต่นางก็จะไป ข้าจะใช้โอกาสนี้ทำให้นางแท้งลูก ท่านพี่จัดฉากปล้นนาง ให้คนของท่านพี่ทำร้ายฮุ้ยเตียว เน้นไปที่ท้องทำร้ายจนกว่าเลือดนางตก ทำให้นางแท้งลูก” เห้อเหนียวบอกแผนการให้หยานหยูรู้ “ข้าเข้าใจแล้ว ใช้เส้นทางปกติหรือไม่” “ใช่ ใช้ทางปกติ” เห้อเหนียวตอบ “เสร็จงานแล้วท่านพี่ไปอยู่ต่