“ทำไมทุกคนต้องบังคับติ๊บด้วย ติ๊บไม่อยากแต่งงานกับโต๋”
“ก็ยังไม่ได้แต่งแค่หมั้นไว้เฉยๆ” เพชรนิลบอกน้องสาวพร้อมกับปรามด้วยสายตาดุ เพราะยายตัวแสบงอแงมาตั้งแต่เช้าแล้ว ทั้งที่ผู้ใหญ่หาฤกษ์หายาม และกำหนดวันหมั้นเป็นสัปดาห์หน้าเรียบร้อยแล้ว แต่คนที่จะต้องเข้าพิธีหมั้น กลับดึงดันไม่ยอมหมั้นท่าเดียว
“ทำไมต้องบังคับติ๊บด้วยคะ” พลอยชมพูว่า ท่าทางกระเง้ากระงอด คนเคยถูกทำใจมาแต่เด็ก ไม่ชินกับการที่ถูกบังคับอย่างนี้
“แล้วทำไมต้องตามใจติ๊บด้วย เห็นหรือเปล่าว่าการเอาแต่ใจตัวเองทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง ทำให้ตัวเองเสียหาย ทำให้คนอื่นเป็นห่วง ทำให้ทุกคนวุ่นวายกันไปหมด ครั้งนี้พ่อจะไม่ยอมติ๊บอีกแล้ว ติ๊บต้องหมั้นกับหลานคุณหญิงวิไลตามกำหนด” พ่อเพชรพูดเสียงเข้มหนักแน่น สายตาดุของผู้เป็นพ่อมองลูกสาวอย่างตำหนิติเตียน
เสียงพูดดังของผู้เป็นประมุขของบ้าน ทำให้ภายในห้องนั้นเงียบกริบ พลอยชมพูน้ำตาคลอหน่วยอยากจะร้องไห้ เธอรู้ว่าตัวเองทำผิด แต่มันผิดถึงขนาดที่คุณพ่อต้องจับเธอใส่ตะกร้าล้างน้ำ แล้วบังคับให้เธอแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักแบบนี้หรือ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พลอยชมพูรู้สึกว่าบิดาไ
“ไอ้พบ มึงจะไปไหน”กวีเพิ่งเปิดประตูเข้ามา เห็นว่าพบรักกำลังจะลงจากเตียงผู้ป่วย จึงรีบเอ่ยถามด้วยความหงุดหงิดแกมเป็นห่วงไอ้เพื่อนหัวดื้อ“กูจะไปหากระติ๊บ”“มึงไม่ต้องไปเลย นอนรออยู่ที่นี่แหละ ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ให้คุณหมอเขาดูแลแหละดีแล้ว”“ไม่! กูจะไป กูเป็นห่วงของกู มึงไม่เข้าใจหรอก” พบรักพยายามจะเดินออกจากห้อง แต่ก็มีร่างเพื่อนเดินเข้ามาขวางไว้“มึงก็เจ็บตัวไม่ใช่น้อย ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ” กวีว่าพร้อมกับหลุบตามองแขนซ้ายของเพื่อนที่เข้าเฝือกอยู่ มีผ้าพยุงแขนและข้อศอกคล้องไว้กับลำคอพบรักแขนหักจึงต้องผ่าตัดเข้าเฝือก แต่เขามีสติอยู่ตลอดเวลา ในตอนที่พาพลอยชมพูมาหาหมอที่โรงพยาบาล และเขาเป็นคนโทรบอกกวีว่าเขากับหญิงสาวประสบอุบัติเหตุ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลพลอยชมพูและเขาถูกจับแยกกัน ทั้งที่เขาอยากตามเธอเข้าไปในห้องฉุกเฉินด้วยอยากเห็นกับตาว่าเธอปลอดภัยดี แต่ด้วยความที่เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บด้วย เขาจึงถูกแยกมาเพื่อผ่าตัดและเข้าเฝือก คุณหมอแจ้งว่าแขนของเขาต้องใช้เวลาประมาณสองเดือนจึงจะถอดเฝือกได้“กระติ๊บออกมาอยู่ห้องพักฟื้นผู้
“พร้อมนะครับ” พบรักจับสัญญาณความกลัวของเธอได้ เพราะเมื่อเขาสตาร์ตรถแล้วบิดคันเร่งเล็กน้อย วงแขนที่กอดเขาอยู่ก็กระชับแน่นขึ้นโดยอัตโนมัติ“พร้อมค่ะ” พลอยชมพูตอบเสียงหนักแน่น แม้จะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่เธอก็มั่นใจในตัวเขา เธอรู้ว่า เขาจะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอันตรายแน่นอนพบรักขับรถออกมาตามเส้นทางภายในของรีสอร์ตจนถึงปากทางด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก เขาเป็นห่วงกลัวว่าคนซ้อนท้ายจะกลัวเสียก่อนแล้วก็ขอลงโดยที่ยังไปไม่ทันถึงไหนพบรักชะลอรถที่ปากทางเข้ารีสอร์ต เพื่อที่จะรอขึ้นถนนใหญ่ เขามองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง จนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มจึงค่อยๆบิดคันเร่งพารถคันใหญ่ขึ้นไปบนถนนเส้นหลัก“คุณโอเคไหม” ขับออกมาได้ไม่ไกลพบรักก็ถามคนที่นั่งซ้อนท้ายด้วยความเป็นห่วง“ติ๊บโอเคค่ะ คุณพบตั้งใจขับไปเถอะ ไม่ต้องห่วงติ๊บหรอก” พลอยชมพูบอกเขา ด้วยความสัตย์จริง เธอไม่เป็นอะไรเลย ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนครั้งแรกที่ซ้อนท้ายเขา ออกจะสนุกด้วยซ้ำไป หญิงสาวคลายวงแขนออก นั่งด้วยท่วงท่าที่สบายยิ่งขึ้น เธอไม่เกร็งสักนิด สายลมเย็นที่พัดมาปะทะใบหน้าทำให้เธอรู้สึกสดชื่น วิวทุ่งหญ้ากว้าง
“ขอบคุณนะคะพี่หนูพรรณ ติ๊บเลยทำให้พี่ต้องเดือดร้อนด้วย ท้องโตขนาดนี้ก็ยังต้องมาหา ติ๊บเป็นน้องที่แย่จริงๆ ทำให้ทุกคนวุ่นวายเดือดร้อนกันไปหมด”พรรณดาราลูบแผ่นหลังน้องเบาๆอย่างปลอบโยน“ไม่มีใครเดือดร้อนอะไรเลย ทุกคนเต็มใจช่วยติ๊บทั้งนั้น ไม่ว่าติ๊บจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร ทุกคนพร้อมจะยอมรับในการตัดสินใจของติ๊บ รออยู่ที่นี่ด้วยความสบายใจเถอะ เชื่อพี่นะ”“ค่ะพี่หนูพรรณ” แม้ว่าสิ่งที่พรรณดาราพูดนั้น เธอจะไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก แต่มันก็ทำให้พลอยชมพูรู้สึกใจชื้นขึ้นมาได้หลังจากปล่อยให้สาวๆได้พูดคุยกันนานพอสมควร สามหนุ่มที่เลี่ยงออกไปคุยด้านนอกก็เดินเข้ามาพร้อมกันเพลิงตะวันมีสีหน้าเคร่งเครียดกว่าคนอื่น พอเดินเข้ามาถึงในบ้าน เขาก็ตรงเข้าไปคว้ามือภรรยา“กลับกันเถอะน้ำฝน”หยาดพิรุณไม่ทันตั้งตัวว่าสามีจะชวนกลับเร็วขนาดนี้ เพราะเธอกะว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนพี่สาว คิดว่าจะได้อยู่คุยกันนานๆรวมทั้งอยู่รับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน“ทำไมกลับเร็วจังล่ะคะพี่เพลิง น้ำฝนขออยู่คุยกับพี่ติ๊บต่อไม่ได้เหรอคะ”“พี่มีงานต้องทำอีกเยอะ กลับกันเถอะ”
พบรักสั่งแม่ครัวให้นำอาหารมื้อเช้ามาส่งตั้งแต่เช้า แต่พอพลอยชมพูเห็นว่าอาหารที่เขาสั่งมีแต่อาหารรสจัด หญิงสาวจึงโทรขอเปลี่ยนใหม่เป็นเปลี่ยนเป็นข้าวต้มปลากับน้ำส้มคั้นสด ซึ่งเป็นอาหารที่ไม่เข้ากับหน้าตาเขาเลย แต่ว่าชายหนุ่มก็ยินยอมที่จะกินมันโดยไม่เกี่ยงงอน เพราะถึงแม้อาหารจะไม่ถูกใจ แต่คนป้อนน่ารักถูกใจ เลยทำให้ไม่ว่าอะไรก็อร่อยไปเสียหมด“เหม็นความรักว่ะ”เสียงห้วนของใครบางคนที่เข้ามาในบ้านโดยไม่ได้รับเชิญทำให้สองหนุ่มสาวหันไปมองพร้อมกัน“พี่เพลิง” พลอยชมพูวางช้อนลงทันที หญิงสาวรีบลุกขึ้นไปหาพี่ชาย พอเห็นหน้าพี่เพลิงน้ำตาก็ไหลออกมาโดยอัตโนมัติ ร่างบางโผเข้าหาพี่ชายกอดเขาแล้วซบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอเป็นอะไรก็ไม่รู้ช่วงนี้รู้สึกตัวเองอ่อนไหวง่ายเหลือเกินความจริงคือพลอยชมพูมีความกังวลอยู่ในหัวใจ การอยู่กับพบรักทำให้เธอรู้สึกดี แต่ความรู้สึกผิดมันกัดกร่อนอยู่ในหัวใจตลอดเวลา เธอรู้ว่าบิดามารดาและพี่กระต่ายจะต้องมาที่นี่ในสักวัน แต่เธอไม่รู้ว่าจะมากันเมื่อไหร่ และหากพวกท่านมาที่นี่จริงๆเธอจะรับมือกับท่านอย่างไร จะแก้ตัวกับท่านว่าอย่างไรกับการตัดสินใจแบบนี้
พลอยชมพูมองหน้าคนขี้อ้อนด้วยสายตาไม่เชื่อเธอเท่าไหร่นัก ทว่าเมื่อมองบาดแผลบนใบหน้าและ รอยฟกช้ำ บนเนื้อตัว ของเขาแล้ว เธอก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้ หญิงสาวสบสายตาคมกล้า เธอยืนนิ่งเงียบใช้เวลาตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง“ก็ได้ค่ะ ติ๊บเชื่อใจคุณพบนะคะ ห้ามทำให้ติ๊บผิดหวังด้วย”“สัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลยครับ” พบรักรีบพยักหน้า เขาเอ่ยถ้อยคำสัญญาหนักแน่น เมื่อหญิงสาวเปิดประตูออกกว้างเปิดทางให้เขา ชายหนุ่มก็ยิ้มดีใจแล้วรีบพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ ที่จริงเขาอยากพาเธอไปนอนที่ห้องของเขามากกว่า เพราะห้องและเตียงกว้างกว่าเยอะ แต่นาทีนี้ให้นอนที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีเธอนอนอยู่ใกล้ๆกันพลอยชมพูในชุดนอนกระโปรงสีหวานยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง หลังจากที่เธอขอตัวเข้าไปอาบน้ำซึ่งใช้เวลาไม่นาน แต่พอกลับออกมา เธอก็พบว่าคนตัวโตนอนหลับไปแล้ว หญิงสาวปิดสวิตช์ไฟทุกดวง แล้วเอนกายลงนอนเคียงข้างเขา เสียงลมหายใจจังหวะแผ่วเบาสม่ำเสมอ ทำให้เธอระบายยิ้มกว้าง พลอยชมพูขยับตัวเองเขาไปแนบชิดร่างกำยำ ไออุ่นจากเขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นทั้งตัวและหัวใจพบรักลืมตาในความมืด เขานอนนิ่ง รอจนกระทั่งคิดว่าเธอ
พลอยชมพูเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หญิงสาวมาถึงรีสอร์ตบ้านไร่รักละมุนในตอนเที่ยง เธอตรงไปที่บ้านพักทันที เธออยากเห็นกับตาว่าพบรักไม่ได้เป็นอะไรมาก เธอเป็นห่วงเขา เป็นห่วงถึงขนาดกล้าหนีออกจากบ้านโดยไม่บอกพ่อแม่ แต่ป่านนี้ท่านคงรู้แล้ว เธอปิดโทรศัพท์จึงไม่มีใครโทรติดต่อได้ พลอยชมพูรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านตรงไปยังห้องนอนของพบรัก หญิงสาวไม่เสียเวลาเคาะประตู รีบเปิดเข้าไป แต่กลับไม่เห็นใครอยู่ในนั้น เธอจึงกลับลงมาชั้นล่างอีกครั้ง แล้วเข้าไปดูในห้องนั่งเล่น จึงพบว่า ร่างสูงใหญ่หน้าตาดูไม่จืดเท่าไหร่นัก นอนหลับอยู่บนโซฟาเบดตัวยาว พลอยชมพูยิ้มบางอย่างลืมตัว แค่เห็นว่าเขายังอยู่ดี อาการไม่ได้หนักหนาเกินไปอย่างที่คิด เธอก็รู้สึกโล่งใจแล้ว พบรักกะพริบตาก่อนจะค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ ใบหน้าน่ารักที่เห็นในครรลองสายตา กับกลิ่นกายหอมกรุ่นคุ้นเคยทำให้เขาประหลาดใจ “ฝันไปหรือเปล่าเนี่ย” ชายหนุ่มงึมงำ ตั้งคำถามกับตัวเองด้วยความสงสัย “ฝันค่ะ นี่คือความฝัน คุณพบกำลังฝันว่า มีนางฟ้
“คุณพ่อขา พอแล้วค่ะ คุณพ่ออย่าทำอะไรคุณพบอีกเลย”“พ่ออยากกระทืบมันให้ตายคาตีนด้วยซ้ำ อย่ามาห้ามพ่อนะกระติ๊บ”“อย่าทำเขาเลยค่ะคุณพ่อ ไม่ใช่ความผิดของคุณพบคนเดียว ติ๊บเองก็มีส่วนทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น”“แต่มันเป็นผู้ใหญ่กว่า มันย่อมรู้ผิดชอบชั่วดีกว่า มันต้องรับผิดชอบ” พ่อเพชรชี้หน้าคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้น ใบหน้าแตกยับเยิน สะบักสะบอมไปทั้งตัว“ผมยินดีรับผิดชอบกระติ๊บ ยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง คุณเพชรจะให้ผมทำอะไรผมก็ยอม”พบรักรีบพูดแทรกขึ้น เขาพยายามพาตัวเองลุกขึ้นยืน ชายหนุ่มใช้หลังมือเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก อีกข้างก็กุมท้องไว้เพราะเมื่อสักครู่โดนคนของเพชรนิลรุมยำไปหลายตีน แถมยังมาถูกพ่อเสือกระทืบซ้ำอีก“บางทีกูก็คิดว่า มึงควรรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยชีวิต” พ่อเพชรทำท่าจะโผเข้าไปชกคนที่ดูอ่อนแรงอีกครั้ง แต่พลอยชมพูรีบกอดร่างบิดาไว้แน่น“คุณพ่อขา อย่าทำอะไรคุณพบเลย” พลอยชมพูขอร้องบิดาอีกครั้ง“ถ้าไม่อยากให้พ่อทำอะไรมัน ไม่อยากให้มันตาย สัปดาห์หน้า ติ๊บต้องเข้าพิธีหมั้นโดยไม่มีข้อแม้” พ่อเพชรยื่นคำขาดกับลูกสาวน้ำเสียงจริงจัง
“ทำไมทุกคนต้องบังคับติ๊บด้วย ติ๊บไม่อยากแต่งงานกับโต๋”“ก็ยังไม่ได้แต่งแค่หมั้นไว้เฉยๆ” เพชรนิลบอกน้องสาวพร้อมกับปรามด้วยสายตาดุ เพราะยายตัวแสบงอแงมาตั้งแต่เช้าแล้ว ทั้งที่ผู้ใหญ่หาฤกษ์หายาม และกำหนดวันหมั้นเป็นสัปดาห์หน้าเรียบร้อยแล้ว แต่คนที่จะต้องเข้าพิธีหมั้น กลับดึงดันไม่ยอมหมั้นท่าเดียว“ทำไมต้องบังคับติ๊บด้วยคะ” พลอยชมพูว่า ท่าทางกระเง้ากระงอด คนเคยถูกทำใจมาแต่เด็ก ไม่ชินกับการที่ถูกบังคับอย่างนี้“แล้วทำไมต้องตามใจติ๊บด้วย เห็นหรือเปล่าว่าการเอาแต่ใจตัวเองทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง ทำให้ตัวเองเสียหาย ทำให้คนอื่นเป็นห่วง ทำให้ทุกคนวุ่นวายกันไปหมด ครั้งนี้พ่อจะไม่ยอมติ๊บอีกแล้ว ติ๊บต้องหมั้นกับหลานคุณหญิงวิไลตามกำหนด” พ่อเพชรพูดเสียงเข้มหนักแน่น สายตาดุของผู้เป็นพ่อมองลูกสาวอย่างตำหนิติเตียนเสียงพูดดังของผู้เป็นประมุขของบ้าน ทำให้ภายในห้องนั้นเงียบกริบ พลอยชมพูน้ำตาคลอหน่วยอยากจะร้องไห้ เธอรู้ว่าตัวเองทำผิด แต่มันผิดถึงขนาดที่คุณพ่อต้องจับเธอใส่ตะกร้าล้างน้ำ แล้วบังคับให้เธอแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักแบบนี้หรือ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พลอยชมพูรู้สึกว่าบิดาไ
พลอยชมพูอยากจะร้องไห้กับสิ่งที่บิดากล่าวออกไป หญิงสาวหันไปมองหน้ามารดาอย่างคนต้องการขอความช่วยเหลือ แม่กระแตทำเพียงแค่ยิ้มบางให้เธออย่างเข้าอกเข้าใจ แต่การที่จะให้เธอเอ่ยขัดสามีในตอนที่กำลังพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ ก็ดูจะไม่งาม นอกจากจะไม่ขัดสามีแล้ว แม่กระแตยังส่งสายตาบอกเธอว่าให้อยู่เฉยๆ พี่กระต่ายน้อยก็ดูจะรู้เห็นเป็นใจกับพ่อ เพราะปกติจะหวงน้อง ทั้งยังเคยบอกว่าจะไม่ยอมให้เธอแต่งงาน จะให้เธอขึ้นคานอยู่เคียงข้างพี่ชายตลอดไป แต่วันนี้พี่กระต่ายกลับไม่ยอมช่วยพูดแก้ต่างให้เธอเลย คนที่กำลังจะถูกจับคลุมถุงชนอยากจะร้องไห้ แต่จะให้เธอลุกขึ้นมาปฏิเสธการขอหมั้นหมายทั้งที่บิดารับปากเขาไปแล้ว ก็ดูจะเป็นเรื่องไม่ควร หญิงสาวจึงนั่งเงียบ ได้แต่รอว่าทั้งสองคนนี้จะกลับไปเมื่อไหร่ เธอจะได้พูดคุยกันเฉพาะคนในครอบครัวเป็นการต้อนรับแขกที่อึดอัดที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา พลอยชมพูหายใจไม่ทั่วท้อง ทั้งยังอยากลุกขึ้นไปชกหน้าคนที่นำพาความเดือดร้อนมาให้ เธอคิดว่าอธิบายให้วิศรุตเข้าใจดีแล้วนะ แต่เขามันดื้อด้านหนังหนาหน้าทน ผู้หญิงไม่ชอบ ยังมีหน้าพาผู้ใหญ่มาพูดคุยเรื่องหมั้นหมาย โดยไม่บอกเธอก่อนสักคำ หลังจาก