บทที่ 10
นิตาเธอนัดเจอยศที่ร้านอาหารซึ่งไม่เข้าไปในบ้านไม่อยากไปเจอผู้หญิงอีกคนที่เป็นภรรยาของยศเพราะทั้งสองคนไม่ถูกกัน
"ที่อารมณ์เสียแบบนี้ยังจัดการไอ้ธารามไม่ได้ใช่ไหม วิธีง่ายๆ แค่นี้ทำไมแกถึง...." นิตาถอนหายใจและวางแก้วน้ำลง ธารามไม่ใช่ผู้ชายทั่วไปที่จะคว้าเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้าซึ่งนิตารู้ดี
"คุณพ่อคะ คุณธารามไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่เอาผู้หญิงที่ไหนก็ได้มาทำเมียหรือว่าคว้าผู้หญิงข้างทางมาบำเรอร่างกาย เขาให้เกียรติผู้หญิงด้วยซ้ำ นิตาไม่อยากพูดถึงตรงนั้นตอนนี้ธารามมีใจให้กับหลินหลินหลานสาวของคุณพ่อนั่นแหละ" นิตาที่อยู่กับพ่อตัวเองแตกต่างจากนิตาที่อยู่กับธารามน้ำเสียงที่เคยอ่อนโยนกลายเป็นน้ำเสียงแข็งกระด้างพูดด้วยความโมโห
"เอาเถอะที่แกต้องการให้ฉันออกมาหาไม่มีอะไรจริงๆ แกเข้าไปหาฉันที่บ้านก็ได้นะ ทำเหมือนไม่เคยเข้าไป"
"ไม่เอาค่ะ ไม่อยากไปเจอเมียใหม่ของคุณพ่อ ที่นิตานัดเจอคุณพ่อในวันนี้ นิตามีเรื่องอยากให้คุณพ่อช่วย" ผู้ชายวัยกลางคนใบหน้าจ้องมองผู้เป็นลูกสาวฝั่งตรงข้ามของโต๊ะจนคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยที่ลูกสาวนั้นต้องการให้ตัวเองช่วยอะไร
"พูดมาตรงๆ"
"ตอนนี้ดูเหมือนว่าธารามจะยังมีโซ่ทองคล้องใจคือไอ้เด็กบ้านั่น นิตาอยากให้คุณพ่อทำยังไงก็ได้ให้มันไปให้พ้นๆ" ผู้เป็นพ่อนั้นหยิบแก้วน้ำกระดกดื่มสายตามองมายังลูกสาวทั้งสวยและน่ารักแต่ใจนั้นโหดร้าย
"หมายถึงลูกชายของมันน่ะเหรอ ก็แค่เด็กสองขวบทำไมถึงจะต้องอิจฉามัน อีกทั้งถ้าแกเป็นแม่เลี้ยงที่ดีไอ้ธารามมันจะรักแกด้วยซ้ำ"
"ตอนนี้ไอ้เด็กสองขวบที่คุณพ่อพูดมันกำลังเชื่อมใจให้พ่อและแม่มันกลับมารักกัน และถ้าเป็นอย่างนั้นในสิ่งที่คุณพ่อหวังมันคงไม่ได้หรอกนิตาจะกลับแล้ว ถ้าไม่ช่วยก็อย่าหวังว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ" นิตาเธอลุกขึ้นโดยที่เสียมารยาทกับพ่อตัวเองในขณะที่ก้มหยิบกระเป๋าผู้เป็นพ่อนั้นลุกขึ้น
"แกจะให้ฉันฆ่าเด็กสองขวบเนี่ยนะ"
"นิตาไม่ได้ให้คุณพ่อฆ่ามัน แต่นิตาต้องการให้คุณพ่อทำยังไงก็ได้ที่ไม่ให้มันกับธารามเป็นสายเลือดเดียวกัน" ผู้เป็นพ่อนั่งลงที่โซฟาอีกครั้งคว้ามือให้จับลูกสาวนั้นนั่งด้วย
"นิตาแกก็ใจเย็นก่อนทีเวลาอยู่กับมันทำท่าทีอ่อนหวานอ่อนโยนเหมือนกับผู้หญิงเรียบร้อย ตอนอยู่กับพ่อของแกแทบจะกินหัว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องจัดการแม่มันก่อน"
ใบหน้าของผู้ชายวัยกลางคนแสดงความเจ้าเล่ห์ยกยิ้มด้วยมุมปากซึ่งในใจของเขานั้นมีแผนการที่จะเล่นงานหลินหลินกับลูกชาย
"นิตาขอเร็วที่สุด"
"แกก็ต้องเป็นคนลงมือทำ ตอนนี้ธารามมันเข้าใจผิดว่าเมียของมันถูกไอ้เฉินลู่ลากขึ้นคอนโด เราต้องไปที่ต้นเหตุไปเริ่มจากจุดนั้นและทุกอย่างมันจะราบรื่น" ใบหน้าสวยจ้องมองผู้เป็นพ่อตัวเองและยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์แผนการร้ายของพ่อเธอนั้นช่างร้ายลึกและความคิดหลักแหลม
"คุณพ่อ คุณพ่อพูดแบบนี้หมายความว่า"
"ตีงูต้องตีให้ตาย ถ้าจะกำจัดใครก็ต้องกำจัดให้หมดทั้งต้นตออย่าให้มันย้อนกลับมาหาเรา เฉินลู่เป็นลูกเขยของผู้มีอิทธิพลซึ่งเมียตามใจมาก ต่อให้จับได้ว่ามีผู้หญิงกี่ครั้งเมียก็ยอมได้แต่ตามตบผู้หญิงไม่มีปัญญาเอาผัวตัวเองให้อยู่ และลองคิดดูสิถ้าเฉินลู่มันร่วมมือกับเราแผนการที่จะกำจัดนิตากับลูกของมันก็ง่ายนิดเดียว"
ผู้ชายวัยกลางคนนั้นพูดพร้อมกับมองขึ้นบนเพดานยังไม่ทันจะสำเร็จในแผนการแต่ทำท่าทีล่องลอยเหมือนกับแผนการนั้นสำเร็จแล้ว
"แล้วทำยังไงนิตาถึงจะเจอกับคุณเฉินลู่"
ทั้งพ่อและลูกพากันวางแผนเล่นงานหลินหลินเพราะต้องการที่กำจัดหลินหลินออกไปจากบ้าน
กลับมาทางด้านของหลินหลิน
เด็กผู้ชายตัวเล็กหัวเราะในขณะที่กินข้าวมีความสุขที่พ่อกับแม่นั้นใส่ใจตัวเองเป็นครั้งแรกและวันแรกที่เธอนั้นเห็นลูกมีความสุขโดยที่เมื่อก่อนนี้หลินหลินไม่เคยใส่ใจดูแลลูกเลยถึงแม้ว่าจะให้ความสำคัญกับลูกแต่การดูแลแตกต่างกันนอกจากพี่เลี้ยงน้องณธีก็อยู่กับคุณตาแต่หลังจากที่ตาของเขาเสียน้องณธีก็ได้อยู่แต่กับพี่เลี้ยงจนกระทั่งวันนี้ที่พ่อแม่ของเขาอยู่ด้วยกันหัวเราะกันต่อหน้าลูก
"อยู่แบบนี้ได้ไหม" น้องณธีนั่งโต๊ะอาหารสำหรับเด็กโดยที่พ่อของเขาคือธารามอยู่ทางด้านขวามือส่วนด้านซ้ายคือหลินหลินมือ น้อยทั้งซ้ายและขวาจับมือของผู้เป็นแม่กับพ่อมาใส่กัน
ใบหน้าน้อยมองหน้าพ่อและแม่สลับกันก่อนที่จะเอ่ยพูดด้วยความเป็นเด็กอยากมีความสุขและอยู่แบบนี้พร้อมหน้าพร้อมตา
"ได้สิหม่ามี๊กับป๊าอยู่ด้วยกันตลอดไปอยู่แล้วใช่ไหมป๊า" หลินหลินเธอยังคงมีความหวังว่าสามีของเธอนั้นจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอไม่เคยคิดว่าความโกรธแค้นของเขานั้นคือเรื่องจริงอาจจะเป็นสิ่งที่เขาประชดเธอเท่านั้น ส่วนธารามได้เพียงแต่ยิ้มและพยักหน้าให้กับลูกชายเขายกมือลูบหัวน้องณธีเบาๆ และป้อนข้าวต่อ
"กินข้าวดีกว่าครับ กินให้หมดแล้วเราค่อยคุยกันนะ"
"คืนนี้ป๊ากับหม่ามี๊นอนด้วย" ด้วยความเป็นเด็กและยังพูดไม่ทันเก่งเขาพยายามที่จะบอกให้พ่อกับแม่นั้นนอนด้วย
"โอ๊ย" อยู่ๆ เสียงที่ดังขึ้นจากทางหน้าประตูก็ร้องเสียงดังขัดจังหวะ จนต้องหันไปมองเป็นนิตาเดินเข้ามาทำถุงของกินหล่นและร้องเสียงดัง ธารามจึงรีบลุกขึ้นและเดินไปดูนิตาที่ด้านหน้าประตู
"นิตาเป็นอะไรหรือเปล่า" หลินหลินมองสามีตัวเองที่กำลังจับมือของนิตาผู้เป็นเมียที่ยอมรับไม่ได้ไม่ที่ผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้สามีตัวเองมักจะโมโหและไม่พอใจ ในเมื่อกล้าที่จะเสแสร้งและแกล้งทำเป็นคนดี เธอก็จะได้เจอดีนิตา
หลินหลินเธอลุกขึ้นเดินไปแทรกสามีตนเองและจับมือของนิตา
"เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ๆ ถึงทำของร่วงแบบนี้หรือว่าตะคริวกินไม่ดีนะ ถ้าตะคริวกินแล้วเข้าสู่หัวใจตายได้เลยนะมานั่งพักก่อน"
ไม่เพียงแต่นิตาที่ตกใจแม้กระทั่งธารามยังตกใจที่อยู่ๆ หลินหลินนั้นดีแถมทั้งยังเป็นห่วงนิตาอีกด้วย
"คุณคะ ป้อนข้าวลูกต่อเถอะคะ เดี๋ยวทางนี้ฉันดูแลเอง" หลินหลินหันกลับไปยิ้มให้กับธารามและบอกให้เขากลับไปป้อนข้าวลูก ส่วนตัวเองนั้นบีบมือของนิตากัดฟันดังกรวดๆ แต่ก็ยังคงฉีกยิ้มให้กับผู้หญิงเสแสร้งที่จ้องจะงาบสามีตัวเอง
"เป็นอะไรหรือเปล่าเดี๋ยวนวดให้นะ" ในการนวดของเธอทั้งบีบและกดหักนิ้วของนิตาจนเธอต้องดึงมือออก
"อีบ้า" หลินหลินยกมือใช้นิ้วชี้สัมผัสปากตัวเองไม่ให้นิตานั้นร้องเสียงดัง
"จุ๊ๆ ไม่เอาสิอย่าร้องเสียงดังนะ ปล่อยให้พ่อกับลูกเขาอยู่ด้วยกันป้อนข้าวกัน ดูสิเขามีความสุขมากเลยนะ เธอคงไม่เข้าใจหรอกเพราะว่าเธอไม่เคยมีพ่อมีแม่ เธอก็เลยไม่เคยได้สัมผัสกับเหตุการณ์แบบนั้น ฉันเข้าใจ" นิตาจ้องมองหลินหลินเหมือนกับว่าเธอตกใจในสิ่งที่หลินหลินพูด
"เธอกำลังจะพูดอะไรไม่มีพ่อไม่มีแม่ได้ยังไง พ่อของฉันก็คือน้องชายของพ่อเธอไง"
"อ้าว....เหรอเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าอายศที่เป็นหมันสามารถมีลูกสาวที่สวยและร่านแบบเธอได้" นิตากลืนน้ำลายลงคอในสายตามองหลินหลินซึ่งเปลี่ยนไปเธอดูกลัวหลินหลิน
"เธอกำลังจะพูดอะไร เธอหมายถึงอะไรหลินหลิน ฉันรู้ว่าเธอกำลังจะแพ้เธอเลยหาวิธีใส่ร้ายฉันแต่เสียใจด้วยนะ ธารามเขาไม่เชื่อเธอหรอก"
"อย่าให้ฉันเอาความจริงมาแฉนะ เพราะคนที่จะเสียใจก็คือเธอจำไว้เลิกยุ่งกับสามีชาวบ้านซะ" หลินหลินเธอลุกขึ้นและยิ้มให้นิตาอย่างยั่วโมโหก่อนที่จะเดินมาหาลูกชาย
"เธอคุยอะไรกับนิตา" เมื่อมาถึงเขาคงเป็นห่วงกันมากจึงรีบถามว่าคุยอะไรกับผู้หญิงของเขา
"ฉันก็จะทำทุกอย่างให้ความรักของเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไงคะ" หลินหลินยังคงรอให้ธารามผู้เป็นสามีนั้นกลับมารักตัวเองเหมือนเดิมในแววตาของหลินหลินจ้องมองไปยังธารามที่เขาไม่กล้าสู้หน้า
"คุณป้อนข้าวลูกไปเถอะผมมีธุระ" เขาแค่แคร์ความรู้สึกกันมากแม้ธารามป้อนข้าวลูกก็ยังละถ้วยข้าวของลูกและเดินไปหาผู้หญิงคนนั้น
หลินหลินยกมือลูบหัวของลูกชายเบาๆ และยิ้มให้เด็กน้อยที่น่ารักคนนี้
"หม่ามี๊จะทำทุกอย่างให้ครอบครัวของเรากลับมารักกันเหมือนเดิมนะลูก หม่ามี๊รักหนูนะ"
บทที่ 27คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาในขณะตกอยู่ในพะวงฝันร้ายในฝันนั้นเธอพยายามที่จะดึงมือของผู้เป็นพ่อแต่ธารามกลับผลักพ่อของเธอลงไปที่ปากเหว ขณะที่หลินหลินกำลังส่ายหน้าไปมาจากฝันร้ายมืออุ่นของใครบางคนที่อยู่ด้านข้างของเตียงกุมมือของเธอไว้"เจ้าตัวเล็กได้ยินพี่ไหมตื่นสิ หลินหลินตื่น" เรือนร่างบางสะดุ้งพรวดใบหน้าน้อยน้ำตาไหลเปื้อนแก้มมือสองข้างผวาจับมือหนาที่กุมมือของเธอเอาไว้"ฮื่อ...คุณพ่อ" คนตัวโตยืนอยู่ด้านข้างถูกกุมมือด้วยผู้หญิงตัวเล็กกำลังฝันร้ายเขาสวมใส่ชุดกาวน์สีขาว หมอคิมยกมือลูบหัวของหลินหลิน"แค่ความฝันน่ะ ไม่มีอะไรแล้วนะ" เธอเงยหน้ามองคนตัวโตคนที่ส่งยิ้มให้ด้วยความอบอุ่นเธออยากพุ่งตัวโอบกอดเขาแต่ไม่อยากให้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้นั้นคิดมากไปกว่านี้ หลินหลินเธอรู้ดีว่าหมอคิมคิดยังไรกับเธอมือน้อยทั้งสองข้างจึงดึงออกจากมือของเขา"เมื่อไรจะกลับมารักตัวเองสักที" ด้วยความสนิทของหมอคิมกับหลินหลินก็ไม่ต่างอะไรจากพี่น้องเขาขึ้นนั่งบนเตียงจ้องมองหลินหลินและเอ่ยถามถึงเรื่องอาการป่วย"ยังไม่ถึงเวลาค่ะ หมอคิมอย่าบอกเรื่องนี้กับใครน
บทที่ 26 ธารามออกไปจากบ้านตอนเช้าเพื่อที่จะเอาเอกสารไปให้กับนายทุน แต่เขานั้นลืมเอกสารหลังจากที่เขารีบออกไปจนลืมเอกสาร เขานั่งรถมาได้ครึ่งทางจึงนึกขึ้นได้ว่าต้องกลับมาเอาเอกสารสำคัญนี้จึงให้ลูกน้องคนขับรถวนรถกลับมาที่บ้านแต่พอมาถึงทำไมบ้านถึงเงียบแปลกๆ ด้านล่างไม่มีใครอยู่เลย"นี่มึงมานอนอะไรตรงนี้เนี่ย" คิ้วหนาขมวดเข้มขรึมจ้องมองหน้าอดีตลูกน้องคนสนิทพ่อของหลินหลินที่อยู่ๆ นอนหลับง่ายๆ อยู่บนโซฟาของบ้านซึ่งปกติแล้วลูกน้องคนนี้ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน"กรี๊ด...เจ็บ"สายตาของธารามหันมองไปที่บันไดเพราะได้ยินเสียงของหลินหลินเธอร้องตะโกนเสียงราวกับโดนกระทำบางอย่างที่กำลังเจ็บปวด เขาไม่รอช้าและไม่ปลุกลูกน้องคนสนิทคนนั้นแต่เลือกที่จะวิ่งขึ้นไปชั้นบนของบ้าน"ป๊า ช่วยมี๊" เขาหยุดตรงพี่เลี้ยงที่อุ้มน้องณธีลงมาจากบันไดได้ครึ่งนึง น้องณธีร้องไห้สะอึกสะอื้นชี้ไปที่ห้องและบอกให้ผู้เป็นพ่อไปช่วยแม่ของตัวเอง"เกิดอะไรขึ้น""คุณผู้ชายไปช่วยคุณผู้หญิงก่อนเถอะค่ะ" พี่เลี้ยงอุ้มน้องณธีออกมา กลัวน้องณธีไม่ปลอดภัยจึงร
บทที่ 25เรือนร่างบางขยับในช่วงตอนเช้าเธอลืมตาตื่นขึ้นรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เคยผ่านมาในช่วงตลอดระยะเวลาสี่ปี ผู้ชายคนที่กอดเธออยู่นั้นยังคงเป็นเขา เมื่อคืนหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นเขาไม่ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้นแต่เขาเลือกที่จะมาอยู่กับเธอมือน้อยประกบจับใบหน้าหนาเบาๆ ในระยะใกล้ชิดจากที่ถอดใจและจะยอมปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามทาง ขอเพียงแค่เขาดูแลลูกให้ดีเพราะเธอไม่อยากให้ลูกต้องมาลำบากกับเธอ ยิ่งจ้องมองผู้ชายที่เคยแสนดีในวันนั้นเปลี่ยนเป็นคนละคน เธอยิ่งรู้สึกเสียใจน้ำตาไหลพราก ไม่ได้เสียดายในสิ่งที่พ่อของเธอมอบให้เขาไม่แค้นในสิ่งที่เขาแก้แค้นคืน แต่ในวันนี้เธอมีกำลังใจที่จะสู้ต่อต้องทำให้เขากลับมาเป็นสามีที่แสนดีเหมือนเดิมให้ได้"คุณยังรักฉันอยู่ไหมหรือว่าในใจของคุณมีเพียงแต่ผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว คุณจะรู้ไหมว่าผู้หญิงที่เอาแต่ใจอย่างฉันนั้นรักคุณมากแค่ไหน ฉันไม่เคยสวมเขาให้กับคุณเลย ฉันไม่เคยมีผู้ชายคนอื่นและฉันก็สาบานว่าน้องณธีคือลูกของคุณจริงๆ" หลินหลินเธอได้เพียงแต่พูดเบาๆ โดยที่คนตัวโตนั้นนอนหลับ"คลืดด" เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัด
บทที่ 24หลังจากที่ธารามปลดปล่อยความรู้สึกนั้นกับภรรยาตนเองจนเสร็จ เขาหันมองร่างบางที่กำลังสวมใส่เสื้อผ้าเมื่อก่อนนี้หลังจากที่มีอะไรกันเสร็จ ธารามมักจะดึงภรรยาเข้าไปกอดในอ้อมอกและนอนลูบหัวของเธอไปด้วยแต่วันนี้ไม่เหมือนเดิมเขาใส่เสื้อผ้าของตัวเองเสร็จก็ลงจากรถไปทันทีหลินเหลินได้เพียงแต่ถอนหายใจมองสามีตัวเองหันหลังไปโดยที่ไม่หันกลับมองเธอ แต่อย่างน้อยวันนี้ทำให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนที่เป็นสามีภรรยากันยังคงอยู่ เขานุ่มนวลและอ่อนโยนถึงแม้ว่าจะแค่เรื่องนั้นก็ตามหลินหลินลงมาจากรถอยู่ๆ มีมือของใครบางคนเข้ามาจับต้นแขนแล้วเหวี่ยงเธอ"ทำไมเธอถึงไม่หย่าให้คุณธารามสักที ห้ะ มันจะมากเกินไปแล้วนะ" หลินหลินเธอรู้ตั้งแต่แรกว่านิตานั้นยืนมองและเธอก็จงใจให้นิตาได้ยินเสียงทุกอย่างภาพทุกอย่าง ขณะที่มีอะไรกับธารามเธอนั้นลดกระจกลงเอง"เป็นบ้าเหรอเกิดอะไรขึ้นน่ะ หรือว่าสมองได้รับความกระทบกระเทือนเห็นสามีภรรยาเขามีอะไรกันถึงกับยืนสั่นเลยเหรอ หึ ฉันเคยบอกเธอแล้วนิตาว่าฉันไม่ใช่นางเอกในนิยายที่จะให้เธอทำร้ายฝ่ายเดียวได้ และเธอไม่มีวันได้สามีของฉั
บทที่ 23 "อ๊ะ" เรือนร่างบางถูกพลิกกลับลงนอนเบาะด้านข้างเรียวขาน้อยชันขึ้นเป็นรูปตัวเอ็ม ลำตัวหนาที่แทรกกายลงไประหว่างขาของเธอ มือทั้งสองข้างจับประคองใบหน้าน้อยไม่ให้ขยับเคลื่อนหนีในขณะที่เขาบดขยี้เรียวปากน้อยอันนุ่มนวลของเธอจนแทบจะแดงช้ำเสียงลมหายใจหืดหอบของทั้งคู่บดขยี้เล้าโลมด้วยกันทั้งสองฝ่ายเบาะรถปรับเอนลงจนสุดดั่งกับที่นอนอันใหญ่ คนตัวโตกวาดสายตามองใบหน้าสวยจนถึงเนินอกทั้งสองเต้า"ธารามฉันไม่ไหวแล้ว" ลำตัวเล็กที่ชันขาขึ้นเป็นรูปตัวเอ็มรอให้คนตัวโตนั้นก้มลงไปด้านล่างเพียงไม่นานธารามยกยิ้มด้วยมุมปาก พรมจูบอันร้อนผ่าวตั้งแต่หน้าท้องจนกระทั่งถึงโหนกนูนโดยที่ลำตัวแทรกลงไประหว่างกลางได้ง่ายเพราะเธอนั้นอ้าขารอรับทั้งสองข้างโหนกนูนอันขาวอวบอิ่มอมชมพูโดดเด่นภายใต้แสงที่ส่องเข้ามาในรถ สายตาเบิกกว้างของคนตัวโตนั้นแสดงอาการถึงความชอบเขาไม่รอช้าที่จะเชยชมโหนกนูนอย่างเต็มที่ริมฝีปากขบเข้ายอดจุดเสียวเเรงๆ ใช้ลิ้นตวัดตรงช่วงจุดเสียวไปมารูดขึ้นและลงจนกระทั่งถึงรูคับแคบด้านล่าง คนตัวเล็กกระสับกระส่ายขยับสะโพกแอ่นตามไปลิ้นของเข
บทที่ 22 เมื่อรถขับมาจอดที่บ้านลูกน้องต่างพากันมองแต่ธารามยังไม่เปิดประตูรถลง เขาหันมองไปที่หลินหลินเธอนั่งเอนหลังพิงเบาะและเงียบไปมีเพียงแต่เสียงสะอื้นตลอดทางที่ขับมา"จะร้องไห้ทำไม ฉันพาเธอกลับบ้านมาหาลูกเธอไม่ดีใจหรอกหรือจะต้องให้ฉันส่งเธอไปอยู่ชายแดนเหรอ เธอถึงจะดีใจ อ๋อ ไม่สิผู้หญิงแพศยาแบบเธอก็คงชอบแบบนั้นอยู่แล้วไปอยู่ชายแดนขายตัวเจอผู้ชายมากหน้าหลายตาเผลอๆ เธออาจจะถามเขาให้ผู้ชายทั้งห้าคนเอาพร้อมกันก็ได้นะ" หลินหลินได้แต่คิดว่านี่คงเป็นนิสัยที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้เพราะเมื่อก่อนนี้เขาไม่เคยใช้ถ้อยคำหยาบพูดแบบนี้เลยสักครั้ง ไม่เคยแสดงให้เห็นว่าเขามีคำพูดที่ต่ำตมจนรับไม่ได้"ขอบคุณนะคะ ที่พาฉันกลับมาหาลูก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องทุกอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับคนแบบฉัน และฉันก็ไม่เคยคิดว่าความโง่ของฉันกับพ่อของฉันกลายเป็นมีดทิ่มแทงตัวเองจนปางตาย" หลินหลินไม่เเม้แต่จะมองหน้าของธารามด้วยซ้ำในขณะที่เธอเอ่ยพูดถึงเขา และคำพูดของเธอทำให้เขาโกรธคนตัวโตจับแขนของหลินหลินกระชากอย่างเช่นเคย"เธอพูดว่าอะไรนะ ฉันเป็นมีดที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอกับพ่อของเธอเหรอ