Share

บทที่ 619

Author: โม่เสียวชี่
แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องภายในของจวนโหว แต่เขากลับเรียกนางว่า ‘เฉียวเนี่ยน’ เช่นนี้ ต่อให้เป็นฮองเฮาก็ไม่อาจเรียกนางด้วยแซ่หลินได้อีกต่อไป

เฉียวเนี่ยนรู้สึกซาบซึ้งใจ จึงโค้งคำนับฮ่องเต้ทันที “ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท”

ฮองเฮาและองค์หญิงซูหยวนแม้จะไม่พอใจในใจ แต่ก็ทำได้เพียงตอบรับ “เพคะ”

ขณะเดียวกัน เซียวเหิงที่ปกติมักจะได้รับความสนใจ กลับคล้ายเป็นคนโปร่งแสงในเวลานี้

ตำแหน่งที่เขายืนยังคงเป็นที่จับจ้อง แต่ทว่าสายตาทุกคู่ในห้องกลับจับจ้องเฉียวเนี่ยนและฉู่จืออี้

แม้แต่เขาก็เลือนราง

เขาคล้ายจะเข้าใจแล้วว่าเมื่อสามปีก่อน เขาผิดพลาดตรงจุดใด

สามปีก่อน หากเขาพูดคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ ออกมาได้อย่างไม่ลังเลเช่นเดียวกับฉู่จืออี้ แม้คนทั้งจวนโหวจะตำหนิเฉียวเนี่ยน หากเขาสามารถออกโรงปกป้องนาง และพูดว่าความผิดทั้งหมดเขาขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว วันนี้ทุกสิ่งจะไม่แตกต่างไปจากนี้หรือ?

สองกำปั้นกำแน่นจนเกิดเสียงกรอบแกรบ

เซียวเหิงพยายามอย่างยิ่งที่จะอดกลั้นความเจ็บปวดราวถูกฉีกกระชากในใจ

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อสามปีก่อนถึงไม่ได้ทำเช่นนั้น?

ทำไมเมื่อสามปีก่อน เขาถึงปล่อยให้นางถูกพาตัวไปต่อหน้าต่อตาได้?"

แค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
คุณป้า มนุษย์สิว
ความจริงก็คือไม่ว่าตอนนั้นน่ะถ้า เซียวเหิงรักเนี่ยนๆจริง ถึงแม้จะใส่ายหลินยวน หรือทำร้ายใคร ก็ควรจะปกป้อวและขอรับผิดชอบแทนไป
goodnovel comment avatar
RATTINAN TREERATANA
FC พี่เหอตลอดไป อย่าตายตอนจบก็พอ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1460

    ฉู่จืออี้อ่านความหมายในสายตานางออกในชั่วพริบตา!ความหนาวเหน็บระลอกหนึ่งแล่นพล่านขึ้นมาจากปลายสันหลัง เขาขมวดคิ้วมุ่น นัยน์ตาลึกล้ำฉายแววเย็นเยียบจับขั้วหัวใจ ริมฝีปากบางขยับเอื้อนเอ่ยนามหนึ่งออกมาอย่างเชื่องช้า “อิ๋งชี”เฉียวเนี่ยนเผลอสูดลมหายใจหนาวเหน็บเข้าปอดโดยไม่รู้ตัว อากาศเย็นเยียบที่สำลักเข้าไปส่งผลให้บาดแผลเจ็บแปลบขึ้นมาวูบหนึ่งการคาดเดาของฉู่จืออี้มิใช่ไร้มูลความจริงนางจำได้แม่นยำว่าหลังจากผู้อาวุโสซุนรักษาอาการให้แล้ว ศิลาจันทราก็ยังคงอยู่กับตัวนางต่อมาเมื่อหนิงซวงช่วยนางผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ นางก็เป็นคนสอดมันไว้ใต้หมอนด้วยมือตนเองหลายวันมานี้อาการบาดเจ็บสาหัสของนางยังไม่หายดี แทบจะไม่ได้ก้าวออกจากเรือนนี้แม้แต่ครึ่งก้าว กระทั่งลงจากเตียงยังนับครั้งได้นอกจากอิ๋งชีแล้ว นางคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีผู้ใดสามารถขโมยหินจันทราไปจากใต้หมอนของนางได้อย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้!เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่น สะกดกลั้นคลื่นอารมณ์ที่โหมซัดสาดในอก น้ำเสียงเจือความเหนื่อยล้าที่ยากจะสังเกตเห็น “ให้พวกเขาเข้ามากันให้หมดเถิด”ฉู่จืออี้พยักหน้า หันกายไปเรียกทุกคนที่อยู่หน้าประตูและภายในห้องให้เข้า

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1459

    คนตระกูลมู่ต่างตื่นตระหนกน้ำเสียงของมู่เจิ้นไห่สั่นเครืออย่างไม่อาจระงับ “ผู้ที่เฝ้ายามแดนต้องห้ามในคืนนี้ คือยอดฝีมือที่เก่งกาจที่สุดในจวนถึงสองคน!”มู่ซ่างเซวี่ยได้ยินดังนั้น พลันนึกถึงบางสิ่งได้ ร่างกายก็หมุนขวับ หันไปจ้องมองใบหน้าอันซีดเผือดทว่าสงบเยือกเย็นของเฉียวเนี่ยนอย่างเขม็งเสียงที่เล็ดลอดจากลำคอบิดเบี้ยวแหบพร่าด้วยความตระหนกสุดขีดและโทสะที่พุ่งพล่าน “การจะเปิดแดนต้องห้ามต้องใช้ศิลาจันทรา!”ทุกถ้อยคำราวกับถูกเค้นลอดไรฟันออกมาอย่างยากลำบาก คลุ้งไปด้วยกลิ่นอายคาวเลือดเฉียวเนี่ยนย่อมเข้าใจนัยที่แฝงมาในวาจานั้นนางใช้มือข้างหนึ่งยึดราวจับบันไดอันเย็นเฉียบไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างกดทับบาดแผลบริเวณหน้าท้อง พยายามข่มความเจ็บปวดที่แล่นพล่านและความรู้สึกเปียกชื้นเหนอะหนะทว่าแววตาของนางกลับคมกริบดุจคมดาบน้ำแข็งในสระลึก ปราศจากความหวาดหวั่นแม้แต่น้อย จ้องสบสายตาของมู่ซ่างเสวี่ยที่ราวกับจะกลืนกินผู้คนคู่นั้นอย่างไม่ลดละ “ศิลาจันทราอยู่กับข้า มิเคยห่างกาย!” น้ำเสียงของนางมิได้ดังนัก ทว่าชัดเจนทุกถ้อยคำร่างที่เกร็งเขม็งของมู่ซ่างเสวี่ยผ่อนคลายลงเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็นหากไร้ซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1458

    ชั่วพริบตา บรรยากาศภายในโรงหมอก็ตึงเครียดดุจลูกธนูขึ้นสาย ประหนึ่งว่าโลหิตพร้อมจะสาดกระเซ็นได้ทุกเมื่อ!เมื่อเฉียวเนี่ยนเห็นว่าคนตระกูลมู่ไม่มีทีท่าว่าจะถอยแม้แต่น้อย นางจึงข่มความเจ็บปวดรวดร้าว ยืดแผ่นหลังเหยียดตรง พลางแค่นเสียงเย็นเยียบร้องเรียกแผ่วเบา “อิ๋งชี!”“ขอรับ!” สิ้นเสียงเรียก สุรเสียงเย็นชาดุจเครื่องจักรสังหารก็ขานรับทันควัน“เรียกหน่วยองครักษ์เงา!”“ขอรับ!” อิ๋งชีรับคำสั่ง พลันงอนิ้วสอดเข้าปาก เป่าเป็นเสียงหวีดหวิวกังวานก้อง ฉีกกระชากความเงียบสงัดยามราตรีท่วงทำนองของเสียงผิวปากนั้นคล้ายจะมีการผันเสียงอยู่หลายช่วงสิ้นเสียงสัญญาณหวีดหวิว บนชายคาด้านนอกพลันปรากฏร่างเงาดำทะมึนยืนเรียงรายกันอย่างหนาตาเสียงคารวะดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง กึกก้องประดุจเสียงฟ้าร้องและกลองศึก “องครักษ์เงาแห่งหอบุปผาเร้นลับ คารวะท่านเจ้าสำนัก!”ความเกรี้ยวกราดและจิตสังหารบนใบหน้าของมู่ซ่างเสวี่ยแข็งค้างแม้เขาจะนำองครักษ์มามาก แต่บัดนี้กลับถูกองครักษ์พยัคฆ์และองครักษ์เงาล้อมไว้หนาแน่น หากลงมือจริง พวกเขาคงไม่ได้เปรียบ!องครักษ์ตระกูลมู่ที่เมื่อครู่ยังฮึกเหิมเปี่ยมบารมี บัดนี้กลับตกอยู่ในสภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1457

    “วันนี้ข้าเคยย่างกรายเข้าไปในจวนตระกูลมู่แม้ครึ่งก้าวเสียเมื่อใด? ไร้สาระสิ้นดี!” คิ้วของเซียวเหอขมวดมุ่นจนแทบเป็นปม รู้สึกว่าการจะพูดเหตุผลกับคนพวกนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับสีซอให้ควายฟังเมื่อเห็นเซียวเหอปฏิเสธเสียงแข็ง ความอดทนเฮือกสุดท้ายของมู่ซ่างเสวี่ยก็ขาดผึง เขาโกรธจัดจนหัวเราะออกมา นิ้วชี้หน้าด่ากราดไปที่เซียวเหอ “เซียวเหอ! ในอดีตเจ้าเคยเป็นถึงแม่ทัพผู้บัญชาการทหารนับพัน มาบัดนี้กลับตกต่ำกลายเป็นคนขี้ขลาดตาขาว กล้าทำแต่ไม่กล้ารับเยี่ยงนั้นรึ?!”เซียวเหอกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วลั่นกรอบแกรบ โทสะอันมหาศาลที่ถูกกดข่มไว้แทบจะระเบิดทะลุออกมา เขาสูดลมหายใจลึก น้ำเสียงเย็นเยียบประดุจเกล็ดน้ำแข็ง “ดี! ต่อให้ข้า ‘ข่มขู่’ ท่านจริง! แล้วข้าจะมีเหตุผลอันใดต้องไปข่มขู่ท่าน? หวังสิ่งใดจากตระกูลมู่ของท่านงั้นรึ?!”“ท่านต้องการบุกรุกแดนต้องห้ามของตระกูลมู่! เพื่อขโมยยาแก้พิษไปให้ไอ้เด็กเซียวเหิงนั่นอย่างไรเล่า!” มู่ซ่างเสวี่ยตะคอกสุดเสียงจนหลังคาแทบสะเทือนเซียวเหอได้ฟังถึงกับหัวเราะลั่นด้วยความเดือดดาล ส่ายหน้าไปมา เสียงหัวเราะนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกสมเพชและเย้ยหยัน “ช่างเป็นคำกล่าวหาที่ไร้เหตุผลสิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1456

    “ส่งตัวเฉียวเนี่ยนออกมาเดี๋ยวนี้!”เสียงตวาดเกรี้ยวกราดจากชั้นล่างดังทะลุเข้ามาในโสตประสาทของเฉียวเนี่ยนอย่างชัดเจนมาเพื่อหาเรื่องนางหรือ?เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วมุ่น นางคว้าเสื้อคลุมข้างเตียงขึ้นมาคลุมกาย แล้วกัดฟันข่มความเจ็บปวด ฝืนก้าวเดินออกไปทีละก้าวทันทีที่เปิดประตู ก็เห็นหนิงซวงและเกอซูอวิ๋นยืนรออยู่หน้าห้องแล้วเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา หนิงซวงก็รีบปราดเข้ามาหา “คุณหนูออกมาทำไมเจ้าคะ? ท่านยังบาดเจ็บอยู่นะเจ้าคะ!”“ข้าไม่เป็นไร” น้ำเสียงของเฉียวเนี่ยนแม้จะอ่อนแรงแต่กลับเยือกเย็นยิ่งนัก นางปัดมือหนิงซวงออกเบา ๆ ใช้มือยันผนังที่เย็นเฉียบ แล้วค่อย ๆ ลากสังขารเดินไปที่หัวมุมบันไดภาพเบื้องหน้าทำให้หัวใจของนางดิ่งวูบลงสู่ก้นเหวเห็นเพียงโถงโรงหมอที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ทว่ากลับถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศสังหารอันน่าสะพรึงท่านหมอชราผู้ใจดีและเด็กรับใช้ยาต่างคุกเข่าอยู่กับพื้น ถูกองครักษ์ตระกูลมู่ที่มีท่าทางดุร้ายราวกับยักษ์มารกดแขนไพล่หลังเอาไว้อย่างหยาบคาย ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและคราบน้ำตาประตูใหญ่เปิดอ้า ด้านนอกมีเงาคนวูบไหว เห็นได้ชัดว่าถูกล้อมไว้หมดแล้วแ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1455

    “ว่ากระไรนะ?!” มู่ซ่างเสวี่ยตกใจอย่างมาก พลันลุกพรวดขึ้นยืน ทว่าเบื้องหน้ากลับมืดมิด วิงเวียนศีรษะจนต้องทิ้งตัวกลับลงไปบนเตียงอย่างแรงเขาหลับตาลง ปรับลมหายใจอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยเงยหน้าขึ้น ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด นัยน์ตาฉายแววตื่นตระหนกแกมไม่อยากเชื่อเป็นครั้งแรก!“ข้าสั่งให้เจ้าส่งคนไปเฝ้าเอาไว้แล้วมิใช่หรือ?!”“เฝ้าแล้ว! เฝ้าแล้วขอรับ!” มู่หงเสวี่ยโบกไม้โบกมือด้วยความตื่นเต้นระคนร้อนรน “ที่หอเป่าเสียงทางทิศตะวันออก ท่านปู่ห้านำยอดฝีมือองครักษ์สิบสองคนที่เก่งกาจที่สุดไปนั่งบัญชาการด้วยตนเองเลยนะขอรับ! เฝ้าชนิดไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว!”ท่านปู่ห้ามู่เจิ้นไห่ ดูแลกองกำลังองครักษ์ของตระกูลมู่มานานหลายสิบปี ใต้สังกัดชุบเลี้ยงยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในยุทธภพไว้นับไม่ถ้วน นับเป็นหนึ่งในปราการที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลมู่วันนี้เซียวเหอมาด้วยเจตนาไม่ดี มู่หงเสวี่ยจึงมิกล้าชะล่าใจ อุตส่าห์ไปเชิญเสาหลักผู้นี้ ให้ช่วยนำกำลังไปเฝ้าจุดสำคัญที่น่าจะตกเป็นเป้าหมายมากที่สุดด้วยตนเองทว่าใครจะคาดคิด... สุดท้ายก็ยังเกิดเรื่องขึ้นจนได้!มู่ซ่างเสวี่ยรู้สึกจุกแน่นในอกประหนึ่งถูกหินผาพันชั่งกดทั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status