บ้านหลังน้อยของสามสาว
ร่างของรวีกานต์ถูกผ่อนลงบนเตียงอย่างเบามือ ศศินไม่ยอมให้หล่อนทำงานต่อ เจ้ากี้เจ้าการพาหล่อนมาส่งบ้านทั้งที่เจ้าตัวปฏิเสธ บ่ายนี้เจ๊หวานไม่อยู่บ้าน แต่เวนิสาอยู่ หล่อนอยู่หน้าบ้านพอดีตอนที่เขาพารวีกานต์ลงรถมา
“เป็นอะไรไปคะ เมื่อเช้ายังดีๆ อยู่เลย”
เวนิสาถามคนที่พาเพื่อนรักมาส่ง รวีกานต์รีบพลิกกายหันหลังให้เธอ ราวกับไม่อยากมองหน้า เธอได้แต่พ่นลมหายใจออกมาอย่างปลดปลง
“ไม่รู้สิ ตอนกินข้าวก็ดีๆ อยู่เลย”
“กินข้าว...ด้วยกันหรือคะ” ถามออกไปเพราะอดใจไม่ได้ รวีกานต์ได้ทีก็หันกลับมา
“ใช่...บอสทำข้าวกล่องมาให้ อร่อยมาก” แม่แสงตะวันยามเที่ยง สาดแสงแรงร้อนลงมาเผาไหม้เพื่อนรักของตัวเอง อยากให้เวนิสาเจ็บปวดบ้าง จะได้รู้ว่าการถูกหักหลังจากคนที่รักมันเป็นอย่างไร
“งั้นเหรอ ก็...ดีแล้ว” ตอบเพื่อนแล้วฝืนยิ้มกระจ่าง ในดวงตามีหยาดละอองน้ำตาขึ้นมารำไร “แล้วเธออยากได้อะไรไหม เป็นลมไม่ใช่เหรอ” ถามด้วยห่วงใย อีกฝ่ายยิ้มเยาะกลับมา
“ก็...ถ้าได้น้ำปั่นเย็นๆ ค
[21]คำสัญญาจากพระจันทร์______________ไร่กาแฟ ณ ปลายภู สัปดาห์ถัดมาเรือนไม้หลังงามผุดขึ้นท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อมด้วยต้นกาแฟ เส้นทางลดเลี้ยวยิ่งกว่ารถไฟเหาะตีลังกา ทำให้สองสาวเมารถมากกว่าจะได้ชื่นชมธรรมชาติ กว่าจะนั่งรถขึ้นมาถึงบนนี้ได้ ว่าที่คุณแม่ทั้งสองก็จอดรถอาเจียนไปหลายรอบ รวีกานต์ถึงกับหมดแรงนั่งซบอกพ่อเด็กน้อย ในขณะที่เวนิสานั่งหน้าบูดอยู่เบาะข้างหลังบนรถตู้คันหรู ส่วนเจ๊หวานจ้อเจรจาอยู่ด้านหน้ากับคนขับรถวัยขบเผาะหุ่นล่ำหน้าโหด ที่ถูกใจนางเสียเหลือเกิน“ใกล้ถึงแล้วครับ ตะวันไหวไหม”รวีกานต์ส่ายหน้า ปลดเข็มขัดนิรภัยออกเพื่อจะได้กอดปลายภูดีๆ เธอซุกหน้าเข้าหาอกเขาราวลูกแมวตัวน้อยที่ต้องการไออุ่นจากเจ้าของ ปลายภูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ชอบใจนักเวนิสามองเพื่อนรักกับปลายภูผ่านทางช่องว่างระหว่างเบาะนั่ง ได้แต่เบะปากใส่เพราะหมั่นไส้“นี่! แกจะอ้อนเด็กเพื่อ!?”“เรื่องของฉันน่า นั่งเงียบๆ ไปเลย คนจะสวีตกัน เนาะภูเนาะ”รวีกานต์ยิ้มหวานอย
“แล้วเธอมาทำไม!” น้ำเสียงที่ใช้ไม่ค่อยพอใจนัก จากแค่ประหม่ามึนงง ก็เริ่มมีอารมณ์โกรธเข้ามาปะปน เวนิสากำลังป่วนประสาทเขาอีกแล้วใช่ไหม“มาทำธุรกิจ”“หือ?”คนสวยยิ้มแป้น ก่อนจะอธิบาย“เรามาทำธุรกิจกัน เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิต”“ยังไง”“ง่ายๆ เลย เราก็แค่ทำให้คนรอบข้างเรา เช่นพ่อแม่ พี่น้องเพื่อนฝูง เข้าใจว่าเราสองคนตกลงกันได้เรียบร้อย พี่ก็รู้นี่ ตอนนี้แม่ถามยิกๆ ว่าเมื่อไหร่ฉันจะแต่งงานกับพี่ เมื่อเช้าพ่อพี่ก็โทรมา เพื่อนฉันขู่จะคว่ำบาตรถ้าไม่คืนดีกับพี่ ฉันเลยคิดว่า เพื่อความสบายใจของคนที่รักเราทุกๆ คน ฉันควรเสียสละความไม่สะดวกน้อยนิดแล้วร่วมมือกับพี่น่ะ”“ร่วมมืออะไร ไม่เห็นเข้าใจ” ศศินชักงง“เฮ้ย...พี่นี่โง่ปะเนี่ย พูดไปตั้งเยอะไม่เข้าใจได้ยังไง”“นี่ด่าฉันเหรอ!”“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะ!” ตะคอกมาตะคอกกลับ เวนิสาไม่โกงศศินหุบปากฉับ“เอาแบบนี้แหละ พี่เข้าใจแล้วนะ บอกพ่อพี่
ศศินคอร์ปอเรชั่น เช้าวันถัดมาเวนิสาในชุดสูทอย่างสตรี ตัดเย็บประณีตเข้ารูป สีนิลสนิท กับรองเท้าและกระเป๋าถือสีแดงเจิดจ้า แต่งแต้มวงหน้าเสียเนียนกริบ กลายเป็นจุดสนใจตั้งแต่ก้าวเข้ามาในบริษัท ไม่กี่นาทีก่อน เธอเพิ่งวางสายทั้งมารดาเธอและบิดาเขา ทั้งสองต่างร่วมด้วยช่วยกันหว่านล้อมให้เธอยอมคืนดีกับศศิน แต่ว่า...เธอยังไม่มีอารมณ์จะคืนดีนี่นา ศศินทำร้ายจิตใจเธอไว้มากนัก เธอเคยร้องไห้เพราะเขาด้วย เพราะฉะนั้น หากอยากให้ชีวิตดำเนินต่อไปอย่างปกติสุข เธอ...ต้องทำธุรกิจ!เวนิสาติดต่อที่ประชาสัมพันธ์ชั้นล่าง ด้วยว่าโทรเข้าเบอร์มือถือศศินแต่เขาไม่รับ ไม่กี่นาทีถัดมา เลขาร่างผอมของศศินก็รีบลงมาต้อนรับเธอ ณพพรพาเธอเข้าไปรอในห้องทำงานของประธานใหญ่ แต่เขาไม่ได้อยู่ในนี้“เขาอยู่ไหนคะ”“ติดประชุมครับ บอสให้ผมมาดูแลคุณเวนิสา รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ”ณพพรเอ่ยตามมารยาท เวนิสาส่ายหน้าดิก“พอดีฉันต้องไปอีกหลายที่ ขอคุยกับบอสของคุณก่อนได้ไหมคะ”“บอสติดประชุมอยู่ห้องข้างๆ นี่เอง น่าจะอีกครึ่งชั่วโมงครับ”&
“ก็หล่อนกับยัยตะวันน่ะ ดีนะ...กลับมาเถียงกันบ้าง บ่นให้กันบ้าง นางงามที่เป็นคนกลางอย่างฉันจะได้มีความสุข” เจ๊ว่าแล้วทำตาปริบๆ ทำปากเผยอน้อยๆ ให้แลดูเซ็กซี่เวนิสาส่ายหน้าอย่างระอา คว้าเอากระเป๋าถือมาคล้องไหล่“ไปแล้วนะเจ๊”“ไปไหน ขึ้นนอนเหรอ”“นอนอะไรล่ะ จะไปนอนที่อื่น”“เอ้า? แล้วทำไมไม่นอนนี่”“นอนไม่ได้ เดี๋ยวผู้ชายมาตาม เบื่อ!”เวนิสาว่าแล้วรีบออกจากบ้านหลังน้อย เธอบึ่งรถกลับบ้านแสนรัก ระหว่างทางนั้นมารดาที่เคารพก็โทรมาถามไถ่ เธอตอบไปตามจริงว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านของสามสาว“แล้วไปนอนที่ไหนฮึ โรงแรมเหรอ”“เปล่า...หนูอยู่บ้านแสนรักน่ะ”“โอ๊ย! ฉันจะเป็นลม ไปทำอะไรที่นั่นฮะ แกท้องอยู่นะ”“ก็ท้องไงคะแม่ ตอนนี้หนูกลับบ้านก็ไม่ได้ ไปบ้านเพื่อนก็ไม่ได้ กลัวพี่ศศินไปตามน่ะ หนูรำคาญ จะไปนอนโรงแรมแม่ก็ว่าไม่มีใครคอยดูแลอีก หนูเลยไปบ้านแสนรักไงคะ อย่างน้อยๆ ที่นั่นก็มีแม่ครูแสนรัก เป็นอะไรขึ้นมา แกคง
“ก็นังวี”“ฉันทำไม”“แกท้องเหรอ”“แค่กๆๆ” เวนิสาไอค่อกแค่กด้วยชิ้นฝรั่งติดคอ เดือดร้อนเจ๊หวานต้องช่วยทุบหลังให้ “แกรู้ได้ไง!”“หมายความว่าไง นี่แกท้องจริงๆ ใช่ไหม!” รวีกานต์ร้องถาม ตอนแรกไม่แน่ใจ แต่พอเห็นสีหน้าท่าทางเพื่อนรักแล้วมันใช่ “ฉันว่าแล้ว กินอย่างกับพายุจนพุงปลิ้น ไม่คิดจะบอกเพื่อนอีกละสิ แกนี่มัน...”รวีกานต์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เวนิสาแทบยกมือไหว้“ขอโทษ...ก็ฉันกลัวว่าแกจะเสียใจนี่นา ถ้าท้องขึ้นมาแกก็ต้องรู้ว่าฉันท้องกับใคร” อ้อมแอ้มตอบแล้วขยับไปหาเจ๊หวานอย่างหาที่พึ่งรวีกานต์ทำตาขวางใส่เจ๊คนดี “เจ๊ก็รู้เรื่องละสิ ปิดบังฉันตลอดเลย”“อย่าโกรธมันเลยน่า มันห่วงแกจะตาย ตอนมีเรื่องยุ่งๆ มันก็รู้แล้วว่าตัวเองท้อง มันไม่ยอมบอกเองแล้วฉันจะพูดได้ยังไง สงสารมันหน่อยนะ ตอนหล่อนร้องไห้เสียใจ ยัยนี่ก็ท้องแล้วด้วย มันเจ็บจะตาย แต่มันไม่ยอมระบายกับใครเลย มันน่าสงสารออก” เจ๊ช่วยเวนิสาอีกแรงเวนิสาทำหน้
[20]ผู้หญิงยากๆ_______ชั้นใต้ดินของห้าง V&Vเวนิสาโบกมือลาเชฟลูกครึ่งพร้อมรอยยิ้มหวาน เธอเดินไปที่รถตัวเอง เปิดฝากระโปรงท้ายรถขึ้นเพราะต้องการรองเท้าคู่ใหม่ในนั้น เธอกะว่าจะแวะไปที่ร้านเบเกอรี่ ไปช่วยเด็กๆ อบขนม รองเท้าส้นสูงคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ศศินก้าวฉับๆ ไปหาเวนิสา ทันทีที่ก้าวออกจากลิฟต์มา“ยิ้มออกนอกหน้าเกินไปแล้ว ชอบเหรอ หน้าขาววอกอย่างกับซอมบี้”“เฮอะ...อิจฉาละสิที่ตัวเองไม่หล่อเท่าฟิลลิป” เถียงเขาพลางถอดรองเท้าส้นสูงเข้าเก็บแล้วดึงรองเท้าส้นเตี้ยคู่หนึ่งมาสวมแทน“ไม่หล่อแต่ก็ทำให้เธอคลั่งได้ล่ะ มานี่ ไปคุยกันก่อน”“ไม่คุย ไม่มีเรื่องจะคุย”“แต่ฉันมี มีเยอะด้วย!”เวนิสาเบือนหน้าหนี จู่ๆ ก็รู้สึกเหม็นเบื่อใบหน้านี้ นึกสงสัยว่าเมื่อก่อนเธอหลงรักเข้าไปได้อย่างไรหัวปักหัวปำ“นี่พี่”“อะไร”“มาตามฉันทำไมยิกๆ พี่ว่างเหรอ” ถามด้วยใคร่รู