เขาพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับการต่อว่าด่าทอของบวรพจน์ เขารู้ว่าเขาสมควรได้รับมันและเขาพร้อมที่จะรับมัน เขาจะทนพายุทุกลูกที่เข้ามาในตอนนี้ เพื่อโอกาสที่จะทำให้ธาริกามีความมั่นใจในตัวเขามากขึ้น
เพียะ!
ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปาก ฝ่ามือหนัก ๆ ก็ฟาดลงบนใบหน้าจนหน้าหัน จักรินทร์หัวเราะเบา ๆ แล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับบวรพจน์
“ผมสมควรได้รับมันใช่ไหม”
บวรพจน์กำลังโกรธจัดจนควันแทบออกจากหู
“นายสมควรได้รับสิ่งที่แย่กว่านั้นอีก หมอจักรินทร์ และฉันจะทำถ้ามันไม่ผิดกฎหมาย”
“ผมแน่ใจว่าคุณจะทำ” จักรินทร์ตอบอย่างสงบ
“นายกล้ามากที่โผล่มาที่บ้านหลังนี้ ทั้งที่รู้ดีว่าไม่เป็นที่ต้อนรับ”
“เพราะผมรักลูกสาวของพี่ ผมรักแสตมป์จริง ๆ ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ ผมแค่อยากได้โอกาสพิสูจน์ให้เธอและพี่เห็น ผมคิดเราสมควรได้รับโอกาสนั้น”
“นายไ
“ของแด๊ดดี้ค่ะ” ธาริกาพูดพร้อมเสียงคราง รู้ว่าอีกไม่นานเธอจะถึงจุดสุดยอด “ฉันเป็นของแด๊ดดี้”“ใช่แล้ว และฉันจะไม่ปล่อยเธอไปไหน”จักรินทร์ยังคงเล่นกับปุ่มสวามของหญิงสาวต่อไปอีกหลายนาที จนเธอทนไม่ไหว เธอกัดฟันเพื่อกลั้นเสียงร้องไว้เมื่อความสุขครั้งแรกถาโถมเข้ามา“อ๊า...คุณหมอไนล์!” เธอหลุดปากออกมา เขามองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“ฉันทำให้เธอรู้สึกดีไหม”“ดีมากค่ะ”จักรินทร์ยิ้มมุมปาก ถอนหายใจก่อนที่จะเอนตัวกลับ“ฉันอยากจะทำต่อในรถ แต่เกรงว่าจะไม่มีที่พอ และฉันต้องระวังไม่ให้รุนแรงเกินไปด้วย”หญิงสาวทำปากยู่ ส่งเสียงครางขัดใจเล็ก ๆ“ฉันสัญญาว่าจะทำต่อทันทีเมื่อเรากลับถึงบ้าน ฉันจะพาเธอตรงเข้าห้องนอนและทำให้เธอครางจนเสียงแห้งไปเลย”ชายหนุ่มผละออกมาและกลับไปนั่งตัวตรงอีกครั้ง ธาริกา
ธาริการู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของจักรินทร์อีกครั้ง การนอนคนเดียวเมื่อคืนที่ผ่านมา และความรู้สึกว่าถูกพ่อปฏิเสธ ทำให้เธอตระหนักว่าเธอชื่นชมสิ่งที่จักรินทร์มีให้เธอมากแค่ไหน และเขาทำให้เธอมีความสุขเพียงใด“เราจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ฉันสัญญา ฉันอยากให้ทุกอย่างดีขึ้นจริง ๆ” จักรินทร์กระซิบลงในผมของเธอเธอถอยออกมาชั่วครู่เพื่อมองขึ้นไปที่เขา และใช้มือหนึ่งลูบไล้ที่แก้มของเขา“ฉันไม่รู้จะเป็นยังไงจริง ๆ ถ้าไม่มีคุณหมอ”“อาจจะเศร้าและหดหู่” เขาดึงเธอเข้ามาใกล้อีกครั้งพร้อมเสียงหัวเราะ “มาเถอะ กลับบ้านเรากัน”บ้าน...ตอนนี้บ้านของเธออยู่ที่ไหนกันแน่เธอเคยคิดว่าบ้านคือที่ที่พ่อแม่อยู่ แต่ตอนนี้ชัดเจนว่ามันไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปบางทีบ้านอาจจะเป็นคฤหาสน์ของจักรินทร์ หรืออยู่กับจักรินทร์หรือบางทีมันอาจเป็นแค่ที่ที่เธอรู้สึกสบาย
เขาพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับการต่อว่าด่าทอของบวรพจน์ เขารู้ว่าเขาสมควรได้รับมันและเขาพร้อมที่จะรับมัน เขาจะทนพายุทุกลูกที่เข้ามาในตอนนี้ เพื่อโอกาสที่จะทำให้ธาริกามีความมั่นใจในตัวเขามากขึ้นเพียะ!ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปาก ฝ่ามือหนัก ๆ ก็ฟาดลงบนใบหน้าจนหน้าหัน จักรินทร์หัวเราะเบา ๆ แล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับบวรพจน์“ผมสมควรได้รับมันใช่ไหม”บวรพจน์กำลังโกรธจัดจนควันแทบออกจากหู“นายสมควรได้รับสิ่งที่แย่กว่านั้นอีก หมอจักรินทร์ และฉันจะทำถ้ามันไม่ผิดกฎหมาย”“ผมแน่ใจว่าคุณจะทำ” จักรินทร์ตอบอย่างสงบ“นายกล้ามากที่โผล่มาที่บ้านหลังนี้ ทั้งที่รู้ดีว่าไม่เป็นที่ต้อนรับ”“เพราะผมรักลูกสาวของพี่ ผมรักแสตมป์จริง ๆ ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ ผมแค่อยากได้โอกาสพิสูจน์ให้เธอและพี่เห็น ผมคิดเราสมควรได้รับโอกาสนั้น”“นายไ
จักรินทร์ไม่ได้สังเกตทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อเขาตื่นขึ้นมา แน่นอนว่าธาริกาไม่ได้อยู่บนเตียงของเขา ทั้งที่เธอนอนอยู่ที่นั่นติดต่อกันหลายคืนก่อนหน้านี้ แต่เพราะว่าเมื่อคืนเธอตัดสินใจไปนอนที่ห้องนอนสำหรับแขกเขาตัดสินใจไปตรวจดูเธอ ต้องการให้แน่ใจว่าเธอโอเคและถามว่าเธออยากได้อะไรเป็นพิเศษสำหรับอาหารเช้า แต่เมื่อเขาเคาะประตู ก็ไม่มีเสียงตอบรับ และเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป ดูเหมือนว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน ไม่มีแม้แต่ร่องรอยว่าเตียงถูกใช้เมื่อคืนนี้สิ่งนี้ทำให้เขากังวล แต่ยังหวังว่าเธออาจจะรอเขาอยู่ที่ชั้นล่าง หรืออย่างน้อย นั่นคือสิ่งที่เขาบอกตัวเองแต่ชั้นล่างของบ้านก็ว่างเปล่าจากการมีอยู่ของเธอเช่นกันนี่คือตอนที่เขากังวลอย่างจริงจัง เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาเธอ แต่สายของเขาถูกปฏิเสธตั้งแต่เรียกครั้งแรกทำไมเธอถึงทำแบบนั้น เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเขาพิมพ์ข้อความสั้น ๆ ส่งไปหาหญิงสาวอย่า
“หนูคิดถึงบรรยากาศการกินข้าวพร้อมหน้ากับคุณพ่อคุณแม่อีกครั้งจังเลยค่ะ”“แม่รู้จ้ะลูกรัก พรุ่งนี้เช้า พวกเราจะกลับมากินข้าวเช้าร่วมกันนะ แม่สัญญา ลูกอยากให้พ่อกับแม่ไปรับลูกที่บ้านพักไหมจ๊ะ”ธาริกาส่ายหน้าเบา ๆ แต่พลันนึกขึ้นได้ว่ามารดาไม่อาจมองเห็นการกระทำของเธอ จึงเอ่ยตอบกลับไป“ไม่ต้องรบกวนคุณพ่อคุณแม่หรอกค่ะ หนูจะเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านเอง อีกไม่นานหนูก็คงจะถึงบ้านแล้วค่ะ“ได้เลยจ้ะลูกรัก แม่จะรอเจอลูกที่บ้านนะ”“ค่ะ…แล้วพบกันนะคะคุณแม่”ธาริกาเกือบจะร้องไห้อีกครั้งเมื่อวางโทรศัพท์ลง เธอกำลังจะกลับบ้านแล้ว จะได้เจอครอบครัว และจะได้มีพื้นที่และเวลาคิดทบทวนสิ่งต่าง ๆไม่ใช่ว่าเธอไม่รักจักรินทร์ หรือไม่อยากอยู่กับเขา เธอรักเขาจริง ๆ แต่ทุกอย่างมันมากเกินไปสำหรับเธอในตอนนี้ เธอไม่สามารถคิดได้ว่าอยากเดินหน้าต่อกับเขาอย่างไร หรือแม้แต่จะเดินหน้าต่อกับเขาไหม เมื่อ
ธาริกาไม่ได้ปรารถนาให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ดำเนินไปเช่นนี้เลยสักนิด แม้ว่าเธอจะต้องการให้ทุกสิ่งเป็นไปตามความจริง แต่ในส่วนลึกของจิตใจ เธอก็ยังคงวาดหวังถึงภาพงานแต่งงานที่แสนพิเศษ ไม่ว่าเจ้าบ่าวจะเป็นใครก็ตามเธอรู้ดีว่าจักรินทร์เคยบอกว่าพวกเขาสามารถจัดพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการในภายหลังได้ กระนั้น ความรู้สึกผิดแปลกในใจก็ยังคงวนเวียนอยู่ไม่จางหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอยังไม่รู้เลยว่าบิดามารดาของเธอจะยินดีมาร่วมงานหรือไม่ธาริกาไม่เคยวาดฝันถึงงานแต่งงาน การคลอดลูก หรือแม้แต่ภาพอนาคตที่ไร้เงาของพวกท่านเคียงข้าง การที่จินตนาการเหล่านั้นต้องพลันถูกพรากไปอย่างกะทันหัน สร้างความสับสนในจิตใจของเธอไม่น้อย นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เธอตัดสินใจโทรศัพท์ถึงมารดาในทันทีที่ปิดประตูห้องธาริกาหวังว่ามารดาจะรับสายในครั้งนี้ เธอโหยหาที่จะได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ความคิดถึงท่วมท้นทำให้น้ำตาเอ่อคลอ ธาริกาเลื่อนหารายชื่อด้วยปลายนิ้วที่สั่นระริก จากนั้นก็กดปุ่มโทรออกเสียงสั
“ก็คงต้องซวยหน่อยนะ” เมธีตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก พลางยักไหล่เล็กน้อย “ด้วยข้อมูลต่าง ๆ ที่พวกเรามีอยู่ในมือเกี่ยวกับนาย มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยที่จะทำให้นายต้องหมดอนาคตในอาชีพแพทย์ แล้วบีบบังคับให้นายกลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเราอีกครั้ง”ธาริกาสั่นสะท้านเบา ๆ อยู่ข้างกาย จักรินทร์รับรู้ได้ว่าเธอคงกำลังคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเธอ และเธอคือคนที่ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือตัวเขาเองแต่เพียงผู้เดียว เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ผิดทำนองคลองธรรมมาตั้งแต่ต้น เขาปล่อยให้เรื่องราวเลยเถิดมาจนถึงขั้นนี้ แม้ว่าจะมีสิ่งสวยงามมากมายเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ครั้งนี้ก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองจะสามารถให้อภัยตัวเองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้หรือไม่“ผมต้องการเวลา” จักรินทร์เอ่ยมองลงไปที่ธาริกา“ได้สิ แต่เราจะรอ และจำไว้ว่ามันจะง่ายกว่าสำหรับเราที่จะปกป้องนายถ้าเด็กไม่ได้เกิดนอกสมรส เราจะช่วยให้นายคืนดีกับค
ทันทีที่ธาริกาเห็นกลุ่มคนเหล่านั้น ร่างกายของเธอก็พลันแข็งทื่อราวกับถูกแช่แข็งอยู่ข้างกายเขา จักรินทร์สังเกตเห็นว่าเธอดูหวาดกลัวมากกว่าปกติ แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจนักว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริง บางทีอาจเป็นเพราะบรรยากาศอึดอัดภายในงานเลี้ยงแห่งนี้ก็เป็นได้ในเวลานี้เอง จักรินทร์ก็ตระหนักได้ว่าธาริกาเองก็คงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เขากำลังเผชิญอยู่เช่นกันความหวาดหวั่น…ความกังวลใจ…เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าคนพวกนี้จะปรากฏตัว พวกเขารู้เรื่องงานเลี้ยงนี้ได้อย่างไร และที่สำคัญมาที่นี่ทำไม“จักรไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ชายร่างสูงใหญ่ที่สุดในกลุ่มเอ่ยทักทาย“พี่พงศ์ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอพี่ที่นี่อีก” จักรินทร์ตอบกลับไปอย่างเสียไม่ได้“อะไรกัน จะให้พลาดโอกาสทองที่จะได้เจอน้องชายของฉันได้ยังไงกัน ไม่มีทางเสียล่ะ”สมาชิกครอบครัวที่ใกล้ชิดของจักรินทร์นั้นไม่ได้อยู่ในแวดวงสังคมของเขาม
ในที่สุด งานเลี้ยงช่วงต้นก็จบลง จักรินทร์และธาริกาก็เคลื่อนย้ายไปยังบริเวณที่แขกคนอื่น ๆ รวมกลุ่มกัน ธาริกาเดินเคียงข้างเขา เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อยจึงเผลอจับชายเสื้อโค้ทของเขาไว้แน่น พลางสอดส่ายสายตามองหาเพื่อนสนิท“ไหวหรือเปล่า ที่รัก” จักรินทร์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมโน้มตัวลงมาจูบแก้มเธอเบา ๆ “ให้ฉันไปเอาเครื่องดื่มมาให้ไหม น้ำมะนาวโซดา น่าจะสดชื่นดีนะ”ธาริกาส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันสบายดีค่ะ แค่กำลังมองหาเอวาน่ะค่ะ”เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ “อ้อ เอวา เพื่อนสนิทเธอนี่เอง อยากให้ฉันช่วยหาไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเธอก็คงมา”“เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่ถ้ามีอะไรก็บอกฉันนะ”จักรินทร์พาหญิงสาวไปยังเคาน์เตอร์บาร์ เขาสั่งไวน์ให้ตัวเองหนึ่งแก้ว และสั่งเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์เธอ แม้ว่าเธอจะบอกว่าไม่ต้องการอะไรก็ตาม“มันจะช่วยให้เธอรู้สึกเหมือนได้ทำอะไรบ้าง ฉันว่าการมีเครื