เพียงแค่อาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหล่นลงกับพื้น ม่านเตียงมงคลก็ถูกดึงลงมาปิดบังทั้งคู่เอาไว้ จุมพิตหวานและเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ตามฤทธิ์ของสุรามงคลที่ดื่มเข้าไป จอกแล้วจอกเล่าในค่ำคืนนี้ ริมฝีปากของท่านอ๋องสั่นเครือเพราะความกระหายที่เกินจะควบคุม“อื้อ…ท่านพี่”“อาาา เยว่เอ๋อร์ของข้า ยามเจ้าเรียกข้าเช่นนี้ ช่างดียิ่งนัก”ลิ้นอุ่นของเขาเริ่มสำรวจที่หน้าอกคู่งาม ซึ่งบัดนี้เริ่มเต่งตึงและมีขนาดใหญ่ขึ้นมา เพราะนางกำลังมีครรภ์ เขาอ่อนโยนลงมาก หลังจากที่รู้ว่านางต้องดูแลร่างกาย ก่อนหน้านี้ปิงเยว่แพ้ท้องอย่างหนัก แทบจะกินอะไรไม่ได้เลยจนเขารู้สึกกังวล“อื้อ อย่านะเพคะ ตรงนั้นไม่ได้ อ๊าาา!!”นางเอ่ยห้ามเขา แต่เหรินเซียวมีหรือจะฟังที่นางพูด นับสิบวันที่เขามิได้สำรวจเรือนร่างของพระชายาเลย ทำเอาเขานึกหงุดหงิดอยู่หลายครั้ง ลิ้นอุ่นปรนเปรอไปทั่วเรือนกายที่หอมกรุ่นตรงหน้า ผิวเนื้อเนียนทำเอาเขาเคลิ้มจนหัวใจแทบระเบิด ไฟปรารถนาเริ่มโหมกระหน่ำ เมื่อมาหยุดอยู่ตรงร่องกลีบบุปผาตรงหน้า เมื่อเขาเริ่มคลี่ออกและใช้ลิ้นอุ่น ๆ สอดเข้าไปและใช้นิ้วบดบี้เม็ดทับทิมเหนือร่อง จนร่างบางบิดเราเพราะความเสียวที่เขามอบให้“อ๊าา ท่านพ
ยี่สิบวันถัดมาบัดนี้อายุครรภ์ของปิงเยว่ ย่างเข้าเดือนที่สามแล้ว และวันนี้ก็เป็นพิธีการสำคัญของนางและชินอ๋อง “พิธีสมรสพระราชทาน” ซึ่งจัดขึ้นในวังหลวง ตามพระประสงค์ของฝ่าบาท ที่ต้องการให้ทั้งคู่จัดพิธีอันทรงเกียรตินี้ เพื่อเป็นของขวัญมอบแก่ทั้งสอง“คู่บ่าวสาวคำนับฟ้าดิน”บ่าวสาวในชุดสมรสพระราชทาน ซึ่งปักด้วยดิ้นไหมสีทองเปล่งประกายเข้าคู่กัน คำนับครั้งที่หนึ่งตามคำบอกของตั้วกงกง ผู้รับหน้าที่นี้ ต่อหน้าฝ่าบาท และฮองเฮาในท้องพระโรงใหญ่“คำนับที่สอง คู่บ่าวสาวคำนับบิดามารดา”ทั้งสองหันมาคำนับให้กับฝ่าบาทและฮองเฮา ท่านอ๋องต้องคอยพยุงให้พระชายาลุกนั่ง เพราะเกรงว่าเจ้าสาวของเขาจะล้มลง ทำเอาฝ่าบาทและฮองเฮาถึงกับเผยแย้มพระสรวลออกมา "นาน ๆ ข้าจะได้เห็นมุมอ่อนโยนเช่นนี้ของเซียวเอ๋อร์"“เจ้าลูกคนนี้เลือกปฏิบัติน่ะสิ หึหึ แค่ให้เข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อน ทำเหมือนจะตาย แต่เจ้าดูสิ”“พอเถิดเพคะ ฝ่าบาททรงบ่นเรื่องนี้กับหม่อมฉันเกินเจ็ดรอบแล้ว เซียวเอ๋อร์รักอิสระและชอบปลีกวิเวก พระองค์ก็เอาแต่บังคับเขา หม่อมฉันไม่เห็นใจหรอกนะเพคะ”“เจ้าจะไปเข้าใจอันใด เจ้าน่ะลำเอียงเข้าข้างเขาตลอดเวลา เพราะแบบนี้อย่
หลังจากนั้น ทั้งจวนก็ไม่เห็นทั้งคู่อีกเลยจนข้ามมาวันใหม่ ท่านอ๋องสั่งให้คนเตรียมอาหารไปให้ที่ห้องบรรทมชั้นนอก และมิให้ผู้ใดรบกวนทั้งสองพระองค์“ข้าป้อนเจ้าดีกว่า”“คนใจร้าย”“ไม่เอาน่า ข้าก็บอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่า คำบอกรักของข้ามีมากมาย สามวันสามคืนก็พูดไม่หมด”“แต่ท่านไม่ได้พูด ท่าน…”ปิงเยว่หน้าแดงจัด ไม่รู้เพราะโกรธหรือว่าอายกันแน่ เมื่อท่านอ๋องที่อัดอั้นในการร่วมเตียงกับนางมาเกือบสองเดือน พอมีโอกาสก็แทบจะไม่ให้นางได้พัก ทั้งวันทั้งคืนเขาบอกรักนางไม่หยุดก็จริง แต่ก็ไม่หยุดที่จะรังแกนางด้วยเช่นกัน จนถึงตอนนี้ร่างของนางก็ระบมจนหมดแรง แม้แต่จะกินข้าวเอง ก็แทบจะถือตะเกียบไม่ไหว“อีกสองวัน เจ้าต้องเข้าวังกับข้านะ”“เข้าวังหรือเพคะ นี่คงจะไม่…”“แน่นอนว่าเจ้าจะต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อกับข้า เพื่อรับราชโองการสมรสพระราชทาน และดูฤกษ์งานอภิเษก เจ้าอย่าลืมสิ ถึงแม้ว่าข้าจะพาเจ้ามาแล้ว แต่กว่าจะทูลขอราชโองการนี้ได้ ไม่ง่ายเลยนะ”“ทำไมหรือเพคะ”ย้อนกลับไปสามเดือนก่อน“เหอะ! กว่าจะโผล่หน้ามาหาข้าได้ ก็ผ่านไปกี่วันแล้วเจ้าตัวดี! เจ้านะเจ้า ยกทัพออกไปทำศึกโดยพลการ ข้ากับพี่ชายเจ้า หาเหตุผลสารพัดที่
“ท่านว่าอย่างไรนะ เหตุใดจึงมีสาน์สลับนี้ด้วย มิได้มีเพียงสัญญาสงบศึกหรอกหรือ จริงสิเมื่อคืนนี้ท่านให้อู๋ซ่างหลี่อ่านจดหมาย...”“ที่จริงแล้วการที่ข้าไปหาเจ้าที่อารามนั่น มิใช่เรื่องบังเอิญ”“ท่านหมายความว่าอย่างไร”“เรื่องนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ข้าสังหารพี่ชายต่างมารดาของเจ้ากลางสมรภูมิรบ กลางดึกคืนนั้น ฝ่าบาทแคว้นต้านชิงส่งจดหมายลับมากับแม่ทัพใหญ่ของต้าชิง”“ท่านลุงซังลี่เหมิน”"ใช่ แม่ทัพซังลี่นำสาน์สลับนี้มา มอบให้ข้าที่กองทัพด้วยตัวเอง เขาเจรจากับข้าอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามเต็ม ๆสามเดือนก่อน / ค่ายทหารฉินโจว เมืองหลานเจียง“กระหม่อมซังลี่เหมิน แม่ทัพใหญ่กองทัพหลวงแห่งต้านชิง ถวายบังคมชินอ๋อง”“ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุใด มายับยั้งมิให้ข้าโจมตีเมืองหลานเจียงของท่านงั้นหรือ”“มิได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทส่งกระหม่อมมา เพราะมีเจตนาอยากจะขอยอมแพ้และสงบศึก เพื่อคืนความสงบสุขให้เมืองหลานเจียง ฝ่าบาทยินยอมรับเงื่อนไขที่ฉินโจวต้องการ ขอเพียงราษฎรของทั้งสองฝ่ายที่ชายแดนปลอดภัย นี่เป็นสาน์สลับ ที่ฝ่าบาทเตรียมมาส่งมอบให้กับพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อท่านอ๋องเปิดอ่านดู ก็ทราบถึงเจตนารมณ์ของฝ่าบาทดี ที่เขาเปิดศึกค
เพียงแค่หลังแตะเตียงอุ่น ๆ ปิงเยว่ก็รู้ทันทีว่า ค่ำคืนนี้นางคงไม่รอดพ้นจากเขา ท่านอ๋องบรรจงถอดชุดของนางออกอย่างเบามือและอ่อนโยน ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาทำเช่นนี้“เยว่เอ๋อร์ ข้ารักเจ้า”“ข้าก็รักท่าน เฮ่อเหรินเซียว”เพียงคำนี้ของนาง ก็ทำเอาท่านอ๋องหนุ่มที่กำหนัดเต็มที่ เขาอดกลั้นมานานเพื่อรอวันนี้ วันที่นางเปิดปากพูดความในใจกับเขา ร่างกำยำคุกเข่าคร่อมตัวนางเอาไว้ และสะบัดชุดของเขาทิ้งไปในทันทีปิงเยว่เพียงแค่เห็นกล้ามท้องที่เป็นลอนงดงาม และอกกว้างตรงหน้าก็แทบจะทนไม่ไหว เมื่อเขาเลื่อนลงมา นางก็เห็นรอยเล็บของสตรีอื่น"เจ้าจะทำอะไร"“เจ็บหรือไม่เพคะ”“เจ็บสิ แต่มันไม่มากเท่ากับที่ทำให้เจ้า เข้าใจผิดข้ามาร่วมสองเดือนนี้ มันเทียบไม่ได้เลยกับน้ำตาของเจ้า”“ข้า… ไม่คิดว่าท่านจะวางแผนเอาไว้”“หากข้าบอก เจ้าจะเชื่อข้างั้นหรือ”นางยอมรับแต่โดยดี เมื่อเขาก้มลงมาและจูบนางเนิ่นนาน บทรักเริ่มขึ้นอย่างอ่อนโยน และค่อย ๆ กระโจนใส่กองไฟปรารถนา ที่ลุกโชนอย่างเร่าร้อนทุกชั่วขณะ"อ๊าาา…. เหรินเซียวท่านเบาหน่อย อื้อ…"ลิ้นหนาดูดดึงยอดอกตรงหน้า เมื่อจับนางตรึงแขนเอาไว้ทั้งสองข้าง เขากวาดปลายลิ้นสำรวจทั่
ปิงเยว่ลุกขึ้นมาจากตักของเขาทันที นางมิอาจทนฟังเรื่องของเขาและสตรีอื่นได้ ท่านอ๋องเดินมาและรีบคว้านางเอาไว้ เขากอดนางจากด้านหลังเพื่อมิให้นางหนีอีก“เจ้าช่วยฟังข้าให้จบก่อน หลังจากนั้นจะตบจะตี หรือกัดข้าอีกครั้งก็จะไม่ห้ามเจ้าเลย”“อย่าแตะต้องข้า ปล่อย!”“ไม่ปล่อย! ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปได้หรอก รู้หรือไม่ว่า ตอนที่ได้ข่าวจากองครักษ์ลับว่าเจ้าถูกจับตัวไป ข้าร้อนใจมากเพียงใด และยิ่งเห็นว่าชายอื่นจะแตะต้องเจ้า หัวใจข้าก็ลุกเป็นไฟ จนอยากจะฆ่ามันให้ตายเสียด้วยซ้ำ แล้วเจ้ายังจะขอชีวิตให้เขาอีก ไม่คิดถึงหัวใจข้าบ้างเลยหรือ”“ท่านก็เลยเอาคืนข้า โดยการดึงหวังอิ่นจางไปพลอดรักกันในห้องอาบน้ำ จนเสียงดังลอดออกมาทั่วจวนสินะ ปล่อยข้านะคนสกปรก!”แต่เขากลับกอดนางแน่นมากขึ้น มีหรือที่เขาจะยอมปล่อย“ที่แท้เจ้าก็โกรธข้าเรื่องนี้เองหรอกหรือ ข้าไม่ปล่อยจนกว่าเจ้าฟังให้จบก่อน”ปิงเยว่นิ่งลง เมื่อท่านอ๋องยืนยันที่จะไม่ปล่อย ใช่ว่านางจะไม่ใจอ่อนเสียหน่อย เมื่อเห็นว่าปิงเยว่นิ่งลงแล้ว เขาจึงเริ่มเล่าทันที“ข้าจะค่อย ๆ เล่าให้ฟัง เจ้าตั้งใจฟังให้ดี จะได้เข้าใจทุกอย่างเสียที ข้าเบื่อที่เจ้าทำหมางเมินเช่นนี้มานาน